บทที่ 61 ตามล่าหาความจริง
ฉันมองไปยังเคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหันไปบอกเขาว่า...
“เฮียค่ะ เอลิซขอลงไปข้างล่างนะคะ”
“จะลงไปทำไมคนเยอะแยะ อยู่บนนี้สบายๆ ดีกว่าไหมคะ” เขาเอ่ยโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน
“แต่เฮียพาเอลิซมาเปิดหูเปิดตา ถ้าไม่ให้เอลิซลงไปสนุกข้างล่าง แล้วเฮียจะพาเอลิซมาทำไม” ฉันบอกไปตามความเป็นจริง
“งั้นรอเฮียเคลียร์เอกสารตรงนี้เสร็จก่อนนะ เดี๋ยวเฮียพาลงไป” เขาตอบกลับโดยที่ใบหน้าคมก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ยังคงวุ่นกับเอกสารบนโต๊ะ
“แต่เอลิซจะลงไปเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลยค่ะ” ฉันเดินมายังหน้าโต๊ะทำงานของเขา แล้วกอดอกรอคำตอบ เพราะเริ่มไม่พอใจและร้อนใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัยอยู่
เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ด้วยใบหน้าที่อ่อนลง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรเรียกพี่กิตให้เป็นคนพาฉันลงไป
ฉันเดินตามที่กิตลงมาเรื่อยๆ พร้อมกับจำทางเผื่อว่าเบื่อจะได้ขึ้นมาเองได้โดยที่ไม่ต้องให้พี่กิตหรือลูกน้องเขาไปรับ ถึงระยะจะแค่จากชั้นบนลงมาชั้นล่าง แต่ทางที่เดินลงมาดูซับซ้อน อย่างกับเขาวงกต พอเดินลงมาถึงชั้นล่าง ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น มันเหมือนกับว่า...
ฉันรีบก้าวเท้าเดินมายังจุดที่ฉันสงสัย และเมื่อฉันเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ ภาพความทรงจำก็ย้อนกลับมาทันที... ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะว่าที่นี่ก็คือ...
‘ที่นี่มะ..มัน ชะ...ใช่ ใช่ไหม’ ฉันพึมพำกับตัวเอง
ความรู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าเข้าอย่างจัง ความรู้สึกมึนงง ความสงสัยที่มีเพิ่มมากขึ้น ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่พยายามจับต้นชนปลาย วันนั้นที่ฉันกับคุณเซฟเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญไม่ใช่หรอ แล้วมันจะบังเอิญเกินไปไหมถ้าที่นี่เป็นของของเขา
ฉันยืนส่ายหน้าไปมา จมกับความคิดของตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นจะมาถามพี่กิต เขาก็เดินหายไปไหนแล้วไม่รู้ ฉันเลยลองไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์บาร์ และโชคก็ช่างเข้าข้างที่พนักงานคนนี้คือคนคนเดียวกันกับวันนั้น เวลาก็ยังไม่ผ่านไปถึงเดือนฉันภาวนาว่าเขาน่าจะยังพอจำอะไรได้บ้าง
ฉันเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์
“รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” พนักงานเอ่ยถาม
“อ้าว คุณผู้หญิงในคืนนั้นนี่เอง” เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เอ่ยร้องทักฉันทันที
“คุณจำฉันได้ใช่ไหมคะ” ฉันถามย้ำพนักงานไป
“จำได้สิครับ วันนั้นคุณสวยโดดเด่นที่สุด สวยถึงขนาดที่...” เขาเอ่ยปากชมฉันก่อนที่จะเงียบไปคล้ายว่ากลัวจะหลุดพูดข้อมูลสำคัญออกมา
“ถ้างั้น ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” ฉันจ้องเขาเขม็ง ในหัวใจรู้สึกหน่วงขึ้นมาทันที
เขาแอบเงยหน้าขึ้นไปมอง ยังห้องกระจกด้านบน พฤติกรรมของเขาทำฉันอดไม่ได้ที่จะมองตามไป และสิ่งที่ฉันเห็น มันก็ทำให้ฉันไม่แปลกใจเลยว่าสิ่งที่ฉันสงสัยนั้นฉันคิดถูกแล้ว
กระจกใสบานใหญ่ในห้องทำงานของเขาที่ถ้ามองจากด้านในจะเห็นทุกอย่างภายในร้านชัดเจน แต่ถ้ามองจากมุมลูกค้าขึ้นไป กระจกบานนั้นเปรียบเสมือนของตกแต่งภายในร้านเท่านั้น นั่นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้บังเอิญมาเจอฉัน แต่ว่า…เขาจับตามองฉันอยู่นานแล้ว
เมื่อฉันหันกลับมา ก็เห็นท่าทางดูมีพิรุธของพนักงานคนนั้น เขาก้มหน้ามือข้างนึงจับที่หูแล้วก็พยักหน้าเหมือนรับคำสั่งจากใครอยู่
ฉันกระแอมเบาๆ เป็นสัญญาณให้เขากลับมาตอบคำถามของฉัน
“ว่ายังไงคะ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม” ฉันถามย้ำเขาไปอีกที
“ได้ครับ คุณผู้หญิงอยากทราบเรื่องอะไรหรอครับ” พนักงานรับคำอย่างยิ้มแย้ม
“ที่นี่เป็นของเฮีย...เอ่อ...ของคุณเซบาสเธียใช่ไหมคะ” พอฉันได้ถามออกไป หัวใจฉันก็ยิ่งเต้นรัวเป็นกลอง
“ใช่ครับ” ^-^
“แล้ววันนั้นคุณพอจะจำได้ไหมว่า คุณเซบาสเธียอยู่ที่ร้านนี้ก่อนหรือหลังที่ฉันจะมาค่ะ” คำถามนี้ก็ทำให้ใจฉันรู้สึกหนักอึ้งเช่นกัน
“เอ่อ..วันนั้น นาย..อืมม” เขาทำท่าครุ่นคิด
ระหว่างที่ฉันลุ้นรอคำตอบอยู่นั้น...
“สวัสดีครับ คุณคนสวยไม่ทราบว่าชื่ออะไรครับ นี่คุณมาคนเดียวหรอ ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม” เสียงผู้ชายเอ่ยพูดกับฉันด้านข้าง เมื่อฉันหันไปมองตามเสียงก็เจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งถือแก้วเหล้ามาขอนั่งกับฉัน ถึงจะหน้าตาดีดูทรงท่าจะเป็นดาราได้เลย แต่ท่าทางดูเจ้าชู้เกินไป ไหนจะสายตาที่มองแทะโลมฉันอีก ถ้ามาแบบนี้ต่อให้หน้าตาดีแค่ไหน เอลิซก็ขอบายค่ะ
“ขอโทษนะคะ ไม่สะดวกค่ะ” ฉันเอ่ยปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไปทันที และไม่ได้สนใจเขาต่อ ก่อนจะกลับไปสนใจกับพนักงานตรงหน้า เพื่อรอคำตอบ
ผู้ชายคนนั้นเมื่อเห็นว่าฉันไม่สนใจเขาเลย ก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ก่อนจะรีบเดินกลับโต๊ะไป
“ว่าไงคะ นึกได้หรือยัง” ฉันเร่งพนักงานเคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง
“ขอเวลานึกสักครู่นะครับ วันนั้นเอ...นายอยู่ก่อนหรือหลังน๊าาา...” เขาทำท่านึกต่อ
ฉันที่กำลังนั่งไม่อยู่สุขเพราะในใจกำลังร้อนรนจดจ่อรอคำตอบจากพนักงานอยู่นั้น ก็ได้มีพนักงานเสิร์ฟนำเครื่องดื่มให้กับฉัน
“ไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่ได้สั่งนะคะ” ฉันรีบบอกพนักงานเสิร์ฟที่กำลังวางแก้วเครื่องเดิมให้ฉันด้วยความตกใจ เพราะกลัวว่าพนักงานจะนำเสิร์ฟให้ผิดโต๊ะ
“ไม่ผิดหรอกค่ะ ของคุณผู้หญิงถูกแล้วค่ะ พอดีคุณผู้ชายจากโต๊ะทางด้านนั้น ให้นำมาให้ค่ะ พร้อมกับให้มาเชิญคุณผู้หญิงให้ไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะค่ะ” พนักงานเสิร์ฟร่ายยาวตามคำสั่งที่ได้รับมาจากลูกค้าโต๊ะ VIP
ฉันมองตามมือที่ผายไปยังต้นทางที่ได้รับคำสั่งมา ก็พบเข้ากับ กลุ่มผู้ชายที่มีอยู่สักประมาณ 4-5 คน ดูแล้วอายุน่าจะพอๆ กับฉัน ท่าทางดูจะเป็นพวกลูกหลานเศรษฐี เมื่อฉันหันไปมอง พวกเขาก็ยกแก้วขึ้นมาเหมือนจะชนแก้วกับฉันผ่านอากาศ ฉันหันกลับมาอย่างไม่ไยดี ฉันไม่สนใจคนเหล่านั้นหรอก ขอโทษทีพอดีฉันได้เศรษฐีระดับประเทศแล้วจ้ะ มาแบบนี้เอลิซก็ขอบายเหมือนกันค่ะ
“เฮ้อออ....รบกวนคุณฝากไปบอกพวกเขาหน่อยนะคะ ว่าฉันไม่สะดวก แล้วก็ฝากขอบคุณเขาด้วยค่ะ ส่วนเครื่องดื่มแก้วนี้ฉันไม่ขอรับไว้นะคะ” ฉันฝากพนักงานบอกปฏิเสธไปอีกราย พร้อมกับดันแก้วตรงหน้าคืนพนักงานไป ก่อนจะรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่มีคนมาวุ่นวายไม่หยุดหย่อน
เห้ออออ จะมีใครมาอีกไหมเนี้ย รู้ค่ะรู้ว่าสวย แต่ตอนนี้คนสวยกำลังเครียดคร่าาา กำลังเป็นนาตาชาตามล่าหาความจริงอยู่คร่าาา ไม่มีอารมณ์ให้ใครมาจีบทั้งนั้น
ฉันหันกลับมาสนใจพนักงานที่เคาน์เตอร์บาร์อีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ยังไม่ได้คำตอบ แม่จะเผาเคาน์เตอร์บาร์ให้ราบเป็นหน้ากลองเชียว
“ว่ายังไงคะ นึกออกหรือยัง” ฉันเริ่มเบื่อกับการรอคำตอบจากพนักงานแล้ว
“อ๋อ...ผมจำได้แล้วครับ วันนั้นนาย...ยะ...”
ในขณะที่ฉันกำลังจะได้คำตอบ ก็มีเสียงนุ่มเรียกฉันดังขึ้นมาด้านหลัง
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 31
แสดงความคิดเห็น