ตอนที่ 961 ผู้บุกเบิกเซี่ยเฟย
ตอนที่ 961 ผู้บุกเบิกเซี่ยเฟย
ผู้บุกเบิกคือนักรบที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณแนวหน้าอยู่เสมอ พวกเขาคือคนสร้างถนน, สร้างสะพาน, สร้างเส้นทางให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย
เซี่ยเฟยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าในตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้บุกเบิกของตระกูลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภารกิจที่เขาจำเป็นจะต้องทำในปัจจุบันคือการบุกเข้าไปในดินแดนดาร์คไนท์เพียงลำพัง โดยมีจอมเทพทั้งสามของตระกูลคอยติดตามชายหนุ่มอยู่อย่างลับ ๆ
ทีมบุกเบิกของสกายวิงทีมนี้เป็นทีมที่ค่อนข้างน่ากลัวอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้เซี่ยเฟยจะยังไม่ได้มีพลังในระดับจอมเทพ แต่เขาก็มีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับจอมเทพแล้ว
ขณะเดียวกันจอมเทพลึกลับทั้งสามของตระกูลต่างก็ล้วนแล้วแต่มีความเร็วเกินกว่า 10 ล้านเมตรต่อวินาที พวกเขาจึงสามารถลงมือสังหารจอมเทพได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
อีเกิลอายเป็นพื้นที่ที่มีดาวเคราะห์สีเขียวชอุ่มหลายสิบดวงเรียงตัวกันเป็นรูปคล้ายดวงตา ราชาดาร์คไนท์จึงมักจะเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่บริเวณนี้ในยามที่เขาเหนื่อยล้าจากการทำงาน
ขณะเดียวกันอีเกิลอายก็เป็นพื้นที่ที่ทอกซินแอบลักลอบเข้ามาภายในดินแดนดาร์คไนท์เป็นครั้งแรก ซึ่งเซี่ยเฟยก็ทำการลอกเลียนเส้นทางของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ย้อนกลับไปในตอนนั้นทอกซินไม่ได้พบศัตรูใด ๆ แต่เซี่ยเฟยกลับถูกปิดล้อมทันทีที่เขาปรากฏตัว
ความจริงแล้วมันเป็นโชคร้ายของเซี่ยเฟยที่ยานรบดาร์คไนท์เคลื่อนที่มาลาดตระเวนพื้นที่บริเวณนี้ในระหว่างที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาพอดี เพราะถ้าหากเขาปรากฏตัวขึ้นมาช้ากว่านี้อีก 5 นาที เขาก็จะไม่ได้พบกับกองลาดตระเวนของศัตรูแล้ว
“เราโดนเจอตัวแล้ว ยานรบพวกนี้จะต้องส่งสัญญาณการบุกรุกกลับไปที่ศูนย์บัญชาการแล้วแน่ ๆ อีกไม่นานศัตรูก็จะส่งกองกำลังมาที่อีเกิลอายมากยิ่งขึ้น” ลินนิจกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง ตอนนี้พวกเราต้องทำลายศัตรูก่อน” เซี่ยเฟยกัดฟันพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ตูม ๆ ๆ ๆ
ด้วยผู้ช่วยอันแข็งแกร่งและความเร็วอันทรงพลัง ยานรบดาร์คไนท์ต่างก็ถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านพ้นไป
“พวกเรารีบถอยกันก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นกองกำลังเสริมของศัตรูจะมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” ลินนิจกล่าวอย่างกังวล
“คุณคิดผิดแล้ว ในกรณีที่เราบุกเข้ามาในดินแดนของศัตรูแบบนี้ ทางเลือกที่เราควรจะทำมีเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น ในเมื่อเราไม่สามารถลักลอบเข้ามาอย่างเงียบ ๆ ตามแผนการดั้งเดิมของเราได้ เราก็ควรประกาศศักดาออกไปอย่างเต็มที่ให้ดินแดนดาร์คไนท์ทั้งหมดตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลินนิจสามารถทำความเข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยหมายถึงมันคืออะไร ท้ายที่สุดดินแดนดาร์คไนท์ก็มีอาณาเขตอันกว้างใหญ่และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะสำรวจทุกพื้นที่ได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันเมื่อศัตรูตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด พวกเขาย่อมเรียกรวมกองกำลังเพื่อปกป้องพื้นที่จุดสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย ประกอบกับเซี่ยเฟยสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร พวกดาร์คไนท์ย่อมเกณฑ์กองกำลังส่วนใหญ่ไปปกป้องสิ่งที่พวกมันคิดว่ามีความสำคัญมากที่สุดแทน
อิ้ว!
ขนอุยพ่นลำแสงโจมตีอีกครั้งทำให้ยานรบดาร์คไนท์ลำเล็กระเบิดกระจายออกเป็นชิ้น ๆ เซี่ยเฟยจึงสังเกตค้นพบว่ายานรบลำเล็กเหล่านี้กำลังพยายามปกป้องยานรบลำใหญ่ที่สุดโดยการใช้ยานของตัวเองเป็นโล่คอยกันการโจมตี เพื่อเปิดโอกาสให้ยานรบลำใหญ่สามารถหนีรอดกลับไปได้อย่างปลอดภัย
“ทำลายยานลำใหญ่ลำนั้นซะ!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
อิ้ว!
เมื่อได้รับคำสั่งขนอุยก็พ่นลำแสงพลังงานออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่ลำแสงกำลังจะปะทะกับยานรบลำใหญ่อยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็มีเงาสีดำพุ่งตัวออกมาจากยานรบอย่างฉับพลัน
พลังสีดำสนิทถูกรวบรวมภายในมือของนักรบคนนี้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะทำการปลดปล่อยลำแสงพลังงานที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากับลำแสงพลังงานของขนอุย
เมื่อลำแสงพลังงานสีขาวของขนอุยปะทะเข้ากับลำแสงพลังงานสีดำของนักรบดาร์คไนท์ มันก็ได้ก่อให้เกิดการระเบิดขึ้นมาครั้งใหญ่แสดงให้เห็นว่าการปะทะกันในครั้งนี้จบลงที่ผลเสมอกัน
“มันมีดาว 6 ดวงอยู่บนชุดเกราะ แสดงว่ามันเป็นนักรบดาร์คไนท์ระดับ 6 ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับจอมเทพ!” ลินนิจรีบบอกข้อมูลอย่างรวดเร็ว
ฟุบ!
เซี่ยเฟยเร่งความเร็วออกไปด้วยความเร็ว 4 ล้านเมตรต่อวินาที เพราะจากข้อมูลในสารานุกรม นักรบดาร์คไนท์ระดับ 6 ถือได้ว่าเป็นนักรบระดับสูงของดินแดนแห่งนี้แล้ว การที่ยานลำนั้นถูกคุ้มกันโดยนักรบที่แข็งแกร่งขนาดนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่าผู้ที่อยู่ด้านในตัวยานจะต้องไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน
ตราบใดก็ตามที่เขาสามารถสังหารบุคคลสำคัญของดาร์คไนท์ได้ มันย่อมสร้างความวุ่นวายไปทั่วทั้งดินแดนอย่างฉับพลัน ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ศัตรูตกอยู่ในความโกลาหล เมื่อนั้นมันก็จะเปิดโอกาสให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก และเมื่อนักรบดาร์คไนท์ระดับ 6 สังเกตเห็นเซี่ยเฟยมันก็สายเกินไปที่เขาจะหนีไปแล้ว
ขนอุยยังคงโจมตีออกมาอย่างต่อเนื่องและการจู่โจมของเซี่ยเฟยก็มีความอันตรายไม่แพ้กัน นักรบดาร์คไนท์จึงไม่รู้ว่าเขาจะต้องรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงดี
ในที่สุดนักรบดาร์คไนท์ก็ตัดสินใจหยิบขวานเพื่อเตรียมพร้อมจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยจากระยะไกล ขณะที่มือซ้ายวางแผนจะปล่อยลำแสงพลังงานเพื่อต้านทานการโจมตีของขนอุยต่อไป
น่าเสียดายว่าการตัดสินใจของเขาเป็นการคำนวณผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะทันทีที่เขาถอนมือขวาออกไป ขนอุยก็ระเบิดพลังงานออกมารุนแรงมากยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าในก่อนหน้านี้มันยังไม่ได้โจมตีออกมาอย่างสุดกำลัง
สีหน้าของนักรบดาร์คไนท์ซีดเผือดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะลำแสงพลังงานของเขาไม่สามารถต่อต้านลำแสงพลังงานของขนอุยได้อีกต่อไป ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ฉัวะ!
ตูม!
นิพพานและลำแสงพลังงานของขนอุยปะทะเข้าใส่นักรบดาร์คไนท์ในเวลาเกือบจะพร้อม ๆ กัน และทำให้นักรบผู้มีพลังเทียบเท่าจอมเทพเสียชีวิตในทันที
“พอก่อน!” เซี่ยเฟยโบกมือเพื่อหยุดการโจมตีครั้งที่ 2 ของขนอุยเอาไว้ จากนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าไปยังยานรบขนาดใหญ่ ก่อนที่จะฉีกกระชากผนังยานเพื่อบุกรุกเข้าไปภายในตัวยานโดยตรง
นอกเหนือจากนักรบดาร์คไนท์ระดับ 6 ที่กระโจนออกไปเผชิญหน้ากับเขาบริเวณด้านนอกยานอวกาศแล้ว ภายในตัวยานยังมีนักรบระดับต่าง ๆ คอยคุ้มกันอยู่อีกหลายคน น่าเสียดายที่นักรบเหล่านี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยเฟย, หงส์ครามและนิพานเลย นักรบทั้งหมดจึงถูกจบชีวิตลงอย่างรวดเร็ว
หงส์ครามกระชากประตูโลหะหนาออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับห้องพักที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยมีชายชราอ้วนท้วมนอนกอดผู้หญิงอยู่อย่างสั่นกลัวและพยายามใช้ร่างของผู้หญิงคนนั้นเป็นโล่กำบังที่มีชีวิต
รูปร่างหน้าตาของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ได้ดูแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทั่ว ๆ ไปมากนัก โดยจุดเด่นของพวกดาร์คไนท์คือดวงตาสีดำสนิทและนิ้วเรียวยาวที่มีเล็บยาวออกไปอีกประมาณ 20 เซนติเมตร
“ดูเหมือนว่านายจะบังเอิญได้เจอกับปลาตัวใหญ่เข้าแล้วสินะ” ลินนิจกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อือ เราโชคดีได้เจอกับปลาตัวใหญ่เข้าแล้วจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็โยนชายร่างอ้วนเข้าไปในกล่องเก็บต้นไม้และขังเขาเอาไว้ในแหวนมิติ จากนั้นเขาก็ลงมือสังหารเหล่าบรรดาผู้ติดตามของอีกฝ่ายทั้งหมดไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตกลับไปได้แม้แต่คนเดียว
หลังจากนั้นหงส์ครามก็แผ่ขยายใบหญ้าทั้งหกใบออกไปทำลายยานรบจากด้านใน จนทำให้ยานขนาดยักษ์ใหญ่เกิดการระเบิดขึ้นมาเสียงดัง
“ไปกันเถอะ” เซี่ยเฟยยืนมองการระเบิดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะขึ้นยานเจมินี่และหายไปจากพื้นที่บริเวณนั้นอย่างไร้ร่องรอย
—
ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เซี่ยเฟยทำลงไปอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของจอมเทพทั้งสามแห่งสกายวิง แน่นอนว่าพวกเขาเดินทางไปจนถึงพื้นที่รอบนอกของสนามรบแล้ว แต่พวกเขาซ่อนตัวอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่คิดที่จะดำเนินการใด ๆ
“สมกับเป็นเซี่ยเฟยจริง ๆ ทันทีที่เขาสูญเสียแผนการลักลอบเข้าสู่ดินแดนศัตรู เขาก็เริ่มสร้างความวุ่นวายให้พวกดาร์คไนท์ตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเขาย่อมทำให้กองกำลังส่วนใหญ่ถูกโอนย้ายไปปกป้องพื้นที่ส่วนที่สำคัญที่สุดแทน”
“แผนการนี้จะช่วยให้เขาประหยัดเวลาในการค้นหาไปได้เยอะมาก เพราะศัตรูจะเปิดเผยตำแหน่งสำคัญ ๆ ในดินแดนออกมาทั้งหมดเอง” เซี่ยจิงกล่าว
“ผู้บุกเบิกที่บรรพบุรุษคัดเลือกมามีความความสามารถสูงมากจริง ๆ แต่การเคลื่อนไหวของเขามันก็จะทำให้งานของพวกเราหนักขึ้นด้วยเหมือนกัน ท้ายที่สุดพวกดาร์คไนท์ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้า การสร้างความวุ่นวายในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างความปั่นป่วนในดินแดนดาร์คไนท์เท่านั้น แต่มันยังจะสร้างความปั่นป่วนไปจนถึงพวกพระเจ้าด้วย” เซี่ยเหอหลินกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“นายจะกลัวอะไร? ไม่ใช่ว่าพวกเรารอวันนี้มาตลอดงั้นเหรอ!? ศัตรูของเราจะต้องเป็น 1 ใน 13 พระเจ้าอย่างแน่นอน ตราบใดก็ตามที่เซี่ยเฟยสามารถหลอกล่อศัตรูออกมาได้ เมื่อนั้นเราก็ต้องให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่” เซี่ยจิงกล่าว
เซี่ยเฟยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าภารกิจของเขาไม่ใช่การค้นหาอาวุธมายาภายในดินแดนดาร์คไนท์เท่านั้น แต่เขายังทำหน้าที่เป็นตัวล่อเพื่อดึงตัวศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาออกมา ที่สำคัญคือตัวตนของศัตรูนั้นยังเป็นถึง 1 ใน 13 พระเจ้าผู้ก่อตั้งดินแดนกฎ
เซี่ยกู่เฉิงเชื่อมาโดยตลอดว่า 1 ใน 13 พระเจ้าผู้สร้างดินแดนกฎขึ้นมานี้จะต้องเป็นผู้ที่แอบกำจัดอัจฉริยะของสกายวิงอย่างลับ ๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เซี่ยเฟยสามารถหลอกล่อศัตรูของพวกเขาออกมาได้ เมื่อนั้นสกายวิงก็จะเริ่มทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“มีการรายงานข่าวภายในเครือข่ายของดาร์คไนท์แล้ว คนที่เซี่ยเฟยจับตัวไปคือเหวินฉาง หลานชายของราชาเหวินต้า” เซี่ยหงผู้ซึ่งคอยสังเกตกระเรียนขาวมาโดยตลอดกล่าว
“คราวนี้ดินแดนดาร์คไนท์เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นมาแน่ ๆ เหวินฉางไม่ได้เป็นเพียงแค่หลานชายของเหวินต้าเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในนักยุทธศาสตร์คนสำคัญของดินแดนนี้ด้วย” เซี่ยจิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ยิ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับเรามากเท่านั้น ถึงแม้แผนการของเซี่ยเฟยจะบ้าระห่ำเกินไปสักหน่อย แต่มันก็เป็นแผนการที่มีประโยชน์กับพวกเรามากที่สุด” เซี่ยหงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“เซี่ยเฟยคืออัจฉริยะคนสำคัญของสกายวิงและเขายังสามารถเรียกดีม่อนวิงออกมาได้แล้วอีกด้วย ยิ่งเขาสร้างปัญหาขึ้นมามากเท่าไหร่ศัตรูก็คงอยากจะสังหารเขามากขึ้นเท่านั้น อีกไม่นานศัตรูจะต้องเริ่มเคลื่อนไหวแล้วแน่ ๆ” เซี่ยจิงกล่าว
“เมื่อมันพบว่านักฆ่าที่พวกมันส่งมาไม่สามารถจัดการเซี่ยเฟยได้ ตอนนั้นมันก็จะต้องเริ่มเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง และพวกเราก็จะสามารถยืนยันได้สักทีว่าศัตรูของสกายวิงแท้ที่จริงแล้วมันคือใคร” เซี่ยเหอหลินกล่าวด้วยแววตาอันเย็นยะเยือก
แท้ที่จริงแล้วเป้าหมายของบรรพบุรุษคือการใช้ประโยชน์จากแม่เหล็กดูดปัญหาอย่างเซี่ยเฟยเพื่อดึงดูดศัตรูของพวกเขาออกมา ซึ่งแผนการนี้ถือได้ว่าเป็นแผนการที่บ้ามาก แล้วมันก็คงจะมีเพียงแต่สกายวิงเท่านั้นที่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตัวตนที่ถูกขนาดนามว่าเป็นพระเจ้า
***************
ถ้าพี่เฟยรู้ว่าถูกหลอกใช้จะมีปัญหาไหมเนี่ย?!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 467
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น