ตอนที่ 809 ผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน

-A A +A

ตอนที่ 809 ผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 809 ผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน

ชายหนุ่มเรียกประตูมิติออกมา ก่อนที่จะหันหน้ามองกลับไปยังบ้านของฮัวหยูตงด้วยรอยยิ้ม

โอโร่ยังคงส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่หยุด หลังจากที่ได้เห็นเซี่ยเฟยแก้เผ็ดฮัวหยูตงอย่างสาสม

“ฮัวหยูตงคงจะคิดว่าตัวเองได้รับสมบัติชิ้นใหญ่ แต่ในความจริงแล้วเขาต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งตามไปด้วย ฉันเกรงว่าหลังจากนี้เขาก็ไม่เพียงแต่จะไม่กล้าออกคำสั่งกับนายอีกต่อไปเท่านั้น แต่เผลอ ๆ เขาอาจจะต้องคอยฟังคำสั่งจากนายด้วย” โอโร่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะสั่งเขาได้หรือไม่ได้ ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงเป็นนักประดิษฐ์ระดับสูง ในอนาคตผมอาจจะต้องกลับไปใช้บริการเขาอีก ทางที่ดีเราไม่ควรจะไปบาดหมางกับเขามากกว่านี้ดีกว่า สิ่งที่ผมทำลงไปในวันนี้เป็นเพียงแค่การเอาคืนเขาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเมื่อเขากล้าสั่งให้ผมบุกไปปล้นสุสานของคนอื่นโดยไม่บอกล่วงหน้า วันหน้าเขาอาจจะสั่งให้ผมไปทำเรื่องอันตรายเรื่องอื่นอีก”

“แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อยากมีชีวิตที่ถูกคนอื่นควบคุม ผมจึงจำเป็นจะต้องหาวิธีควบคุมเขาเอาไว้บ้างเขาจะได้ไม่ทำตัวหยิ่งยโสเข้าหาผมมากจนเกินไป”

การกระทำของเซี่ยเฟยทำให้โอโร่แอบถอนหายใจออกมาอย่างลับ ๆ เพราะโดยปกตินักรบรุ่นเยาว์มักจะมีความเก่งกาจแต่ยังขาดประสบการณ์ อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็เคยพิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่าชายหนุ่มคนนี้แตกต่างจากนักรบรุ่นเยาว์คนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง ตราบใดก็ตามที่มีใครคิดไม่ดีกับชายคนนี้คนคนนั้นก็มักที่จะได้รับการแก้แค้นที่สาสม

“แต่ฮัวหยูตงก็กุมความลับของนายเอาไว้เหมือนกันนะ อย่างเช่นความสัมพันธ์ระหว่างนายกับเทพขาวเทพดำ หรือเรื่องที่นายเป็นคนบุกเข้าไปปล้นสุสานของซานชิง” โอโร่กล่าว

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เขาคงจะไม่คิดเป็นศัตรูกับสกายวิงเพียงเพราะเรื่องแค่นี้หรอก ตราบใดก็ตามที่ผมยังไม่กดดันจนทำให้เขารู้สึกเดือดร้อน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะทรยศผมอย่างเด็ดขาด” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

โอโร่ชะงักค้างไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยเริ่มนำตระกูลสกายวิงเข้ามาพิจารณาในการตัดสินใจของตัวเองแล้ว และถึงแม้ว่าช่วงแรกชายหนุ่มจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจากการใช้ชื่อเสียงของสกายวิงอยู่บ้าง แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงของตระกูลสกายวิง ช่วยให้เขาได้รับความสะดวกสบายมากกว่าเดิมอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนจริง ๆ

เมื่อเซี่ยเฟยก้าวเท้าเข้ามาในสวนสายลม เขาก็สังเกตเห็นว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ เพราะในวันทั่ว ๆ ไปสวนสายลมมีเพียงแค่เขา, เซี่ยอู๋เย่และเซี่ยจงไห่อยู่กันเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น 

แต่ในวันนี้ผู้นำตระกูลอย่างเซี่ยบูหยุน, หัวหน้าผู้อาวุโสอย่างเซี่ยเทียน, หัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่างเซี่ยเหล่าสือ รวมถึงคนอื่น ๆ อีกหลายคนได้มารวมตัวกันอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ของสวนสายลมด้วยเช่นกัน มันจึงทำให้บรรยากาศภายในสวนแห่งนี้ดูจะแตกต่างจากเดิมไปเล็กน้อย

เมื่อได้เห็นเซี่ยเฟย เซี่ยเหล่าสือก็พ่นลมหายใจออกมาจากจมูกอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะวางถ้วยน้ำชาภายในมือและหันหน้าไปอีกทางด้วยความโกรธ

เซี่ยเฟยยักไหล่อย่างหมดหนทาง ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าเพื่อทักทายผู้อาวุโสทุก ๆ คน ท้ายที่สุดเขาก็เป็นสมาชิกใหม่ของตระกูล เขาจึงจำเป็นจะต้องแสดงความเคารพต่อผู้ที่มีความอาวุโสมากกว่าตามมารยาท

ในแววตาของนักรบสกายวิงทุกคนต่างก็ดูเหมือนจะซ่อนบางสิ่งเอาไว้ และการที่ทุกคนได้กลับมารวมตัวกันมันก็ดูคล้ายกับว่ามันมีการตกลงกันเอาไว้ล่วงหน้า

สถานการณ์ในวันนี้ย่อมเป็นสถานการณ์ที่พิเศษอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเซี่ยบูหยุน, เซี่ยเทียนและเซี่ยเหล่าสือซึ่งต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญของตระกูล ย่อมไม่กลับมารวมตัวกันในสวนสายลมอย่างแน่นอน

“นายกลับมาได้ทันเวลาพอดี ฉันมีเรื่องสำคัญจะต้องคุยกับนาย พวกเราเข้าไปคุยข้างในกันเถอะ” เซี่ยบูหยุนหันมากล่าวกับเซี่ยเฟย

ท่าทางของเซี่ยบูหยุนจริงจังมาก เซี่ยเฟยจึงอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไปจนทำให้ทุกคนคล้ายกับกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

หลังจากเข้าไปภายในห้องประชุม เซี่ยบูหยุนก็ผายมือให้ชายหนุ่มนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

“มีเรื่องสำคัญที่นายจะต้องตัดสินใจ แต่บอกไว้ก่อนว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ความคิดของฉัน แต่เป็นความคิดของบรรพบุรุษที่อยู่เบื้องบน” เซี่ยบูหยุนกล่าว

เซี่ยเฟยชะงักค้างไปเล็กน้อยเมื่อได้รู้ว่าการรวมตัวกันในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากคำสั่งของบรรพบุรุษ

“เอาล่ะตอนนี้นายก็อยู่ในตระกูลมาสักพักแล้ว สาเหตุที่ทางตระกูลมอบหมายให้เซี่ยจงไห่สอนกฎแห่งความเร็วให้กับนายเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เพราะว่าตระกูลไม่สนใจนาย แต่มันเป็นเพราะสถานการณ์ของนายแตกต่างจากคนอื่น มันเลยทำให้แม้แต่บรรพบุรุษก็ยังไม่รู้ว่าเราควรจะมอบการฝึกฝนแบบไหนให้กับนายดี”

“ไม่ว่ายังไงนายก็คือคนที่มีศักยภาพจะเติบโตกลายเป็นอีวิลวิงในรอบ 100 ปี แผนการทั้งหมดจึงไม่ใช่แผนการเพื่อตระกูลเท่านั้น แต่มันยังเป็นแผนการเพื่อตัวของนายเองอีกด้วย”

“โดยปกติแล้วทางตระกูลจะไม่ค่อยมีข้อกำหนดกับสมาชิกภายในตระกูลมากนัก ทุกคนจึงสามารถทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจที่แต่ละคนต้องการ แต่ยิ่งใครในตระกูลมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ภาระที่ต้องแบกรับมันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” 

“เนื่องมาจากว่านายมีศักยภาพจะเติบโตกลายเป็นอีวิลวิง บรรพบุรุษจึงช่วยวางแผนการฝึกของนายด้วยตัวเอง พูดตามตรงเลยว่าฉันไม่เคยเห็นบรรพบุรุษทำแบบนี้กับใครมาก่อน แสดงว่าเขาจะต้องให้ความใส่ใจกับนายมาก ๆ”

คำพูดของเซี่ยบูหยุนทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะบรรพบุรุษของตระกูลสกายวิงเปรียบเสมือนกับเป็นตำนานสำหรับเขา ท้ายที่สุดบรรพบุรุษของตระกูลก็คือผู้ที่อาศัยอยู่ภายในแดนเทพ การที่คนระดับนั้นให้ความใส่ใจกับเขามากเป็นพิเศษจึงเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

เหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่โอโร่ก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไรออกมา ไม่ว่ายังไงเขาก็คือคนที่ตระหนักถึงศักยภาพของเซี่ยเฟยเป็นอย่างดี แม้แต่ตัวเขาก็ยังเคยมีความคิดพยายามดึงตัวชายหนุ่มเข้าสู่ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทอยู่หลายครั้ง

น่าเสียดายที่ถึงแม้ตระกูลสกายวิงจะมีขนาดเล็กไปหน่อย แต่ความแข็งแกร่งของตระกูลนี้ก็เป็นสิ่งที่แม้แต่ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทก็ไม่กล้าที่จะดูถูก ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าโอโร่จะเสนอผลประโยชน์มากแค่ไหน แต่มันก็คงจะยากที่จะทำให้เซี่ยเฟยทิ้งตัวตนในฐานะสกายวิงไปเพื่อไปเข้าร่วมกับแดนมาร

“ตอนนี้แผนการจากบรรพบุรุษได้รับข้อสรุปแล้ว ส่วนนายจะตัดสินใจยอมรับแผนการนั้นหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวนายเอง ถ้านายไม่ชอบก็แค่ปฏิเสธออกมาโดยตรง ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะมองนายไม่ดี ไม่ว่าบรรพบุรุษจะคิดอะไรแต่ท้ายที่สุดเขาก็เคารพความคิดเห็นของทุกคน ดังนั้นนายควรจะเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่สกายวิงทุกคนควรจะเป็น” เซี่ยบูหยุนกล่าวอีกครั้ง

“เชิญท่านผู้นำบอกแผนพัฒนามาได้เลยครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“แผนการพัฒนาของนายเรียบง่ายมาก บรรพบุรุษแค่ต้องการให้นายพัฒนาขึ้นมากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน” เซี่ยบูหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน!?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความสับสน แต่เขาก็ค่อนข้างรู้สึกสนใจกับคำคำใหม่ที่เขาไม่เคยได้ยินคำนี้

“หลังจากที่เราสังเกตพัฒนาการของนายมาสักพัก เราก็ได้เห็นว่านายมีความสามารถในการควบคุมพลังงานอย่างยอดเยี่ยม และมีศักยภาพมากพอที่จะเติบโตขึ้นไปเป็นนักกลั่นพลังงานได้”

“ขณะเดียวกันถึงแม้ว่านายจะไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับการปรุงยา แต่เราก็รู้ว่านายเคยเรียนการปรุงยามาก่อน และนายก็มีรากฐานสำหรับการประดิษฐ์ที่ค่อนข้างดี นอกจากนี้นายยังมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ในระดับที่น่ากลัวมาก จนทำให้แม้แต่บรรพบุรุษก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาควรจะวางแผนการพัฒนาให้นายเดินทางไปทางไหน”

“ท้ายที่สุดบรรพบุรุษก็รู้สึกว่ามันน่าเสียดายหากนายจะต้องทิ้งความสามารถในเรื่องไหนไป แต่การฝึกฝนหลาย ๆ เรื่องพร้อมกัน มันก็จะจำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาล และต้องใช้ความพยายามมากกว่าการฝึกฝนเพียงแค่เรื่องเดียวอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้”

“แต่ถ้าหากว่านายสามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปได้สำเร็จ นายก็จะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างที่ใครก็ไม่เคยขึ้นถึงมาก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่นายมีความเชี่ยวชาญทั้งการรบ, การวางแผน, การกลั่นพลังงาน, การปรุงยาและการประดิษฐ์ ในเวลานั้นนายก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านคนแรกในประวัติศาสตร์ของดินแดนกฎ” เซี่ยบูหยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม

นี่มันเป็นแผนการที่บ้ามาก!

ทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ต่างก็ฟังแผนการของบรรพบุรุษสกายวิงอย่างตกตะลึง แม้แต่ขนอุยที่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันตึงเครียดก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมาพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าไม่ได้

เซี่ยเฟยไม่เคยคิดมาก่อนว่าบรรพบุรุษจะตั้งความคาดหวังบนตัวเขาเอาไว้สูงขนาดนี้ ถึงกับต้องการจะให้เขาพัฒนากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านคนแรกในประวัติศาสตร์ของดินแดนกฎ

อย่างไรก็ตามแผนการบ้า ๆ แบบนี้ มันก็สมกับเป็นแผนการของตระกูลสกายวิง เพราะตระกูลอื่น ๆ ย่อมไม่กล้าเสี่ยงให้อัจฉริยะของพวกเขาเรียนรู้เรื่องหลาย ๆ เรื่องพร้อมกันอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดการพัฒนาความสามารถด้านใดด้านหนึ่งให้โดดเด่น มันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากพอแล้ว หากเซี่ยเฟยต้องการจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านอย่างที่บรรพบุรุษของเขาคาดหวังเอาไว้จริง ๆ เขาก็อาจจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ๆ เป็นร้อยเท่าพันเท่า

“การพัฒนาแบบนี้มันจะเสี่ยงมากเกินไปแล้ว แม้ว่าเมื่อก่อนนายจะศึกษาเรื่องหลาย ๆ เรื่องแต่นายก็ยังมีการจัดลำดับความสำคัญว่านายควรฝึกทักษะการต่อสู้เป็นอันดับแรก แต่บรรพบุรุษของนายต้องการจะให้นายฝึกฝนเรื่องทุกเรื่องไปพร้อม ๆ กัน การฝึกแบบนั้นมันจะสร้างภาระให้กับนายมากเกินไป” โอโร่กล่าวขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วย

เซี่ยเฟยรู้สึกราวกับว่ามันกำลังมีคลื่นลมโหมกระหน่ำพัดกระแทกเข้าสู่จิตใจของเขาอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยพบกับบรรพบุรุษของตระกูลสกายวิงมาก่อน แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดายว่าคนที่วางแผนบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมา มันจะต้องเป็นคนบ้าไม่ต่างไปจากเขาแน่ ๆ

อย่างไรก็ตามการที่บรรพบุรุษไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองเพื่อให้เขาฝึกฝนเรื่องพวกนี้โดยไม่ถามความคิดเห็น มันก็ยังทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ซึ่งความรู้สึกของการให้อิสระ, ความบ้าคลั่งและภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีอยู่ภายในตัวของบรรพบุรุษคนนี้ด้วยกันทั้งหมด

“ฉันรู้ว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ยากมากและความเสี่ยงมันก็มีสูงมากด้วยเหมือนกัน การเดิมพันครั้งนี้อาจจะตัดสินอนาคตของนายเลยก็ได้ นายลองกลับไปคิดดูก่อนแล้วค่อยกลับมาให้คำตอบกับฉันทีหลัง” เซี่ยบูหยุนกล่าวหลังจากสังเกตเห็นความลังเลของเซี่ยเฟย

“ไม่จำเป็นจะต้องกลับไปคิดหรอกครับ ผมขอยอมรับข้อเสนอในครั้งนี้” เซี่ยเฟยกล่าวตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาจาง ๆ

เมื่อเซี่ยเฟยตอบรับข้อเสนอสีหน้าอันเคร่งเครียดของเซี่ยบูหยุนมันก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าแห่งความดีใจอย่าปิดไม่มิด

“บรรพบุรุษบอกเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่านายต้องยอมรับข้อเสนอนี้แน่ ๆ ดูเหมือนว่าการคาดเดาของบรรพบุรุษจะถูกต้องอีกแล้วสินะ” เซี่ยบูหยุนกล่าวพร้อมกับตบไหล่ชายหนุ่มเบา ๆ

หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปจากห้องประชุมและเรียกทุกคนให้มารวมตัวกัน

“บรรพบุรุษมีคำสั่งให้เซี่ยเฟยพัฒนาไปเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้าน เซี่ยเทียนนายได้รับหน้าที่ฝึกฝนกฎแห่งมิติและกฎแห่งความเร็วให้กับเซี่ยเฟยสัปดาห์ละ 2 วันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

“ครับ” เซี่ยเทียนพยักหน้ารับคำสั่งจากบรรพบุรุษ

“เซี่ยเหล่าสือ คุณได้รับหน้าที่ฝึกฝนกฎแห่งพลังงานและกฎแห่งการประดิษฐ์ให้กับเซี่ยเฟยสัปดาห์ละ 2 วันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” เซี่ยบูหยุนกล่าวขึ้นมาด้วยความมั่นใจ เพราะท้ายที่สุดคำสั่งนี้ก็เป็นคำสั่งที่ถูกส่งตรงมาจากบรรพบุรุษ แม้ว่าในช่วงเวลาปกติเขาจะรู้สึกหวาดกลัวเซี่ยเหล่าสือเป็นอย่างมากก็ตาม

“ไม่มีปัญหา” เซี่ยเหล่าสือยักไหล่พร้อมกับกล่าวตอบอย่างช่วยไม่ได้

“เซี่ยฉางชุน นายได้รับหน้าที่ฝึกฝนการปรุงยาให้กับเซี่ยเฟยสัปดาห์ละ 1 วันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” เซี่ยบูหยุนกล่าว

เซี่ยฉางชุนผู้ซึ่งเป็นชายชราผมขาวเผยรอยยิ้มและพยักหน้าอย่างอารมณ์ดีโดยไม่พูดอะไรตอบกลับไป

เซี่ยบูหยุนเหลือบสายตามองทุกคนอย่างยินดี เพราะทุกคนที่บรรพบุรุษคัดเลือกมาให้ฝึกฝนเซี่ยเฟยต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นครูฝึกที่ดีที่สุดในตระกูลแล้ว เขาจึงเชื่อว่าภายใต้การแนะนำของทั้งสามคน การฝึกฝนของเซี่ยเฟยย่อมจะต้องก้าวหน้าด้วยความรวดเร็วอย่างแน่นอน

ในทางกลับกันเพื่อที่เซี่ยเฟยจะได้พัฒนาจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านคนแรกในประวัติศาสตร์ของดินแดนกฎ เส้นทางที่เขาเลือกมันก็จะเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามอย่างที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ไม่เคยที่จะพบพานอุปสรรคเช่นนี้มาก่อน

***************

เอาแบบนี้เลยเหรอ!! โหดไปแล้ววว

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.