ตอนที่ 960 จอมเทพสกายวิง?
ตอนที่ 960 จอมเทพสกายวิง?
ฉึก!
ไวท์สคัลที่ซ่อนเร้นเจาะทะลุหมัดของจอมกฎปริศนาเข้าไปโดยตรง
“ร้ายกาจมาก!” จอมกฎเกราะดำรีบถอยหลังกลับไปตั้งหลักอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เริ่มสาปแช่งเซี่ยเฟยด้วยความโกรธ
แต่ในวินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวไปอย่างมาก เพราะเขาได้พบว่าไวท์สคัลไม่ใช่อาวุธลับธรรมดา แต่มันยังมีคุณสมบัติอันน่ากลัวซ่อนอยู่ภายใต้ดาบลับเล่มนี้ด้วย
มือซ้ายที่ถูกไวท์สคัลทิ่มแทงไม่ตอบสนองต่อคำสั่งเจ้าของร่างอีกต่อไป ระหว่างนั้นเส้นเลือดบนแขนก็ค่อย ๆ บวมขึ้น ก่อนที่นิ้วทั้งห้าจะกางออกเพื่อบีบคอตัวเองเอาไว้!
“ที่แท้คุณสมบัติของไวท์สคัลก็คือคำสาปที่ทำให้เป้าหมายไม่สามารถแยกได้ระหว่างมิตรและศัตรู” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นท่าทางของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน
อย่างไรก็ตามจอมกฎปริศนาก็ถือได้ว่าเป็นนักรบที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เมื่อเขาได้พบว่าแขนซ้ายของตัวเองกลายเป็นศัตรู เขาจึงทำการสะบัดแขนขวาเพื่อตัดแขนซ้ายของตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว
นักรบที่แท้จริงไม่เคยปราศจากความกล้าหาญ แทนที่นักรบคนนี้จะเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา แต่เขากลับสามารถตัดแขนของตัวเองออกไปได้อย่างไม่ลังเล
การเคลื่อนไหวของศัตรูทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะอีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะได้ครอบครองอาวุธชั้นยอด, อสูรเทวะและอาวุธมายาคล้ายกับเขาเท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังมีความเด็ดขาดไม่ต่างไปจากเขาด้วย ซึ่งศัตรูแบบนี้ถือได้ว่าเป็นศัตรูที่น่ากลัวมาก
ในมุมของเซี่ยเฟยยิ่งศัตรูมีพลังมากเท่าไหร่เขาก็จำเป็นจะต้องสังหารศัตรูอย่างเด็ดขาดมากเท่านั้น เพราะถ้าหากว่าเขาปล่อยให้ศัตรูมีชีวิตรอดกลับไปได้ การแก้แค้นหลังจากนั้นก็จะทำให้เขาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น
แววตาของชายหนุ่มเปล่งประกายออกมาอย่างเยือกเย็น ก่อนที่เขาเร่งความเร็วออกไปอย่างสุดกำลัง
พลังงานภายในสมองถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ จนทำให้ความเร็วของชายหนุ่มเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น แต่ถึงกระนั้นปฏิกิริยาการตอบสนองของศัตรูฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้เชื่องช้าด้วยเช่นกัน
“แบล็กเนบิวลา!” จอมกฎปริศนาใช้แขนขวาตวัดขึ้นไปในอากาศ ทันใดนั้นพื้นที่ขนาดเล็กก็ขยายขนาดออกอย่างรวดเร็ว แบ่งแยกตัวตนของเขากับเซี่ยเฟยให้อยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ฝ่ามือคู่ฤดูใบไม้ร่วง!” เซี่ยเฟยปลดปล่อยพลังของกฎแห่งความโกลาหลไปด้านหน้า และถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามจะทำอะไร แต่สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามหลบหนีไป เขาจึงจำเป็นจะต้องขัดขวางศัตรูเอาไว้ทุกวิถีทาง
กฎแห่งความโกลาหลและกฎแห่งความมืดเริ่มปะทะกันอย่างดุเดือด จนทำให้พื้นที่มิติในบริเวณนั้นดูคล้ายกับจะถูกฉีกกระชากแยกออกจากกันเป็นชิ้น ๆ
ในที่สุดกฎแห่งความโกลาหลก็สามารถทำลายกฎแห่งความมืดของอีกฝ่ายลงไปได้ แต่ศัตรูก็สมแล้วที่มีพลังอยู่ในระดับจอมกฎ เพราะเขาได้ใช้ประโยชน์จากช่องว่างเพียงแค่เล็กน้อยในการหลบหนีไป แม้แต่อสูรเทวะของอีกฝ่ายก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“โธ่เว้ย! มันหนีไปได้!!” เซี่ยเฟยร้องคำรามด้วยความโกรธ
“เอาน่า อย่าลืมนะว่าศัตรูคือจอมมารที่แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้เขายังมีอสูรเทวะ, อาวุธมายาและชุดเกราะชั้นยอดคอยปกป้องเขาอีกด้วย แค่การที่นายสามารถต้อนเขาให้จนมุมได้ขนาดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว” ลินนิจพยายามกล่าวปลอบใจ
“ศัตรูก็คือศัตรู เมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยมันไปมันก็จะมาตามรังควานพวกเราในอนาคต” เซี่ยเฟยส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
ฟุบ!
ชายหนุ่มเคลื่อนที่กลับมาหาศัตรูเก่าอย่างรวดเร็ว และเนื่องมาจากว่าจอมมารปริศนาหลบหนีออกไปแล้ว เขาจึงย้อนกลับมาจัดการกับวิลโล่ที่เคยท้าทายเขาในก่อนหน้านี้
วิลโล่ยังคงอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง หลังจากที่เขาได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเซี่ยเฟยกับศัตรู เมื่อจู่ ๆ ร่างของชายหนุ่มได้มาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาจึงสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
“บอกทุกอย่างที่แกรู้มา ไม่อย่างนั้นฉันจะทรมานให้แกตายทั้งเป็น!” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
—
อสูรเทวะวินชาโดว์ถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งการพรางตัว มันจึงสามารถพาตัวเจ้านายของมันหลบหนีออกไปได้อย่างไร้ร่องรอย แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดนั่นก็คือหลังจากที่เขาสามารถหลบหนีออกไปจากเซี่ยเฟยได้สำเร็จ เขากลับต้องไปเผชิญหน้ากับบุคคลปริศนาอีก 3 คน
ขณะนี้ดาบยาวอันเยือกเย็นกำลังจ่ออยู่บริเวณลำคอของเขา ซึ่งห่างจากจอมมารคนนี้ไปไม่ไกลมันก็มีซากศพของอสูรเทวะวินชาโดว์นอนตายอยู่กลางอากาศ
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนเกินไป เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาหลบหนีออกมา การลอบจู่โจมของอีกฝ่ายก็เริ่มต้นขึ้นในทันที บุคคลปริศนาทั้งสามคนสังหารอสูรเทวะของเขาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ก่อนที่เขาจะถูกควบคุมตัวโดยที่อาวุธมายาพิภพเริงระบำไม่มีโอกาสที่จะได้เคลื่อนไหวด้วยซ้ำ
“สกายวิง!?” จอมมารปริศนาร้องคำรามด้วยความโกรธ เพราะท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีที่เขาได้เห็นอสูรเทวะที่เขาทุ่มเทเลี้ยงดูมานานหลายปีถูกสังหารไปต่อหน้า
ระดับพลังของเขาไม่ได้ถือว่าอ่อนแออย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ร่างลึกลับทั้งสามน่ากลัวมากยิ่งกว่า นักรบแต่ละคนมีความเร็วมากกว่า 10 ล้านเมตรต่อวินาที และพวกเขาทั้งสามคนต่างก็มีพลังอยู่ในระดับจอมเทพ
“ข่าวที่บอกว่าสกายวิงมีจอมเทพเพียงแค่คนเดียวมันเป็นเรื่องโกหกสินะ ที่แท้พวกแกก็แอบซ่อนกองกำลังเอาไว้ภายใต้ความมืดมิด” จอมมารกัดฟันกล่าวขึ้นมาอย่างเคียดแค้น
จอมมารปริศนาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวความตายเลยแม้แต่นิดเดียว ท้ายที่สุดแม้ว่าเขาจะถูกสังหารแต่เขาก็สามารถกลับไปเกิดใหม่ที่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตของตัวเองได้
จอมเทพทั้งสามแห่งสกายวิงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะหยิบโลหะสีขาวออกมาจากหน้าอก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เครื่องมืออื่นใดเลยนอกเสียจากเครื่องมือสื่อสารรูปนกกระเรียนเหมือนกับของเซี่ยเฟย
“เขาจัดการวิลโล่พร้อมกับออกเดินทางแล้ว” จอมเทพคนหนึ่งกล่าวหลังจากดูตำแหน่งบนหน้าจอ
เซี่ยเฟยไม่เคยรู้เลยว่ากระเรียนขาวที่บรรพบุรุษให้เขามาไม่เพียงแต่จะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่เอาไว้ใช้ในการติดต่อเรื่องสำคัญเท่านั้น แต่มันยังมีเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ภายในช่องว่างมิติได้อีกด้วย
ช่องว่างมิติเป็นพื้นที่ที่ปิดกั้นสัญญาณสื่อสารจากโลกภายนอกทั้งหมด แม้แต่เทคโนโลยีของบริษัทฟิกส์ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอันน่าปวดหัวนี้ได้ แต่สกายวิงกลับได้ครอบครองเทคโนโลยีสื่อสารอันน่าเหลือเชื่อที่ถูกออกแบบมาให้อยู่ในรูปลักษณ์ของกระเรียนขาว
ขณะเดียวกันทั่วทั้งดินแดนกฎต่างก็รู้แค่ว่าสกายวิงมีจอมเทพคือเซี่ยกู่เฉิง ผู้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตระกูลเพียงแค่คนเดียว แต่ใครจะรู้ว่าความเป็นจริงพวกเขาได้แอบซ่อนจอมเทพเอาไว้ถึง 3 คน ที่สำคัญคือจอมเทพทั้งสามกำลังแอบติดตามเซี่ยเฟยมาอย่างลับ ๆ
“จัดการมันก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน”
“อือ”
ฉัวะ ๆ ๆ ๆ ๆ
กรอบ ๆ ๆ ๆ
จอมเทพสกายวิงลงมืออย่างไร้ความปราณี โดยการตัดเส้นเอ็นหักกระดูกทุกชิ้นภายในพริบตา การลงมือครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการลงมืออันโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้จอมมารตรงหน้าจะอยากฆ่าตัวตายแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสังหารตัวเองแล้วด้วยซ้ำ
“มันชื่อเกน มาจากตระกูลกรีนบีของเผ่ามาร” จอมเทพคนหนึ่งกล่าวหลังจากสำรวจแหวนมิติของจอมมารปริศนา
“มันประมาทมากเลยนะที่กล้าถือป้ายประจำตัวออกมาทำภารกิจแบบนี้ บอกฉันมาภารกิจของพระเจ้าคืออะไร? แล้วทำไมแกถึงมาแอบติดตามเซี่ยเฟย?”
“แกรู้ว่าฉันเป็นคนของพระเจ้าแล้วแกยังกล้าทำแบบนี้กับฉันอีกงั้นเหรอ?! หรือว่าพวกแกกำลังพยายามจะก่อกบฏ” เกนส่งเสียงร้องคำรามอย่างดุเดือด แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขาสามารถขยับได้เพียงแค่ลูกตากับปากของเขาเท่านั้น
ผัวะ!
“หุบปากไปซะ! สกายวิงจะทำอะไรมันก็เรื่องของเรา ถึงแม้เราจะอยู่เผ่าเทพแต่พวกเราก็ไม่ได้ขายจิตวิญญาณ เรื่องก่อกบฏอะไรพวกนั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระ ตราบใดก็ตามที่ใครกล้ามาขวางทางของเรา พวกมันก็ต้องถูกกำจัดเท่านั้นแหละ!”
สีหน้าของเกนเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด และถึงแม้ว่าสกายวิงจะมีชื่อเสียงในด้านการสังหาร แต่เรื่องการทรมานอีกฝ่ายก็มีความเชี่ยวชาญไม่ด้อยไปกว่าการสังหารเลย
“ช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมามีข่าวลือว่าอีวิลวิงถูกกำจัดด้วยวิธีการปริศนาจนหายตัวไปทีละคน ที่แท้ข่าวลือพวกนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ข่าวปลอมสินะ”
“ใครจะรู้ว่าอีวิลวิงพวกนั้นไม่ได้ถูกกำจัดไปจริง ๆ แต่พวกแกได้มาหลบซ่อนอยู่ในความมืด และปล่อยให้คนอื่นประเมินความแข็งแกร่งของสกายวิงผิดไป เมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงช่วงเวลาสำคัญพวกแกก็คงจะปรากฏตัวและทำให้ทั่วทั้งดินแดนกฎต้องสั่นสะเทือน!” เกนตะโกนด้วยดวงตาเบิกกว้าง ขณะที่ภายในใจของเขากำลังปรากฏความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ
อีวิลวิงคือตัวแทนของนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดภายในตระกูลสกายวิง ซึ่งในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมามีอีวิลวิงถูกกำจัดให้หายสาบสูญไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน สกายวิงในปัจจุบันจึงมีความแข็งแกร่งไม่ถึงครึ่งเท่านั้นเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งที่ควรจะเป็น ข่าวลือเรื่องคำสาปของอีวิลวิงจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งดินแดนกฎ
เกนถูกทรมานซ้ำ ๆ เพื่อรีดข้อมูลทั้งหมดออกจากปาก ซึ่งในที่สุดเขาก็ถูกทรมานจนเป็นลมหมดสติ จากนั้นเขาก็ถูกนำตัวใส่เข้าไปในแคปซูลช่วยชีวิต ก่อนที่จะถูกโยนเข้าไปเก็บในแหวนมิติเป็นการถูกปิดผนึก ซึ่งโอกาสที่จะกลับไปเกิดใหม่ก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่โอโร่พบเจอในอดีต
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าความจริงแล้วตระกูลกรีนบีจะเป็นคนของพระเจ้าแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ปกติพวกมันไม่เคยทำอะไรโดดเด่นเลยด้วยซ้ำ” จอมเทพสกายวิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาโดยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
“ความเป็นจริงเกนพูดถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น คือสกายวิงแอบเก็บซ่อนนักรบพรสวรรค์ของตัวเองเอาไว้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของสกายวิงในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่แผนการอันซับซ้อนอย่างที่อีกฝ่ายจินตนาการเอาไว้เลย เพราะสาเหตุที่อีวิลวิงมาหลบซ่อนในที่มืดนั่นก็เพราะว่าพวกเขาได้หลบหนีออกมาจากอันตราย
ในอดีตมีอีวิลวิงเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนสูญหายอย่างปริศนาอย่างที่ข่าวลือได้บอกเอาไว้จริง ๆ เซี่ยกู่เฉิงจึงพยายามซ่อนนักรบพรสวรรค์เหล่านี้เอาไว้เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องเสียชีวิตไปอย่างปริศนา
ระหว่างนั้นอีวิลวิงทั้งหมดก็ถูกมอบภารกิจให้คอยสืบหาศัตรูของพวกเขาอย่างลับ ๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาสามารถค้นหาร่องรอยของศัตรูได้ เมื่อนั้นมันก็จะถึงเวลาที่พวกเขาจะแก้แค้น!
“พวกเรารีบไปกันดีกว่า เซี่ยเฟยเป็นแม่เหล็กดูดปัญหาอย่างที่บรรพบุรุษบอกเอาไว้เลย หลังจากที่เขามาที่นี่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงตอนนี้เขาก็กำลังดึงปัญหาเข้ามาหาตัวอีกแล้ว” จอมเทพผู้ซึ่งกำลังสังเกตกระเรียนขาวกล่าวอย่างเคร่งขรึม
***************
ว่าแล้วว่าทำไมบรรพบุรุษมอบภารกิจยากจัง ที่แท้แอบมีคนตามมาช่วยลับ ๆ นี่เอง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 325
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น