บทที่ 247 วิหารเจ้าอสูร
บทที่ 247 วิหารเจ้าอสูร
ลู่หยางเดินออกจากประตูเมืองทางทิศตะวันตกและออกวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ได้พบกับวิหารเจ้าอสูร
ตามเนื้อเรื่องของเกม วิหารแห่งนี้คือวิหารที่ถูกสร้างขึ้นมาบูชาเทพเจ้าตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โดยเทพยุคนั้นมีพลังอันไร้ขอบเขต และในช่วงแรกพวกเขาก็คอยให้ความช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในเซคคัลเวิลด์อย่างมีเมตตา แต่หลังจากสิ่งมีชีวิตในดินแดนนี้สร้างประตูมิติตามคำสั่งของเจ้าอสูร พวกเขาก็เริ่มใช้ประตูมิติเพื่อบุกรุกไปยังสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกับทำการสังหารชาวพื้นเมืองจนเกือบจะสูญพันธุ์
ช่วงเวลาอันตกต่ำได้ดำเนินไปอยู่นาน จนกระทั่งชาวพื้นเมืองได้ค้นพบดวงตาอสูรซึ่งเป็นของวิเศษชิ้นหนึ่ง เมื่อกองทัพเจ้าอสูรถูกดวงตาอสูรจงมองไป พวกเขาก็ถูกผนึกจนกลายเป็นรูปปั้น แม้กระทั่งร่างที่แท้จริงของเจ้าอสูรก็ถูกผนึกเอาไว้ด้วย ทำให้นับแต่นั้นเป็นต้นมาภัยพิบัติที่คอยคุกคามดินแดนแห่งนี้ก็ได้สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตามถึงแม้เจ้าอสูรและกองทัพของเขาจะถูกผนึกเป็นรูปปั้น แต่ชาวพื้นเมืองก็ไม่มีกำลังที่จะสังหารคนกลุ่มนี้ได้ พวกเขาจึงทำการสร้างอาคารขึ้นมาใต้ดินเพื่อทำการฝังกองทัพเจ้าอสูรไว้ด้านในและทำการสร้างวิหารขึ้นมาบนอาคารนั้น โดยมีดวงตาอสูรคอยสะกดกองทัพที่ถูกฝังเอาไว้ใต้ดินอีกที
เมื่อเวลาผ่านไปชาวพื้นเมืองในยุคโบราณก็ถูกเผ่าพันธุ์ที่นับถือเทพยุคใหม่สังหารจนหมดสิ้น แม้แต่ดวงตาอสูรก็ถูกขโมยไปทำให้เจ้าอสูรฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
หลังจากนึกถึงประวัติของวิหารแห่งนี้ ลู่หยางก็เดินเข้าไปในประตูวิหารผ่านบันไดเวียนลงไปยังชั้นใต้ดิน ซึ่งภาพที่ปรากฏตรงหน้าคืออาคารที่ถูกสร้างด้วยอิฐสีเหลืองเข้มและบนผนังทุก ๆ 10 เมตรจะมีอัญมณีเรืองแสงถูกฝังเอาไว้ให้แสงสว่าง ทำให้วังใต้ดินแห่งนี้มีความสว่างไสวไม่ต่างไปกับช่วงเวลากลางวัน
ไม่ไกลจากจุดที่ลู่หยางยืนอยู่มีรูปปั้นสีเทาถือหอกปลายตะขอสวมชุดเกราะทั้งตัวกำลังหันหน้าเข้ามาหาเขา
นักรบเจ้าอสูร (ระดับกึ่งอีลิท)
เลเวล 30
พลังชีวิต: 8,000/8,000
ในชาติก่อนผู้เล่นหลายคนบังเอิญเข้ามาที่นี่และคิดว่ารูปปั้นพวกนั้นเป็นรูปปั้นจริง ๆ พวกเขาเลยเดินเข้าไปใกล้โดยไม่ได้ตั้งใจ ผลลัพธ์ก็คือพวกเขาถูกรูปปั้นใช้หอกแทงจนตายโดยไม่ทันได้ระวังตัว
ลู่หยางค่อย ๆ เดินเข้าไปหารูปปั้นหินอย่างช้า ๆ และเมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายร่นลงมาเหลือ 5 เมตร ตราผนึกบนรูปปั้นก็ละลายหายไป ก่อนที่นักรบเจ้าอสูรตัวใหญ่จะส่งเสียงร้องคำรามและพุ่งเข้ามาหาลู่หยางด้วยความรวดเร็ว
เบลซซิงเบิร์ส!
-1,986 (คริติคอล)
นักรบเจ้าอสูรกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็ยังคงพยายามวิ่งเข้าหาลู่หยางอย่างต่อเนื่อง น่าเสียดายที่นักเวทหนุ่มสามารถยิงลูกไฟออกไปได้ติด ๆ กันทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานนักรบเจ้าอสูรคนนี้ก็ล้มลงไปเสียชีวิตกองกับพื้น
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 886 หน่วย
นักรบเจ้าอสูรไม่ได้ดรอปอะไรลงมา ลู่หยางจึงเดินเข้าไปภายในวังต่อโดยไม่สนใจ ในที่สุดเขาก็ได้พบกันทางแยกซ้ายขวาและด้านหน้าเป็นกำแพงตัน
แผนที่ของวังใต้ดินชั้นแรกเป็นรูปก้นหอย ซึ่งมันก็หมายความว่าผู้เล่นจำเป็นจะต้องเดินผ่านเส้นทางทั้งหมดเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดกึ่งกลางของแผนที่ และทางเข้าสู่ชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 ก็ถูกวางเอาไว้ตรงนั้น
อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ไม่จำเป็นจะต้องเดินตามเส้นทางปกติ เพราะเขาได้หยิบมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นมาขว้างทะลุกำแพง ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นแสงสีฟ้าเทเลพอร์ตไปยังอีกด้านของกำแพงอย่างรวดเร็ว
รูปปั้นหิน 2 ตัวที่อยู่ข้าง ๆ ลู่หยางเริ่มละลายตราผนึกของมันออกไป แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้จู่โจมใส่ผู้บุกรุก ร่างของลู่หยางก็ได้กลายเป็นแสงสีขาวเทเลพอร์ตไปยังด้านหลังของกำแพงชั้นถัดไปอีกครั้งหนึ่ง
กำแพงรูปก้นหอยของชั้น 1 มีกำแพงให้ต้องเทเลพอร์ตผ่านไปทั้งสิ้น 64 ชั้น ลู่หยางจึงต้องใช้เวลากว่า 20 นาที ก่อนที่เขาจะเดินมายังตรงกลางของแผนที่ที่สำเร็จ
หลังจากเข้ามายังชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 รูปปั้นสัตว์ประหลาดหัวแกะที่ถือค้อนแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่ก็เริ่มส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับฟาดค้อนลงมายังหัวของลู่หยางด้วยความรวดเร็ว
ผู้พิทักษ์เจ้าอสูร (ระดับกึ่งอีลิท)
เลเวล 30
พลังชีวิต 9,800/9,800
ลู่หยางไม่ได้กระโดดหลบแต่ใช้สคอร์ชิ่งสปีดเลเวล 3 เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และทำการออกวิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ข้อดีของวังใต้ดินแห่งนี้คือมอนสเตอร์ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกปิดผนึก และถึงแม้ผู้เล่นจะเดินเข้าไปใกล้แต่มันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาคลายผนึกประมาณ 2 นาที เมื่อลู่หยางได้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ขึ้นมาถึง 200% มันจึงทำให้เขาสามารถสลัดมอนสเตอร์ภายในแผนที่ได้อย่างง่ายดาย
หลังจากวิ่งไปสักพักชายหนุ่มก็ได้พบทางแยกที่มี 9 เส้นทางให้เลือกเดินต่อไป โดยแต่ละเส้นทางต่างก็ล้วนแล้วแต่นำไปยังชั้นที่ 3 ของวังใต้ดิน เพียงแต่ระยะทางของแต่ละเส้นทางไม่เท่ากัน
ลู่หยางเลือกเส้นทางที่ 6 นับจากทางซ้าย ก่อนที่เขาจะเปิดใช้งานร็อคเก็ตโมบายล์หลังจากผลของสกิลสคอร์ชิ่งสปีดหมดลง
ชายหนุ่มยังคงวิ่งไปด้านหน้าเรื่อย ๆ ซึ่งหลังจากที่เขาเช็คพิกัดในแผนที่ว่าตอนนี้เขายืนอยู่ในตำแหน่ง 6686.7856 ลู่หยางก็ได้ขว้างมีดเอสเคพเดจเจอร์เข้าไปยังกำแพงพร้อมกับร่างที่หายตัวไปปรากฏตรงทางเข้าวังใต้ดินชั้นที่ 3 อย่างพอดิบพอดี
การเดินทางผ่าน 2 ชั้นแรกของวังใต้ดินเคยทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนรู้สึกยาก แต่ในความเป็นจริง 2 ชั้นนี้เป็นชั้นที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะความยากที่แท้จริงมันจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป
ท้ายที่สุดถึงแม้มอนสเตอร์ภายในชั้น 3 จะยังคงเป็นมอนสเตอร์ระดับกึ่งอีลิท แต่พลังชีวิต, พลังโจมตี, พลังป้องกันและความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกมันกลับอยู่ในระดับเดียวกันกับมอนสเตอร์ระดับอีลิทหรือแม้แต่บอสมอนสเตอร์บางตัวได้เลย
ในชาติก่อนหลังจากกิลด์ต่าง ๆ บุกเบิกเส้นทางมาได้จนถึงตอนนี้ มันก็มักจะเกิดเหตุการณ์ที่องครักษ์เจ้าอสูรสังหารผู้เล่นเลเวล 30 ที่สวมใส่ชุดเกราะระดับเงินทั่วทั้งตัวได้ในพริบตา
แน่นอนว่าองครักษ์เจ้าอสูรย่อมมีอัตราการดรอปที่ดีมาก และพวกมันก็มักจะดรอปอุปกรณ์ดี ๆ โดยเฉพาะชุดเกราะป้องกันธาตุไฟระดับเหล็ก ซึ่งถือว่าเป็นของที่ดีที่สุดที่ดรอปจากพวกมัน
จุดประสงค์ที่ลู่หยางเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อชุดเซ็ตอุปกรณ์ป้องกันธาตุไฟนี่เอง เพราะถ้าหากว่าเขาต้องการจะบุกเบิกป้อมปราการคริมสัน สิ่งแรกที่เขาจำเป็นจะต้องทำก็คือการรวบรวมอุปกรณ์ป้องกันธาตุไฟไปให้กับลูกน้อง
หลังจากเข้ามาในชั้น 3 ห้องที่ดูเหมือนกับคุกก็ปรากฏต่อหน้าลู่หยาง โดยแต่ละห้องมีขนาดประมาณ 50 เมตร แต่ลูกกรงเหล็กที่สมควรจะเอาไว้กักขังนักโทษกลับถูกพลังงานมืดกัดกร่อนจนทรุดโทรม แม้แต่เพียงการใช้แรงเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถจะทำลายกรงผุ ๆ เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย
หากลู่หยางจำไม่ผิดผู้เล่นจากชาติก่อนได้สรุปว่าในชั้น 3 มีคุกลักษณะนี้อยู่ทั้งสิ้น 15,000 ห้องและในแต่ละห้องก็มีองครักษ์เจ้าอสูรอยู่เฉลี่ยที่ประมาณ 10 ตัว
โดยรวมแล้วทั่วทั้งชั้นมีองครักษ์เจ้าอสูรอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 150,000 ตัว แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 120 ตัวเท่านั้นที่เป็นมอนสเตอร์พิเศษ มันจึงทำให้แม้แต่กิลด์ขนาดใหญ่ที่พยายามเข้ามาบุกเบิกแผนที่แห่งนี้ก็จำเป็นจะต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ในการสังหารมอนสเตอร์พิเศษทั้ง 120 ตัวลง เพราะท้ายที่สุดหลังจากมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ ถูกสังหารลงไป พวกมันก็พร้อมจะกลับมาเกิดใหม่ได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ไม่จำเป็นจะต้องกวาดล้างมอนสเตอร์ตรง ๆ แบบนั้น เพราะเขาสามารถจำพิกัดของมอนสเตอร์พิเศษได้อย่างขึ้นใจ ท้ายที่สุดในชาติก่อนชุดเกราะป้องกันธาตุไฟก็มีราคาสูงมาก เขาจึงเคยเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อค้นหาชุดเกราะป้องกันธาตุไฟไปขายอยู่หลาย ๆ ครั้ง
อันดับแรกคือชายหนุ่มวิ่งไปยังห้องขังหมายเลข 154 ซึ่งหลังจากที่เขามององครักษ์เจ้าอสูรทั้ง 10 ตัวที่ถูกปิดผนึกอยู่ในห้อง เขาก็ทำการวางสกิลไฟร์วอลล์เอาไว้ตรงบริเวณประตู ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังด้านใน
เมื่อองครักษ์เจ้าอสูรสัมผัสได้ถึงผู้บุกรุก พวกมันก็เริ่มทำลายตราผนึกพร้อมกับส่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น ลู่หยางจึงใช้โอกาสในระหว่างที่พวกมันกำลังเคลื่อนไหวกระโดดออกไปนอกห้องขัง เมื่อพวกองครักษ์เจ้าอสูรวิ่งตามมาพวกมันก็ชนเข้ากับกำแพงไฟโดยไม่สามารถที่จะก้าวข้ามผ่านกำแพงอันร้อนแรงนี้ไปได้
เนื้อเรื่องทั้งตอน!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 168
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น