บทที่ 422 ยอมรับความพ่ายแพ้

-A A +A

บทที่ 422 ยอมรับความพ่ายแพ้

บทที่ 422 ยอมรับความพ่ายแพ้

เส้นทางจากเมืองเซนต์กอลล์ไปยังซากเมืองโบราณมีเพียงแค่เส้นทางเดียว เมื่อโซลออฟอีเทอนิตี้เริ่มเคลื่อนไหว หน่วยสอดแนมของเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่ก็รายงานเรื่องนี้ให้ฉือมู่ทราบในทันที

“สุดท้ายเขาก็กลับมาจนได้สินะ” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าหากโซลออฟอีเทอนิตี้นำกองกำลังทั้ง 50,000 คนนี้กลับไปยังเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ สถานการณ์ทางฝั่งเขาก็คงจะราบรื่นกว่าเดิมมาก แต่ใครจะไปคิดว่าท้ายที่สุดโซลออฟอีเทอนิตี้จะเลือกนำกำลังกลับมายังป้อมปราการแบล็คร็อคแบบนี้

“พี่ชายคราวนี้ผมคงจะต้องขอรบกวนคุณแล้ว หลังจากจบเหตุการณ์ในครั้งนี้ผมจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับคุณอย่างงาม” ฉงป้ากล่าว

“วางใจเถอะ ฉันจะนำกำลังคน 50,000 คนไปขวางโซลออฟอีเทอนิตี้เอาไว้เอง ส่วนนายก็นำกองกำลังบุกยึดป้อมปราการกลับมาให้ได้ล่ะ” ฉือมู่กล่าว

“ไม่ต้องห่วง ผมมั่นใจว่าจะสามารถบุกยึดป้อมปราการได้ภายใน 3 ชั่วโมง เพราะถ้าหากพูดถึงเรื่องความดุดัน บลัดไทแรนท์ มันก็สู้ผมในเรื่องนี้ไม่ได้หรอก” ฉงป้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

สมาชิกของบลัดเติสตี้ต่อสู้เพื่อป้องกันป้อมปราการแบล็คร็อคมานานกว่า 3 วันแล้วทำให้พวกเขาต่างก็เหนื่อยล้ากันอย่างหนัก ส่วนทางฝั่งของฉงป้ายังคงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและต้องการจะบุกยึดเอาป้อมปราการของตัวเองกลับคืนมา เมื่อมันประกอบกับเสน่ห์ส่วนตัวของฉงป้า มันจึงทำให้ลูกน้องส่วนใหญ่ยังคงเต็มใจสละชีวิตเพื่อเขาอยู่

นอกจากนี้หลังจากการสู้รบผ่านมา 3 วัน สมาชิกของบลัดเติสตี้ก็ไม่มีใครมีเลเวลเกิน 30 อีกต่อไปแล้ว แม้แต่คนที่มีเลเวลมากที่สุดก็มีเลเวล 29 ส่วนคนที่น่าสงสารมากที่สุดก็มีเลเวลลดลงไปเหลือเพียงแค่ 27

ในสภาพที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถสวมใส่อุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 ได้ ทางฝั่งของบลัดไทแรนท์ก็ไม่ได้มีความได้เปรียบเหนือกว่าฝั่งของฉงป้าอีกต่อไป และถึงแม้ว่าเลเวลของอีกฝ่ายจะมีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่า แต่การต่อสู้ของผู้เล่นที่มีอุปกรณ์ใกล้เคียงกันก็มักที่จะวัดกันที่ทักษะของใครดีกว่าเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ฉงป้ามีความได้เปรียบเหนือกว่าบลัดไทแรนท์อย่างชัดเจน

บนกำแพงเมือง

บลัดไทแรนท์และหวังเถิงกำลังพยายามป้องกันป้อมปราการอย่างสุดกำลัง

“ฉงป้า มันเป็นหมาบ้าชัด ๆ มันคิดแผนการบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง?” หวังเถิงตะโกนด่าอย่างไม่พอใจ

“มันก็เป็นเพียงแค่การพยายามดิ้นรนครั้งสุดท้าย หลังจากวันนี้ไปมันก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อีกแล้ว” บลูสกายกล่าว

“หลังจากโซลออฟอีเทอนิตี้นำกองกำลัง 50,000 คนกลับมา ฉันก็อยากจะเห็นหน้าตาของฉงป้ากับฉือมู่ซะจริง ๆ” สกายโดเมนวอริเออร์กล่าว

“พวกมันคงจะทำหน้ากันตลกมากแน่ ๆ” หวังเถิงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

10 นาทีต่อมา

เฉ่อยู่นำกำลังโจร 20 คนฉวยโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายกำลังพักรบแทรกซึมเข้ามาภายในป้อมปราการแบล็คร็อคด้วยตัวเอง

หลังจากเฉ่อยู่เดินทางมาถึงแล้วหวังเถิงก็นำถุงเก็บม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตไปยังป้อมปราการมอบให้กับโจรทั้ง 20 คน

“หัวหน้า ผมได้คำภีร์เทเลพอร์ตป้อมปราการมาแล้วครับ” เฉ่อยู่ส่งข้อความกลับไปรายงานโซลออฟอีเทอนิตี้

“โอเค นายอยู่ในป้อมปราการต่อไป ส่วนคนอื่นให้เทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์แล้วใช้ประตูวาร์ปเทเลพอร์ตไปที่เมืองซีเอ็มเพอเรอร์เพื่อเอาคัมภีร์เทเลพอร์ตป้อมปราการไปให้กับพวกชาโดว์ดัสค์” โซลออฟอีเทอนิตี้สั่ง

สาเหตุที่โซลออฟอีเทอนิตี้สั่งการแบบนั้น เพราะการโอนป้อมปราการมันก็จำเป็นจะต้องให้คนในกิลด์ของเขาอยู่ในป้อมปราการที่จะต้องรับโอนด้วย

“ครับ” เฉ่อยู่รับคำสั่ง ก่อนที่เขาจะบอกให้โจรทั้ง 20 คนนำถุงคัมภีร์เดินทางไปยังเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ในทันที

อีกด้านหนึ่ง

ชาโดว์ดัสค์กำลังรวบรวมลูกน้องบริเวณทิศตะวันตกของเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ ซึ่งในตอนนี้พวกเขาสามารถรวบรวมกำลังพลได้ 120,000 คนแล้ว

ระหว่างนั้นโจวเทียนหมิงก็ยังคงติดตามการเคลื่อนไหวของสถานการณ์ในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ตลอดเวลา เขาจึงรายงานเรื่องกองกำลังดีวายโซลไปให้กับลู่หยางเป็นระยะ ๆ

ขณะเดียวกันลู่หยางก็เพิ่งนำเจียงเจ๋อและซุนหยูกลับไปยังป้อมปราการคริมสัน ส่วนทางฝั่งเซี่ยหยู่เว่ยก็เพิ่งนำกองกำลังกลับไปพักที่ป้อมปราการวินด์ธันเดอร์

“ชาโดว์ดัสค์ไม่น่าโง่ขนาดส่งคนมาโจมตีป้อมปราการอีกครั้งหนึ่งหรอกนะ” เจียงเจ๋อกล่าว

ลู่หยางทำการเปิดแผนที่บริเวณเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ขึ้นมาดู ซึ่งจากข้อมูลที่เขาได้รับในตอนนี้เขาก็ยังคาดเดาไม่ออกว่าโซลออฟอีเทอนิตี้กำลังพยายามจะทำอะไรกันแน่

“ตอนนี้พวกเราแค่รอดูสถานการณ์ของพวกเขาไปก่อน ตราบใดก็ตามที่พวกเขาไม่มาโจมตีป้อมปราการของพวกเรา ขอแค่พวกเรานั่งดูพวกเขาต่อสู้กันไป คนที่ได้รับประโยชน์จากสงครามในครั้งนี้มากที่สุดก็ยังคงเป็นพวกเราอยู่ดี” ลู่หยางกล่าว

“พวกเราไม่เพียงแค่ได้รับผลประโยชน์จากสงครามในครั้งนี้นะ แต่พวกเราได้โบนัสกลับมาก้อนใหญ่เลย ใครจะไปคิดว่านายจะวางแผนบุกยึดป้อมปราการ 3 แห่งในคราวเดียว ถ้าฉันเดาไม่ผิดฉือมู่กับฉงป้าคงจะโมโหจนกระอักเลือดออกมาหลังจากรู้ข่าวเลยมั้ง” เจียงเจ๋อกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง

“พวกเขาอุตส่าห์วางแผนกันตั้งนานแต่ไม่เคยมีฉันเป็นปัจจัยในแผนการของพวกเขาเลย เหตุการณ์นี้คงจะทำให้พวกเขาเจ็บกันไปอีกนาน” ลู่หยางกล่าว

ความจริงแล้วหากจะพูดถึงคนที่เจ็บใจจากสถานการณ์ในครั้งนี้มากที่สุด มันก็ไม่ใช่ฉงป้าที่สูญเสียป้อมปราการของตัวเองไป แต่เป็นทางฝั่งของฉือมู่ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมาเป็นเวลานานต่างหาก

ฉือมู่อยู่ในโลกธุรกิจมาทั้งชีวิตและเขาก็มักจะได้รับชัยชนะในสงครามธุรกิจมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาเข้าเกมมาเขาก็ได้พบว่าตัวเองตัดสินใจลงทุนผิดอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะการตัดสินใจยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฉงป้าในการต่อสู้ครั้งนี้

ท้ายที่สุดเขาก็คิดว่าการเป็นพันธมิตรกับฉงป้าเป็นการลงทุนที่ดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นว่าเขายังไม่สามารถช่วยเหลือฉงป้าได้สำเร็จ ขณะที่ทางฝั่งของลู่หยางก็ได้อาศัยจังหวะในช่วงเวลานี้ในการบุกยึดป้อมปราการได้ถึง 3 แห่งอีกด้วย

“เฮ้อ!” ฉือมู่ถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

ฮิดเดนเบลด, ชิงเฟิง, ลั่วซืออวี่และซิลเวอร์วูฟกำลังนำกองกำลังเดินตามฉือมู่มาในระยะประชิด เมื่อพวกเขาได้เห็นชายชราถอดหายใจออกมา ทุกคนต่างก็หันหน้ามาสบตากัน

“หัวหน้า ถ้าเป้าหมายของโซลออฟอีเทอนิตี้คือการมาสนับสนุนบลัดไทแรนท์จริง ๆ เรื่องหลังจากนี้คงจะยุ่งยากกว่าเดิมแน่” ฮิดเดนเบลดกล่าว

“ฉันก็กำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่เรานำกองกำลังไปซุ่มโจมตีพวกมันก่อนกันเถอะแล้วค่อยดูว่าพวกเราสามารถที่จะจัดการกับพวกโซลออฟอีเทอนิตี้ได้ไหม” ฉือมู่กล่าวขณะมองไปยังซากเมืองโบราณทางด้านหน้า

ทุกคนพยักหน้ารับ ก่อนที่จะแยกย้ายนำกองกำลังออกไปซุกซ่อนตามมุมต่าง ๆ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

โซลออฟอีเทอนิตี้นำกองกำลังมาถึงซากเมืองโบราณได้ในที่สุด โดยเมื่อสักครู่นี้บลัดไทแรนท์ได้ส่งคนมามอบม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตป้อมปราการให้กับกองกำลังทั้ง 50,000 คนของเขาแล้ว

“ประธานฉือมู่นำกองกำลังของคุณออกมาเถอะ ผมใช้วิธีการซุ่มโจมตีมานานแล้วแผนการของพวกคุณหลอกผมไม่ได้หรอก” โซลออฟอีเทอนิตี้ตะโกนเสียงดังขณะมองไปยังซากปรักหักพังตรงหน้า

ฉือมู่พอจะคาดเดาได้ว่าเขาคงจะหลอกโซลออฟอีเทอนิตี้ไม่ได้ เขาจึงลุกยืนขึ้นบนตึกร้างชั้น 2 ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร

“ในเมื่อนายรู้แล้วฉันก็ขอพูดตรง ๆ ว่าฉันจะไม่ยอมให้กองกำลังของนายผ่านฉันไปได้อย่างแน่นอน”

โซลออฟอีเทอนิตี้ส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ประธานฉือมู่ ผมไม่ได้ตั้งใจจะผ่านเส้นทางนี้ แต่ผมแค่จะมาบอกคุณเรื่องหนึ่งเท่านั้น”

“เรื่องอะไร?” ฉือมู่ถาม

“คุณยอมแพ้ซะเถอะ คราวนี้ฉงป้าพ่ายแพ้อย่างยับเยินแล้ว ถึงแม้คุณจะพยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเขา แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว

“เป็นไปไม่ได้หรอก บลัดไทแรนท์กำลังจะพ่ายแพ้แล้วอีกไม่เกิน 3 ชั่วโมงฉงป้าก็คงจะยึดป้อมปราการกลับคืนมาได้ แล้วนายเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงมาบอกให้ฉันยอมรับความพ่ายแพ้” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“ถ้าผมบอกว่าความมั่นใจของผมคือกองกำลัง 120,000 คนของดีวายโซลล่ะ?” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นายหมายความว่ายังไงกันแน่?” ฉือมู่ถามหลังจากชะงักค้างไปอย่างกะทันหัน

“ผมหมายความว่าป้อมปราการแบล็คร็อคมันกลายเป็นป้อมปราการของผมแล้ว” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวก่อนที่เขาจะกดตอบรับการโอนป้อมปราการที่บลัดไทแรนท์ส่งมาให้

ระบบ: สิทธิ์ในการควบคุมป้อมปราการแบล็คร็อคกลายเป็นของกิลด์ดีวายโซลโดยสมบูรณ์

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.