ตอนที่ 784 ดักแด้จักจั่นทองแดง
ตอนที่ 784 ดักแด้จักจั่นทองแดง
“ไหนขอฉันดูลูกแก้วอสูรที่นายว่าหน่อยสิ” ฮัวหยูตงกล่าวด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับรีบยื่นมือออกไปยังด้านหน้า
ภายในแววตาของฮัวหยูตงมีความเจ้าเล่ห์ซุกซ่อนอยู่เล็กน้อย และมันก็ไม่สามารถที่จะรอดพ้นไปจากสายตาของเซี่ยเฟยได้อย่างแน่นอน ชายหนุ่มจึงหยิบลูกแก้วอสูรออกมาด้วยท่าทางอันใสซื่อ ก่อนที่เขาจะกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสาว่า
“ผมได้มันมาโดยบังเอิญ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นลูกแก้วระดับสูงหรือลูกแก้วระดับต่ำ”
“เฮ้ย! นี่มันลูกแก้วอสูรระดับสูงมาก แต่น่าเสียดายที่มันถูกขุดออกมาเร็วเกินไป หากรอให้มันเติบโตในร่างของอสูรอีกสัก 100 ปี คุณภาพของมันจะพัฒนาขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดได้อย่างแน่นอน” ฮัวหยูตงกล่าวพร้อมกับชื่นชมลูกแก้วอสูรที่เขาหยิบขึ้นมาพิจารณาในมือซ้ำ ๆ
ชายหนุ่มทำได้เพียงแต่เม้มริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร เพราะสนามรบโบราณไม่ใช่สิ่งที่จะถูกเปิดออกได้ง่าย ๆ และเขาก็ไม่มีความสามารถที่จะต้องอดทนรอไปเป็นเวลานานอีก 100 ปี
“ผู้มีพระคุณขอให้นายเอาลูกแก้วนี้มาหาฉันงั้นเหรอ?” ฮัวหยูตงกล่าวถาม
“ใช่ครับ พวกเขาอยากจะให้คุณทำค้อนรวมศูนย์” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“อะไรนะ?! ค้อนรวมศูนย์” ฮัวหยูตงอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ
“ใช่แล้วครับ สาเหตุที่ผมเดินทางมาหาผู้อาวุโสในวันนี้ นั่นก็เพราะอยากจะขอร้องให้ผู้อาวุโสช่วยทำค้อนรวมศูนย์ให้กับผมหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“การสร้างค้อนรวมศูนย์มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ” ฮัวหยูตงกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบคางและคืนลูกแก้วอสูรให้กับเซี่ยเฟยอย่างไม่เต็มใจ
“ฉันยอมรับตรง ๆ เลยนะว่าฉันไม่ควรจะปฏิเสธคำขอจากผู้มีพระคุณได้ แต่ค้อนรวมศูนย์ไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างขึ้นมาได้ง่าย ๆ ฝีมือของฉันในปัจจุบันมันก็ยังไม่ถึงขั้นด้วย” ฮัวหยูตงกล่าวอย่างเสียใจ
“ผู้อาวุโสถ้าหากว่าคุณบอกฝีมือของตัวเองอยู่ในอันดับ 2 มันก็คงจะไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเองอยู่ในอันดับ 1 ถ้าคุณไม่สามารถสร้างค้อนรวมศูนย์ขึ้นมาได้ ทั่วทั้งกลุ่มดาวม้าขาวก็คงจะไม่มีใครสามารถสร้างค้อนรวมศูนย์ขึ้นมาได้แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยคิดภายในใจเอาไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องพยายามตอบปฏิเสธ
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก เซี่ยเหล่าสือในตระกูลสกายวิงของนายเก่งกาจกว่าฉันซะอีก” ฮัวหยูตงกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์
“ผู้อาวุโสเซี่ยเหล่าสือเชี่ยวชาญเรื่องการหลอมรวมพลังงาน แต่ถ้าหากพูดถึงการประดิษฐ์เพียงอย่างเดียวคุณย่อมเก่งกว่าเขาอย่างแน่นอน”
“เท่าที่ผมรู้มาค้อนรวมศูนย์มันก็มีการแบ่งระดับย่อย ๆ ออกไปถึง 5 ประเภทด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน, ระดับกลาง, ระดับสูง, ระดับสูงสุดและระดับเทพ ดังนั้นถึงแม้คุณจะไม่มั่นใจว่าคุณจะสามารถสร้างค้อนรวมศูนย์ระดับสูงสุดหรือระดับเทพขึ้นมาได้ แต่คุณย่อมมีความสามารถมากพอที่จะสร้างค้อนรวมศูนย์ระดับสูงขึ้นมาได้ใช่ไหมล่ะครับ?” เซี่ยเฟยกล่าว
ระดับชั้นของค้อนรวมศูนย์เป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยได้เรียนรู้มาจากเทพดำกับเทพขาว ซึ่งค้อนรวมศูนย์ระดับสูงสุดขึ้นไปเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ส่วนสาเหตุที่เซี่ยเฟยได้ไปพบกับค้อนรวมศูนย์ระดับสูงสุดภายในเมืองอีกาดำ มันก็เป็นเพียงเพราะความโชคดีของเขาเท่านั้น โอกาสที่เขาจะได้พบกับค้อนรวมศูนย์ระดับเดียวกันอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
“ใช่ นายเข้าใจถูกแล้วว่าเซี่ยเหล่าสือมีความเชี่ยวชาญทางด้านการหลอมพลังงาน เขาจึงมีนิสัยที่หยิ่งผยองได้ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องการประดิษฐ์เพียงอย่างเดียว ฉันยังคงมีฝีมือดีกว่าเขาอยู่เล็กน้อย ส่วนการพยายามสร้างค้อนรวมศูนย์ระดับสูงมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” ฮัวหยูตงกล่าวออกไปตรง ๆ อย่างยอมรับความจริง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอฝากผู้อาวุโสด้วยนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างมีความสุข
“ใจเย็น ๆ ถึงแม้ว่าฉันพอจะมีความสามารถในการสร้างค้อนรวมศูนย์ระดับสูงได้ แต่ฉันก็ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้หรอกนะ นอกจากนี้การสร้างค้อนรวมศูนย์ยังจำเป็นจะต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้น…”
ท้ายที่สุดคำพูดของโอโร่ก็คือเรื่องจริงทุกประการ แม้ว่าภายนอกฮัวหยูตงจะแสดงท่าทางว่าเขาไม่ชอบเงินทอง แต่ท้ายที่สุดชายชราก็พยายามปล้นเงินทองไปจากเซี่ยเฟยอยู่ดี
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะขี้งกแต่ตราบใดก็ตามที่เงินจำนวนนั้นสามารถสร้างประโยชน์ให้กับเขาได้ เขาก็พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมหาศาลออกไปได้โดยไม่ลังเล เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าเขาจะมีเงินมากขนาดไหน แต่เงินพวกนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าหากว่าเขาต้องเสียชีวิตในสนามรบ ชายหนุ่มจึงพร้อมที่จะจ่ายเงินออกไปได้ตลอดเวลาตราบใดก็ตามที่มันช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
“ผู้อาวุโสวางใจได้เลย ผมคนนี้จะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นี่นายคิดว่าฉันเป็นใคร? นายคิดจริง ๆ เหรอว่าคนแบบฉันจะต้องการเงิน?!” ฮัวหยูตงกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องจัดการกับชายชราแปลกประหลาดคนนี้ยังไงดี
“เอาล่ะในเมื่อนายอยากสร้างค้อนรวมศูนย์ก็ไปหาวัตถุดิบทั้งหมดมาให้กับฉันซะ และถึงแม้ว่าฉันจะไม่ต้องการเงิน แต่ฉันก็ยังจำเป็นจะต้องใช้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วยเหมือนกัน นายคงไม่คิดว่าฉันจะทำเรื่องใหญ่แบบนี้ได้โดยปราศจากพลังงานปริมาณมหาศาลใช่ไหม?” ฮัวหยูตงกล่าว
ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าชายชราคนนี้ไม่ได้ต้องการเงินจากเขา แต่อีกฝ่ายต้องการสิ่งของต่าง ๆ จากเขาแทน
หากคิดตามหลักการและเหตุผลการขอสิ่งของมันก็ดูไม่ต่างไปจากขอเงินเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในความเป็นจริงการขอสิ่งของแบบนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการจ่ายเงินตรง ๆ ด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุดถึงแม้ว่าฮัวหยูตงจะบอกว่าเขาไม่ได้ขี้งกเหมือนเซี่ยเหล่าสือ แต่โดยหลักการชายชราทั้งสองก็พยายามที่จะปล้นลูกค้าของพวกเขาเหมือนกัน
“ไปซื้อของตามรายการนี้มาซะ แต่อย่างช้าที่สุดนายจะต้องตามหาของทุกอย่างให้ได้ภายในเวลา 1 เดือน ท้ายที่สุดฉันก็เหลือเวลาในกลุ่มดาวม้าขาวอีกเพียงแค่ไม่นานเบื้องบนก็น่าจะดึงตัวฉันขึ้นไปที่แดนเทพภายในเวลาไม่เกินครึ่งปี ดังนั้นถ้าหากว่านายหาของทุกอย่างมาได้ไม่ทันเวลา พวกเราก็ไม่มีเรื่องอะไรจำเป็นจะต้องพูดคุยกันอีก” ฮัวหยูตงกล่าวพร้อมกับส่งรายการวัสดุให้กับเซี่ยเฟย
สาเหตุที่คนเก่งอย่างเขาและเซี่ยเหล่าสือยังต้องอยู่ในกลุ่มดาวม้าขาว นั่นก็เพราะว่าพวกเขายังคงมีภารกิจที่ต้องทำ ยกตัวอย่างเช่น เซี่ยเหล่าสือที่ต้องคอยอบรมสมาชิกรุ่นใหม่ของสกายวิง, ฮัวหยูตงก็ยังมีภารกิจที่ยังทำไม่แล้วเสร็จก่อนที่เขาจะถูกดึงตัวขึ้นไปยังแดนเทพ
เมื่อเซี่ยเฟยหยิบรายการวัตถุดิบขึ้นมาตรวจสอบ เขาก็ได้พบว่ารายการวัตถุดิบมีจำนวนเยอะกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก โดยเฉพาะวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบพิเศษที่มีชื่อว่าดักแด้จักจั่นทองแดง
“ดักแด้จักจั่นทองแดง! นี่เขาต้องการดักแด้จักจั่นทองแดงตั้ง 9 อันเนี่ยนะ! ฉันพนันได้เลยว่าแม้แต่การสร้างอุปกรณ์ชั้นยอดมันก็ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้ดักแด้จักจั่นทองแดงปริมาณมากขนาดนี้” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
หากฟังจากน้ำเสียงของโอโร่มันก็สามารถบ่งบอกได้อย่างง่ายดายว่าวัตถุดิบชิ้นนี้จะต้องเป็นวัตถุดิบที่หาได้ยากมากอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นอดีตจอมมารคนนี้ก็คงจะไม่ร้องโวยวายขึ้นมาเสียงดังขนาดนั้น
“ผมจำเป็นจะต้องตามหาวัตถุดิบตามรายการให้ครบทุกชนิดเลยใช่ไหมครับ? มันไม่มีวัตถุดิบรายการไหนที่ผมสามารถหาวัตถุดิบมาทดแทนได้เลยงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“วัตถุดิบต้องตรงตามรายการนี้เท่านั้น อย่าลืมว่าสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำคือค้อนรวมศูนย์ระดับสูงสุด หากวัตถุดิบมีการผิดเพี้ยนไปจากนี้แม้แต่นิดเดียว พวกเราก็ไม่มีอะไรจำเป็นจะต้องคุยกันอีก” ฮัวหยูตงกล่าวด้วยสีหน้าอันจริงจัง
—
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่มีพวกนักประดิษฐ์คนไหนที่อยากได้เงินหรอก พวกเขาก็แค่เปลี่ยนวิธีการพูดให้ตัวเองดูดีแค่นั้นเอง ลองดูสิ่งที่เขาต้องการสิแค่ดักแด้จักจั่นทองแดง 9 ชิ้น มันก็มากพอที่จะทำให้นายล้มละลายลงได้แล้ว” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ หลังจากที่เซี่ยเฟยเดินออกมาจากบ้านของฮัวหยูตง
“ดักแด้จักจั่นทองแดงมันคืออะไร? มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีประโยชน์กับนักรบเท่าไหร่นัก แต่ว่ามันเป็นวัตถุดิบหายากสำหรับพวกนักประดิษฐ์ ปกติพวกมันมักจะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกฎแห่งแรงโน้มถ่วง ราคาขั้นต่ำของพวกมันน่าจะอยู่ที่ชิ้นละ 10,000 คริสตัลเขียว” โอโร่กล่าว
“หา!”
เซี่ยเฟยร้องเสียงหลงด้วยความตกตะลึง ท้ายที่สุดมันก็เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 คือคริสตัลต้นกำเนิดระดับสูงสุดที่สามารถหาได้ภายในกลุ่มดาวม้าขาวแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นในบัญชีธนาคารของเขาก็มีคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 อยู่เพียงแค่ 11,000 ชิ้นเท่านั้น หากเขาต้องการจะรวบรวมดักแด้จักจั่นทองแดงให้ได้ทั้งเก้าชิ้น มันก็เกรงว่าเขาคงจะต้องขายสินทรัพย์ทั้งหมดที่เขามีออกไป
“แพงมาก!” เซี่ยเฟยพึมพำด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
“เรื่องเงินมันยังไม่ใช่ปัญหาเรื่องใหญ่ที่สุดหรอกนะ ฉันคิดว่าปัญหาจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องการพยายามตามหาดักแด้จักจั่นทองแดงให้ได้ครบ 9 ชิ้นภายในเวลา 1 เดือนต่างหาก” โอโร่กล่าวพร้อมกับยักไหล่
“มืดมนมาก!” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะตระหนักว่าเซี่ยเหล่าสือน่าจะเป็นนักประดิษฐ์ที่ซื่อสัตย์ในบรรดานักประดิษฐ์ขั้นสูงทั้งหมดแล้ว
น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซี่ยเหล่าสือไม่ค่อยดี หากเขาพยายามไปถามหาความช่วยเหลือจากชายชราในเวลานี้ มันก็เกรงว่าเขาคงจะถูกอีกฝ่ายไล่ตะเพิดกลับมา
นอกจากนี้เซี่ยเหล่าสือยังเน้นฝึกฝนไปที่การหลอมพลังงาน ทำให้ทักษะในด้านการประดิษฐ์เพียงอย่างเดียวเขายังด้อยกว่าฮัวหยูตงมากพอสมควร หากเขาต้องการที่จะผลิตค้อนรวมศูนย์ระดับสูงขึ้นมาจริง ๆ เขาก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาฮัวหยูตงเท่านั้น
เมื่อตกอยู่ภายใต้ปัญหาที่แก้ไขไม่ออก เซี่ยเฟยก็ทำได้เพียงแต่กลับไปยังสวนสายลมด้วยใบหน้าที่มืดมน
“คุณตา อีกไม่นานจะมีงานชุมนุมการค้าครั้งใหญ่ที่กลุ่มดาวห่านป่า ไม่ทราบว่ามันมีบัตรเชิญส่งมาที่ตระกูลของพวกเราหรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพ่อบ้านชราหลังจากที่เขาได้เดินทางกลับมาจนถึงสวนสายลม
“ดูเหมือนว่าจะมีอยู่นะ แต่ฉันโยนพวกมันทิ้งไปหมดแล้ว” เซี่ยอู๋เย่กล่าวตอบหลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ทิ้งไปแล้ว!?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะท้ายที่สุดเผ่าซุนนีก็เป็นเผ่าที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ภายในดินแดนกฎแห่งนี้เสียอีก งานชุมนุมการค้าที่พวกเขาจัดขึ้นมาย่อมจะต้องอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่ถึงกระนั้นสกายวิงก็ยังโยนบัตรเชิญของงานแบบนั้นทิ้งโดยไม่ลังเล?
“ใช่ ฉันทิ้งไปแล้ว ปกติมันไม่มีใครอยู่บ้านบัตรเชิญแบบนั้นเลยไม่จำเป็น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากใครต้องการจะไปงานก็มักจะเดินทางไปงานเลยไม่จำเป็นจะต้องใช้บัตรเชิญที่ยุ่งยากอะไรแบบนั้นหรอก” เซี่ยอู๋เย่กล่าวอธิบาย
“พอดีว่าผมอยากจะไปเที่ยวที่นั่นสักหน่อยครับ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างลังเลเล็กน้อย
“นายน้อยคุณไม่ได้มีตราอสูรคลั่งอยู่ในมืองั้นเหรอ? ตราอสูรคลั่งคือบัตรผ่านที่ดีที่สุดแล้วคุณไม่จำเป็นจะต้องใช้บัตรเชิญอะไรพวกนั้นหรอก” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
คำตอบของชายชราทำให้เซี่ยเฟยทำตัวไม่ถูก เขาจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าและเดินกลับไปยังห้องของตัวเองที่อยู่บริเวณสวนบ้าน แต่ทันใดนั้นเซี่ยอู๋เย่ก็ได้พูดประโยคที่เขาเพิ่งนึกได้ขึ้นมาซะก่อน
“นายน้อย! คืนนี้อย่าพึ่งออกไปไหนนะ นายท่านจงไห่บอกว่าเขาจะสอนกฎความเร็วให้กับคุณ”
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 455
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น