ตอนที่ 785 วิธีฝึกของสกายวิง
ตอนที่ 785 วิธีฝึกของสกายวิง
กว่าจะถึงเวลาที่เซี่ยจงไห่กลับมาถึงสวนสายลมมันก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ซึ่งเซี่ยเฟยก็กำลังรอคอยชายชราอยู่ที่ลานหน้าบ้าน เพราะในที่สุดเขาก็กำลังจะได้มีโอกาสเรียนรู้กฎแห่งความเร็ว มันจึงทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนทนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้
หน้าตาของเซี่ยจงไห่ดูยิ้มแย้มมากกว่าปกติคล้าย ๆ กับว่าในวันนี้เขาจะได้รับชัยชนะจากการเล่นหมากรุกมาตลอดทั้งวัน
“อ้าวทุกคนมาอยู่นี่กันหมดเลยงั้นเหรอ? วันนี้ฉันชนะหมากรุกได้ 3 เกมติดต่อกัน คุณตาช่วยเตรียมอาหารดี ๆ ให้หน่อยนะ แล้วพวกเรา 3 คนมานั่งดื่มฉลองกันเถอะ” เซี่ยจงไห่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะสังสรรค์เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาต้องการที่จะเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิงมาตั้งนานแล้ว
“ผมได้ยินมาจากคุณตาว่าวันนี้คุณอยากจะสอนกฎแห่งความเร็วให้กับผมงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามอย่างลังเล
“ใช่ ตอนนี้พลังพิเศษของนายพัฒนามาจนถึงขีดจำกัดแล้ว มันถึงเวลาที่นายจะต้องเริ่มเรียนรู้กฎแห่งความเร็วได้สักที ท่านผู้นำติดต่อฉันมาตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อนว่าให้สอนกฎแห่งความเร็วให้กับนาย ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วนายจะต้องเดินทางไปยังศูนย์ฝึกสายลมเพื่อฝึกฝนกับผู้อาวุโสเซี่ยเหล่าสือ แต่ท่านผู้นำเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับผู้อาวุโสไม่ค่อยดี เขาเลยให้ฉันเป็นคนสอนกฎความเร็วให้กับนายแทน” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะและยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
เซี่ยเฟยแสดงสีหน้าอันมืดมนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซี่ยเหล่าสือไม่เพียงแต่จะเรียกว่าแย่มากเท่านั้น แต่มันอาจจะพัฒนาไปจนถึงขั้นยากจะแก้ไขอีกครั้งหนึ่งแล้วก็ได้
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็เริ่มมีความคิดที่จะหาเวลากลับไปง้อขอคืนดีกับชายชรา เพราะท้ายที่สุดเซี่ยเหล่าสือก็เป็นนักหลอมพลังงานเพียงคนเดียวในตระกูล การบาดหมางกับชายชราคนนี้มีเพียงแต่จะส่งผลเสียต่อตัวเขาในระยะยาว
น่าเสียดายที่ไม่ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามพูดยังไง เซี่ยจงไห่ก็ยังยืนกรานที่จะดื่มสังสรรค์ก่อนที่จะเริ่มทำการฝึกฝน ซึ่งเซี่ยอู๋เย่ก็ทำได้เพียงแต่จ้องมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เพราะเขามีสถานะเป็นเพียงแค่พ่อบ้านเท่านั้น เขาจึงให้ความเคารพในการตัดสินใจของสมาชิกสกายวิงทุก ๆ คน
หลังจากดื่มสุราไป 3 แก้วเซี่ยจงไห่ก็เช็ดปากพร้อมกับเรียกเซี่ยเฟยไปสวนหลังบ้าน โดยมีเซี่ยอู๋เย่คอยติดตามทั้งสองไปอย่างใกล้ชิด
ทันทีที่ก้าวเท้าไปในบริเวณสวนหลังบ้าน กลิ่นอายของเซี่ยจงไห่ก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แม้แต่เซี่ยอู๋เย่ที่มักจะเป็นผู้อาวุโสอารมณ์ดีมาโดยตลอดก็เปลี่ยนแปลงบุคลิกกลายเป็นคนจริงจังไปด้วยเช่นเดียวกัน
เซี่ยจงไห่ยกมือข้างหนึ่งโบกขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่หินก้อนใหญ่ในสวนหลังบ้านจะแยกตัวออกเผยให้เห็นทางลับที่ซ่อนตัวอยู่ทางด้านใน
“สวนสายลมมีพื้นที่น้อยมากและไม่เหมาะสำหรับการฝึกกฎแห่งความเร็ว ผู้อาวุโสเลยสร้างสนามฝึกมิติแห่งนี้ขึ้นมาในสวนหลังบ้าน เพื่อเอาไว้ให้พวกเราใช้ในการฝึกฝนกฎแห่งความเร็วโดยเฉพาะ” เซี่ยจงไห่กล่าวอธิบาย
เซี่ยเฟยรู้สึกว่าก้อนหินก้อนนี้มันดูแปลก ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นเส้นทางที่จะนำพาไปสู่สนามฝึกมิติของตระกูลสกายวิง
ทั้งสามคนเดินเข้าไปภายในเส้นทางลับอย่างช้า ๆ ซึ่งหลังจากที่พวกเขาเดินเข้ามาประมาณ 500 เมตร พื้นที่ด้านหน้ามันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“สวยมาก” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะพื้นที่แห่งนี้มีความสูงมากกว่า 100 เมตร พื้นที่ในแนวราบมีความกว้างสุดลูกหูลูกตา และพื้นที่โดยรอบยังถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยทะเลดวงดาวอันงดงาม
“ความยาวแต่ละด้านของสนามฝึกอยู่ที่ 10,000 กิโลเมตร และนี่แหละก็คือสนามฝึกภายในตระกูลของพวกเรา” เซี่ยจงไห่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“10,000 กิโลเมตร?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลสกายวิงที่มักจะทำตัวติดดินจะซ่อนสนามฝึกอันยิ่งใหญ่แบบนี้เอาไว้ภายในสวนหลังบ้าน
ตระกูลสกายวิงช่างเป็นตระกูลที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่มันอาจจะเป็นเพียงเพราะว่าพวกเขามักจะมีนิสัยติดดิน มันจึงไม่มีใครเคยคิดเลยว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขาก็เป็นตระกูลที่มีความมั่งคั่งไม่น้อยหน้าไปกว่าตระกูลชั้นยอดด้วยเช่นกัน
“ในสวนสายลมมีสนามฝึกแบบนี้อยู่อีก 12 แห่ง แต่เนื่องมาจากว่าตอนนี้มันไม่มีใครอยู่บ้านนายอยากจะใช้สนามฝึกไหนก็ใช้ไปก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณตาจะสอนวิธีเปิดใช้สนามฝึกให้กับนายหลังจากนี้เอง” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงเสียงหัวเราะ
“อีก 12 ที่!” ทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกตะลึงพร้อม ๆ กัน
ตระกูลสกายวิงจะลึกลับมากจนเกินไปแล้ว!
พวกเขาซ่อนสนามฝึกขนาดใหญ่แบบนี้ถึง 12 แห่งภายในสวนสายลมได้ยังไง?!
ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องพวกนี้มันก็เป็นเพียงแค่ความลับที่เซี่ยจงไห่เพิ่งจะเปิดเผยออกมา เซี่ยเฟยจึงไม่คิดเลยว่ามันจะมีความลับอะไรอีกบ้างที่เขายังไม่รู้
แม้แต่โอโร่ก็ยังรู้สึกตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก และเขาก็ต้องยอมรับว่าตระกูลสกายวิงสมควรแล้วที่จะเป็นตระกูลขนาดใหญ่ที่แม้แต่เผ่ามารก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
เซี่ยอู๋เย่ทำหน้าที่คอยเฝ้าทางเข้าอยู่อย่างเงียบ ๆ ขณะที่เซี่ยจงไห่เดินนำเซี่ยเฟยเข้าไปยังสนามฝึก
“นี่คือความแข็งแกร่งของสกายวิง ซึ่งมีเพียงไม่กี่ตระกูลในดินแดนกฎที่มีความยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับพวกเรา หากปราศจากรากฐานอันมั่นคงเช่นนี้ไป สกายวิงก็คงจะไม่สามารถยืนอยู่อย่างภาคภูมิใจเหมือนดั่งในปัจจุบันได้” เซี่ยจงไห่กล่าวขึ้นมาอย่างฮึกเหิม
คำพูดนี้สามารถปลุกใจเซี่ยเฟยได้เช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเริ่มได้เห็นเบื้องหลังของสกายวิง มันก็เริ่มทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าการมีตระกูลคอยหนุนเสริมมันเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน
หลังจากหยุดพักไปชั่วคราวเซี่ยจงไห่ก็โบกมือเรียกอักขระกฎที่ดูลึกลับ 2 ตัวขึ้นมาในอากาศ
“เนื่องในฐานะที่นายเป็นสมาชิกของตระกูล ฉันจะแสดงให้นายได้เห็นเองว่าความเร็วของพวกเราแตกต่างจากความเร็วของคนอื่นยังไง อักขระกฎทั้งสองตัวนี้อันหนึ่งคือกฎแห่งความเร็วธรรมดา ขณะที่อีกอันคือกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิง ไหนนายลองเดาดูสิว่าอักขระกฎอันไหนคืออักขระกฎของสกายวิง?” เซี่ยจงไห่กล่าวเสียงดัง
การเผยให้เห็นอักขระกฏนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง เพราะการพยายามประดิษฐ์อักขระกฎขึ้นมาแต่ละตัวอักษรจำเป็นจะต้องใช้ความพยายามสูงมาก แต่ถึงกระนั้นสกายวิงก็ยังประดิษฐ์อักขระกฎสำหรับกฎแห่งความเร็วขึ้นมาเป็นของตัวเอง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปไกล
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสกายวิงถึงมีความเร็วที่โดดเด่นกว่านักรบสายความเร็วคนอื่นภายในดินแดนกฎ เพราะที่จริงแล้วอักขระกฏที่พวกเขาฝึกฝนมีความแตกต่างจากกฎแห่งความเร็วโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
“ถ้าผมเดาไม่ผิดอันทางซ้ายคืออักขระกฎประจำตระกูลของเรา” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากพิจารณามองดูความแตกต่างของอักขระทั้งสองตัวโดยละเอียด
“นายรู้ได้ยังไง?” เซี่ยจงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เซี่ยอู๋เย่พยักหน้าซ้ำ ๆ อย่างพึงพอใจ
“อักขระทั้งสองตัวดูเหมือนจะคล้ายกันมาก แต่ความเป็นจริงพวกมันกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทุกการหักเลี้ยวของอักขระทางด้านซ้ายมีความแหลมคมราวกับใบมีด ผมสัมผัสได้ถึงความบ้าคลั่งและความเร็วที่ยากจะหยุดยั้งได้ในอักขระกฎของพวกเราครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“พูดได้ดี!”
ทันใดนั้นอักขระกฎทั้งสองตัวก็หายไปอย่างฉับพลัน ก่อนที่เซี่ยจงไห่จะเดินเข้าไปใกล้ ๆ พร้อมกับวางฝ่ามือลงบนศีรษะของชายหนุ่ม และทำให้อักขระกฎของตระกูลสกายวิงปรากฏขึ้นในความทรงจำของเซี่ยเฟยในทันที
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายจะได้เริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตระกูลสกายวิงของเราเพียงตระกูลเดียว” เซี่ยจงไห่ตะโกนเสียงดัง
อักขระอันลึกลับฝังลึกลงไปในสมองของชายหนุ่มจนยากจะลืมเลือนได้ ทุกการหักเลี้ยวของตัวอักษรให้ความรู้สึกแหลมคมราวกับใบมีด รูปลักษณ์การเคลื่อนไหวของอักขระให้ความรู้สึกพลิ้วไหวราวกับสายลม แต่ภายใต้ความพลิ้วไหวนั้นกลับซ่อนความอันตรายคล้ายกับพายุเฮอริเคน
“บรรพบุรุษของพวกเราใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อประดิษฐ์อักขระกฎตัวนี้ขึ้นมา ก่อนจะเริ่มฝึกฝนกฎแห่งความเร็วนายจะต้องเตรียมจิตใจของตัวเองเอาไว้ให้พร้อม” เซี่ยจงไห่กล่าวอย่างจริงจัง
“ผมพร้อมแล้วครับ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“สมแล้วที่นายเป็นคนจากตระกูลของเรา ความยากลำบากมันก็เป็นเพียงแค่บททดสอบให้พวกเราต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้เท่านั้น พวกเราจึงจะประสบความสำเร็จชนิดที่ใครก็ยากที่จะเอื้อมมือถึง” เซี่ยจงไห่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ตามฉันมา” ชายชรากล่าวก่อนที่จะรีบวิ่งนำเซี่ยเฟยด้วยความเร็วสูง
“การฝึกของคนอื่นคือการนั่งทำสมาธิเพื่อถักทออักขระกฎ แต่การฝึกของพวกเราจะต้องทำในระหว่างที่พวกเราออกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเท่านั้น”
“ฝึกในขณะออกวิ่งเนี่ยนะ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใช่! รีบเร่งความเร็วเดี๋ยวนี้”
ทั้งเซี่ยเฟยและเซี่ยจงไห่ต่างก็เร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ร่างของพวกเขาดูคล้ายกับสายฟ้าที่วิ่งวนรอบสนามฝึกขนาดใหญ่รอบแล้วรอบเล่า
“นายเคยสัมผัสกับความรู้สึกหลังจากเร่งความเร็วไปจนเต็มที่แล้วใช่ไหม? ตอนนั้นสภาพแวดล้อมโดยรอบจะเงียบลงทั้งหมด และนายก็จะได้รับความรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังออกวิ่งอย่างอิสระ” เซี่ยจงไห่กล่าวกับเซี่ยเฟยในขณะที่ออกวิ่งด้วยความเร็ว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ เพราะเขาเคยสัมผัสกับความรู้สึกเป็นอิสระในระหว่างการก้าวข้ามผ่านระดับมาแล้วหลายครั้ง
“ดีมาก! การฝึกฝนของพวกเราจะต้องเริ่มต้นจากความรู้สึกนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่นายรู้สึกเป็นอิสระให้ค่อย ๆ ถักทออักขระกฎขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นายเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวก็อย่าฝืนทำการฝึกฝนในตอนนั้นเป็นอันขาด” เซี่ยจงไห่อธิบาย
วิธีการฝึกของสกายวิงทำให้แววตาของชายหนุ่มเปล่งประกายออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะวิธีฝึกแบบนี้มันเป็นวิธีที่อยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการของเขาไปไกลแล้ว
“ฝึกพลังกฎในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูงเนี่ยนะ?! ตระกูลของนายมันเป็นพวกบ้าแบบกู่ไม่กลับจริง ๆ!” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
อดีตจอมมารแอบดูความลับของตระกูลสกายวิงโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทุกสิ่งที่เขาได้พบมากลับยิ่งตอกย้ำให้เขาได้รู้ว่าสกายวิงมันเป็นพวกบ้าที่สุดในจักรวาลแห่งนี้แล้ว
เซี่ยเฟยยกรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เพราะคำว่าบ้าที่หลุดออกมาจากปากของโอโร่เปรียบเสมือนเป็นดั่งคำชมสำหรับเขา
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ปิดแหวนมิติเพื่อเปิดเผยความลับของตระกูลเพียงเท่านี้ ก่อนที่เขาจะเริ่มทำการฝึกฝนกฎแห่งความเร็วในรูปแบบที่ยากที่สุดในจักรวาล
***************
ถ้าเป็นเราวิ่งขนาดนั้นคงสร้างอักษระกฎยากอยู่นะเนี่ย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 420
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น