บทที่ 421 ย้ายเมือง
บทที่ 421 ย้ายเมือง
ก่อนหน้านี้เขาถูกลู่หยางใช้กลอุบายแย่งชิงป้อมปราการไป 3 แห่ง แม้กระทั่งในตอนนี้กองกำลังหลักของเขาก็ถูกลู่หยางดักสังหารริมฝั่งแม่น้ำจนทำให้ไม่สามารถกลับไปยังเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ได้ ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาเปรียบเสมือนกับสุนัขจรจัดที่ไม่มีบ้านให้กลับไปอยู่
สิ่งที่เจียงเจ๋อเกลียดที่สุดคือช่วงเวลาที่ศัตรูพยายามตะโกนขู่ในตอนที่รู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ เขาจึงชี้หน้าโซลออฟอีเทอนิตี้พร้อมกับตะโกนออกไปว่า
“รีบไสหัวกลับไปซะ! ถ้าแกยังพูดมากอยู่อีกฉันจะเอากองกำลังไปปิดล้อมเมืองเซนต์กอลล์เอาไว้ เอาให้พวกแกออกจากเมืองไม่ได้เลย”
คำพูดของเจียงเจ๋อทำให้ลู่หยาง, เซี่ยหยู่เว่ยและคนอื่น ๆ อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“นายนี่มันโหดกว่าฉันอีกนะเนี่ย ฉันยังคิดถึงวิธีแบบนั้นไม่ได้เลย” ลู่หยางกล่าวเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนขึ้นมาอีกครั้ง
เซี่ยหยู่เว่ยทำได้เพียงแต่กรอกตาไปมา เพราะมันเห็นได้ชัดเลยว่าวิธีการนั้นเป็นวิธีการที่โหดเหี้ยมมาก แต่ด้วยกำลังของบลัดบราเธอร์ในปัจจุบัน มันก็ต้องยอมรับว่าพวกเธอมีกำลังมากพอจะทำอย่างที่เจียงเจ๋อได้พูดเอาไว้จริง ๆ
เมื่อโดนขู่กลับโซลออฟอีเทอนิตี้ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรอีก เขาจึงหยิบม้วนคัมภีร์ออกมาเพื่อเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์
ระหว่างนั้นโซลออฟอีเทอนิตี้ก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าบริเวณด้านหลังของเขามีฮั่นชา, ฮั่นหยูและฮั่นเมิ่งยืนถือมีดรอคอยอยู่ ขอแค่ลู่หยางออกคำสั่งแม้แต่นิดเดียว พวกเขาคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้ก็สามารถที่จะสังหารโซลออฟอีเทอนิตี้ได้ในทันที
อย่างไรก็ตามแม้แต่ในตอนที่โซลออฟอีเทอนิตี้หายตัวจากไปแล้ว ลู่หยางก็ยังไม่ได้ออกคำสั่งใด ๆ ออกมา เพราะในความคิดของเขาการเก็บพวกฮั่นชาเอาไว้ใช้งานในอนาคต มันย่อมดีกว่าการเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมาในตอนนี้
“ตามมันกลับเข้าไปในเมือง สืบมาว่ามันวางแผนจะทำอะไรต่อไป” ลู่หยางสั่งการ
“ครับ/ค่ะ” พวกฮั่นชาพยักหน้ารับ ก่อนที่พวกเขาจะใช้คัมภีร์ย้อนกลับเทเลพอร์ตไปยังเมืองเซนต์กอลล์
“พวกเราจะกลับกันเลยไหมคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“ไม่ต้องรีบร้อน ให้ทุกคนเก็บอุปกรณ์ให้เสร็จก่อนแล้วพวกเราค่อยดำเนินการขั้นต่อไป” ลู่หยางกล่าว
การสังหารศัตรูในคราวนี้ทำให้ทั้งริมฝั่งและในแม่น้ำมีอุปกรณ์น้ำยาและวัตถุดิบต่าง ๆ ดรอปลงมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน สมาชิกของบลัดบราเธอร์จึงกระโดดลงไปเก็บของอย่างยินดี
—
อีกด้านหนึ่ง
นอกป้อมปราการแบล็คร็อค
ฉงป้า, ฉือมู่, เหลยหลง, เฉียนเฉียนและหัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ กำลังดูวีดีโอที่ดีวายโซลถูกพวกฉิงชางเอาชนะอย่างราบคาบ ก่อนที่ทุกคนจะแสดงสีหน้าออกมาอย่างจนใจ
“ลู่หยางพึ่งแสดงพลังออกมาแค่ 3 กองทัพเท่านั้น ยังมีอีก 3 กองทัพที่เขายังไม่ได้แสดงออกมา แต่แค่นี้มันก็ทรงพลังมากพอจะจัดการกับศัตรูได้แล้ว” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ไม่ใช่ 3 แต่เป็น 4 ต่างหากค่ะ อย่าลืมว่าโจวเทียนหมิงยุบกิลด์เข้าร่วมกับบลัดบราเธอร์แล้ว ด้วยกองกำลังที่เขามีย่อมมากพอจะเป็นกองทัพอีก 1 กองทัพได้สบาย ๆ” เฉียนเฉียนกล่าว
“ลู่หยางเอาเงินจากไหนมาซื้อกิลด์ของโจวเทียนหมิงกันนะ?” ไฟร์ไลท์ถามอย่างสับสน
“พวกเราอาจจะถูกลู่หยางหลอกเหมือนกันทั้งหมด ความจริงเขาอาจจะมีผู้สนับสนุนรายใหญ่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก็ได้” ฉือมู่กล่าว
“มีโอกาสเป็นแบบนั้นสูงมาก ผมกำลังสงสัยว่าเขาอาจจะแอบใช้ป้อมปราการทั้ง 2 แห่งในก่อนหน้านี้ไปเสนอนายทุนให้ส่งเงินลงทุนมาให้กับเขา” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“คราวนี้พวกเราเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์จริง ๆ ตอนนี้ลู่หยางได้ครอบครองป้อมปราการ 6 แห่งและมีลูกกิลด์มากกว่า 500,000 คนทำให้เขากลายเป็นกิลด์อันดับ 1 ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว” เหลยหลงกล่าว
“สถานการณ์มันยังไม่แน่นอนเท่าไหร่นักหรอก ถ้าโซลออฟอีเทอนิตี้กลับไปที่เมืองซีเอ็มเพอเรอร์ได้สำเร็จ ในเวลานั้นลู่หยางก็คงต้องยุ่งอยู่กับการจัดการป้อมปราการทั้ง 3 แห่งที่พึ่งยึดมา ขณะเดียวกันถ้าหากพวกเรายึดป้อมปราการคืนมาได้สำเร็จ พวกเราก็พอมีสิทธิ์เจรจากับหวังเถิงเพื่อร่วมมือกันในการจัดการกับลู่หยาง” ฉงป้ากล่าว
ฉือมู่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ทันใดนั้นชิงเฟิงก็วิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนก
“แย่แล้วครับ! กองกำลัง 50,000 คนของโซลออฟอีเทอนิตี้ถูกลู่หยางดักซุ่มโจมตีที่แม่น้ำมูนสปิริต ตอนนี้พวกเขาเหลือรอดชีวิตอยู่แค่ไม่ถึง 10,000 คน”
“อะไรนะ?! ลู่หยางไปดักซุ่มโซลออฟอีเทอนิตี้ได้ยังไง” ฉงป้าถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เฉียนเฉียนแอบมองไปทางอื่นอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร เพราะเธอคือคนส่งข่าวไปบอกลู่หยางเอง
“ทั้งฝั่งเรากับทางหวังเถิงมีคนรวมกันอยู่มากกว่า 300,000 คนแล้ว ผมจะรู้ได้ยังไงว่าสายลับของลู่หยางแฝงตัวอยู่ที่ไหน?” ชิงเฟิงกล่าว
ฉือมู่กลัวว่าชิงเฟิงกับฉงป้าจะทะเลาะกัน เขาจึงเดินเข้ามาคั่นกลางพร้อมกับพูดว่า
“ตอนนี้เราควรไปสืบดูก่อนดีกว่าว่าโซลออฟอีเทอนิตี้จะเอายังไงต่อ ถ้าหากเขายังพยายามกลับเมืองซีเอ็มเพอเรอร์พวกเราก็ไม่ต้องไปยุ่ง แต่ถ้าเขาคิดจะมุ่งหน้ามาทางนี้เดี๋ยวฉันจะรับหน้าที่สกัดเขาเอาไว้เอง ส่วนฉงป้าก็โจมตีป้อมปราการต่อไป”
ฉงป้ามองไปยังกำแพงป้อมที่ถูกโจมตีจนพังเสียหายอย่างยับเยิน ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“ตกลงครับ”
—
บนกำแพงป้อมปราการแบล็คร็อค
หวังเถิงดูวีดีโอถ่ายทอดสดการต่อสู้ในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์จบแล้ว และได้รับข่าวการพ่ายแพ้ของโซลออฟอีเทอนิตี้ที่แม่น้ำมูนสปิริตด้วยเช่นกัน เขาจึงรีบโทรไปหาโซลออฟอีเทอนิตี้พร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า
“น้องชาย นายอย่าเพิ่งกลับเมืองซีเอ็มเพอเรอร์เลย อยู่ช่วยกันพัฒนาที่เมืองเซนต์กอลล์กันก่อนดีกว่า”
“ลู่หยาง มันขวางทางผมอยู่ ถึงผมอยากจะกลับก็กลับไม่ได้ เอาเป็นว่าผมอยู่ที่นี่ไปสักพักก่อนก็แล้วกัน” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
หวังเถิงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนที่เขาจะพูดว่า
“ถ้ามีนายอยู่ด้วยพวกเราย่อมรักษาป้อมปราการนี้เอาไว้ได้แน่ ๆ”
“แต่ผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
“เงื่อนไขอะไร?” หวังเถิงถาม
“ผมต้องการครอบครองป้อมปราการแบล็คร็อค ขอแค่ผมได้ครอบครองป้อมปราการนี้ ผมก็สามารถส่งลูกน้องทั้งหมดมาที่นี่ได้อย่างต่อเนื่อง” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
“นายเตรียมจะย้ายสมาชิกดีวายโซลมาที่เมืองเซนต์กอลล์หมดเลยงั้นเหรอ?” หวังเถิงถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย
โซลออฟอีเทอนิตี้พยักหน้ารับพร้อมกับพูดว่า
“ผมได้เรียนรู้จากลู่หยางแล้วว่าในเมื่อผมรักษาป้อมปราการเดิมเอาไว้ไม่ได้ ผมก็ควรจะย้ายสมาชิกดีวายโซลทั้งหมดมาที่ป้อมปราการแบล็คร็อค การทำแบบนี้มันก็จะทำให้พวกเราสามารถป้องกันป้อมเอาไว้ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น”
“นายคิดแบบนั้นก็ดีแล้ว เพราะขอแค่พวกเรายึดป้อมปราการคริมสันของลู่หยางมาได้ ในเวลานั้นนายน้อยเจียก็จะชดเชยความเสียหายให้กับนายเอง” หวังเถิงกล่าว
—
หลังวางสายจากโซลออฟอีเทอนิตี้ หวังเถิงก็ติดต่อไปหาบลัดไทแรนท์ก่อนที่จะทำการเล่าเรื่องเงื่อนไขของโซลออฟอีเทอนิตี้ให้เขาฟัง
ขณะเดียวกันบลัดไทแรนท์ที่คอยปกป้องป้อมปราการมาโดยตลอดก็อยู่ในสภาวะที่เหนื่อยล้าจนสุดขีด เพราะแต่เดิมเขาก็มีป้อมปราการต้องดูแลถึง 3 ป้อมอยู่แล้ว การมีป้อมให้ต้องดูแลเพิ่มเติมในตอนนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่หนักเกินไปสักหน่อย เมื่อเขาได้ยินว่าโซลออฟอีเทอนิตี้ต้องการจะครอบครองป้อมปราการแบล็คร็อค เขาจึงตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ได้ เดี๋ยวผมจะโอนป้อมให้เขาเดี๋ยวนี้เลย”
ระบบ: บลัดไทแรนท์ต้องการจะมอบป้อมปราการแบล็คร็อคให้กับคุณ ไม่ทราบว่าคุณต้องการจะยอมรับหรือไม่?
โซลออฟอีเทอนิตี้ที่กำลังรวมกำลังกันอยู่บริเวณนอกเมืองเซนต์กอลล์เผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะติดต่อไปหาบลัดไทแรนท์
“อย่าเพิ่งรีบร้อน รอให้ลูกน้องของฉันเข้าเมืองก่อน”
“ข่าวของนายนี่มันเร็วจริง ๆ” บลัดไทแรนท์กล่าวหลังจากนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
โซลออฟอีเทอนิตี้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปถึงเฉ่อยู่
“คัดเลือกโจร 40 คนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการแบล็คร็อคซะ บอกพวกเขาว่าหากใครสามารถแทรกซึมเข้าไปในป้อมปราการได้สำเร็จ ฉันจะมอบเงินรางวัลให้กับพวกเขาคนละ 10,000 เครดิต”
“พวกเราไม่ใช้พวกกรีนเมาเทนแล้วเหรอครับ?” เฉ่อยู่ถามอย่างประหลาดใจ
“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันถ่วงเวลาไม่ยอมฟังคำสั่งของฉันตั้งแต่แรก พวกเราจะถูกซุ่มโจมตีที่แม่น้ำมูนสปิริตไหม ไอ้พวกไร้ประโยชน์แบบนี้เราจะเก็บไว้ทำไม หลังจากจบเรื่องนี้แล้วฉันจะไล่พวกมันออกจากกิลด์ให้หมด” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวอย่างเย็นชา
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปจัดการทุกอย่างให้เดี๋ยวนี้” เฉ่อยู่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
หลังจากสั่งการเฉ่อยู่จนเสร็จ โซลออฟอีเทอนิตี้ก็หันไปสั่งการกองทัพทั้ง 50,000 คน
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่ป้อมปราการแบล็คร็อค”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 160
- 👍 ถูกใจ


ความคิดเห็น
หวดกันยับเลย
แสดงความคิดเห็น