ตอนที่ 934 กลุ่มผู้นำทั้งสามคน

-A A +A

ตอนที่ 934 กลุ่มผู้นำทั้งสามคน

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 934 กลุ่มผู้นำทั้งสามคน

ภายในช่องว่างมิติ

ด้วยความช่วยเหลือจากแท่งทอง ทีมของสกายวิงจึงสามารถเคลื่อนที่ภายในช่องว่างมิติได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดหนอนด้วงมิติก็เป็นผู้เชี่ยวชาญการปฎิบัติการภายในช่องว่างมิติโดยเฉพาะ การได้รับแท่งทองมาช่วยจึงทำให้พวกเซี่ยเตียนเดินทางไปยังทุกที่ได้ตามที่พวกเขาต้องการ

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เพราะในตอนนี้สถานการณ์ของสกายวิงอยู่ในช่วงระส่ำระสาย แม้แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็พยายามหยุดสงครามเอาไว้เพียงลำพัง

หากมองดูแบบผิวเผินมันก็ไม่มีใครกล้าทำให้สกายวิงไม่พอใจ แต่ลับหลังพวกเขาก็พร้อมสร้างความลำบากให้กับสกายวิงได้ทุกเวลาด้วยเช่นกัน

เพื่อที่จะรับมือกับสงครามในครั้งนี้ให้ได้อย่างเหมาะสม สมาชิกทุกคนในตระกูลต่างก็ถูกส่งไปทำภารกิจยังสถานที่ต่าง ๆ แม้แต่เซี่ยเฟยที่เพิ่งถูกดึงตัวขึ้นมายังแดนเทพเพียงแค่ไม่นานก็ยังถูกไหว้วานให้ทำภารกิจลับเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มกบฏในฐานะตัวแทนของตระกูล

แม้ว่าการเดินทางจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทีมของสกายวิงก็ไม่ได้รู้เลยว่านอกเหนือจากพวกเขาแล้วมันยังมีชาวอิโดซาคอยสะกดรอยตามพวกเขาอยู่ด้วย เพียงแต่เป้าหมายของนักรบมารเหล่านี้ไม่ใช่สกายวิงแต่เป็นแท่งทองที่พวกเขาได้ยืมมาจากเซี่ยเฟยต่างหาก

“พวกมันเป็นคนของสกายวิง ถ้าหากว่าเราไปหาเรื่องพวกมัน ตระกูลของพวกเราต้องเดือดร้อนหนักแน่ ๆ”

“ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีกันแค่ 15 คนแต่สกายวิงคือนักรบที่มีความเร็วอันทรงพลัง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือถ้าหากใครไปยุ่งกับคนบ้าพวกนี้ก็จะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นอันไม่รู้จบ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแต่ตระกูลที่ถูกพวกมันกวาดล้างไปหลายตระกูลแล้ว” โยฟาผู้ซึ่งเป็นผู้นำของผู้ฝึกหนอนด้วงมิติกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล หลังจากที่เขาได้รับการรายงานมาจากหน่วยสอดแนม

แม้ว่าโยฟาจะค่อนข้างมองโลกในแง่ร้าย แต่ไมล่าผู้ซึ่งเป็นจอมเทพคนที่ 2 ของตระกูลอิโดซาก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของชายชราคนนี้

“การไปยุ่งกับสกายวิงเป็นปัญหาใหญ่จริง ๆ แต่ตราบใดก็ตามที่เราฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด มันก็ไม่มีหลักฐานว่าคนลงมือคือพวกเราแล้ว” ไมล่ากล่าวคล้ายกับกำลังพยายามให้กำลังใจตัวเอง เพราะเมื่อเขาได้รู้ว่าแท่งทองอยู่ภายใต้การควบคุมของสกายวิง แม้แต่ตัวเขาเองก็เริ่มลังเลขึ้นมาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าใครในดินแดนกฎต่างก็รู้กันทั้งนั้นว่าการเข้าไปยุ่งกับคนบ้าพวกนี้จะทำให้พวกเขาต้องพบเจอกับอะไร

“ฆ่าพวกเขาทุกคนเนี่ยนะ?! อย่าลืมนะว่าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว ตราบใดก็ตามที่หนึ่งในคนพวกนั้นหนีรอดไปได้ มันก็จะกลายเป็นหายนะของพวกเรา” โยฟากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

ไมล่าหรี่ตาลงอย่างลังเลมากขึ้นกว่าเดิม ความจริงแล้วทีมของเซี่ยเตียนไม่ได้น่ากลัวสำหรับเขาเลย สิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือการแก้แค้นที่จะตามมาหลังจากนี้ต่างหาก

ตราบใดก็ตามที่หนึ่งในสกายวิงหนีรอดไปได้ มันย่อมกระตุ้นให้เกิดการแก้แค้นตามมาอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อไหร่ก็ตามที่ดาบคลั่งเล่มนี้ถูกชักออกจากฝัก พวกเขาก็จะไล่ล่าศัตรูอย่างสุดกำลังจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกกวาดล้างออกไป

“สั่งให้คนของเราจับตาดูพวกมันต่อไปฉันไม่เชื่อว่าเราจะไม่มีโอกาส ไม่ว่ายังไงเราก็จะปล่อยหนอนสีทองตัวนั้นไปไม่ได้” ไมล่าตะโกนสั่งการ

เซี่ยเฟยไม่รู้เลยว่าในระหว่างที่เขาเดินทางเข้าไปภายในฐานของกลุ่มกบฏ แท่งทองก็กำลังตกเป็นเป้าหมายของจอมมารชาวอิโดซาอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน

เซี่ยเฟยถูกพาไปยังสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์อันงดงาม พื้นที่บริเวณทางซ้ายคือทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความใสราวกับกระจก ทางด้านขวาคือทุ่งหญ้าและป่าไม้ที่ให้ความรู้สึกอันผ่อนคลายอย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาเป็นเวลานาน

แม้วิวทิวทัศน์ในบริเวณนี้จะสวยงามมาก แต่เซี่ยเฟยก็ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะชื่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางมากนัก เพราะบริเวณชายฝั่งของทะเลสาบเต็มไปด้วยนักรบชุดเกราะสีสันสดใสที่กำลังรอให้ตัวแทนจากตระกูลสกายวิงเดินทางมาถึง

ดูเหมือนว่ากลุ่มกบฏจะให้ความสำคัญกับสกายวิงมาก พวกเขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจัดการต้อนรับอันยิ่งใหญ่ถึงขนาดมีคนมายืนรอพวกเขาอยู่มากกว่า 3,000 คน

เมื่อนักรบกลุ่มนี้ได้เห็นเซี่ยเฟย สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างสงสัย เพราะเซี่ยเฟยยังคงดูเด็กเกินไปจนทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าเด็กรุ่นนี้สามารถเป็นตัวแทนของตระกูลสกายวิงได้จริง ๆ เหรอ

“เชิญทางนี้เลย” เทพดำกล่าวพร้อมกับผายฝ่ามือเชิญเซี่ยเฟยเข้าไปภายในกระโจมที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นการชั่วคราว

ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ฐานทัพของกลุ่มกบฏจริง ๆ แต่เป็นพื้นที่ที่พวกเขาจัดเตรียมเอาไว้สำหรับการเจรจาโดยเฉพาะ ไม่ว่ายังไงคู่เจรจาของกลุ่มกบฏคราวนี้นั่นก็คือสกายวิง แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ระวังกลุ่มคนบ้าที่โด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาล

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับขณะก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างเคร่งขรึม ท้ายที่สุดในตอนนี้เขาก็เดินทางมาในฐานะของตัวแทนสกายวิง เขาจึงไม่สามารถแสดงท่าทีสบาย ๆ ดังเช่นช่วงเวลาปกติได้

แม้ว่าชายหนุ่มจะยังสับสนว่าใครเป็นใครและหัวข้อการเจรจาคืออะไร แต่เรื่องเหล่านั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องทำคือการพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตระกูลเอาไว้

ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปใกล้ ชายชรา 3 คนภายในกระโจมก็ลุกยืนขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น แต่ทันทีที่พวกเขาสังเกตเห็นเซี่ยเฟยทุกคนต่างก็ขมวดคิ้วพร้อมกับกระซิบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

“ผู้อาวุโสทั้งสามคนนั้นคือผู้นำกลุ่มกบฏ ทูม่า, คีมอและเครน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประหลาดใจที่ได้พบกับนายนะ” เทพดำกระซิบขึ้นมาเบา ๆ

เซี่ยเฟยไม่พูดอะไรยังคงเดินก้าวต่อไปอย่างมั่นคง จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างไม่เป็นอันตรายและเตรียมตัวที่จะกล่าวทักทายผู้นำทั้งสาม แต่ในทันใดนั่นเองมันก็ได้มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาจากบริเวณด้านหลังของเขาซะก่อน

“พวกเราอุตส่าห์รอตั้งนาน แต่สกายวิงส่งเด็กมาเจรจากับพวกเราเนี่ยนะ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้จริงจังกับพวกเราด้วยซ้ำ เจ้าพวกบ้านี่มันดูถูกพวกเรามากเกินไปแล้ว!”

คำพูดนี้ดังขึ้นมาให้เซี่ยเฟยได้ยินอย่างชัดเจน ชายหนุ่มจึงหันหลังกลับไปก่อนที่เขาจะเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเหนือเกินกว่าจินตนาการของทุกคน

ขวับ!

หงส์ครามภายในแขนขวาถูกปล่อยออกไปราวกับสายฟ้า ใบหญ้าทั้งหกคว้าจับร่างนักรบที่พูดจาดูถูกสกายวิง ก่อนที่จะโยนร่างของเขาขึ้นไปในอากาศ

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้รวดเร็วมากจนเกินไป และชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาเลยแม้แต่คำเดียวคล้ายกับว่าการทำแบบนี้คือสิ่งที่เขาสมควรจะต้องทำอยู่แล้ว

หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็เดินเข้าหาผู้นำทั้งสามด้วยรอยยิ้ม แต่ท่าทางของเหล่าบรรดาชายชรากลับเต็มไปด้วยความน่าเกลียด ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เพิ่งโยนคนของพวกเขาออกไป ซึ่งมันก็ไม่ต่างไปจากการตบหน้าพวกเขาโดยตรง

เทพขาวเทพดำต่างก็ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น เพราะพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเซี่ยเฟยจะตัดสินใจลงมือแบบนี้

ตูม!

วินาทีต่อมามันก็มีเสียงที่ร่างของนักรบคนนั้นตกลงไปในทะเลสาบ ซึ่งมันก็ได้สร้างความอับอายให้กับทุกคน

การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยสร้างความตื่นตระหนกให้กับกลุ่มกบฏในทันที ก่อนที่ฝูงชนจะเริ่มพูดคุยกันเสียงดัง

“คุณทำแบบนั้นหมายความว่ายังไง?!” เครนหนึ่งในผู้นำกบฏกล่าวถามอย่างจริงจัง

“เขาพูดจาหยาบคาย ผมเลยสั่งสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเขา” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างสงบ

“เขาคือคนของเราแล้วทำไมคุณถึงต้องลำบากไปสั่งสอนบทเรียนให้กับเขาด้วย?” เครนกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“แค่ผมไม่ได้ฆ่าเขาก็ถือว่าผมไว้หน้าพวกคุณที่สุดแล้ว สาเหตุที่สกายวิงยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ นั่นก็เพราะว่าเรามีความเด็ดขาดมากเพียงพอ หากใครกล้าทำให้เราขุ่นเคืองพวกเราก็จะตอบแทนความขุ่นเคืองนั้นกลับไปเป็น 100 เท่า หากใครกล้ามาดูถูกพวกเราสกายวิงก็จะฉีกกระชากพวกมันเป็นชิ้น ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่อ่อนน้อมและไม่หยิ่งผยองมากเกินไป

ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มแตกตื่นขึ้นมาในทันที เพราะมันไม่มีใครกล้าคิดว่าเซี่ยเฟยจะพูดแบบนี้กับกลุ่มผู้นำของพวกเขา

สถานะของชายชราทั้งสามเทียบเท่าได้กับกลุ่มผู้เฒ่าภายในราชวังราชันย์เทพ มันจึงทำให้แม้แต่เทพขาวเทพดำก็ยังต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกเขา

แน่นอนว่าเซี่ยเฟยไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับกลุ่มกบฏ แต่เนื่องมาจากว่าในตอนนี้เขาคือตัวแทนของสกายวิง การเคลื่อนไหวของเขาจึงเปรียบเสมือนการเคลื่อนไหวของตระกูล

หากมีใครกล้าดูถูกสกายวิงเขาย่อมไม่สามารถจะนิ่งดูดายปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ ได้ และถึงแม้ว่าเขาจะต้องเคลื่อนไหวท่ามกลางกลุ่มกบฏ แต่เขาก็ต้องสั่งสอนให้คนพวกนี้ได้รู้ว่าเขาเนี่ยแหละคือตัวแทนของสกายวิง

สถานการณ์ตกอยู่ในความอึดอัดในทันที กลุ่มผู้นำกบฏทั้งสามคนต่างก็ขมวดคิ้วแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

ทันใดนั้นเทพขาวกับเทพดำก็พยายามเข้ามาไกล่เกลี่ยให้สถานการณ์ผ่อนคลายลง โดยการเชิญทุกคนเข้าไปในกระโจมและนั่งลงบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารว่าง

“สมแล้วที่สกายวิงมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่เด็กหนุ่มภายในตระกูลของพวกเขาก็ยังสร้างแรงกดดันให้กับพวกเราได้”

“ฉันว่าเขาเหมาะสมกับเป็นตัวแทนของตระกูลแล้ว ผู้นำทั้งสามของเราก็คงจะคิดไม่ต่างไปจากฉันมากนัก”

เหล่าบรรดากบฏเริ่มชื่นชมชายหนุ่มอย่างลับ ๆ ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยยอมจำนนในเวลานั้นพวกเขาก็คงจะมีความคิดดูถูกสกายวิงขึ้นมาด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อเซี่ยเฟยเลือกลงมือมันก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าชายหนุ่มคนนี้คือกลุ่มคนบ้าจากสกายวิงจริง ๆ

เทพขาวกับเทพดำแนะนำเซี่ยเฟยให้ผู้นำทั้งสามได้รู้จัก ก่อนที่พวกเขาจะถอยออกไปจากกระโจม เพราะการเจรจาในคราวนี้คือการเจรจาลับที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์รับฟังได้

“ฉันว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าทำไมตาเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้นถึงส่งเซี่ยเฟยมาที่นี่” เทพขาวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจขณะที่เขาเดินออกมาจากกระโจม

“ทำไมล่ะ?” เทพดำถาม

“นายไม่เห็นเหรอ? เซี่ยเฟยให้ความรู้สึกเหมือนตาเฒ่าเซี่ยกู่เฉิงชัด ๆ เขาทั้งเจ้าเล่ห์, หยิ่งยโส, ไม่มีเหตุผลและฉลาดเฉลียวดูเหมือนกันในทุกแง่มุมเลย” เทพขาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ที่แท้สาเหตุที่ตาเฒ่านั่นให้เซี่ยเฟยมาเจรจาไม่ใช่เพราะเขาต้องการให้เซี่ยเฟยมีประสบการณ์ แต่มันเป็นเพราะว่าเซี่ยเฟยเหมือนกับเขามากที่สุด การที่เซี่ยเฟยมาเจรจามันก็เหมือนกับว่าเขาได้เดินทางมาเจรจาด้วยตัวเอง” เทพดำกล่าวขณะขนลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ผู้นำทั้งสามคงจะคิดว่าการเจรจาในครั้งนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาคงจะคิดผิดแล้ว เพราะเซี่ยเฟยมันเป็นพวกเขี้ยวลากดินชัด ๆ” เทพขาวกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

***************

อีเว้นท์แนะนำตัวกับกลุ่มกบฏสินะ 5555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.