บทที่ 179 เรื่องสำคัญอีกเรื่อง

พ่ายเกมสวาท

-A A +A

บทที่ 179 เรื่องสำคัญอีกเรื่อง

หมวดหนังสือ: 

แม่ผมนั่งอยู่ข้างผมสักพักก็เดินออกไป เพื่อจะไปดูว่าแม่บ้านเตรียมอาหารเย็นใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง ผมที่มองตามแผ่นหลังผู้หญิงคนแรกที่ผมรักจนกระทั่งออกจากห้องไป ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่กิตลูกน้องคนสนิทของผมเดินเข้ามา

 

กิตโค้งให้แม่ผมเพื่อเป็นการทำความเคารพ ก่อนที่จะรีบสาวเท้าเข้ามารายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ผมฟัง

 

“สวัสดีครับนาย” กิตโค้งคำนับให้ผม

 

ผมที่นั่งไขว่ห้างกอดอกรอฟังคำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิทด้วยท่าทางสบาย ๆ

 

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ท่านหญิงเธียร่า ท่านเด็ดขาดมากเลยครับ จัดการส่งมันไปนอนเฝ้าเกาะสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ” กิตรายงานด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับความรู้สึกชื่นชมแม่เจ้านายไปด้วย

 

“อืม...เรื่องนั้นแม่บอกกูล่ะ” ผมเอ่ยบอกเสียงเรียบ

 

“แต่ที่กูอยากรู้คือ...มันได้พูดอะไรบ้างไหม” ผมถามต่อเพราะมีบางอย่างที่ผมรู้สึกสงสัย 

 

กิตแสยะยิ้มร้ายเหมือนกับคล้ายจะบอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ว่าอาจจะมีบางอย่างซ่อนเร้นเหมือนอย่างที่เจ้านายของเขาคิดจริง ๆ ก็ได้

 

“หลังจากที่มันฟื้นขึ้นมา มันบอกว่า...มันได้รับเงินว่าจ้างจากผู้ชายคนหนึ่ง ให้ไปกระชากกระเป๋าคน ตอนแรกมันก็นึกว่าเป็นโจรด้วยกัน แต่แค่ไม่อยากจะลงมือเลยมาจ้างมัน แต่มันก็มารู้สึกตงิดใจตรงที่ว่า ผู้ชายคนนั้นบอกแค่ว่าถ้ามันกระชากได้ ของที่อยู่ในกระเป๋าผู้ชายคนนั้นบอกว่ายกให้มันหมดเลยครับ น่าแปลกไม่ล่ะนาย" กิตที่เล่าเรื่องราวด้วยความตื่นเต้น

 

"เออ...แปลก" ผมพูดสั้น ๆ

 

"แล้วยังอีกอีกนะนาย มันบอกว่าผู้ชายคนนั้นทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะปล่อยมันลงจากรถเพื่อไปปฏิบัติการว่า ถ้ามันทำให้เจ้าของกระเป๋าล้มหัวฟาดพื้นจนสลบไปได้ด้วยแล้วล่ะก็ ผู้ชายคนนั้นจะเพิ่มเงินให้มันอีกด้วยครับ” กิตที่เล่าเรื่องราวไป ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเข้าเค้าในสิ่งที่เขาคิดเอาไว้

 

และไม่ใช่แค่ผมที่ฟังแล้วรู้สึกโมโหเท่านั้น แต่ทว่า...ตัวกิตเองก็แสดงความเคียดแค้นออกมาด้วยเช่นกัน นั่นก็เพราะว่าถึงอย่างไรท่านหญิงเธียร่าก็เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่กิตเคารพรัก และยิ่งพอได้มารับรู้ว่าท่านต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ มันยิ่งทำให้ลูกน้องคนสนิทของผมโกรธจนถึงขั้นต้องตามไปลงมือฝังไอ้โจรขี้ยาด้วยมือของมันเอง

 

“หึ...งั้นก็แปลว่า มันล็อกเป้าไว้ที่แม่กูแต่แรกแล้วซินะ” ผมขบฟันแน่นด้วยความแค้น ก่อนที่กิตจะเล่าสิ่งที่รู้มาต่อ

 

“ใช่ครับ" กิตพยักหน้าทันทีอย่างเห็นด้วย ก่อนจะรายงานต่อ

 

"มันบอกว่าผู้ชายคนนั้นพามันนั่งรถมา แล้วก็ปล่อยให้มันลงตรงจุดที่ไม่ห่างจากรถของท่านหญิงมากนัก ก่อนที่จะกำชับถึงลักษณะ ชุดที่ใส่ เสื้อผ้า หน้า ผม และรายละเอียดทุกอย่างที่ผู้ชายคนนั้นบอกกับมัน...ก็คือตรงกับท่านหญิงหมดเลยครับนาย” กิตที่มีน้ำเสียงของความขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด เล่าไปพลางกำหมัดแน่นไปพลาง

 

“หลังจากมันลงจากรถ พอมันเดินไปได้ไม่ทันไร ก็สบโอกาสเพราะท่านหญิงเดินอยู่เพียงลำพังพอดี มันก็เลยจัดการกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งทันทีครับ” กิตเล่าต่อ

 

“หึ...นั่นไง กูว่าแล้ว ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันต้องมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง เพราะอยู่ดี ๆ ในพื้นที่แถวนั้นจะมีไอ้ขี้ยา หรือโจรมาป้วนเปี้ยนได้ยังไง สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยติดอันดับ 1 ของประเทศ อีกทั้งผู้คนที่อยู่ ในละแวกนั้น ก็ไม่ใช่พวกไก่กามาจากไหน เป็นคนมีฐานะมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น กูก็ว่าแล้ว ว่ามันแปลก ๆ ที่อยู่ดี ๆ ใจกลางเมืองอย่างนี้ จะมีไอ้โจรขี้ยามากระชากกระเป๋าแม่กูได้” เขาที่ครุ่นคิดไป พร้อมกับพร่ำบอกสิ่งที่คิดให้กับลูกน้องคนสนิทฟัง ก่อนที่จะถามถึงความคิดของลูกน้องคนสนิทเช่นกัน

 

“แล้วมึงคิดยังไง...กิต...มึงคิดแบบกูไหม” เขามองไปที่กิตด้วยสายตาเฉียบคม พร้อมกับความดุดันที่อยู่ในแววตา ที่ไม่ว่าใครถ้าได้มาถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาแบบนี้ คงต้องเตรียมเก็บชีวิตเอาไว้ให้ดี เพราะอาจจะตายเพราะถูกเขาฆ่าทางสายตาได้

 

และสำหรับกิต คนสนิทที่อยู่กับเขามานาน ซึ่งรู้ใจเขาดีที่สุด และรู้ดีว่าถ้าเมื่อไรที่เขามีสายตาแบบนี้ เป้าหมายที่เขาหมายหัวเอาไว้ มันมักไม่ตายดีแน่นอน...

 

“ใช่ครับนาย ผมคิดแบบนายเลย” กิตที่มั่นใจว่าเขาเองก็คิดเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นนาย

 

“แต่ว่า...”

 

“แต่ว่า...อะไรว่ะ” ผมหรี่ตาถามลูกน้อง

 

“แต่ว่า...หลังจากที่ผมเค้นถามมัน ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากตอนที่มันถูกว่าจ้าง มันมีอาการหลอนยาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันบอกว่าตอนนั้นมันไม่ได้สนใจอะไร ทั้งหน้าตาหรือแม้กระทั่งชื่อคนที่มาจ้างมันด้วยซ้ำครับ มันคิดแค่ว่าอยู่ดี ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ แถมเป็นงานง่าย ๆ แบบที่มันทำอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วครับ มันคิดแค่ว่าเมื่อได้เงินแล้วมันจะเอาไปซื้อยาเสพต่อ มันคิดแค่นั้น มันก็เลยยอมทำครับ” กิตที่มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย นั่นก็เพราะว่าตัวเองเจ็บใจที่ตอนนี้ยังไม่สามารถลากคอคนที่บงการอยู่เบื้องหลังเอามากระทืบให้หนำใจได้

 

“มึงเค้นมันจนสุดทางแล้วใช่ไหม” ผมถามลูกน้องคนสนิทให้แน่ใจ เพราะกลัวว่าไอ้ขี้ยาคนนั้นอาจจะเป็นพวกพลีชีพรับจ้าง ยอมตายไม่ยอมบอกก็ได้

 

“ใช่ครับนาย...ทั้งเค้นไป ทั้งทรมานมันไป ถึงกระทั่งตัดนิ้วทีละนิ้วของมันด้วยซ้ำแต่มันก็บอกเท่าที่ผมรายงานไปเท่านั้นจริง ๆ ครับ แล้วอีกอย่างผมตรวจแม้กระทั่งเลือดของมันว่ามียาจริงไหม สืบไปถึงประวัติของมันว่าเป็นยังไง เพื่อให้แน่ใจที่สุดครับ และเท่าที่ตัดนิ้วมันจนนิ้วสุดท้าย ดูแล้วมันก็รู้แค่นั้นจริง ๆ ครับ” กิตแจงรายละเอียดจนเจ้านายของเขาพอใจ

 

“เออ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แล้วไป แล้วนี่มัน...” ผมถามอีกครั้งก่อนจะเงียบไป เพราะลืมไปว่าตัวเองรู้จุดจบของไอ้โจรกระจอกแล้ว

 

“ผมจัดการให้มันไปเป็นปุ๋ยอยู่บนเกาะเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ใช่แค่นอนเฉย ๆ แต่ป่นละเอียดย่อยสลายง่ายแบบไม่ต้องรอให้ถึงเดือนเลยครับ” กิตแสยะยิ้มจนดูน่ากลัว เมื่อตนเองนึกถึงตอนที่จับมันยัดลงไปในเครื่องบดอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ถูกซื้อไว้ใช้สำหรับบดมนุษย์ที่กล้าลองดีกับตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลเท่านั้น

 

“เออดี ในเมื่อมันบังอาจมากที่กล้ามาเล่นกับตระกูลของกู...หึ...ที่มันโดนยังน้อยไป" ผมที่รู้สึกสะใจในจุดจบของไอ้โจรกระจอก ก่อนจะเอ่ยถามลูกน้องต่อ

 

"...กิต...แล้วมึงคิดว่ามันเป็นพวกไหนกันว่ะ...หึหึหึ” เขาที่ทำทีหยั้งเชิงลูกน้องออกไป แต่ในใจของเขารู้ดีว่าคำตอบที่ลูกน้องคนสนิทจะตอบกลับมา ก็คงเป็นคำตอบเดียวกันกับที่เขากำลังคิดอยู่ในใจตอนนี้

 

“จะเป็นใครได้ล่ะครับนาย...มันก็มีแค่ตระกูลเดียวเท่านั้นแหละครับ ที่กล้ามาวัดกับตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาล...ไอ้พวกคนตระกูล ‘วงศ์เวชรุ่งเรือง’ มีแต่พวกมันนั่นแหละที่กล้าแหย็มนายแบบนี้...” สันกรามที่ปูดขึ้นมาเพราะฟันที่สบกันแน่น พร้อมแววตามาดร้ายอย่างคนพร้อมออกรบทันทีที่เจ้านายสั่ง

 

“แม่งกัดไม่ปล่อยจริง ๆ สงสัย ไม่มันก็กูคงต้องแหลกกันไปข้างหนึ่งแล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ส่วนแววตาก็ดุดัน อย่างไม่เกรงกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังพร้อมที่จะทำให้อีกฝั่งย่อยยับไปด้วยน้ำมือของผม

 

"มึงไปจัดการสืบมาให้แน่ใจ...และเมื่อไหร่ที่ชัวร์แล้วละก็...หึหึหึ...มึงเตรียมตัวไว้ได้เลย กูจะพาไปล้างบางพวกแม่งเอง" สันกรามที่ขบกันแน่น แววตาวาวโรจน์ที่แผ่รังสีอำมหิตออกมาถึงขนาดที่ทำให้ลูกน้องคนสนิทยังอดอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ แม้ว่าจะเคยเห็นอากัปกิริยาอาการแบบนี้ของเขามาก่อน 

 

และก่อนที่รังสีแห่งความโหดร้ายจะแผ่ซ่านออกมาจนแผดเผาห้องอ่านหนังสือให้มอดไหม้ กิตลูกน้องคนสนิทก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่า เขายังมีบางเรื่องที่สำคัญกว่าสิ่งที่เขาเล่ามาทั้งหมด เตรียมเพื่อจะมาเล่าให้ผู้เป็นนายของเขาฟัง

 

“เออ..นายครับ ผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะบอก”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.