ตอนที่ 958 ความลับของสารานุกรมดาร์คไนท์

-A A +A

ตอนที่ 958 ความลับของสารานุกรมดาร์คไนท์

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 958 ความลับของสารานุกรมดาร์คไนท์

เจมินี่ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าไปซ่อนตัวภายในกลุ่มดาวเคราะห์น้อยอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ได้เปิดใช้ระบบเรดาร์เพื่อค้นหาร่องรอยของดาร์คไนท์

จากสิ่งที่บันทึกเอาไว้ภายในสารานุกรมพื้นที่บริเวณนี้สมควรจะเป็นทางเข้าสู่ดินแดน ซึ่งโดยปกติจะมีผู้พิทักษ์อันแข็งแกร่งคอยคุ้มกัน มันจึงจะเป็นการดีที่สุดถ้าหากว่าเขาสามารถแอบลอบเข้าไปได้อย่างเงียบ ๆ

แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ความเร็วของเจมินี่เพื่อสลัดศัตรูเหล่านี้ได้ แต่การบุกรุกเข้าไปอย่างผลีผลามมันก็จะทำให้การดำเนินงานหลังจากนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น

“ข้อมูลในสารานุกรมยังคงถูกต้อง จุดสีขาวคือตำแหน่งยานรบของพวกมัน ส่วนจุดสีแดงคือตำแหน่งของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังระบบเรดาร์

“ด้วยการป้องกันที่หนาแน่นแบบนี้ การลอบเข้าไปไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย นายพอจะมีแผนการอะไรบ้างไหม?” ลินนิจถาม

เซี่ยเฟยทำการเปิดระบบพรางตัวของยานรบ ก่อนที่จะให้ความสนใจกับสารานุกรมดาร์คไนท์อย่างจริงจัง เพราะในก่อนหน้านี้เขาทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับการฝึกฝนเทคนิคมิสเทอรีมูน เขาจึงอ่านข้อมูลในสารานุกรมเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในตอนนี้เขาเดินทางมาจนถึงดินแดนดาร์คไนท์แล้ว มันจึงถึงเวลาที่เขาจะต้องศึกษาสารานุกรมทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน

นอกเหนือจากที่ภายในสารานุกรมจะมีตัวอักษรบันทึกเอาไว้แล้ว มันยังมีแผนที่ดวงดาวคร่าว ๆ ถูกบันทึกเอาไว้อีกหลายแผนที่ ซึ่งแผนที่ทั้งหมดนี้ต่างก็ถูกวาดเอาไว้ด้วยมือ โดยสถานที่ในปัจจุบันที่เขากำลังอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าปากเสือ ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณเดียวที่จะสามารถเดินทางเข้าสู่ดินแดนดาร์คไนท์ได้

“เราไม่สามารถอ้อมไปเข้าทางอื่นได้ เพราะเราอาจจะพบกับหลุมดำหรือพายุแม่เหล็กไฟฟ้า ปากเสือเป็นเส้นทางเดียวที่เราจะเข้าสู่ดินแดนดาร์คไนท์ได้จริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากศึกษาแผนที่ดวงดาวภายในบันทึก

ถึงแม้แผนที่เหล่านี้จะถูกวาดขึ้นมาด้วยมือ แต่ข้อมูลภายในบันทึกก็ไม่ต่างไปจากข้อมูลที่เขาเห็นภายในระบบเรดาร์มากนัก ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าทอกซินผู้ซึ่งเขียนบันทึกเล่มนี้ขึ้นมาถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเดินทางระหว่างดวงดาว

“ถ้าไม่มีวิธีการลักลอบเข้าไปได้จริง ๆ พวกเราลองให้แท่งทองช่วยดูไหม? อย่างน้อยมันก็คุ้นเคยกับช่องว่างมิติ บางทีมันอาจจะช่วยหาเส้นทางหลบเลี่ยงให้กับเราได้” ลินนิจกล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้าเล็กน้อยขณะยังคงตรวจสอบสารานุกรมดาร์คไนท์ต่อไป ซึ่งหลังจากที่เขาทำการพิจารณาเนื้อหาทั้งหมดอย่างใกล้ชิด เขาก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติในบันทึก

“มันเหมือนมีอะไรบางอย่างหายไปเลย?” เซี่ยเฟยปิดบันทึกพร้อมกับพึมพำขึ้นมาเบา ๆ

“อะไรหายไป? ทำไมฉันถึงไม่เห็นอะไรเลย?” ลินนิจถามอย่างสงสัย

“ตามตำนานบันทึกเล่มนี้คือบันทึกการเดินทางของทอกซิน ด้านใดบันทึกมันก็ควรจะมีวิธีการเดินทางหรือสถานที่ที่เขาเคยพักถูกเขียนเอาไว้ด้วย แต่ข้อมูลในบันทึกมีเพียงแค่แผนที่ไม่มีเรื่องของทอกซินถูกเขียนเอาไว้เลย” เซี่ยเฟยกล่าว

“นั่นสินะ มันดูไม่เหมือนบันทึกเดินทางอย่างที่นายว่าเอาไว้จริง ๆ” ลินนิจกล่าวอย่างตกใจเล็กน้อย

เซี่ยเฟยนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไรกลับไป ขณะที่เขาสังเกตสารานุกรมอย่างระมัดระวัง

สมุดสีดำเล่มนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะลึกลับ ขณะที่ตัวอักษรถูกเขียนด้วยน้ำหมึกที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวอักษรถูกเขียนลงไปแล้วมันจึงไม่มีใครสามารถแก้ไขเนื้อหาภายในบันทึกได้ เพราะมันเป็นเหมือนกับการแกะสลักตัวอักษรลงไปบนแผ่นหิน

“ปกติการบันทึกข้อมูลบนโลหะเป็นเรื่องยากมาก นายพอจะเห็นอะไรที่ผิดปกติอีกไหม?” ลินนิจกล่าว

พรึบ!

เซี่ยเฟยโยนบันทึกขึ้นไปในอากาศทำให้หน้าหนังสือถูกเปิดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะที่หน้าหนังสือต้องแสงไฟอยู่นั่นเอง ในที่สุดเขาก็เริ่มพบเห็นเบาะแสอะไรบางอย่าง

ภาพดวงดาวแต่เดิมที่ดูจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันถูกพลิกอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเหมือนภาพอนิเมชั่นสมัยเก่า

“เจอแล้ว! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทอกซินถึงวาดภาพทุกอย่างด้วยมือ ที่แท้เขาก็ได้ซ่อนเนื้อหาส่วนสำคัญเอาไว้ภายในภาพทุกภาพ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย

ชายหนุ่มทำการโยนบันทึกขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง และตราบใดก็ตามที่เขามองในมุมที่ถูกต้องและหน้าหนังสือถูกเปิดอย่างรวดเร็วมากพอ เขาก็จะเริ่มเห็นภาพที่ถูกซ่อนเอาไว้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

ภายในภาพอนิเมชั่นมีหญิงสาวถอดปิ่นปักผม ก่อนที่เธอจะเสียบปิ่นปักผมนั้นเข้าไปในบันทึก

ชายหนุ่มรีบใช้มีดตัดพื้นที่ชั้นนอกของบันทึกออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะได้พบกับปิ่นปักผมอันบาง ๆ ราวกับเส้นผมถูกซ่อนไว้ในนั้น

“ฉันรู้แล้ว! ที่แท้มันก็คือหนังสือเงา!!” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่เขาตระหนักได้ถึงหน้าที่ของปิ่นปักผม

“หนังสือเงา? มันคืออะไร?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“หนังสือเงาเป็นหนังสือที่จะทำการถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางจิตวิญญาณ วิธีการนี้เป็นวิธีการซ่อนเนื้อหาไม่ให้ใครสามารถค้นพบเนื้อหาที่แท้จริงได้ง่าย ๆ ตราบใดก็ตามที่นายใส่กุญแจนี้เข้าไปภายในรู เมื่อนั้นนายก็จะได้เห็นเนื้อหาที่แท้จริงเหมือนกับการดูภาพยนตร์” ลินนิจอธิบาย

เซี่ยเฟยรีบพลิกสารานุกรมทุกด้านอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะได้พบว่าบริเวณด้านหลังของบันทึกมีรอยพับเล็ก ๆ ที่สามารถใส่ปิ่นปักผมเข้าไปได้พอดี

กริ๊ก!

เมื่อเซี่ยเฟยสอดปิ่นปักผมเข้าไปด้านใน มันก็มีเสียงดังขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับภาพเหตุการณ์อันน่าประหลาดใจที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

จู่ ๆ สารานุกรมดาร์คไนท์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่มันจะสลายกลายเป็นเม็ดทรายสีดำเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ภาพเหตุการณ์ต่อมาคือเม็ดทรายเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหวเป็นภาพต่าง ๆ เพื่อดำเนินเรื่องราวราวกับว่าชายหนุ่มกำลังรับชมภาพยนตร์อยู่จริง ๆ

“ที่แท้ทอกซินก็ไม่เพียงแต่จะสนิทสนมกับราชาดาร์คไนท์เท่านั้น แต่เขายังเป็นอาจารย์ของราชาดาร์คไนท์ด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากรับชมบันทึกทั้งหมดจนจบ

“ทอกซินเป็นคนที่น่าทึ่งจริง ๆ ไม่เพียงแต่เขาจะเข้าไปภายในดินแดนดาร์คไนท์ได้เท่านั้น แต่เขายังตีสนิทกับพวกดาร์คไนท์ได้อีกด้วย คนธรรมดาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองหลวงของพวกดาร์คไนท์อยู่ที่ไหน?” ลินนิจกล่าวอย่างประหลาดใจ

“สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือพวกดาร์คไนท์มีพลังคล้าย ๆ กับกฎแห่งความมืดและสามารถเดินทางผ่านช่องว่างมิติได้ พวกมันไม่ใช่ศัตรูที่เราจะรับมือได้ง่าย ๆ แน่ ๆ” เซี่ยเฟยกล่าว

ตามบันทึกพวกดาร์คไนท์สามารถใช้พลังกฎได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือกฎแห่งความมืดมิด แล้วถึงแม้ว่าชื่อของมันจะฟังดูคล้ายกับกฎแห่งความมืดของเผ่ามาร แต่ในความเป็นจริงมันเป็นพลังที่มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน

การแบ่งระดับพลังของดาร์คไนท์ถูกแบ่งออกเป็นระดับ 1-7 โดยระดับ 1 เทียบเท่าได้กับนักรบกฎ, ระดับ 2 เทียบเท่าได้กับอัศวินกฎ, ระดับ 3 เทียบเท่าได้กับราชากฎไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่ต่างไปจากดินแดนกฎมากนัก

“ทำไมพวกดาร์คไนท์มีพลังถึง 7 ระดับทั้ง ๆ ที่นักรบระดับ 6 มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมเทพ แล้วนักรบระดับ 7 มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับอะไร ระดับพระเจ้างั้นเหรอ!?” เซี่ยเฟยพึมพำอย่างสับสน

“ฉันก็อธิบายเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน ตามความทรงจำของฉันริเวอร์มีพลังสูงกว่าจอมเทพระดับสูงสุดแน่นอน แต่เขามาจากนอกประตูจักรวาล ระบบพลังของเขาอาจจะแตกต่างไปจากคนในจักรวาลนี้ อีกอย่างฉันก็ไม่เคยมีข้อมูลของพระเจ้าผู้สร้างดินแดนกฎเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาดูเหมือนกับคนที่ไม่มีตัวตนราวกับว่าหลังจากสร้างดินแดนกฎขึ้นมา พวกเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย” ลินนิจกล่าว

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่พวกเราก็ไม่เคยกลัวพวกมันอยู่แล้ว บรรพบุรุษยังคงรอข่าวจากผมอยู่ผมจะต้องรีบเข้าไปภายในดินแดนดาร์คไนท์โดยเร็วที่สุด เพื่อสืบสวนว่าพวกมันกำลังทำอะไรและมีอาวุธมายาอยู่ภายในดินแดนของพวกมันหรือเปล่า” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ทำการเก็บเจมินี่เข้าไปไว้ในแหวนมิติ และทำการติดต่อไปหาแท่งทองเพื่อเคลื่อนที่เข้าไปภายในช่องว่างมิติ

ย้อนกลับไปทอกซินเคยแอบลอบเข้าไปภายในดินแดนดาร์คไนท์ผ่านทางช่องว่างมิติ แน่นอนว่าด้วยความช่วยเหลือจากแท่งทอง เซี่ยเฟยย่อมเดินทางอย่างสะดวกสบายมากกว่าทอกซินในตอนนั้นมาก

“ช่วยพาฉันเข้าไปในดินแดนของพวกมันที” เซี่ยเฟยกล่าวบอกแท่งทองพร้อมกับลูบหัวของมันเบา ๆ

หลังจากการเดินทางมาหาเซี่ยเฟยอย่างยาวนาน แท่งทองก็ดูเหนื่อยล้ามากแต่หนอนด้วงมิติตัวนี้กลับเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะมีโอกาสรับใช้ผู้มีพระคุณของมันอีกครั้ง นอกจากนี้มันยังแสดงความเคารพต่อขนอุยเป็นอย่างดี หลังจากที่พวกมันได้ต่อสู้เคียงข้างกันในสงครามไนท์ปาร์ตี้

แท่งทองรับคำสั่งก่อนที่จะพาร่างเซี่ยเฟยเดินทางผ่านช่องว่างมิติอย่างรวดเร็ว

แม้ด้านนอกแท่งทองจะดูเป็นหนอนด้วงที่ไร้เดียงสา แต่มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมาก เพราะหลังจากที่เซี่ยเฟยส่งภาพเส้นทางให้กับมันเพียงแค่ 2 ครั้ง มันก็สามารถทำความเข้าใจเส้นทางได้อย่างรวดเร็ว

เนื่องมาจากว่าเซี่ยเฟยต้องการลอบเข้าไปภายในดินแดนของศัตรูอย่างเงียบ ๆ แท่งทองจึงจำเป็นจะต้องเลือกเส้นทางที่ลึกลับกว่าเดิม แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังล่องลอยอยู่ในช่องว่างมิติอยู่นั่นเอง จู่ ๆ พวกเขาก็บังเอิญได้พบกับหนอนด้วงมิติอีกตัวที่มีนักรบคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังของมัน

“เซี่ยเฟย!?”

“วิลโล่!?”

เมื่ออีกฝ่ายเปิดเผยตัวออกมาเซี่ยเฟยก็ได้พบว่านักรบคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากวิลโล่แห่งซีเครดสปริง

“แกทำลายซีเครดสปริง, ฆ่าพี่น้องของฉัน วันนี้ฉันจะต้องชำระแค้นกับแกให้ได้! ถ้าแกแน่จริงก็มาเผชิญหน้ากับฉันซะ!!” วิลโล่ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับชี้นิ้วไปทางเซี่ยเฟยด้วยความโกรธ

วิลโล่รู้ดีว่าเซี่ยเฟยเร็วแค่ไหนเขาจึงกังวลว่าชายหนุ่มจะเร่งความเร็วหนีไป และตราบใดก็ตามที่พวกเขาเผชิญหน้ากันตรง ๆ เขาก็เชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาสามารถจัดการชายหนุ่มคนนี้ได้อย่างแน่นอน

แม้ว่าในคราวนั้นเขาจะได้รับความเสียหายจากเซี่ยเฟยอย่างร้ายแรง แต่มันก็เป็นเพราะว่าเขาหลงกลอุบายของอีกฝ่าย เมื่อในตอนนี้เขาระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้นเขาย่อมไม่มีทางพ่ายแพ้เป็นครั้งที่ 2

แต่ในทันใดนั่นเองจู่ ๆ วิลโล่ก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเซี่ยเฟยยังคงสงบนิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว

***************

ยังไม่ตายอีกหร๊ออออ ทุกคนยังจำได้อยู่ใช่ไหม?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.