เซ็กส์กับการนอนหลับ: เมื่อความสุขเล็ก ๆ ที่คู่รักทำร่วมกันก่อนนอนอาจช่วยให้หลับลึกขึ้น

-A A +A
คู่รักนอนอยู่บนเตียง ทั้งสองคนกำลังหลับอยู่ใต้ผ้าห่มสีขาว ผู้หญิงนอนกอดผู้ชายจากด้านข้าง ดูมีความสุขและผ่อนคลาย ห้องดูสว่างและสะอาด เน้นความรู้สึกอบอุ่นและสบาย

เซ็กส์กับการนอนหลับ: เมื่อความสุขเล็ก ๆ ที่คู่รักทำร่วมกันก่อนนอนอาจช่วยให้หลับลึกขึ้น

หมวดบทความ: 

หลายคนอาจไม่เคยคิดว่า “เซ็กส์” จะเกี่ยวข้องกับ “การนอนหลับ” ได้อย่างไร แต่เชื่อไหมว่าระหว่างสองสิ่งนี้ มีสายใยบางอย่างเชื่อมโยงกันมากกว่าที่คิด ทั้งในแง่ของร่างกาย ฮอร์โมน อารมณ์ และจิตใจ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนนอน ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมแห่งความใกล้ชิดเท่านั้น แต่อาจเป็น “ยาคลายเครียดตามธรรมชาติ” ที่ช่วยให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะพร้อมพักผ่อนอย่างแท้จริง

ร่างกายที่ผ่อนคลาย...นอนง่ายกว่าที่คิด

เวลาที่เรามีเพศสัมพันธ์ ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะหลังจากถึงจุดสุดยอด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) และโปรแลกติน (Prolactin) ออกมาในปริมาณมาก ฮอร์โมนสองตัวนี้เป็นเหมือน “สัญญาณแห่งความสงบ” ทำให้หัวใจเต้นช้าลง ความดันลดลง และอารมณ์เข้าสู่ภาวะผ่อนคลาย

ในปี 2024 วารสาร Sleep Health Journal ได้ตีพิมพ์งานวิจัยเล็ก ๆ ที่ให้คู่รักใช้เครื่องตรวจวัดการนอนจริง พบว่า ในคืนที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนนอน คู่รักจะตื่นกลางคืนน้อยลง และมี “ประสิทธิภาพการนอนหลับ” สูงกว่าคืนที่ไม่ได้มีกิจกรรมบนเตียง

ผลนี้อาจไม่ได้หมายถึงการนอนนานขึ้น แต่หมายถึงการนอนที่ต่อเนื่องและสงบมากกว่า ซึ่งเพียงเท่านี้ก็เพียงพอจะทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ความเครียดที่เบาบางลง...คือประตูสู่การพักผ่อน

หนึ่งในศัตรูสำคัญของการนอนคือ “ความเครียด” เมื่อสมองยังคิดวนเรื่องงาน ปัญหาชีวิต หรือความกังวลต่าง ๆ ร่างกายจะยังคงอยู่ในโหมดตื่นตัว (Sympathetic Mode) ซึ่งตรงข้ามกับโหมดที่ใช้สำหรับการนอนหลับ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนนอนช่วยเปลี่ยนโหมดนั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากการกระตุ้นร่างกายและการถึงจุดสุดยอด ระบบประสาทจะสลับเข้าสู่โหมดพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic) หรือ “โหมดผ่อนคลาย” ที่ทำให้หัวใจเต้นช้าลง กล้ามเนื้อคลายตัว สมองปล่อยคลื่นอัลฟาและธีตาออกมา คลื่นเดียวกับที่เกิดในช่วงก่อนหลับพอดี

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลียเคยตีพิมพ์ผลการสำรวจว่า คนที่มีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองก่อนนอน โดยเฉพาะถ้ามีการถึงจุดสุดยอด มักรายงานว่าหลับง่ายและหลับลึกกว่าคืนปกติ การปลดปล่อยทางเพศจึงอาจเป็นเหมือน “สวิตช์ปิดความเครียด” ที่ช่วยให้หัวใจเบา สมองโล่ง และร่างกายพร้อมสำหรับการพักผ่อน

ไม่ใช่แค่เรื่องกาย แต่ยังเป็นเรื่องใจ

ในคู่รักหลายคู่ “เซ็กส์” ไม่ได้มีความหมายเพียงทางร่างกาย แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง การสัมผัสกาย การโอบกอด หรือแม้แต่การหายใจในจังหวะเดียวกัน สามารถกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารแห่งความผูกพัน อย่างออกซิโตซินออกมา ซึ่งสารนี้เองที่ทำให้รู้สึก “ปลอดภัย” และ “เป็นที่รัก”

ความรู้สึกมั่นคงในความสัมพันธ์ จะช่วยให้สมองลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ทำให้จิตใจสงบลง ก่อนนอน หลายคู่พบว่าหลังมีเพศสัมพันธ์ พวกเขาหลับในอ้อมกอดของกันและกันได้ง่ายขึ้น และตื่นมาพร้อมความรู้สึกอิ่มเอมทั้งกายและใจ

เมื่อเซ็กส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพการนอน

แม้หลายคนจะมองว่า “เซ็กส์” เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้ามองในมุมสุขภาพ เซ็กส์คือกระบวนการทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจ ระบบต่อมไร้ท่อ และระบบประสาท ทั้งหมดนี้สัมพันธ์โดยตรงกับการนอนหลับ

การถึงจุดสุดยอดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองในหลายจุด เช่น เพิ่มการหลั่งโดพามีน (Dopamine) ซึ่งทำให้รู้สึกพึงพอใจ และต่อเนื่องด้วยเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ทำให้รู้สึกสงบ สมองจึงเหมือน “รีเซ็ต” ความเครียดและแรงกดดันทั้งวันออกไป

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนเพียงพอ ฮอร์โมนเพศ เช่น เทสโทสเตอโรนและเอสโตรเจน ก็จะผลิตได้ดีขึ้น ทำให้ความต้องการทางเพศสมดุลขึ้นไปด้วย เรียกว่าเป็น “วงจรแห่งสุขภาพ” ที่หมุนส่งเสริมกันทั้งสองทาง

แล้วถ้าช่วยตัวเองล่ะ?

บางคนอาจไม่มีคู่ หรืออยู่ในช่วงที่ไม่พร้อมมีความสัมพันธ์ทางเพศ แต่ก็อยากรู้ว่าการช่วยตัวเองก่อนนอนจะได้ผลเหมือนกันไหม งานวิจัยหลายชิ้นตอบไปในทางเดียวกันว่า “ได้ผลใกล้เคียงกัน”

ในปี 2019 นักจิตวิทยาชาวออสเตรเลียชื่อ Michele Lastella ทำการสำรวจผู้ใหญ่กว่า 800 คน พบว่าผู้ที่ช่วยตัวเองก่อนนอน โดยเฉพาะเมื่อถึงจุดสุดยอด จะรายงานว่าหลับเร็วขึ้นและรู้สึกว่านอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น ผลนี้ไม่ได้เกิดจากการมีคู่หรือไม่มีคู่ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบประสาทที่เหมือนกันนั่นเอง

ดังนั้น หากใครอยู่คนเดียว ก็ไม่ต้องรู้สึกว่า “ขาดสิ่งนี้แล้วจะนอนไม่ดี” เพราะร่างกายสามารถสร้างสภาวะผ่อนคลายแบบเดียวกันได้จากการช่วยตัวเองเช่นกัน

ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกง่วงหลังมีเพศสัมพันธ์ สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ชายบางกลุ่ม เซ็กส์อาจกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้น หัวใจเต้นเร็ว และรู้สึกมีพลังจนยากจะหลับในทันที

อีกทั้งในบางกรณี ความรู้สึกผิด ความกังวล หรือความไม่สบายใจระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้สมองไม่เข้าสู่โหมดผ่อนคลายอย่างแท้จริง ดังนั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ “ฟังร่างกายตัวเอง” ถ้าทำแล้วรู้สึกดี หลับง่ายขึ้น ก็ถือว่าได้ผล แต่ถ้าทำแล้วกลับนอนไม่หลับหรือใจเต้นแรงเกินไป ก็ควรเว้นช่วงหรือหาวิธีผ่อนคลายแบบอื่นแทน

เคล็ดลับเล็ก ๆ ถ้าอยากใช้เซ็กส์ช่วยให้นอนดีขึ้น

  1. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม

อย่าทำหลังอาหารหนักหรือก่อนนอนทันที ให้มีช่วงเวลาผ่อนคลายสักเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ เข้าสู่โหมดพักผ่อน

  1. ไม่จำเป็นต้องถึงจุดสุดยอดทุกครั้ง

บางครั้งแค่การสัมผัส โอบกอด หรือพูดคุยอย่างอบอุ่นก่อนนอน ก็เพียงพอจะกระตุ้นฮอร์โมนออกซิโตซินได้

  1. หลีกเลี่ยงการเปิดไฟจ้า หรือใช้หน้าจอหลังมีเซ็กส์

แสงสีฟ้าจะรบกวนการหลั่งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ

  1. ให้เวลากับช่วงหลังเพศสัมพันธ์

ไม่จำเป็นต้องรีบลุกไปอาบน้ำหรือทำกิจกรรมอื่นทันที การอยู่ในอ้อมกอดสักพักช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ ลดระดับความตื่นตัวและเข้าสู่การหลับ

  1. สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการนอน

อุณหภูมิห้องเย็นสบาย แสงนวล ๆ และเสียงเบา ๆ จะช่วยเสริมให้ผลของเซ็กส์ต่อการนอนดียิ่งขึ้น

เซ็กส์ไม่ใช่ทางลัด แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สมดุล

การมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่ “ยานอนหลับ” แต่เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างครบวงจร เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่ดี เข้าใจและรับฟังกันมากขึ้น ร่างกายและสมองก็จะตอบสนองต่อความผ่อนคลายได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

หลายคนอาจพบว่า คืนที่ได้อยู่กับคนที่รักอย่างใกล้ชิด แม้ไม่ถึงจุดสุดยอด ก็ยังหลับได้ลึกกว่าเดิม นั่นเพราะ “ความรู้สึกปลอดภัย” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายยอมเข้าสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริง

ในทางกลับกัน การนอนไม่เพียงพอเรื้อรังอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดลง และความสัมพันธ์ทางใจห่างเหินขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้วนกลับมาทำให้คุณภาพการนอนยิ่งแย่ลง

สรุปง่าย ๆ

  • เซ็กส์สามารถช่วยให้หลับดีขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อถึงจุดสุดยอด
  • กลไกสำคัญคือ การหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เช่น ออกซิโตซิน โปรแลกติน และเซโรโทนิน
  • ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับบุคคลและสถานการณ์ทางอารมณ์
  • ไม่จำเป็นต้องมีคู่เสมอไป การช่วยตัวเองก็ให้ผลใกล้เคียงกัน
  • สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความรู้สึกปลอดภัย ความไว้วางใจ และความสงบใจร่วมกันก่อนหลับ

ปิดท้าย

บางคืนเราอาจต้องการเพียงการพักผ่อนหลังวันที่เหนื่อยล้า แต่สำหรับบางคืน ความใกล้ชิดกับคนที่รัก หรือแม้แต่การได้อยู่กับตัวเองในแบบที่เข้าใจร่างกาย ก็อาจเป็น “บทเพลงกล่อมให้นอน” ได้อย่างอ่อนโยน

เพราะในที่สุดแล้ว การนอนหลับที่ดี ไม่ได้มาจากเพียงร่างกายที่อ่อนแรงเท่านั้น แต่ยังมาจากหัวใจที่สงบและอิ่มเอมด้วยความสุขเล็ก ๆ ก่อนปิดตาลง

ที่มาภาพ

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.