คนพิการทางสายตา...มักเสียค่าใช้จ่ายระหว่างทางเสมอ

-A A +A
คนพิการทางสายตา...มักเสียค่าใช้จ่ายระหว่างทางเสมอ

คนพิการทางสายตา...มักเสียค่าใช้จ่ายระหว่างทางเสมอ

คนพิการทางสายตา...มักเสียค่าใช้จ่ายระหว่างทางเสมอ

สำหรับบทความนี้ก็เช่นเคยครับ ผมจะมาคลายข้อสงสัย และตอบคำถามที่หลายๆ คนคงอยากรู้กันเช่นเคยครับ

“คนตาบอดอยู่คนเดียวได้ไหม? แล้วอยู่กันยังไง จะไปซื้อข้าวแบบไหน ใครพาไป??”

นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยใช่มั้ยละครับ ซึ่งผมตอบได้เลยว่า ได้ครับ ขอยกตัวอย่างเลยนะครับ ตอนนี้เนี่ย ผมกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งผมออกมาเช่าหอนอกอยู่ เนื่องจากการเข้าออกสะดวก และการหาของกินนั้นง่ายกว่าหอข้างในมาก โดยทีแรกนั้นก็จะลำบากนิดหน่อยเพราะไม่ชินกับสถานที่ และผู้คน

สิ่งที่ผมทำครั้งแรกเลยคือ การเดินสำรวจพื้นที่รอบหอพักโดยใช้ไม้ท้าวครับ ซึ่งในระหว่างการสำรวจ ข้อดีก็คือ รู้จักคนครับ ถามว่ารู้ได้ยังไง ก็จากการเดินมาช่วยเหลือนั่นแหละครับ หรือบางคนก็อาจจะร้องบอกทางบ้าง

ต่อมาเลยคือรู้ว่าร้านอาหารอยู่ไหน มีร้านขายของอยู่ใกล้ๆ หรือเปล่า ซึ่งการทำแบบนี้ต้องใช้เวลาบ้างนะครับ เพื่อความชัวร์ในระยะยาว เมื่อเรารู้ทางไปทางมาดีแล้ว เริ่มรู้จักคนรอบข้างแล้ว ต่อมาคือการตีสนิทครับ (ฮา)

เช่น เมื่อเราไปกินร้านนี้บ่อย พอผ่านไประยะหนึ่ง ทางร้านก็จะอาสานำข้าวไปส่งให้ถึงหอโดยที่เราไม่ต้องออกมาเองเป็นต้นครับ เพราะด้วยความที่ในเมืองรถเยอะ เจ้าของร้านเขากลัวมีอันตราย เขาก็จะมีบริการพิเศษส่งให้ครับ (อันนี้ก็แล้วแต่ดวงเหมือนกันนะครับ อิอิ)

ส่วนการไปไหนมาไหนไกลๆ อันนี้ก็อาจจะมีเพื่อนปรกติช่วยบ้าง หรือคนที่เรารู้จักช่วยบ้าง แต่จะให้เรียกพวกเขาบ่อยก็เกรงใจครับ ดังนั้นจึงต้องมีสูตรเล็กน้อยครับผม

...สูตรที่ว่านี้ก็คือ เมื่อเรามีโอกาสได้ไป บขส. สิ่งที่ควรทำเลยคือ พยายามขอเบอร์วินไว้ครับ หรือไม่ก็อาจจะเป็น 3 ล้อหรือแท็กซี่ก็ได้ ทีแรกก็เรียกรถมารับไปทำธุระเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละครับ จากนั้นพอสนิทกันมากๆ ก็จะถึงคราวสั่งให้ซื้อนั่นนี่จากที่ไกลๆ ซึ่งแถวหอเราไม่มีมาให้ จนท้ายที่สุดถึงกับพาเดินเที่ยวห้างเลยก็มี...ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคลแล้วแหละครับ ว่าจะเข้ากับคนรอบข้างได้แค่ไหน ...เป็นอะไรที่บางทีก็ค่อนข้างเปลืองเงินนะครับ (ฮา)

ผมถึงบอกว่า ‘คนพิการตาบอดมักเสียเงินระหว่างทางเสมอ’ ถึงแม้รถรับจ้างที่สนิทกันจะคิดไม่แพงเท่ากับลูกค้าปรกติ แต่เมื่อเราต้องใช้บริการอาทิตย์ละหลายๆ ครั้ง ก็ค่อนข้างจะเยอะเอาการอยู่นะครับ

“เราได้ซื้อของไม่มาก เพราะที่เหลือต้องเผื่อค่าพวกนี้ด้วย” นี่แหละครับคือชีวิต ถึงเขาจะอยากช่วยเราแค่ไหน ทว่าคนเราก็ต้องกินต้องใช้จริงมั้ยครับ?

ส่วนเรื่องงานบ้าน หรือการดูแลตัวเอง อันนี้ก็ไม่ยากนะครับ ดังที่ได้กล่าวไปในบทความที่แล้วว่า ของพวกนี้พอเราชิน ก็กลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย

ส่วนการเดินทางข้ามต่างจังหวัด หลายคนก็คงรู้แล้ว...ครับใช่ ก็เพิ่งรถโดยสารนั่นแหละครับ มองในแง่ดีคือ ไม่ต้องขับเอง นั่งใส่หูฟังเพลงสบาย (ฮา)

ครับ สำหรับบทความนี้ ก็นึกออกแค่นี้ละนะครับ สงสัยอะไรก็สามารถถามมาเพิ่มเติมได้นะครับ แล้วผมจะมาตอบให้ ขอบคุณครับ

อ่านบทความที่ผ่านมา คลิก

คำถามที่คนพิการทางสายตาพบบ่อย!

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.