ในที่สุดลมหนาวก็มา

-A A +A
ในที่สุดลมหนาวก็มา

ในที่สุดลมหนาวก็มา

เมื่อวาน (วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565) เป็นวันออกพรรษา ซึ่งฉันก็ไปวัด เพื่อออกพรรษากับหลวงปู่เหมือนที่เคยทำประจำทุกปี แม้หลายองค์กรภาครัฐจะบอกว่า ฤดูหนาวปีนี้จะมาช้ากว่าทุกปี คือจะเริ่มหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคม แต่สำหรับบ้านฉันแล้ว ลมหนาวเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วแหละ เพียงแค่มาแค่ลม แต่ยังไม่หนาว

 

เสียงลมพัดกระทบใบไม้ดังซู่ซ่า กระดิ่งลมข้างหน้าต่างดังกรุ๊งกริ๊ง ประกอบกับเสียงนกร้อง มันให้บรรยากาศที่ดีจริงๆ แม้จะไม่หนาวก็เถอะ

 

แต่ในที่สุดความเย็นก็เริ่มมา จริงๆ เขามาตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่สิบนั่นแหละ แต่แค่ฉันอยู่ในบ้าน เลยแค่รู้สึกเย็นนิดหน่อย จะมาเริ่มเย็นจนเห็นได้ชัด ก็ตอนเช้าของวันที่สิบเอ็ดนี่แหละ (วันที่ฉันเขียนบันทึกนี้) มันไม่ได้หนาวมากถึงขั้นต้องใส่เสื้อกันหนาวหรอกนะ แต่ก็เรียกได้ว่าเย็นเหมือนอยู่ในห้องแอเลยก็ว่าได้

 

ถ้าให้ฉันเลือกความชอบในสามฤดูแล้วละก็ ฉันว่าฤดูหนาวคงมาเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะลำบากใจตอนอาบน้ำหน่อยก็เถอะ เพราะบ้านฉันอาบน้ำเย็นกันจนชิน ดังนั้นเลยไม่มีใครใช้เครื่องทำน้ำอุ่นกันเลย ส่วนฤดูรองลงมาคงเป็นหน้าร้อน เพราะถึงแม้จะร้อน แต่ก็ไม่ได้ลำบากในการใช้ชีวิตเท่ากับฤดูฝน ที่หากตกเมื่อไหร่ จะออกไปข้างนอกก็ยาก จะทำงานบางทีก็ฝนสาดบ้าง ไฟดับบ้าง หรือกระทั่งฟ้าร้องจนทำให้เราไม่กล้าใช้คอม (ทั้งที่อยู่ในบ้าน ไม่น่าจะเป็นอะไรแท้ๆ แต่ก็ยังกลัว เพราะไม่รู้ว่ามันปลอดภัยจริงไหม ฮา) แต่อีกเหตุผลหนึ่ง ฉันรู้สึกว่า ฤดูฝน เป็นฤดูที่ทำร้ายคนโสดมากที่สุด เพราะเสียงฝนตกช้าๆ เบาๆ มันทำให้คนเหงาได้โดยไม่รู้ตัว ส่วนหนึ่ง เพราะฝนตกจนแทบจะดูจะฟังอะไรไม่ถนัด มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองนานขึ้น มันทำให้เราได้ฟังเสียงความเหงาของตัวเองผ่านสายฝนละมั้ง ฉันเลยไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่

 

ทุกฤดู มักจะมีความทรงจำเก่าๆ ของเราเองแฝงอยู่ในนั้น อย่างเช่นหน้าหนาวนี้ก็เหมือนกัน ฉันคิดถึงกลิ่นควันไฟจากเตาถ่าน ฉันคิดถึงข้าวจี่ร้อนๆ ที่คุณปู่ หรือไม่ก็คุณย่า (ที่ท่านเสียไปนานแล้วทั้งคู่) เคยทำให้กิน ฉันคิดถึงเวลานั่งดื่มกับเพื่อนๆ รอบกองไฟ และเรื่องราวอื่นๆ ที่มักจะผุดขึ้นมาเป็นระยะ

 

แม้ทุกวันนี้จะไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มมึนเมาแล้ว แม้ทุกวันนี้ปู่และย่าจะไม่อยู่แล้ว แม้ว่าคนข้างกายบางคนจะเดินออกจากชีวิตเราไปตามเส้นทางของเขาแล้ว

 

แต่ตลอดอายุยี่สิบเจ็ดปีของฉัน ฉันว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือเศร้าที่ผ่านมา แม้จะมีบางอารมณ์ที่นึกเกิดเสียดายขึ้นมาบ้างในบางครั้ง แต่ฉันไม่เคยเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและผ่านมาแล้ว เพราะทุกเรื่องราวเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทำให้ฉัน เป็นตัวฉันเองในทุกวันนี้

ความคิดเห็น

รูปภาพของ แงซาย

แต่น่าเสียดายที่ปีนี้ลมหนาวมีน้อยมาก ไม่เหมือนปีก่อนๆ เลย

รูปภาพของ tor

จริงครับ 55

รูปภาพของ แงซาย

เขียนดีนะคะ อ่านเพลินมากเลย

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.