ตอนที่ 820 ถอนรากถอนโคน
ตอนที่ 820 ถอนรากถอนโคน
“ฉันรู้ว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่ยากมาก แต่ฉันก็เชื่อว่านายจะต้องรับบทบาทหมาป่าเดียวดายคนแรกของตระกูลได้อย่างดีแน่ ๆ” เซี่ยเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้กลับมาเข้าร่วมสกายวิงในตอนที่ชายหนุ่มโตแล้ว นอกจากนี้เขายังมีความคุ้นเคยกับการต่อสู้โดยลำพัง เซี่ยบูหยุนกับเซี่ยเทียนจึงลงความเห็นว่าเซี่ยเฟยควรทำหน้าที่เป็นหมาป่าเดียวดายเคลื่อนไหวอย่างอิสระท่ามกลางฝูงหมาป่าสกายวิง
นอกจากนี้ชายหนุ่มยังมีความคิดวิเคราะห์ที่เฉียบคมมาก การที่เขาเคลื่อนไหวอย่างอิสระจึงเป็นประโยชน์สำหรับตระกูลมากที่สุด
“ได้ครับ ผมจะพยายามอย่างดีที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
เมื่อเวลานัดหมายเดินทางมาถึง เซี่ยเทียนก็เริ่มเปิดประตูมิติอีกครั้งเป็นการให้สัญญาณว่าสกายวิงจะเริ่มจู่โจม
—
บริเวณนอกดินแดนกฎมียานรบขนาดใหญ่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลอันมืดมิด ยานรบประเภทนี้เป็นยานรบที่สามารถหาพบได้โดยทั่วไป โดยเฉพาะตระกูลขนาดใหญ่ต่างก็ล้วนแล้วแต่มียานรบลักษณะนี้อยู่อย่างน้อย 1 ลำ
แน่นอนว่ายานรบลักษณะนี้คือยานรบประเภทเดียวกับยานของตระกูลหยูที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน และบนตัวยานก็มีเมืองต่าง ๆ ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
เนื่องมาจากตระกูลมูนวอร์ดถูกขับไล่ออกมาจากกลุ่มดาวม้าขาว พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องหนีมาอาศัยอยู่บนยานรบขนาดใหญ่เป็นการชั่วคราวระหว่างรอหาสถานที่ปักหลักอันเหมาะสม
ณ ห้องบัญชาการยานรบ
เซียงชูเหรินผู้ซึ่งรับหน้าที่คอยบัญชาการยานรบยังคงบังคับยานอย่างมีความสุข เพราะเขารู้ดีว่าเหล่าบรรดานักรบระดับสูงของตระกูลกำลังแก้แค้นพวกสกายวิงอยู่
ความจริงแล้วสิ่งที่เซียงชูเหรินสมควรจะทำมากที่สุดในเวลานี้คือการพยายามแอบซ่อนยานรบเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น แต่เซียงชูเหรินไม่ได้สนใจเรื่องราวเหล่านั้นเลย เพราะเขารู้สึกว่าสกายวิงกำลังถูกกดดันอย่างหนัก และไม่มีทางโผล่หัวออกมาสร้างอันตรายกับยานลำนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วง 6 วันที่ผ่านมาสกายวิงยังถูกกดดันภายในเมืองสายลมอย่างหนัก มันจึงยิ่งทำให้เซียงชูเหรินรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง พวกสกายวิงถูกพวกเราปิดล้อมมานานกว่า 6 วันแล้ว ตอนนี้พวกมันคงจะเหนื่อยมากจนแทบที่จะไม่มีแรงสู้กลับแล้วล่ะมั้ง” เซียงชีฉางรองผู้บัญชาการยานรบกล่าวกับเซียงชูเหรินด้วยรอยยิ้ม
“พวกสกายวิงมันคงจะไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนเลยสินะว่าพวกมันจะถูกปิดล้อมไว้แบบนี้ ที่สำคัญกองกำลังของพวกเรายังเป็นกองกำลังผสมถึงสามฝ่าย อีกไม่นานพวกมันก็จะเริ่มหมดแรงและเคลื่อนไหวอย่างผิดพลาด เมื่อนั้นมันก็จะเป็นโอกาสที่พวกเรากำลังเฝ้ารอ” เซียงชูเหรินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฮ่า ๆ ๆ ๆ
ทั้งเซียงชูเหรินและเซียงชีฉางต่างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง คล้ายกับว่าพวกเขาได้รับชัยชนะเหนือสกายวิงเรียบร้อยแล้ว
“เอาล่ะพวกเราควรย้ายตำแหน่งกันได้แล้ว” เซียงชูเหรินกล่าว
“ไม่จำเป็นหรอกครับ พวกสกายวิงถูกทีมของท่านผู้นำปิดล้อมเอาไว้จนหมดแล้ว พวกมันไม่มีเวลามาทำอะไรพวกเราหรอก ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันก็เป็นนักรบที่มีศีลธรรม พวกมันไม่น่าจะมาโจมตีสมาชิกธรรมดาแบบพวกเราหรอก” เซียงชีฉางกล่าว
“นี่คือคำสั่งของท่านผู้นำว่าให้พวกเราทำการเปลี่ยนตำแหน่งทุก ๆ 1 ชั่วโมง ถึงแม้ไอ้โง่พวกนั้นจะยังมีศีลธรรมในสงครามก็ปล่อยพวกมันไป แต่พวกเราจะทำลายเมืองสายลมฆ่าสมาชิกธรรมดาของพวกมันให้หมดเลย” เซียงชูเหรินกล่าว
ฮ่า ๆ ๆ ๆ
เสียงหัวเราะอันหยิ่งผยองดังขึ้นอีกครั้ง และเนื่องมาจากความได้เปรียบของสถานการณ์ มันจึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะเมินเฉยคำสั่งเปลี่ยนตำแหน่งที่ผู้นำตระกูลของพวกเขากำชับเอาไว้
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ รูหนอนก็ถูกเปิดออกเหนือตำแหน่งของยานรบอย่างฉับพลัน ก่อนที่มันจะเริ่มมีเงาดำขนาดใหญ่เคลื่อนที่ออกมาจากรูหนอนอย่างรวดเร็ว
“แย่แล้ว! มันกำลังมียานรบพุ่งเข้าหาพวกเรา แบบนี้พวกเราจะต้องชนกับยานลำนั้นแน่ ๆ” เจ้าหน้าที่ที่คอยควบคุมระบบเรดาร์ตะโกนดังออกมาด้วยดวงตาที่แทบจะถลนออกมาจากเบ้า
การเคลื่อนไหวครั้งนี้อยู่เหนือเกินกว่าสามัญสำนึกของทุกคนอย่างชัดเจน เพราะจู่ ๆ มันก็ได้มียานรบปรากฏออกมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเป้าหมายของยานรบลำนั้นคือการพุ่งเข้าชนกับยานรบของพวกเขาโดยตรง
“อย่าไปกลัว! ยานของพวกเราเป็นยานประจัญบานระดับ B- ที่ถูกปกป้องด้วยพลังกฎ ดัชนีป้องกันยานของพวกเราอยู่ในระดับที่สูงมาก ยานธรรมดาไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายให้กับพวกเราได้ ถึงแม้ว่ามันจะพุ่งเข้ามาชนกับพวกเราตรง ๆ แต่ยานของพวกมันนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายพังทลายลงไปเอง”
ระหว่างนั้นเองยานรบครึ่งลำก็โผล่ออกมาจากรูหนอน เผยให้เห็นปากกระบอกปืนสีดำคู่หนึ่งที่กำลังเล็งตรงไปยังยานรบของพวกมูนวอร์ด
แม้ว่ายานรบที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลมูนวอร์ดจะสามารถบรรจุสมาชิกของตระกูลได้หลายสิบล้านคน แต่เมื่อเทียบกับยานรบที่กำลังปรากฏตัวออกมา ยานรบของพวกเขาก็ดูเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่ไปเลย
ไม่เพียงแต่ยานรบที่พึ่งปรากฏตัวจะมีขนาดใหญ่กว่ายานรบของมูนวอร์ดเท่านั้น แต่รูปร่างของมันยังดูโฉบเฉี่ยวและอันตรายมากกว่ายานรบโดยทั่วไปอีกหลายเท่า
เมื่อเคลื่อนที่ออกจากรูหนอน ยานที่มีรูปร่างคล้ายขวานขนาดใหญ่ก็พุ่งตรงเข้าหายานรบของมูนวอร์ดด้วยความเร็วสุดกำลัง
นั่นมันยานอีวิลซีเครด ยานรบระดับ A ของสกายวิง! ไม่ใช่ว่ายานลำนั้นมันถูกทิ้งร้างไปแล้วเหรอ?!” เซียงชูเหรินอุทานขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เพราะท้ายที่สุดเมื่อเขาสามารถระบุตัวตนของยานรบตรงหน้าได้ มันก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสกายวิงเริ่มทำการโต้ตอบเข้าใส่พวกเขาแล้ว
ศีลธรรมในสนามรบ?
หากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการปะทะกันแบบธรรมดา สกายวิงย่อมสู้รบอย่างมีศีลธรรมอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะแตะต้องเมืองสายลมของพวกเขาก่อน สกายวิงก็พร้อมที่จะถอนรากถอนโคนศัตรูด้วยเช่นกัน
เมื่อสกายวิงตัดสินใจที่จะถอนรากถอนโคน แม้แต่คนธรรมดาของตระกูลมูนวอร์ดก็ต้องถูกสังหารโดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะบรรพบุรุษของสกายวิงได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเขาต้องสังหารศัตรูให้ราบคาบห้ามปล่อยให้ใครเหลือรอดกลับไปแม้แต่คนเดียว
ตูม!
พื้นที่ส่วนแหลมคมของยานรบขนาดยักษ์พุ่งเข้าชนยานรบขนาดเล็กกว่าของมูนวอร์ดอย่างสุดกำลัง ทันใดนั้นมันก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโหมกระหน่ำไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
นี่คือการปะทะกันระหว่างยานรบกับยานรบ แต่น่าเสียดายที่ยานรบของตระกูลมูนวอร์ดเป็นเพียงแค่ยานรบระดับ B- เท่านั้น ขณะที่ยานรบของสกายวิงคือยานรบระดับ A!
ความจริงแล้วอีวิลซีเครดก็ถูกจอดนิ่ง ๆ ทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ผู้คนเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีเข็มทิศมิติ การขับเคลื่อนครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการขับเคลื่อนครั้งแรกในรอบหลายสิบปี และมันก็มีหน้าที่ในการสังหารสมาชิกของตระกูลมูนวอร์ดหลายสิบล้านคน!!
—
ในเวลาเดียวกันกับยานรบอีวิลซีเครดพุ่งเข้าปะทะกับยานรบของพวกมูนวอร์ด เหล่าบรรดาฝูงหมาป่าของสกายวิงก็เคลื่อนที่เข้าไปในอาณาเขตของเผ่าเมอร์แมน
“นี่คือเรื่องของสกายวิง ใครไม่เกี่ยวไสหัวออกไปซะ!” นักรบสกายวิงส่งเสียงตะโกนเมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าเมอร์แมนที่พวกเขาไม่รู้จัก เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือลัทธิเทพโบราณและลัทธิต้นกำเนิด
“สกายวิง!?”
“ทำไมตระกูลมนุษย์ถึงบุกเข้ามาในดินแดนของเรา”
ฝูงชนต่างก็รีบหลบหนีอย่างสับสน และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ชื่อเสียงของสกายวิงก็โด่งดังไปทั่วทั้งดินแดนกฎ มันจึงไม่มีใครอยากที่จะเข้าไปขวางกลุ่มคนบ้าพวกนี้
“นั่นคือวิหารของพวกมัน! ฆ่าสาวกของพวกมันให้หมด! ห้ามให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว!!” เซี่ยบูหยุนกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังวิหารขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
เมื่อถูกรุกรานสกายวิงก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าลัทธิเทพโบราณมีความเข้าใจผิดอะไรกับพวกเขาหรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดศัตรูก็คือศัตรู พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องอธิบายเหตุผลอะไรให้กับศัตรูอีกต่อไปแล้ว
ฟุบ ๆ ๆ ๆ
เงาสีดำพุ่งผ่านตัวเมืองไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเซี่ยเฟยก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าวิหารของนิกายต้นกำเนิดจะตั้งอยู่ในตลาดที่ค่อนข้างจะคึกคักเช่นเดียวกัน แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะท้ายที่สุดศัตรูก็ต้องถูกพวกเขากำจัดทิ้งทั้งหมด
เหล่าบรรดานักรบระดับสูงทั้งหมดของลัทธิต้นกำเนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่ไปเข้าร่วมทีมที่บุกโจมตีเมืองสายลมกันจนหมดแล้ว ภายในวิหารจึงไม่เหลือนักรบที่คอยปกป้องอีกต่อไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นจึงกลายเป็นการสังหารหมู่อันโหดร้าย โดยที่ทางฝั่งลัทธิต้นกำเนิดไม่สามารถจะโต้ตอบใด ๆ ได้เลย
ในฐานะที่สกายวิงคือนักรบสายความเร็ว แม้ว่าในวิหารจะมีสาวกลัทธิต้นกำเนิดอยู่มากกว่า 7,000 คน แต่พวกเขาก็ใช้เวลาในการกวาดล้างสาวกทุกคนในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น
เร็ว!
เร็วมาก!
ฝูงหมาป่าสกายวิงทำหน้าที่คล้ายกับเครื่องจักรสังหารที่เมื่อพวกมันถูกเปิดใช้งาน ศัตรูก็จะถูกกำจัดลงไปอย่างรวดเร็ว
ฟุบ ๆ ๆ ๆ
เมื่อปฏิบัติภารกิจสำเร็จสกายวิงก็ถอยกลับมาหาเซี่ยบูหยุนด้วยความรวดเร็ว โดยการลงมือในครั้งนี้จักรพรรดิกฎของสกายวิงยังไม่ทันได้เริ่มลงมือเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฆ่าพวกมันหมดแล้วครับ” สมาชิกสกายวิงเริ่มรายงาน
เซี่ยบูหยุนพยักหน้ารับเล็กน้อย จากนั้นตัวเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศก่อนที่มันจะปรากฏฝ่ามือขนาดใหญ่ขึ้นมาเหนือวิหารของลัทธิต้นกำเนิด
นี่คือพลังของกฎมิติ!
ตระกูลสกายวิงไม่ได้ทำการฝึกฝนเพียงแค่กฎแห่งความเร็วเท่านั้น เพราะพวกเขาก็สามารถที่จะใช้กฎมิติในการจู่โจมได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ตูม!
มือขนาดยักษ์ฟาดลงมาทำลายวิหารของลัทธิต้นกำเนิดโดยตรง และมันก็ก่อให้เกิดหลุมลึกขึ้นมาบนพื้นดินโดยมีรัศมีแผ่ออกไปอีกหลายกิโลเมตร
ฐานที่มั่นของลัทธิต้นกำเนิดถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว!!
“เอาล่ะต่อไปก็เหลือแค่กองกำลังหลักของพวกมันแล้ว จำเอาไว้อย่าปล่อยให้ใครเหลือรอดกลับไปได้เป็นอันขาด!” เซี่ยบูหยุนกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เมื่อได้รับคำสั่งแววตาของฝูงหมาป่าก็เบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
เฮ้!!
นักรบสกายวิงส่งเสียงร้องคำรามดังกึกก้อง ซึ่งในตอนนี้ศัตรูก็เหลือรอดอยู่เพียงแค่นักรบระดับสูงภายในกลุ่มของตัวเองเท่านั้น
ราชากฎ 40 คนกำลังจะปะทะกับราชากฎนับ 100 คน!
สงครามที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
***************
เอาเล้ยยยยยยยยยยยย


แสดงความคิดเห็น