ตอนที่ 821 แผนการอันแยบยลของสกายวิง

-A A +A

ตอนที่ 821 แผนการอันแยบยลของสกายวิง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 821 แผนการอันแยบยลของสกายวิง

ณ ห้องโถงในแดนเทพ

ภายในห้องมีที่นั่ง 2 แถวแยกซ้ายขวาประมาณ 20 ที่นั่ง โดยมีไซนั่งอยู่บริเวณท้ายแถว ซึ่งบริเวณด้านหลังของที่นั่งแต่ละที่มีแสงสว่างสาดส่องออกมาอย่างเจิดจ้า ทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถที่จะระบุตัวตนของใครได้นอกจากตัวของตัวเอง

ไซเป็นเทพชราที่แข็งแกร่งมาก จนทำให้แม้แต่โอโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในแหวนมิติก็ไม่สามารถที่จะรอดพ้นไปจากสายตาของชายชราคนนี้ได้ แต่ถึงกระนั้นชายที่มีความแข็งแกร่งในระดับนี้ก็ยังถูกจัดลำดับให้นั่งรอบริเวณท้ายแถว มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าคนอื่น ๆ จะมีพลังอยู่ในระดับใด

“คราวนี้พวกเราต้องลงโทษสกายวิงให้หลาบจำบ้าง ลองดูสิ่งที่พวกเขาทำลงไปสิ ถ้าหากพวกเรายังปล่อยพวกเขาต่อไป สักวันหนึ่งแม้แต่ผู้อาวุโสก็คงจะไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาจากความมืด

“เรื่องนี้ฉันก็เห็นด้วย ถึงแม้สกายวิงจะเป็นนักรบที่ดีของเทพมาโดยตลอด แต่พวกเขาก็ไม่รู้จักแยกแยะระหว่างมิตรกับศัตรู พวกเขาไม่เคยรู้จักการยอมถอยหลังให้กันคนละก้าว พวกเขาทำตัวราวกับว่ามันไม่มีใครสามารถไปแตะต้องสมาชิกในตระกูลของพวกเขาได้” ชายอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างเห็นด้วย

“เราจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ผู้เฒ่าจากสกายวิงไม่เคยพูดว่าคนของพวกเขาแตะต้องไม่ได้ เพียงแต่มันไม่มีใครกล้าไปแตะต้องพวกเขาเอง ท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่ที่กล้าแตะต้องคนของสกายวิงต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกทำลายไปจนหมดแล้ว หากใครไม่ถูกทำลายก็มักจะถูกบังคับให้ล่าถอยออกไปเอง ยกตัวอย่างเช่น ตระกูลมูนวอร์ด เป็นต้น” ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย

ทันทีที่ชายคนนี้พูดจบทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆ เพราะพวกเขารู้ดีว่าดาบคลั่งแห่งเผ่าเทพเล่มนี้มีความคมมากแค่ไหน แม้ว่ามันจะมีคนบ่นเรื่องของสกายวิงอย่างมากมาย แต่มันก็แทบที่จะไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับสกายวิงโดยตรงเลย

“เอาล่ะ ไม่ว่ายังไงคราวนี้ทั้งสกายวิง, มูนวอร์ด, ลัทธิเทพโบราณหรือลัทธิต้นกำเนิดต่างก็เลือกที่จะสร้างปัญหาขึ้นมาอีกครั้ง ในเมื่อสกายวิงหยิ่งผยองมากนัก คราวนี้ก็ให้พวกมันจัดการกับปัญหาด้วยตัวเองไปก็แล้วกัน”

“คราวนี้เบื้องบนได้ออกคำสั่งไปแล้วว่าไม่ให้สมาคมผู้คุมกฎหรือกลุ่มมังกรฟ้าเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้ง ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าสกายวิงจะจบปัญหาในคราวนี้ยังไง” เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างไม่ค่อยพอใจ

ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบพร้อมกับถอนหายใจออกมาอีกครั้ง และถึงแม้ว่ามันจะมีบางคนไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง แต่เนื่องมาจากมันมีคำสั่งลงมาจากเบื้องบน มันก็ไม่ใช่เรื่องสมควรที่พวกเขาจะต้องเข้าไปแทรกแซง

ทันใดนั้นมันก็มีร่าง ๆ หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมานอกห้องโถง ก่อนที่เขาจะรีบโค้งคำนับและกล่าวรายงานขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก

“สงครามเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ!”

“บอกมาให้กับชัด มันเป็นสงครามระหว่างใครกับใคร?” เสียง ๆ หนึ่งกล่าวถามขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

“สกายวิงกับมูนวอร์ด, ลัทธิเทพโบราณและลัทธิต้นกำเนิดครับ!”

“ช่วยพูดมาให้ชัด ๆ หน่อยซิว่าสกายวิงกำลังปะทะอยู่กับกองกำลังไหนกันแน่?”

“ทั้งหมดครับ”

“อะไรนะ?! นายกำลังจะบอกว่าสกายวิงโจมตีตระกูลมูนวอร์ด, ลัทธิเทพโบราณและลัทธิต้นกำเนิดในเวลาเดียวกันเนี่ยนะ?”

“ใช่ครับ บรรพบุรุษของสกายวิงประกาศออกไปแล้วว่าในคราวนี้พวกเขาต้องกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก อย่าปล่อยให้ใครเหลือรอดกลับไปทั้งนั้น!”

“บ้าไปแล้ว! เจ้าพวกนั้นมันบ้าไปแล้วจริง ๆ”

“1 ต่อ 3 เนี่ยนะ? พวกสกายวิงมันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”

การประชุมในห้องโถงตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที เพราะทุกคนกำลังกังวลและไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป

การเคลื่อนไหวของสกายวิงเหนือเกินกว่าความคาดหมายของทุกคนมากจนเกินไป เพราะแม้แต่ผู้ที่มีความคิดบ้า ๆ มากที่สุดก็ยังไม่เคยคิดว่าสกายวิงจะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตี ในขณะที่พวกเขาเสียเปรียบทางด้านกองกำลังถึง 1 ต่อ 3 แบบนี้

น่าเสียดายที่เรื่องนี้มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ฟุบ ๆ ๆ ๆ

ร่างอีก 4 ร่างปรากฏตัวขึ้นมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน และเมื่อพิจารณาจากเสื้อผ้าของทุกคนแล้ว พวกเขาก็สมควรที่จะเป็นสายลับซึ่งมีหน้าที่ในการสืบค้นหาข้อมูล

“สกายวิงส่งยานรบอีวิลซีเครดพุ่งโจมตียานรบของมูนวอร์ด จนทำให้ยานรบทั้งสองลำระเบิดพังทลายขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการตอบโต้ในครั้งนี้ทำให้สมาชิกของตระกูลมูนวอร์ด 13.6 ล้านคนเสียชีวิตในทันที คาดว่าตระกูลมูนวอร์ดน่าจะเหลือเพียงแค่นักรบระดับสูงของพวกเขาเท่านั้นครับ”

“ในเวลาใกล้ ๆ กันเซี่ยบูหยุนนำกองกำลังสกายวิงบุกเข้าไปในดินแดนของเผ่าเมอร์แมนเพื่อพังทลายลัทธิต้นกำเนิดจนย่อยยับ สาวกของลัทธิต้นกำเนิดในเขตวิหาร 7,105 คนเสียชีวิตทั้งหมด คาดว่าตอนนี้ลัทธิต้นกำเนิดก็น่าจะเหลือเพียงแต่นักรบระดับสูงของพวกเขาเท่านั้นครับ”

“หลังจากลัทธิต้นกำเนิดถูกทำลาย สกายวิงก็เริ่มเคลื่อนไหวต่อเพื่อบุกโจมตีโดยไม่ให้ใครทันได้ตั้งตัว ตอนนี้สาวกลัทธิเทพโบราณก็ถูกสังหารไปจนหมดแล้วครับ”

“หลังจากสกายวิงจัดการสาวกระดับสูงของลัทธิเทพโบราณจนหมด ตอนนี้พวกเขาก็กำลังบุกโจมตีสาวกของลัทธิต้นกำเนิดไม่หยุด คาดว่าอีกไม่นานสาวกของลัทธิต้นกำเนิดก็น่าจะถูกสังหารตามลัทธิเทพโบราณไปครับ”

ทันทีที่สิ้นเสียงการรายงานจากสายลับทั้งสี่คน เหล่าบรรดาสมาชิกเผ่าเทพบนโต๊ะประชุมทุกคนต่างก็ขนลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

สกายวิงสมควรแล้วที่ถูกเรียกว่าเป็นตระกูลที่มีความเร็วสูงที่สุดในจักรวาล เพราะก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัวพวกเขาก็กำจัดศัตรูไปแล้วอย่างมากมาย ถึงขั้นที่ว่าในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นี้ ลัทธิต้นกำเนิดก็อาจจะถูกกวาดล้างลงไปแล้ว

อย่าลืมว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที แล้วมันก็คงจะไม่มีใครสามารถทำแบบนี้ได้นอกเสียจากตระกูลสกายวิง

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังรู้สึกตกตะลึง สายลับคนที่ 6 ก็รีบเข้ามาคุกเข่ารายงานด้วยความรวดเร็ว

“ตอนนี้ผู้ที่เหลือรอดชีวิตมีเพียงแค่นักรบระดับสูงของทั้งสามกองกำลังเท่านั้นครับ สมาชิกของตระกูลมูนวอร์ดและสาวกที่เหลือรอดของทั้งสองลัทธิพยายามกระจายกันหลบหนี แต่พวกเขาก็ถูกออกตามล่าจากนักรบระดับอัศวินกฎของสกายวิงจนหมด”

บรรยากาศแห่งความเงียบงันปกคลุมห้องประชุมแห่งนี้อีกครั้ง เมื่อการลงมือของสกายวิงเป็นสิ่งที่เฉียบขาดมากจนเกินไป

นี่มันเป็นการพยายามฆ่าล้างตระกูลกันชัด ๆ สกายวิงกำลังคิดที่จะถอนรากถอนโคนศัตรูของพวกเขาไม่ให้เหลือรอดชีวิตแม้แต่คนเดียวอยู่จริง ๆ

“พวกสกายวิงมันจะบ้าเกินไปใหญ่แล้ว! ถ้าหากบรรพบุรุษของพวกนั้นรู้เรื่องนี้ขึ้นมาแล้วพวกเขาจะยับยั้งปัญหาที่จะตามมาหลังจากนี้ได้ยังไง?!”

“ใช่ เรื่องนี้มันมีความเกี่ยวข้องกับสองลัทธิหลักของเผ่าเมอร์แมนด้วย บางทีเผ่ามนุษย์ของพวกเราอาจจะถูกลากให้เข้าไปร่วมกันรับผิดชอบเรื่องนี้กันทั้งเผ่าพันธุ์”

ฝูงชนต่างก็เริ่มส่งเสียงบ่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ เมื่อได้เห็นการลงมืออันโหดร้ายของสกายวิง

“เรื่องนี้มันไม่มีอะไรหรอก” ทันใดนั้นไซที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็พูดออกมา และเมื่อทุกคนได้ยินเสียงของชายชราคนนี้ มันก็ทำให้ทุกคนเงียบเสียงลงในทันที คล้ายกับว่ามันไม่มีใครกล้าจะทำให้ชายคนนี้รู้สึกไม่พอใจ

“ตราบใดก็ตามที่สกายวิงสามารถทำลายมูนวอร์ด, ลัทธิเทพโบราณและลัทธิต้นกำเนิดได้ในเวลาสั้น ๆ ฉันก็กล้าเดิมพันเลยว่ามันจะไม่มีใครกล้าไปทำอะไรพวกเขาหรอก”

“ทำไมล่ะครับ? นั่นมันคือการสังหารชีวิตมากกว่าสิบล้านชีวิตเลยนะครับ”

“ไม่ใช่ว่าเบื้องบนต้องการที่จะปราบปรามสกายวิงงั้นเหรอครับ?”

ฝูงชนในห้องประชุมเริ่มถามขึ้นมาด้วยความสับสน

“ใช่ พวกเบื้องบนต้องการที่จะปราบปรามสกายวิงจริง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางยอมสูญเสียดาบเล่มที่คมที่สุดของเผ่าเทพไปหรอก”

“หากใครคิดว่าพวกสกายวิงทำเป็นแต่เรื่องบ้า ๆ และเก่งแต่เรื่องการใช้กำลัง พวกคุณก็คิดผิดแล้ว เพราะความเป็นจริงทั่วทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด สกายวิงคือตระกูลที่ฉลาดและมีไหวพริบมากที่สุดต่างหาก” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฝูงชนเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ชายชราบอกว่าสกายวิงคือตระกูลมนุษย์ที่ฉลาดที่สุด

“หากทุกคนลองคิดให้ดี ๆ ไม่ว่าสกายวิงจะทำตัวเย่อหยิ่งมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งของเผ่าเทพอย่างเคร่งครัด” 

“ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเป็นนักรบที่เด็ดขาดมากที่สุดของเผ่าเทพ แม้ว่าพวกเขาจะกำจัด 1 ตระกูลกับ 2 ลัทธิลงไป แต่พวกเบื้องบนก็ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรกับพวกเขาอยู่ดี เพราะถ้าหากเบื้องบนลงโทษสกายวิง มันก็เท่ากับว่าเผ่าเทพจะสูญเสียกองกำลังหลักไปถึง 4 กองในคราวเดียว”

“อย่างมากที่สุดพวกเขาก็คงจะตักเตือนสกายวิงอย่างไม่พอใจเท่านั้น ไม่มีทางที่เบื้องบนจะเนรเทศสกายวิงออกไปอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญที่สุดฉันก็เชื่อว่าแม้แต่คนของทั้งสามกองกำลังภายในเผ่าเทพก็คงจะไม่รอดด้วยเหมือนกัน เมื่อถึงเวลานั้นใครจะมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพวกเขา”

“สกายวิงได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าพวกเขามีความเด็ดขาดและแข็งแกร่งมากแค่ไหน หลังจากสงครามครั้งนี้จบลงมันคงจะไม่มีใครกล้าเข้าไปยั่วยุพวกเขาอย่างต่ำนับร้อยปี การพยายามท้าทายสกายวิงมันก็อาจจะหมายถึงการถูกพวกเขาไล่ล่าสังหารทั้งตระกูล”

“ลองนึกดูสิว่าถ้าหากการที่สกายวิงสามารถกำจัดศัตรูแบบถอนรากถอนโคนจนหมด แต่พวกเขาก็ไม่ถูกเบื้องบนลงโทษ ในเวลานั้นมันจะมีข่าวลือแบบไหนหลุดรอดออกไปในดินแดนกฎ”

หลังจากได้ฟังคำวิเคราะห์จากชายชรา ทุกคนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าสกายวิงจะวางแผนการทุกอย่างเอาไว้อย่างซับซ้อนถึงขนาดนี้

“ช่างมันเถอะ ถึงแม้สกายวิงจะแสดงเรื่องนี้ให้พวกเราดูแต่พวกเราก็ไม่มีทางที่จะลอกเลียนแบบวิธีการของพวกเขาได้อยู่ดี สิ่งเดียวที่พวกเราพอจะทำได้ก็มีเพียงแค่การนั่งรับชมอยู่เฉย ๆ เท่านั้นแหละ” ไซกล่าว

“ทำไมพวกเราจะลอกเลียนแบบวิธีการของพวกเขาไม่ได้ล่ะ? พวกเราด้อยกว่าสกายวิงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ใครบางคนกล่าวถามอย่างไม่เต็มใจ

“พวกคุณคิดจะลอกเลียนแบบแผนการของสกายวิงงั้นเหรอ? ฉันขอถามหน่อยในที่นี้มีตระกูลของใครกล้าที่จะท้าทาย 3 กองกำลังพร้อมกันอย่างสกายวิงไหม? ตระกูลของพวกคุณกล้าที่จะท้าทายเผ่าเทพหรือเปล่า? ตระกูลของพวกคุณกล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงจากการถูกขับไล่ออกจากเผ่าเทพจริง ๆ เหรอ?” ชายชรากกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก

ทันทีที่คำอธิบายนี้หลุดออกไป มันก็ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามอื่นอีกทันที เพราะมันคงจะไม่มีใครบ้าทำเรื่องพวกนี้เหมือนกับพวกสกายวิง

“ฉันเคยได้ยินบรรพบุรุษของสกายวิงพูดกับสมาคมผู้เฒ่าว่า สกายวิงแค่อยู่ฝั่งเดียวกับเผ่าเทพเท่านั้น แต่พวกเขาไม่ได้ขายชีวิตตัวเองให้กับเผ่าเทพ ฉันขอถามตรงนี้ว่ามันมีใครกล้าที่จะพูดกับสมาคมผู้เฒ่าบ้าง?” ไซกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.