ตอนที่ 822 ความผิดพลาดร้ายแรง
ตอนที่ 822 ความผิดพลาดร้ายแรง
ณ หุบเขาโฟลทติงสตาร์ ซึ่งเป็นค่ายพักชั่วคราวของสามกองกำลังที่ประกอบไปด้วยตระกูลมูนวอร์ดและลัทธิจากเผ่าเมอร์แมนทั้งสองตระกูล
ปัจจุบันค่ายแห่งนี้ถูกนักรบสกายวิงล้อมรอบเอาไว้ อย่างไรก็ตามเหล่าบรรดาฝูงหมาป่ากระหายเลือดกลับไม่เลือกที่จะจู่โจมเข้าใส่ศัตรูในทันที แต่พวกเขากลับเปิดหน้าจอแสงขนาดใหญ่เพื่อฉายภาพการทำลายล้างสมาชิกของตระกูลและทั้งสองนิกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่นะ! ตระกูลของพวกเราถูกทำลายล้างไปแล้ว!!”
“ลูกแม่! ลูกจะทิ้งแม่ไปแบบนี้ไม่ได้!!”
“สกายวิงมันจะโหดเหี้ยมมากจนเกินไปแล้ว! ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันก็จะไม่หยุดจนกว่าจะได้แก้แค้นให้กับครอบครัว”
ภาพโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนของตระกูลมูนวอร์ดมีความโหดเหี้ยมมาก และมันก็ทำให้นักรบจากตระกูลมูนวอร์ดทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ
ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนว่าสกายวิงจะตอบโต้อย่างโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ เพราะสกายวิงกล้าที่จะเมินเฉยต่อกฎเกณฑ์ที่จะไม่ทำร้ายสมาชิกทั่วไปของตระกูล สมาชิกของตระกูลมูนวอร์ดมากกว่าสิบล้านชีวิตจึงถูกทำลายลงไปอย่างฉับพลัน และกระบวนการที่สกายวิงได้ใช้ในการทำลายสมาชิกเหล่านี้นั้นพวกเขาก็ใช้เวลาไปเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น
อันที่จริงมูนวอร์ดก็ไม่สมควรที่จะต่อว่าสกายวิงได้เต็มปาก เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มบุกจู่โจมเมืองสายลมของสกายวิงก่อน ทางสกายวิงก็เพียงแค่โต้กลับด้วยวิธีเดียวกัน เพียงแต่วิธีการของพวกเขานั้นโหดร้ายกว่ามูนวอร์ดหลาย 100 เท่า
กฎเกณฑ์?
สกายวิงเป็นคนที่สนใจเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ระหว่างที่ได้เห็นภาพของเศษซากยานอวกาศล่องลอยอยู่ในท้องฟ้าอันมืดมิด เหล่าบรรดานักรบระดับสูงของมูนวอร์ดต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลาย แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้คือเหตุการณ์ที่สกายวิงกำลังคาดหวังเอาไว้
หากพวกเขาต้องการจะบดขยี้ศัตรูที่มีกองกำลังเหนือกว่า อันดับแรกพวกเขาก็ควรจะต้องทำลายขวัญกำลังใจของศัตรูลงให้ได้เสียก่อน
สีหน้าของเซียงจินเฉิงบิดเบี้ยวครั้งแล้วครั้งเล่า เนื่องจากเขารู้ดีว่าการฉายภาพนี้คือแผนการร้ายของสกายวิง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่นักรบทางฝั่งของเขาเริ่มจู่โจมโดยไร้สติ เมื่อนั้นเหล่าบรรดานักรบที่ไร้สติก็ไม่มีทางจะสร้างอันตรายให้กับนักรบความเร็วสูงของสกายวิงได้
สกายวิงรู้ดีว่าการจู่โจมอย่างมีแบบแผนกับการจู่โจมโดยลำพังมีความต่างกันมากแค่ไหน เพราะพวกเขาก็คือผู้เชี่ยวชาญในการจู่โจมตามแบบแผนของตระกูลด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากพวกเขาไม่สามารถทำลายขวัญกำลังใจของศัตรูได้ พวกเขาก็ไม่สามารถจะเอาชนะศึกที่มีจำนวนห่างชั้นกันเช่นนี้ได้ด้วยเหมือนกัน
“ทุกคน! พวกเราออกไปฆ่าพวกสกายวิงกันเถอะ!!”
ใครบางคนส่งเสียงตะโกนขึ้นมา แล้วมันก็เริ่มทำให้นักรบมูนวอร์ดที่โกรธจนแทบจะเป็นบ้าเริ่มวิ่งออกไปเพื่อแก้แค้นนักรบสกายวิง
“ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!” เซียงจินเฉิงตะโกนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด แต่น่าเสียดายที่นักรบส่วนใหญ่ของตระกูลรู้สึกโกรธจนแทบจะไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว มันจึงมีคนเพียงแค่บางส่วนที่หยุดตามคำสั่งของเขา ขณะที่นักรบอีกบางส่วนเลือกที่จะบุกจู่โจมเข้าใส่สกายวิงโดยไม่สนใจคำสั่งจากเขาเลย
สถานการณ์ในปัจจุบันดีกว่าสิ่งที่สกายวิงคาดคิดเอาไว้มาก เพราะยิ่งศัตรูขาดสติมากเท่าไหร่ ศัตรูเหล่านี้ก็ยิ่งไม่มีพิษมีภัยต่อพวกเขามากขึ้นเท่านั้น
เซี่ยบูหยุนโบกมือส่งสัญญาณให้ฝูงหมาป่าจู่โจมเข้าใส่นักรบมูนวอร์ดที่กำลังโกรธจนเสียสติจำนวนนับสิบคน
นักรบพวกนี้เป็นเพียงแค่นักรบที่หลุดออกมาจากกองกำลังของตัวเองเท่านั้น และพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะต้านทานฝูงหมาป่าของสกายวิงที่มีจำนวนนักรบนับ 40 คนได้
ฟุบ ๆ ๆ ๆ ๆ
เงาสีดำเคลื่อนที่ผ่านศัตรูด้วยความเร็วสูง และไม่ว่าร่างของพวกเขาจะเคลื่อนที่ผ่านใครไป นักรบคนนั้นก็จะถูกสังหารอย่างไร้ปรานี
ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ไม่ได้เข้าร่วมกับการจู่โจมในครั้งนี้ เพราะเขายังคงสำรวจอยู่บริเวณวงนอกเพื่อมองหาจุดเจาะทะลวงที่เหมาะสม หรือมองหาศัตรูที่หลงออกมาจากกลุ่มเพียงลำพัง
“แปลกมาก ทำไมที่ค่ายถึงมีแต่คนของลัทธิเทพโบราณกับคนของมูนวอร์ด คนของพวกลัทธิต้นกำเนิดหายไปไหนหมด?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ
—
ณ สวนสายลม
เมื่อนักรบสกายวิงทั้งหมดเดินทางออกไป สวนสายลมแห่งนี้จึงหลงเหลือเพียงแต่เซี่ยอู๋เย่ผู้ซึ่งเป็นพ่อบ้านชราเพียงแค่คนเดียว
ปัจจุบันเซี่ยอู๋เย่ยืนอยู่ที่ลานหน้าบ้านพร้อมกับถือถ้วยน้ำชาภายในมืออย่างสง่าผ่าเผย โดยในบางครั้งเขาก็ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบบ้างเป็นครั้งคราว
สมาชิกทุกคนในตระกูลต่างก็ออกไปสู้รบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เซี่ยอู๋เย่จึงรู้สึกอึดอัดจนแทบจะทนไม่ได้ ความรู้สึกภายในร่างกายของเขามันดูคล้ายกับพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
พ่อบ้านชราก้มศีรษะลงมาเพื่อดูนาฬิกาบนเข็มทิศมิติ และเขาก็ได้พบว่าเวลาได้ผ่านพ้นไปนานกว่านาทีครึ่งแล้วนับตั้งแต่ที่สกายวิงเริ่มแผนการตอบโต้เข้าใส่ศัตรู
ในฐานะตระกูลเจ้าแห่งความเร็ว การลงมือของสกายวิงจึงไม่ได้คำนวณเป็นนาทีหรือชั่วโมง เหมือนกับตระกูลโดยทั่ว ๆ ไป เพราะแผนการของพวกเขาได้ใช้หน่วยนับเป็นวินาที
ทุก ๆ วินาทีนักรบสกายวิงสามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย ซึ่งสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในแต่ละ 1 วินาทีนั้นเป็นสิ่งที่คนจากตระกูลอื่นไม่สามารถจะจินตนาการได้อย่างแท้จริง
เซี่ยอู๋เย่มีความคุ้นเคยกับกลยุทธ์ฝูงหมาป่าของสกายวิงมาเป็นเวลานานแล้ว ตราบใดก็ตามที่เขายังคงทนรอได้ไปอีก 15 นาที สงครามในครั้งนี้มันก็น่าจะจบลงโดยสมบูรณ์
แต่ในทันใดนั้นเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะจู่ ๆ มันก็ได้มีร่างปริศนาปรากฏตัวขึ้นมาประมาณ 30 คน
แน่นอนว่าคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกเสียจากราชากฎ 32 คนและจักรพรรดิกฎอีกหนึ่งคนของลัทธิต้นกำเนิดที่หายตัวไปจากค่ายภายในหุบเขาโฟลทติงสตาร์
เมื่อกองกำลังผสมค้นพบว่านักรบสกายวิงถอนตัวออกไปจากเมืองสายลม พวกเขาก็เริ่มมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน โดยมูนวอร์ดกับลัทธิเทพโบราณมีความเห็นว่าพวกเขาควรรอข่าวอยู่ที่ค่าย แล้วค่อยวางแผนเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง แต่ลัทธิต้นกำเนิดรู้สึกว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะบุกโจมตีสวนสายลม
ท้ายที่สุดสวนสายลมกับเมืองสายลมก็มีการเชื่อมต่อกันด้วยประตูมิติขนาดใหญ่ และในตอนนี้มันก็ไม่มีใครคอยปกป้องฐานที่มั่นของสกายวิงเอาไว้เลย หากพวกเขาแอบโจมตีสวนสายลมในเวลานี้ พวกเขาย่อมสร้างความคับแค้นใจให้กับสกายวิงได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือพวกเขาควรจะต้องเริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ตอนนี้เลย
โมดูผู้ซึ่งเป็นผู้นำของลัทธิต้นกำเนิดเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก และเขาก็ตัดขาดจากโลกภายนอกมานานจนไม่รู้ว่าสกายวิงคือตระกูลที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน ในความคิดเห็นของเขาอย่างมากที่สุดสวนสายลมก็มีการปกป้องจากจักรพรรดิกฎ 1 คนและราชากฎอีกสองคนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังใดใน 3 กองกำลังของพวกเขาก็สามารถที่จะบดขยี้สวนสายลมได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่ทั้งมูนวอร์ดและลัทธิเทพโบราณต่างก็ไม่เห็นด้วยกับแผนการของโมดู เขาจึงนำคนของตัวเองมาที่สวนสายลมด้วยความโกรธ ซึ่งมันก็เป็นเวลาช่วงเดียวกันกับที่ฝูงหมาป่าสกายวิงได้เดินทางไปจนถึงหุบเขาโฟลทติงสตาร์
การปรากฏตัวของคนเหล่านี้ทำให้เซี่ยอู๋เย่ตกใจในทันที และเมื่อเขาสามารถระบุได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ มันก็หมายความว่าศัตรูจะต้องเป็นสาวกของลัทธิเทพโบราณหรือไม่ก็ลัทธิต้นกำเนิดสักลัทธิหนึ่ง
โมดูออกคำสั่งโจมตีอย่างเย็นชา แต่ในทันใดนั้นเข็มทิศมิติของเขาก็ส่งเสียงสัญญาณแจ้งเตือนขึ้นมาอย่างกะทันหัน และที่สำคัญมันยังเป็นสัญญาณการแจ้งเตือนฉุกเฉิน
เจ้าลัทธิรีบหยิบเข็มทิศมิติขึ้นมาตรวจสอบโดยทันที ก่อนที่เขาจะได้ทราบข่าวจากเซียงจินเฉิงว่าตอนนี้ฝูงหมาป่าสกายวิงบุกจู่โจมฐานที่มั่นของพวกเขาแล้ว
“พวกมันเคลื่อนไหวกันได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” โมดูผู้ไม่คุ้นชินกับความเร็วของสกายวิงอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมากแล้ว แต่ในความเป็นจริงเขายังเคลื่อนไหวช้ากว่าสกายวิงอยู่มาก
ในเวลาเพียงแค่นาทีครึ่งสกายวิงก็สามารถกวาดล้างสมาชิกธรรมดาของ 3 กองกำลังได้สำเร็จ ขั้นตอนต่อไปมีเพียงแค่การทำลายสมาชิกระดับสูงของทั้งสามกองกำลังลงเพียงเท่านั้น
น่าเสียดายที่ในระหว่างสกายวิงบุกโจมตี โมดูได้นำกองกำลังออกมาบุกเข้าใส่สวนสายลมพอดิบพอดี และการเคลื่อนไหวของเขาในครั้งนี้มันก็ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดอันร้ายแรง
แม้ว่าโมดูจะเย่อหยิ่งแต่เขาก็รู้ดีว่าการรวมกำลังกันคือวิธีการเดียวที่พวกเขาจะสามารถเอาชนะสกายวิงได้ เขาจึงยกเลิกแผนการทำลายสวนสายลม และรีบสั่งการให้ทุกคนกลับไปยังหุบเขาโฟลทติงสตาร์
หากมูนวอร์ดกับลัทธิเทพโบราณถูกกำจัด เมื่อนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะรับมือสกายวิงเพียงลำพังได้ด้วยเช่นกัน
“รีบกลับหุบเขาโฟลทติงสตาร์เดี๋ยวนี้!” โมดูตะโกนสั่งการเพื่อยกเลิกแผนการทำลายสวนสายลม
“กลับ!? ท่านผู้นำไหน ๆ พวกเราก็มาถึงสวนสายลมแล้ว พวกเรารีบ ๆ ฆ่าตาแก่นั่นแล้วทำลายสวนสายลมก่อนที่จะกลับไปที่ฐานกันเถอะ”
“ใช่ครับ เรื่องแค่นี้พวกเราเสียเวลาไม่นานหรอก”
เหล่าบรรดาสาวกของลัทธิต้นกำเนิดไม่ได้รู้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาจึงพยายามรบเร้าบอกโมดูว่าพวกเขาต้องการที่จะสังหารเซี่ยอู๋เย่และบุกทำลายสวนสายลม
“สกายวิงบุกไปถึงฐานของพวกเราแล้ว ถ้าหากว่าพวกเราไม่กลับไปบางทีพวกเราก็อาจจะพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ได้เลย” โมดูร้องคำรามกลับไปด้วยความโกรธ
เหล่าบรรดาสาวกของลัทธิต้นกำเนิดต่างก็สะดุ้งขึ้นมาโดยไม่ทันได้ตั้งใจ เพราะมันไม่มีใครคาดคิดว่าสกายวิงจะเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้
ทันใดนั้นเซี่ยอู๋เย่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดก็ปลดปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างบ้าคลั่ง ท้ายที่สุดเขาก็รู้ดีว่าฝูงหมาป่าของสกายวิงจะต้องเผชิญหน้ากับราชากฎ 107 คนกับจักรพรรดิกฎอีก 6 คน หากคนกลุ่มนี้กลับไปยังฐานที่มั่นของตัวเองได้ นักรบสกายวิงย่อมจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างแน่นอน
พ่อบ้านชรารู้สึกอัดอั้นมาโดยตลอดที่เขาไม่สามารถก้าวเท้าออกไปจากสวนสายลมเพื่อต่อสู้เคียงข้างกับฝูงหมาป่าสกายวิงได้ แต่ในเมื่อพวกโง่จากลัทธิต้นกำเนิดกล้าโผล่หน้าเข้ามาหาตัวเขาเองแบบนี้ เซี่ยอู๋เย่ก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อชะลอให้ศัตรูกลับไปยังฐานที่มั่นของตัวเองอย่างเชื่องช้าที่สุด
เมื่อได้ข้อสรุปภายในใจ พ่อบ้านชราก็เริ่มเหยียดแขนออกไปเรียกพลังกฎออกมาอย่างรุนแรง
‘แม้ว่าฉันจะตาย แต่ฉันก็จะต้องหยุดพวกมันเอาไว้ให้ได้!’ เซี่ยอู๋เย่สัญญากับตัวเองภายในใจอย่างเงียบ ๆ
ในที่สุดอดีตอาชญากรของเผ่าเทพก็เริ่มลงมืออีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างของพ่อบ้านชราได้กลายเป็นสีแดงก่ำ ซึ่งพลังทั้งหมดที่เขาปลดปล่อยออกมามันก็ทำให้ศัตรูทุกคนขนลุกโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฝ่ามืออาชูร่า!
พ่อบ้านชราส่งเสียงร้องคำรามออกมาดังลั่น พร้อมกับเริ่มใช้วิชาจู่โจมแบบวงกว้างเพื่อเปิดฉากใส่ศัตรู
วินาทีถัดมาฝ่ามือขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็ว โดยกลยุทธ์ของพ่อบ้านชราในตอนนี้คือสิ่งที่เรียบง่ายมาก เพราะเขาจะต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อถ่วงเวลาศัตรูเอาไว้ให้ได้นานที่สุด
“อย่าปะทะกับมัน! รีบกลับไปที่หุบเขาโฟลทติงสตาร์เดี๋ยวนี้!!” โมดูตะโกนออกคำสั่งอย่างเคร่งเครียด
“กลับ!? ในเมื่อพวกแกกล้ามาเหยียบบ้านของสกายวิง แม้ว่าพวกแกจะต้องการกลับแต่อย่างน้อยพวกแกก็ต้องทิ้งขาของตัวเองเอาไว้” เซี่ยอู๋เย่ร้องคำรามด้วยน้ำเสียงที่บ้าคลั่ง
***************
ศึก 2 ด้านอีกแล้วววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 431
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น