ถนนเส้นเดียวกัน

-A A +A
ถนนเส้นเดียวกัน

ถนนเส้นเดียวกัน

มนัทเดินโซเซออกมาจากบาร์เหล้าร้านประจำ ร้านนี้เป็นร้านที่ชายหนุ่มและเพื่อนๆ นัดกันมาสังสรรค์กันแทบทุกคืน เนื่องเพราะทางบ้านค่อนข้างมีฐานะ ดังนั้นเมื่อมนัทเรียนจบชั้นมหาวิทยาลัยด้วยเกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เขาจึงไม่ต้องดิ้นรนหางานทำเหมือนกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ เพราะต่อให้เขาไม่ทำอะไรเลยทั้งชีวิต มนัทก็เชื่อว่าทางบ้านคงมีเงินให้เขาใช้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว

 

ร่างสูงที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าและกลิ่นควันบุหรี่ก้าวโซซัดโซเซตรงเข้าไปยังลานจอดรถของบาร์ เมื่อเขาเข้าไปนั่งในรถเก๋งยี่ห้อดังที่เขาภูมิใจหนักหนา มนัทก็สตาร์ทรถแล้วเร่งเครื่องออกจากร้านเหล้าไปด้วยความเร็วอย่างคะนองในอารมณ์

 

ถนนที่ปลอดรถในยามเที่ยงคืน ประกอบกับเสียงเพลงแนวร็อคที่ปลุกใจ ทำให้มนัทเพิ่มความเร็วของรถคู่ใจขึ้นไปอีกหลายระดับ เขาเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญในการขับของเขา ความเร็วแค่นี้ยังถือว่าช้าไปด้วยซ้ำ เรื่องที่กลัวรถจะเสียหลักหรือไปชนใครเข้า ไม่ได้อยู่ในหัวสมองของชายหนุ่มเลยแม้เพียงนิดเดียว

 

มนัทไม่ใช่พวกไก่อ่อนที่มักจะคุมรถไม่อยู่ในเวลาเมา เพราะตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงบัดนี้ เขายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน และเขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา ไอ้เรื่องพันนั้นไม่มีทางจะเกิดขึ้นกับคนอย่างเขาได้แน่นอน

 

 

 

เชิดชัยใช้เวลาขณะรออาหาร นั่งดูข่าวที่กำลังฉายผ่านทางทีวีในร้านขายข้าวต้มในยามดึกไปพลางๆ ซึ่งข่าวที่ถูกนำเสนอก็มีแต่เรื่องไม่ดีในสังคมทั้งนั้น ทั้งข่าวคนฆ่าตัวตาย ข่าวคนใช้อาวุธสังหารกันอย่างเลือดเย็น ข่าวเด็กวัยรุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อนาคตของชาติ’ ไล่ฟันแทงกันไม่เว้นแต่ละวัน

 

เชิดชัยได้แต่ต้องถอนหายใจ อย่าว่าแต่เป็นอนาคตของชาติเลย ในความคิดของชายวัยกลางคน แม้แต่เป็นอนาคตของตัวเองหรือของครอบครัว เด็กพวกนี้ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

 

เชิดชัยนั่งรอข้าวต้มที่สั่งไปราวสิบนาที พนักงานของร้านก็เดินถือถุงอาหารที่สั่งไปมาให้ที่โต๊ะ เขารีบจ่ายเงินแล้วขับรถมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่ออกจากร้าน แล้วมุ่งหน้าไปตามถนนเพื่อกลับบ้าน

 

สายลมเย็นในยามเที่ยงคืน ทำให้ชายวัยกลางคนอดเผลอตัวสั่นเพราะความหนาวเสียไม่ได้ ทีแรกคิดว่าคงไม่ได้ไปที่ไหนใกล แต่เพราะร้านขาประจำที่อยู่ละแวกบ้านดันไม่เปิด เขาเลยต้องถ่อขับรถมาซื้ออีกซอยหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างบ้านออกมาไกลอีกพอสมควร

 

นึกแล้วก็ชักเป็นห่วงคนที่เชิดชัยซื้อข้าวต้มไปให้ เพราะเขารู้ว่าป่านนี้ คนคนนั้นคงยังไม่ได้กินข้าวปลามาแน่ๆ แค่ขับเลยผ่านแยกข้างหน้านี้ไปอีกราวห้านาทีก็จะถึงบ้านของชายวัยกลางคนแล้ว

 

 

 

มนัทกระทืบเบรกจนเกิดเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังแหลมบาดหู เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ อย่างหน้าหวาดเสียว แทนที่ชายหนุ่มจะตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตน ทว่าเขากลับผุดรอยยิ้มสมใจขึ้นมาบนใบหน้าเสียอย่างนั้น

 

ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะไม่ได้มีขนาดกว้างขวางเหมือนถนนหลวงเส้นที่ชายหนุ่มเพิ่งผ่านมา แต่ความเร็วของรถก็ไม่ได้ลดน้อยลงเท่าใดนัก ด้วยเพราะถนนเส้นนี้เขาขับผ่านมันมาแทบทุกคืน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่า ถนนเส้นนี้ดูว่างเปล่าแค่ไหน นอกจากเขาแล้ว ก็คงไม่มีใครใช้ถนนเส้นนี้อีกแล้ว

 

ชายหนุ่มคิดแบบนั้นจนกระทั่งเมื่อขับมาถึงสี่แยกแห่งหนึ่ง ในเวลานั้นเอง เขาก็มองเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับเลี้ยวออกมาจากซอยใหญ่ด้านซ้ายมืออย่างกระทันหัน รถคันนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทิศเดียวกันกับที่ชายหนุ่มกำลังไป

 

ที่จริงแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเลย หากรถของเขาจะไม่วิ่งมาด้วยความเร็วจนเกินไป เพราะด้วยระยะห่างเพียงเท่านี้ จะอย่างไรย่อมเบรกได้ทันอยู่แล้ว หากทว่าในเวลานี้ และเหตุการณ์นี้...มันไม่ได้เป็นแบบนั้น!

 

เพราะด้วยความคาดไม่ถึง ด้วยความเมาที่ยังตกค้าง ด้วยความเร็วของรถ สมองของชายหนุ่มกลับสั่งการให้ท้าวของเขาเหยี่ยบเบรกช้าไป

 

เพียงเสี้ยววิ ก่อนที่รถเก๋งของเขาจะพุ่งเข้าปะทะกับรถมอเตอร์ไซค์เบื้องหน้า แสงไฟหน้ารถก็สะท้อนให้เขาเห็นแผ่นหลังอันคุ้นเคย ใบหน้าที่หันกลับหลังมามองด้วยความตกใจนั้นก็ช่างดูคุ้นเคยเหลือเกิน

 

...ภายในใจกรีดร้องว่า ‘ไม่ๆๆๆ’ หัวใจราวถูกแรงอันมหาศาลจากการพุ่งชนฉีดแยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสี้ยววิก่อนที่จะหมดสะติ มนัททำได้เพียงหลุดปากเรียกคนที่เขาช่างคุ้นเคยออกมาได้เพียงครึ่งคำ ก่อนที่เสียงโครมจากการกระแทกชนจะดังสนั่นลั่นไปทั้งยามวิกาล

 

 

 

มนัทนั่งเหม่อลอยอย่างคนไร้สติอยู่ภายในห้องขัง หากเขารู้ว่าเพราะความคึกคะนอง เพราะความประมาทในการใช้ชีวิตของเขา ต้องทำให้ ‘พ่อ’ ของเขาต้องตายในคืนนั้น เขาก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

 

เขารู้แล้วว่าการกระทำของเขามันเลวร้ายแค่ไหน เพราะคนที่จะกระทบกับการใช้ชีวิตของเขามันไม่ได้มีแค่ตัวเขาเพียงคนเดียว แต่มันยังรวมไปถึงคนอื่นๆ ด้วย คืนนั้นหากเขาไม่เมา หากเขาไม่ประมาทจนยากจะแก้ไข พ่อของเขาก็คงไม่ตาย ตายด้วยน้ำมือของเขาเองแบบนี้

 

ในคืนนั้นเขาน่าจะคิดได้ว่า ‘ถนน’ เส้นนั้น หรือถนนทุกเส้นไม่ได้มีเขาใช้มันอยู่แค่คนเดียว แต่มันมีไว้สำหรับทุกคน และคนที่ใช้มันควรระมัดระวัง เพื่อตัวเอง...และเพื่อคนอื่นด้วย

 

เพราะหากเหตุการณ์ร้ายๆ มันเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเองเหมือนที่มันเกิดขึ้นกับเขา...มันก็คงจะกลับไปแก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านครับ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.