ตอนที่ 982 คำสั่งอพยพ

-A A +A

ตอนที่ 982 คำสั่งอพยพ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 982 คำสั่งอพยพ

“ทุกคนออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! แคกตัสขาวต้นนี้เป็นของฉัน!!” ชายอ้วนหันไปตะโกนใส่ฝูงชนอย่างเย่อหยิ่ง

ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณชายแดนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นชนชั้นล่างของจักรวาลอยู่แล้ว เพราะถ้าหากพวกเขาสามารถเข้าไปอยู่ภายในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองได้ แล้วพวกเขาจะมาอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ยากลำบากแบบนี้ทำไม ทันทีที่ชายอ้วนตวาดออกคำสั่งเหล่าบรรดาฝูงชนก็รีบถอยออกไปในทันที แม้แต่คู่ปู่หลานที่ถือครองเคาน์เตอร์แคกตัสขาวอยู่ก็กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวมากกว่าเดิม

ในสายตาของคนชายแดนพวกเขาไม่สามารถรุกรานสมาชิกตระกูลเล็ก ๆ ภายในดินแดนกฎได้ เพราะถึงแม้คนจากตระกูลเล็ก ๆ เหล่านี้จะไม่ได้มีค่าในสายตาของผู้คนในดินแดนกฎ แต่สำหรับคนในชายแดนพ่อค้าจากดินแดนกฎคือแหล่งรายได้ที่นำพาความเจริญมาให้พวกเขา

แน่นอนว่าพ่อค้าเหล่านี้ก็มักจะทำตัวน่าเกลียดด้วยเหมือนกัน เพราะในดินแดนกฎพวกเขามักจะก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมา 

แต่เมื่อพวกเขาเดินทางมายังชายแดน คนพวกนี้มักจะอวดเบ่งพลังของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ รวมถึงมีการรังแกคนท้องถิ่นเป็นครั้งคราว แต่คนที่อยู่ในบริเวณชายแดนก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ นอกเสียจากจะต้องอดทนเก็บกลั้นความคับแค้นไว้ภายในใจ

เมื่อทุกคนออกไปจนหมดชายอ้วนก็เริ่มคิ้วกระตุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะมันยังมีเซี่ยเฟยหนึ่งคนที่กล้าขัดคำสั่งของเขาอยู่

“ลุงอยากขายต้นไม้ต้นนี้เท่าไหร่?” เซี่ยเฟยถามอย่างใจดีโดยไม่สนใจชายอ้วนเลยแม้แต่น้อย

ปู่หลานคู่นี้ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา พวกเขาเพียงแต่ส่งสายตาบอกให้เซี่ยเฟยหนีไป ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะได้รับความเดือดร้อน

ใบหน้าของชายอ้วนบิดเบี้ยวด้วยความโกรธมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้เห็นว่าเซี่ยเฟยไม่สนใจตัวตนของเขาจริง ๆ แม้แต่บริวารกว่า 20 คนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เตรียมพร้อมที่จะลงมือสั่งสอนชายหนุ่มให้รู้สำนึก

สมองของเซี่ยเฟยไม่ปลดปล่อยความผันผวนของพลังงานออกมาเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของคนอื่นเขาจึงไม่ต่างไปจากคนธรรมดา แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชายคนนี้คือหมาป่าผู้เดียวดายจากตระกูลสกายวิงอันโด่งดัง

“เฮ้ไอ้หนู!” ชายผิวดำตะโกนอย่างหงุดหงิดขณะยื่นมือออกไปคว้าตัวเซี่ยเฟยไว้

ฉึบ!

แต่ก่อนที่ใครจะได้ลงมือทำอะไร เซี่ยเฟยกลับตัดร่างของชายคนนี้ออกเป็นสองส่วนโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ที่สำคัญไม่เพียงแต่ชายผิวดำจะถูกเซี่ยเฟยสังหารลงไปเท่านั้น แต่บอดี้การ์ดกว่า 20 คนที่อยู่ใกล้ ๆ ยังถูกสังหารลงไปพร้อม ๆ กันด้วย

นี่คือความน่ากลัวของนักรบความเร็วสูง เพราะในเวลาเพียงแค่พริบตาเซี่ยเฟยก็สามารถสังหารศัตรูไปได้แล้วมากกว่า 20 คน

เจมินี่เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง โดยมีเคาน์เตอร์แคกตัสขาวและปู่หลานที่แต่งตัวทรุดโทรมเดินทางมาด้วย

การสังหารศัตรูไปเพียงแค่ 20 กว่าคนไม่ได้มีค่าในสายตาของเซี่ยเฟยเลย แต่ปู่หลานคู่นี้กลับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาอาจจะประสบชะตากรรมเดียวกันกับคุณชายผิวดำที่เย่อหยิ่งคนนั้น

“นายเอาตัวพวกเขามาด้วยทำไม?” ลินนิจถามอย่างสงสัย เพราะคนพวกนี้ไม่ต่างไปจากภาระของเซี่ยเฟย

“หากผมทิ้งพวกเขาไว้พวกเขาก็คงจะถูกสังหารแน่ ๆ ผมสังเกตเห็นสายตาแห่งความโลภรอบ ๆ อยู่เยอะมาก ถ้าพวกเขาตายมันก็ถือว่าเป็นความผิดของผมด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างใจเย็น

“แล้วนายจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?” ลินนิจถาม

“ผมก็แค่ต้องเอาตัวพวกเขาไปส่งในเมืองที่ห่างไกลหน่อยและให้เงินพวกเขาตั้งตัวที่นั่นไปสักก้อน ถึงแม้ผมจะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องตายตั้งแต่วันนี้” เซี่ยเฟยกล่าว

ลินนิจพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นด้วยกับความคิดของเซี่ยเฟย

เซี่ยเฟยไม่เคยสนใจชีวิตของคนแปลกหน้า แต่สำหรับชีวิตของผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์อันดีกับเขาจะถูกจัดเอาไว้ให้อยู่ในโซนปลอดภัยอยู่เสมอ หลังจากที่เขาได้พบเมืองเล็ก ๆ บริเวณชายแดน เซี่ยเฟยก็นำตัวปู่หลานไปส่งและมอบแหวนมิติที่บรรจุคริสตัลต้นกำเนิดระดับต่ำหลายหมื่นก้อนเอาไว้ให้พวกเขาไปตั้งตัว

เงินก้อนนี้กลายเป็นเงินเพียงเล็กน้อยสำหรับเขาในปัจจุบันแล้ว แม้กระทั่งแหวนมิติเขาก็มีเยอะมากจนแทบจะเก็บเอาไว้ไม่หวาดไม่ไหว การมอบของพวกนี้ให้ปู่หลานออกไปจึงแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของเซี่ยเฟยเลย

อีกอย่างภายในพื้นที่ชายแดนก็สามารถใช้ได้เพียงแต่คริสตัลต้นกำเนิดระดับต่ำเท่านั้น ส่วนแหวนมิติถูกเตรียมเอาไว้ให้อีกฝ่ายซ่อนสินทรัพย์ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นความร่ำรวยก็จะดึงดูดภัยพิบัติจนทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอันตราย

ปู่หลานจากไปด้วยความขอบคุณ เพราะแต่เดิมพวกเขาไม่เคยคิดจะตั้งราคาเคาน์เตอร์แคกตัสในราคาที่สูงเสียดฟ้าขนาดนี้เลย ท้ายที่สุดพื้นที่ที่พวกเขาอยู่ก็คือพื้นที่บริเวณชายแดน ราคาที่เซี่ยเฟยให้จึงอยู่เกินกว่าจินตนาการของพวกเขาไปไกลมาก

“พวกเราโชคดีมากที่ได้รับเคาน์เตอร์แคกตัสขาวมาในราคาต่ำขนาดนี้ เอาล่ะระหว่างการเดินทางพวกเรามาจัดการกับกระบองเพชรขาวต้นนี้กันดีกว่า”

“เคาน์เตอร์แคกตัสขาวเต็มไปด้วยหนามแหลมเหมือนกับต้นกระบองเพชรโดยทั่วไป หากใครพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากหนามพวกนี้ไปด้วยเหมือนกัน หากศัตรูมีระดับต่ำพวกเขาก็สามารถเสียชีวิตจากแรงสะท้อนกลับได้เลย แต่หากใครมีระดับพลังสูงขึ้นมาหน่อยพวกเขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากแรงสะท้อนกลับด้วยเหมือนกัน”

“สิ่งที่น่าทึ่งของเคาน์เตอร์แคกตัสขาวคือยิ่งมันถูกโจมตีอย่างรุนแรงมากเท่าไหร่ มันยิ่งจะส่งแรงสะท้อนกลับไปมากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่นายจะใช้งานมันได้นายจะต้องเตรียมตัวหลายชั้นเพื่อสกัดแก่นแท้ของกระบองเพชรต้นนี้ปั้นขึ้นมาเป็นตัวแทนของนายเอง อย่าลืมว่าตัวแทนนี้นำมาใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว ก่อนจะใช้อย่าลืมคิดถึงความคุ้มค่าของเงินที่เสียไป”

“วิธีในการสกัดเคาน์เตอร์แคกตัสขาวมีหลายวิธี สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกนายคือวิธีที่ยากที่สุดแต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยเหมือนกัน สิ่งที่นายจำเป็นจะต้องทำคือการทำตามคำแนะนำของฉันเท่านั้น แค่นี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว” ลินนิจกล่าวขึ้นมาอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติแตกต่างจากตัวเขาในอดีตที่จะมีความระมัดระวังมากกว่านี้อย่างสิ้นเชิง

2 ชั่วโมงต่อมาต้นกระบองเพชรสูง 2 เมตรก็หายไปเหลือเพียงแค่วัตถุสีขาวที่อยู่ภายในมือของเซี่ยเฟย

วัตถุนี้มีความใสราวกับหยก ซึ่งถ้าหากมองมันผ่าน ๆ ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่ามันคือวัตถุดิบที่ถูกสกัดมาจากต้นไม้

“วิธีของคุณทำให้มันหดเล็กลงเหลือแค่นี้เองเหรอ?” เซี่ยเฟยเริ่มบ่น

“ขนาดไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพหรอกนะ ถึงมันจะใหญ่แต่ถ้าหากมันช่วยเหลือนายไม่ได้มันก็เป็นเพียงแค่ของไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ นี่คือแก่นแท้ของเคาน์เตอร์แคกตัสขาวหลังจากที่เราได้สกัดเอาสิ่งสกปรกทั้งหมดออกไปแล้ว”

“ความจริงแล้วขนาดแก่นแท้ของมันค่อนข้างที่จะใหญ่กว่าที่ฉันประมาณการเอาไว้ในตอนแรกด้วยซ้ำ บางทีมันอาจจะสะท้อนพลังโจมตีของจอมกฎระดับสูงให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เลย” ลินนิจกล่าว

เซี่ยเฟยชะงักค้างไปด้วยความตกใจเมื่อได้พบว่าวัตถุดิบก้อนสีขาวภายในมือของเขาสามารถทำให้จอมกฎระดับสูงบาดเจ็บสาหัสได้ ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ

ไม่ว่ายังไงเขาก็เคยได้เผชิญหน้ากับศัตรูในระดับจอมกฎมาแล้ว เขาจึงรู้ดีว่าศัตรูในระดับนั้นแต่ละคนมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน

ย้อนกลับไปชายหนุ่มต้องต่อสู้เสียชีวิตกว่าจะเอาชนะฟูลมูนกลับมาได้ แต่วัตถุดิบชิ้นเล็ก ๆ ภายในมือของเขากลับสามารถที่จะนำมาใช้ในการจัดการกับฟูลมูนได้เลย แล้วเซี่ยเฟยจะไม่ตกใจกับเรื่องราวแบบนี้ได้ยังไง

“ถึงแม้ว่ามันจะเอามาใช้งานได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่โอกาสครั้งเดียวนั้นอาจจะพลิกผันผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้เลย นี่คืออุปกรณ์ช่วยชีวิตอีกหนึ่งชิ้นของนายนอกเหนือจากต้นไม้แห่งชีวิต ดังนั้นจำเอาไว้ว่าให้เก็บมันเอาไว้ให้ดี ๆ” ลินนิจกล่าวอย่างจริงจัง

การเดินทางของเซี่ยเฟยผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น เพราะไม่เพียงแต่เขาจะได้รับอาวุธมายาธาตุพืชกลับมาถึงสองชิ้นเท่านั้น แต่เขายังได้รับเครื่องมือช่วยชีวิตอย่างเคาน์เตอร์แคกตัสขาวกลับมาอีกด้วย

อย่างไรก็ตามภายในคฤหาสน์อีวิลวิงและหมู่บ้านสายลมกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะสถานการณ์ใกล้จะดำเนินมาจนถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญแล้ว

ผู้คนภายในหมู่บ้านสายลมและครอบครัวของนักรบภายในคฤหาสน์อีวิลวิงเริ่มเดินทางจากไปอย่างเงียบ ๆ ทิ้งฐานที่มั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลออกไปเป็นครั้งแรก

สกายวิงคือตระกูลในตำนานของดินแดนกฎที่มีการสืบทอดกฎแห่งความเร็วอันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลตัวเอง ภายใต้ตระกูลนี้มีนักรบผู้แข็งแกร่งเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจักรวาลจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนแต่สกายวิงก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้ได้เสมอ

ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนสกายวิงก็ไม่เคยสูญเสียฐานที่มั่นของตัวเองไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว การที่มันได้มีคำสั่งอพยพสมาชิกของตระกูลออกไปแบบนี้ หมายความว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลอย่างแน่นอน

ในช่วงเวลาปกติสกายวิงคือตระกูลที่ให้อิสระกับสมาชิกมากที่สุด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันถึงช่วงเวลาสงครามพวกเขาก็จะเปิดเผยความลับของนิสัยอันเคร่งครัดที่พร้อมจะปฎิบัติตามคำสั่งของผู้นำโดยไม่คิดจะตั้งข้อสงสัยใด ๆ

“นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปหมู่บ้านสายลมคงจะเงียบเหงามากเลยสินะ” เซี่ยบูหยุนยืนอยู่บนยอดเขามองดูสมาชิกของตระกูลเดินทางจากบ้านไปทีละคน ๆ

ถัดจากผู้นำสกายวิงแห่งกลุ่มดาวม้าขาวไปคือเซี่ยเหล่าสือ ผู้ซึ่งเซี่ยบูหยุนไม่อยากเจอมากที่สุด เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงเป็นหนี้ชายชราคนนี้ก้อนใหญ่ และคงไม่สามารถจ่ายหนี้ก้อนนั้นคืนได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานแค่ไหนก็ตาม

แต่วันนี้พวกเขาเป็นเหมือนพี่น้องที่คอยยืนเคียงข้างซึ่งกันและกัน ไม่มีการนำข้อบาดหมางในอดีตขึ้นมาพูดคุยระหว่างกันอีกต่อไป

“ถึงแม้หมู่บ้านสายลมจะเงียบเหงา แต่ทั่วทั้งดินแดนกฎมันจะต้องเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาแน่ ๆ” เซี่ยเหล่าสือกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างปริศนา

***************

สกายวิงเตรียมพร้อมแล้วสินะ!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.