บทที่ 178 จัดการผู้หญิงคนนี้ซะ!!
เพี๊ยะ!!
ผมที่ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็โดนฝ่ามืออรหันต์อีกป๊าบเข้าให้ที่ต้นแขน ณ จุดเดิม
“โอ๊ยยย แม่อะไรกันเนี้ย ผมไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ” ผมโวยวายใส่แม่ พร้อมกับถูกไปที่แขนตัวเองแรง ๆ
“ก็เพราะไม่ใช่เด็กแล้วไง ทำอะไรไว้ก็ต้องรู้จักขอโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่ในครอบครัว” แม่ผมเอ่ยปากตำหนิ อีกทั้งยังบังคับให้ผมขอโทษป้าเธซ่าที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ล่ะ...ทำไม...” ผมที่มีข้อโต้แย้งอยากจะพูด แต่พอเห็นฝ่ามือพิฆาตที่ยกเตรียมจะฟาดลงมาอีกครั้ง ก็ถึงกับทำให้ผมต้องรีบห้ามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นทันที
“ดะ...เดี๋ยวก่อนครับ ขอผมอธิบายในส่วนของผมก่อน” ผมรีบห้ามมนุษย์แม่ที่กำลังเดือดปุด ๆ เพราะความดื้อแพ่งของผม
“อ่ะ...เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่มีคุณธรรม...” แม่ผมที่ลดความเกรี้ยวกราดลง แล้วหย่อนตัวนั่งตามเดิมด้วยอาการหอบ (ก็บอกแล้วถึงเมื่อก่อนจะเฟี๊ยสแค่ไหน แต่ตอนนี้มันหมดยุคของท่านแล้วคร้าบบบ ท่านหญิงเธียร่า)
ผมที่หันไปทางป้าเธซ่า ที่ยังคงเชิดหน้าใส่ผมไม่ยอมลดละ ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกขัดใจนิด ๆ ที่ต้องมานั่งอธิบายถึงเรื่องราวอะไรพวกนี้ แต่ทว่า...ถึงยังไงผมก็ยังรักและเคารพป้าเธซ่าท่านอยู่ดี แต่แค่ตอนนี้ผมต้องแสดงความชัดเจนกับเส้นทางที่ผมเลือกเสียก่อน
“ป้าเธซ่า ผมจะไม่ขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นถึงสิ่งที่ผมทำลงไป เพราะป้าก็รู้ว่าที่ผมทำไปเพราะผมต้องการปกป้องคนที่ผมรัก...” ผมเปิดปากอธิบาย
“ตาเซฟ...!!!” (OoO) เสียงแม่ผมโพล่งขึ้นมาทันทีหลังจากผมเปิดปากประโยคแรก
และไม่ใช่แค่แม่ผมเท่านั้นที่เบิกตาโพลงใส่ผมด้วยความไม่พอใจ เพราะป้าเธซ่าที่นั่งหน้าเชิดจนคอแทบจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว ก็ยังหันมาถลึงตาใส่ผมด้วยความไม่พอใจเช่นกัน...
“แม่ครับ...ให้ผมอธิบายก่อน” ผมส่งเสียงเข้มใส่แม่ด้วยท่าทางจริงจัง ก่อนจะหันไปพูดกับป้าตัวเองอีกครั้ง
“แต่ผมจะขอโทษถ้าผมเสียมารยาทและทำตัวเหมือนไม่เคารพป้า...ผมขอโทษครับ” ผมบอกพร้อมกับก้มหัวลงน้อย ๆ เพื่อแสดงถึงการขอโทษ
และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาก็ได้เห็นถึง สีหน้าที่ดูจะลดความโกรธเคืองลง พร้อมกับดวงตาที่สั่นระริกเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
ทุกอย่างที่ผมเห็นมันทำให้ผมรับรู้ได้ว่าป้าเธซ่ายังรักและเอ็นดูผมอยู่ เพียงแค่ท่านอาจจะน้อยใจที่ผมให้ความสำคัญต่อเอลิซมากกว่าเท่านั้น
ผมที่รู้สึกว่าได้เคลียร์ทุกอย่างแล้ว ก็ได้หยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพื่อเดินออกไปจากตรงนั้น แต่ทว่าก่อนที่จะก้าวเท้าเดินไป ผมที่รู้สึกได้ว่าจะต้องพูดอะไรบางอย่างออกไป เพื่อที่จะให้เคลียร์ในส่วนความรู้สึกของผมจริง ๆ
“อ่อ...แต่การกระทำอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากส่วนนั้นที่ผมทำลงไป...ผมไม่ผิด...และผมไม่ขอโทษ และอีกอย่างนะครับป้า ผมคิดว่าป้าหน่ะ...ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเนื้อนวลมันดี...ยังไงก็ระวังคนอย่างมันเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ” ผมที่พูดจบก็ลุกเดินหนีออกไปทันที
“ตาเซฟ...!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ กลับมาคุยกันก่อน...ไอ้ลูกคนนี้นิ...จริง ๆ เลย” แม่ผมที่โมโหขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เห็นอากัปกิริยาที่ผมแสดงออกมาแบบนั้น
“ดู...เห็นไหมเธียร่า...เป็นอย่างที่พี่พูดไหม...เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว ถึงทำให้ตาเซฟเป็นถึงขนาดนี้ ไม่เห็นแม้กระทั่งหัวของพี่เลย” ส่วนป้าเธซ่าที่ตอนแรกเหมือนจะผ่อนความโกรธเคืองที่มีต่อผมลงไปมากแล้ว แต่เมื่อโดนระเบิดที่ผมได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ ที่เป็นเสมือนเชื้อไฟให้ความขุ่นมัวของท่านปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ว่าถึงเวลาที่เธอต้องจัดการให้เด็ดขาดแล้วนะเธียร่า แยกผู้หญิงคนนั้นให้ออกไปจากชีวิตตาเซฟให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกินเยียวยา” ป้าเธซ่าที่เดือดดาลกับคำพูดของผมที่เหมือนกับใส่ร้ายเนื้อนวล ก็ยิ่งพาลรู้สึกไม่พอใจหญิงสาวที่อยู่ข้างกายหลายชายตัวดีมากขึ้นไปอีก
“เฮ้อออออ...เดี๋ยวน้องจัดการให้เองค่ะ ตาเซฟน่ะตาเซฟ” แม่ผมที่ปลอบพี่สาวตัวเองไปพลาง ถอนหายใจให้กับความดื้อของลูกชายไปพลาง เพราะดูท่าทางแล้วลูกชายท่าจะหลงแม่สาวคนนี้จนหัวปักหัวปำ
ผมที่เดินปลีกตัวมานั่งในห้องหนังสือ อย่างคนต้องการความสงบ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ได้ยินในสิ่งที่ป้าเธซ่าท่านพูดกับแม่ แต่มันเป็นเพราะว่าผมไม่ใส่ใจ เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครที่จะสามารถบังคับผมได้ และแม้แต่แม่ผมเองท่านก็รู้ดีว่าท่านไม่มีทางที่จะบังคับให้ผมทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำได้...
ใบหน้านิ่งเรียบราวรูปปั้นแกะสลัก พิงหัวเอนเข้ากับโซฟาขนาดพอดีตัว พร้อมกับเปลือกตาที่ปิดลงอย่างคนเหนื่อยหน่าย
แอ๊ดดด ~~
เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมรับรู้ได้ทันทีว่ามีคนเข้ามา
“ตาเซฟ...” เสียงแม่เรียกชื่อผมอย่างแผ่วเบา
ผมยังคงนั่งหลับตาเอนพิงโซฟาอยู่แบบนั้น โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรแม่กลับไป
“เรื่องป้า...” แม่ผมที่กำลังจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่าง
“เฮ้ออออออ ~~” ผมถอนหายใจใส่แม่ทันที เพราะไม่อยากจะฟังอะไรอีกแล้ว
“แม่ไม่ได้จะมาต่อว่า แม่แค่จะมาบอกว่าให้เวลาป้าเขาหน่อย เขาแค่เสียใจที่ลูกเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเขา” แม่ผมที่ค่อย ๆ พูด เพราะคนหนึ่งก็ลูก คนหนึ่งก็พี่สาว
ทำไมผมจะไม่รู้ ว่าป้าเธซ่าแกคิดยังไง เพียงแต่สิ่งที่ผมพูดไป ทุกอย่างมันก็คือเรื่องจริง แต่อยู่ที่ว่าป้าแกจะเปิดใจเชื่อในคำพูดผมบ้างไหม หรือแกจะคิดว่าผมยังอคติกับเนื้อนวลมันอยู่
ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรแม่กลับไปในเรื่องป้าเธซ่า ก่อนที่ใบหน้าคมเข้มจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพื่อถามถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้
“แล้วสรุป ไอ้โจรที่มันกระชากกระเป๋าแม่...ล่ะครับ แม่จัดการหรือยัง” ผมเหลือบตาที่เพิ่งลืมขึ้นหันไปทางแม่ของผม โดยที่หัวยังคงพิงอยู่กับโซฟาตามเดิม
“อ๋อ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก แม่จัดการให้มันไปนอนเฝ้าเกาะสุดท้ายของเราแล้ว” แม่ผมที่เผยใบหน้ามาดร้ายจนดูน่ากลัวขึ้นมาทันทีที่พูดถึงคนที่กล้ามาลองดีกับท่าน
“แล้วเค้นอะไรจากมันได้บ้างไหมครับ” ผมถามตรงประเด็นในสิ่งที่ผมสงสัย
“อ่อ...เรื่องนั้นเดี๋ยวอีกสักพัก กิตก็คงมารายงานให้ลูกฟังแล้วแหละ” แม่ผมตอบกลับมาด้วยท่าทางสบาย ๆ
ผมมองไปยังหญิงสูงวัยที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าของท่านก็ยังคงงดงามเหมือนตอนที่ผมเห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเล็ก แม้ว่าตอนนี้จะเริ่มมีร่องรอยของธรรมชาติที่บ่งบอกว่าอายุท่านมากขึ้นแล้ว แต่ทว่า...สายตาของผมที่มองท่านด้วยความชื่นชมมาตลอดก็ยังไม่เคยจางหาย นั่นก็เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก เด็ดขาดในเรื่องสำคัญเสมอ และเหนือสิ่งอื่นใดผมอยากให้ผู้หญิงที่ผมรักทั้งสองคน...รักกัน...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 42
แสดงความคิดเห็น