บทที่ 248 ชุดป้องกันไฟ
บทที่ 248 ชุดป้องกันไฟ
กองทัพเจ้าอสูรเป็นกองทัพที่กลัวไฟ เมื่อองครักษ์เจ้าอสูรได้เห็นไฟร์วอลล์ที่วางอยู่บนพื้น พวกมันจึงไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้เลยแม้แต่ก้าวเดียว เรื่องนี้มันจึงกลายเป็นข้อได้เปรียบที่ผู้เล่นคนหนึ่งบังเอิญค้นพบในชาติก่อน
ลู่หยางเริ่มร่ายคาถาเรียกอุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาในช่องของประตูอย่างแม่นยำ ทำให้องครักษ์เจ้าอสูรทั้ง 10 ตัวได้รับความเสียหายพร้อม ๆ กัน และในจำนวนนี้มันก็มีองครักษ์เจ้าอสูรตัวหนึ่งที่มีความเร็วแตกต่างจากตัวอื่น ๆ อย่างชัดเจน
องครักษ์เจ้าอสูร (บอส)
เลเวล 35
พลังชีวิต 158,300/160,000
ลู่หยางยังคงปล่อยอุกกาบาตโจมตีต่อไป ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานองครักษ์เจ้าอสูรทั้งหมดก็ถูกสังหารทำให้บนพื้นมีของดรอปลงมาทั้งหมด 4 ชิ้น และหนึ่งในนั้นก็คือชุดเกราะที่เปล่งประกายแสงสีดำ
เกราะเจ้าอสูร (ระดับเหล็ก)
เลเวล 26
พลังป้องกัน 12-22
ความอดทน +12
พลังกาย +20
เอฟเฟกต์ เพิ่มความต้านทานธาตุไฟ 50 หน่วย
ชุดเซ็ตเจ้าอสูรประกอบด้วยอุปกรณ์ทั้งหมด 8 ชิ้นทำให้โดยรวมแล้วมันสามารถเพิ่มความต้านทานธาตุไฟได้ 350 หน่วย และหากผู้เล่นดื่มน้ำยาต้านทานธาตุไฟเข้าไปเพิ่ม มันก็จะช่วยทนรับความเสียหายธาตุไฟได้ถึง 400 หน่วยเลยทีเดียว นอกจากนี้ชุดเกราะเจ้าอสูรยังเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่หาได้ยากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ในชุดเซ็ตทั้งหมด
ลู่หยางไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากการสังหารองครักษ์เจ้าอสูรตัวแรกแล้วเขาจะได้รับมันมาอย่างง่ายดายขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงเดินไปเก็บอุปกรณ์อย่างดีใจและเดินไปยังห้องขังถัด ๆ ไปเพื่อหาชุดเซ็ตอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง
“หัวหน้ายุ่งอยู่หรือเปล่า?” หลานอวี่ติดต่อเข้ามาหา
“มีอะไรหรือเปล่า?” ลู่หยางตอบเพราะสำหรับสาวน้อยคนนี้แล้วเขาพร้อมมีเวลาให้เธอตลอด
“วันนี้ช่วงกลางวันหัวหน้าไม่ได้เข้าเกมเลย คุณกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?” หลานอวี่ถามอย่างสงสัย ซึ่งชื่อในโลกแห่งความเป็นจริงของเธอนั่นก็คือเสินเมิ่งเหยา ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของลู่หยางนั่นเอง
“ช่วงนี้ฉันมีธุระต้องจัดการนิดหน่อยเลยไม่ค่อยว่างตอนกลางวัน ว่าแต่เธอมีอะไรหรือเปล่า?” ลู่หยางตอบกลับโดยที่เขาไม่ได้รู้เรื่องที่หลานอวี่คือเสินเมิ่งเหยาเลย
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่ถามเฉย ๆ” หลานอวี่กล่าวแล้วถึงแม้เธออยากจะถามว่าอีกฝ่ายติดเรียนหรือเปล่า แต่เธอกลับไม่กล้าที่จะถามมันออกมา
“ตอนนี้เซี่ยหยู่เว่ยกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?” ลู่หยางถาม
“เธอกำลังพาคนไปเก็บเลเวลอยู่ ตอนนี้เธอใกล้จะเลเวล 26 แล้ว” หลานอวี่ตอบ
“ฝากบอกเธอด้วยว่าพยายามเก็บเลเวลให้ถึง 26 ภายในวันมะรืนนี้ เพราะพวกเราจะไปบุกเบิกป้อมปราการคริมสันกัน” ลู่หยางกล่าว
“ได้ค่ะ” หลานอวี่ตอบก่อนที่จะตัดการสื่อสารไป เพราะเธอกลัวว่าการติดต่อมาจะทำให้ลู่หยางเสียเวลา เธอจึงนั่งเหม่อลอยถอนหายใจบนก้อนหินอยู่คนเดียว
“เป็นอะไรเหรอ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามหลังจากสังเกตเห็นความผิดปกติของหลานอวี่
หลานอวี่ส่ายหน้าไปมาเพราะเธอยังไม่พร้อมจะเล่าเรื่องของลู่หยางให้ใครฟัง เธอจึงบอกแต่เพียงเรื่องที่ลู่หยางฝากให้เธอนำมาบอกกับเซี่ยหยู่เว่ยเท่านั้น
“พวกเรารีบไปเก็บเลเวลกันเถอะ อย่าปล่อยให้พี่เขาต้องรอนานเลย” หลานอวี่กล่าว
“แหมเดี๋ยวนี้เรียกพี่เต็มปากเต็มคำเชียวนะ ดูท่าหลานอวี่ของเราจะมีเจ้าของซะแล้วสิ” เซี่ยหยู่เว่ยพูดแซว
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย อย่าพูดไปเรื่อย” หลานอวี่กล่าวด้วยใบหน้าอันแดงซ่าน
“แต่ฉันเห็นนะว่าหัวหน้าดูแลเธอเป็นพิเศษเลย” จางจื่อโป๋กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“อย่าพูดแบบนั้นเลย พวกนายก็น่าจะรู้ว่าความรักของพวกเราไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะเลือกกันเองได้” หลานอวี่กล่าว
“ไม่แน่นะ บางทีถ้าพวกเราประสบความสำเร็จภายในเกม พวกเราก็อาจจะมีสิทธิ์เลือกความรักของตัวเองก็ได้” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะแบบนี้ฉันถึงได้เลือกตามหัวหน้าแบบไม่ลังเลไง เพราะนี่คือโอกาสเดียวที่พวกเราจะได้รับอิสรภาพ” จางจื่อโป๋กล่าว
หลานอวี่เหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะถ้าหากลู่หยางสามารถนำพาพวกเธอยึดครองป้อมปราการได้จริง ๆ ในเวลานั้นพวกเธอก็อาจจะได้รับอิสรภาพอย่างที่จางจื่อโป๋ได้ว่าเอาไว้
“ฉันก็ได้แต่หวังว่าพี่เขาจะทำได้นะ” หลานอวี่กล่าวอย่างเหม่อลอย
—
ขณะเดียวกันลู่หยางก็กำลังสังหารมอนสเตอร์ในวังใต้ดินไปพร้อม ๆ กับออกคำสั่งไปให้กับเจียงเจ๋อ
อันดับแรกคือเขาสั่งให้เจียงเจ๋อจัดทีม 500 คนไปขุดแร่ภายในถ้ำ ต่อมาเขาก็บอกให้เจียงเจ๋อจัดทีม 1,000 คนไปเก็บสมุนไพรส่งให้ร้านขายยาเพลิงโลหิต และอันดับสุดท้ายคือเขาบอกให้เจียงเจ๋อจัดทีมไปฟาร์มอัญมณีในดันเจียน
สิ่งเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ลู่หยางต้องการอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันเขาก็ทำการซื้อข่าวภารกิจภายในเกมด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้าหากสมาชิกภายในกิลด์คนไหนได้ไปเห็นข่าวของภารกิจพิเศษเข้า สมาชิกกิลด์เหล่านั้นก็สามารถที่จะติดต่อหาเจียงเจ๋อได้ในทันที
แม้ว่าตามกฎของเกมจะมีการกำหนดให้เปลี่ยนอาชีพได้ตอนเลเวล 30 แต่มันก็มีไอเทมและภารกิจพิเศษบางอย่างที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาชีพได้ก่อน ยกตัวอย่างเช่น ฉิงชางที่ได้พบกับภารกิจของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ไป๋เหลิงได้พบกับภารกิจของจอมดาบ
บิทเทอร์เลิฟ, เหมาชิว, เรดลีฟ, แบล็คโน้ตและผู้เล่นระดับสูงอีกหลาย ๆ คนก็ได้ภารกิจพิเศษของตัวเองด้วยเช่นกัน และมันก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมในชาติที่แล้วพวกเขาจึงกลายเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียง
“แค่ 2 วันกิลด์ของเราก็มีคนที่เปลี่ยนอาชีพแล้วตั้ง 3 คน ฉันยอมรับเลยว่าผู้เล่นที่นายเลือกมาแต่ละคนต่างก็เป็นผู้เล่นชั้นยอดจริง ๆ” เจียงเจ๋อกล่าวอย่างตื่นเต้น
การกระตุ้นภารกิจเปลี่ยนอาชีพไม่เพียงแต่จะต้องพึ่งพาเลเวลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังจำเป็นจะต้องอาศัยทักษะและสติปัญญาที่เหนือกว่าผู้เล่นทั่ว ๆ ไปด้วย ขณะเดียวกันเพื่อแลกกับมาตรฐานที่เหนือกว่าผู้เล่นทั่ว ๆ ไปนี่เอง มันจึงเป็นเหตุผลที่ลู่หยางยอมจ่ายค่าจ้างถึง 10,000 เครดิตต่อเดือนเพื่อดึงดูดให้คนเหล่านั้นยอมอยู่ภายในบลัดบราเธอร์
“รอก่อนเถอะ อีกไม่นานกองกำลังผู้เล่นชั้นยอดของเราจะเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จทั้งหมด และยิ่งเวลาผ่านพ้นไปนานเท่าไรกิลด์ของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ลู่หยางกล่าว
การเปลี่ยนอาชีพภายในเซคคัลเวิลด์เป็นเรื่องที่ยากมาก เพียงแต่ในตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่ได้สังเกตเห็นถึงจุดนี้กันเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาคิดว่าเซคคัลเวิลด์ก็เป็นเหมือนเกมออนไลน์อื่น ๆ ที่หลังจากพวกเขาเก็บเลเวลถึงกำหนด ในเวลานั้นพวกเขาก็สามารถที่จะเปลี่ยนอาชีพได้อย่างสบาย ๆ
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้นั่นก็คือในชาติก่อนเลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จคือเลเวล 52 ไม่ใช่เลเวล 30 อย่างที่พวกเขาได้คิดกัน
ผู้เล่นที่โชคร้ายที่สุดที่เคยนำเรื่องของตัวเองมาเผยแพร่บอกว่ากว่าที่เขาจะหาภารกิจเปลี่ยนอาชีพของตัวเองเจอ มันก็ต้องรอจนกระทั่งเขามีเลเวลถึง 82 ซึ่งเรื่องนี้มันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการเปลี่ยนอาชีพภายในเซคคัลเวิลด์เป็นเรื่องยากลำบากมากแค่ไหน
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนอาชีพก็นำผลประโยชน์มาให้กับผู้เล่นอย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น สกิลที่พวกเขาใช้จะไม่ได้ถูกจำกัดที่เลเวล 1 อีกต่อไป แต่สามารถเพิ่มเลเวลของสกิลได้ตามภารกิจ อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้สกิลขั้นสูงเฉพาะสายอาชีพของตัวเองได้อีกด้วย มันจึงทำให้หลังจากเลเวล 30 เป็นต้นไป ผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จก็สามารถที่จะเผชิญหน้ากับผู้เล่นเลเวลเดียวกันที่ยังไม่เปลี่ยนอาชีพได้ถึง 1 ต่อ 10 เลยทีเดียว
ปี๊บ ๆ ๆ
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ลู่หยางจึงตรวจกระเป๋าดูผลงานของตัวเอง ก่อนจะได้พบว่าเขาได้รับชุดเซ็ตเจ้าอสูรมาแล้วทั้งสิ้น 6 เซ็ต
“เดี๋ยวฉันไปพักแล้วนะ พรุ่งนี้ตอนกลางวันนายช่วยดูแลกิลด์แทนฉันไปก่อนเพราะว่าฉันต้องไปเรียน” ลู่หยางกล่าว
“เอาดี ๆ จะไปเรียนหรือจะไปจีบสาว” เจียงเจ๋อพูดแซว
“ช่วยไม่ได้ในกิลด์มีคนเก่ง ๆ คอยดูแลกิลด์ให้อยู่ตั้งเยอะ ถ้าฉันไม่ไปจีบสาวฉันก็ว่างจนไม่รู้จะต้องทำอะไรแล้ว” ลู่หยางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เมื่อถูกคำยกยอเจียงเจ๋อที่พึ่งจบมอปลายก็ไม่รู้จะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงดี และถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองถูกหลอกแต่อย่างน้อยคำหลอกลวงมันก็ยังทำให้เขารู้สึกดีอยู่บ้าง
“ไปเรียนเถอะ ถ้ามีปัญหาอะไรเดี๋ยวฉันจะรีบติดต่อนายไปเอง”
“ขอบคุณมากเพื่อนรัก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับวางสายไป จากนั้นเขาก็รีบออกไปพักผ่อนเพื่อที่ในวันต่อมาเขาจะได้ไปพบกับเสินเมิ่งเหยาสาวสวยที่เขาเฝ้ารอมานาน
สรุปเสินเมิ่งเหยาคือจีบจริง ๆ แล้วหลานอวี่คือเอ็นดูเป็นน้องสาวจริง ๆ แต่ทั้งคู่คือคนเดียวกัน? 555555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 172
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น