ตอนที่ 810 ปลูกต้นไม้แห่งชีวิต

บางครั้งสถานการณ์มันก็พัฒนาไปในรูปแบบที่ไม่คาดคิด เพราะในระหว่างที่เซี่ยเฟยยังสืบค้นเรื่องกฎแห่งเวลายังไม่ไปถึงไหน ภาระหน้าที่ของตระกูลก็ถาโถมเข้ามาใส่จนทำให้เขาแทบที่จะไม่เหลือเวลาว่าง

อย่างไรก็ตามตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญรอบด้านก็เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจมาก เซี่ยเฟยจึงรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง

“กฎแห่งมิติเป็นพื้นฐานของกฎแห่งความเร็ว ตอนนี้กฎมิติของนายพัฒนาไปจนถึงระดับไหนแล้ว?” เซี่ยบูหยุนกล่าวถาม

“ขั้นที่ 5 ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

“อะไรนะ?! นี่นายมีพลังระดับราชากฎขั้นที่ 5 แล้วงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นายเพิ่งพัฒนาขึ้นมาเป็นราชากฎไม่ใช่หรือไง”

ฝูงชนต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ได้เห็นการพัฒนาของเซี่ยเฟย ทุกคนจึงต่างก็จ้องมองไปยังชายหนุ่มราวกับว่าพวกเขากำลังจ้องมองสัตว์ประหลาด

“การพัฒนาของนายเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจได้ตลอดจริง ๆ เอาล่ะหลังจากนี้เป้าหมายแรกของนายคือการพัฒนากลายเป็นราชากฎระดับสูง เซี่ยเทียนจะเป็นคนช่วยฝึกฝนนายในเรื่องนี้เอง” เซี่ยบูหยุนกล่าว

“ท่านผู้นำพูดถูกกฎแห่งความเร็วมีต้นกำเนิดมาจากกฎมิติ หากเราพัฒนารากฐานได้อย่างดีมันก็จะมีประโยชน์กับนายในอนาคตด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญสำหรับการฝึกไปที่การพัฒนากฎมิติเป็นอันดับแรก แล้วค่อยเรียนรู้เรื่องอื่นในภายหลัง” เซี่ยเทียนกล่าว

—

การพัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบด้านไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำสำเร็จได้ภายในวันเดียว และเนื่องจากเซี่ยเฟยอยู่ใกล้กับการเป็นราชากฎขั้นสูงมาก มันจึงจะเป็นการดีกว่าที่ชายหนุ่มจะทำลายอุปสรรคสำคัญครั้งนี้ลงให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยเริ่มพัฒนากฎแห่งความเร็วในภายหลัง

ก่อนการฝึกจะเริ่มต้นขึ้นเซี่ยเฟยตัดสินใจกลับไปยังพันธมิตรเป็นอันดับแรก เพราะเขาไม่ได้เจอแอวริลมาระยะหนึ่งแล้ว หากการฝึกเริ่มต้นขึ้นเขาย่อมไม่เหลือเวลาให้กับเธออย่างแน่นอน โชคดีที่เข็มทิศมิติทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมาก ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไกลมันก็ไม่ใช่ปัญหาในสายตาของชายหนุ่มอีกต่อไป

เมื่อเซี่ยเฟยเดินทางไปยังคฤหาสน์ฮาฟมูนวิลล่า เขาก็ไม่เพียงแต่จะได้พบกับแอวริลเท่านั้นแต่เขายังได้พบกับปู่และพ่อของเธออีกด้วย ซึ่งการหายตัวไปของหญิงสาวในก่อนหน้านี้มันก็ทำให้พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

ข้อเท็จจริงในหลาย ๆ ครั้งได้พิสูจน์แล้วว่าเซี่ยเฟยรักแอวริลไม่น้อยไปกว่าพวกเขาเลย แล้วถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับหญิงสาวมากนัก แต่เขาก็ยังคงคิดถึงและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอันดับแรกของเธอมาโดยตลอด 

ท้ายที่สุดรอบ ๆ ตัวของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยระบบความปลอดภัยที่เขาวางทิ้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนของบริษัทควอนตัม, เหล่าบรรดาหุ่นยนต์ที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน, เซธที่มีพลังถึงระดับราชากฎหรือแม้กระทั่งอาวุธมายาอย่างศิลาหางฟินิกซ์ก็ตาม

ความจริงแล้วเซี่ยเฟยต้องการที่จะให้แอวริลเดินทางกลับไปยังสวนสายลมพร้อมกับเขา แต่เขาก็กังวลว่าหญิงสาวจะเหงา เพราะถึงยังไงดินแดนกฎก็เป็นสถานที่อันแปลกประหลาดสำหรับแอวริล และมันก็เป็นสถานที่ที่อันตรายมากกว่าพันธมิตรมนุษย์มาก ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแต่เฝ้าดูคนรักอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจปล่อยให้เธออยู่กับครอบครัวของตัวเอง

อันธยังคงพยายามศึกษาหาวิธีรวมวิญญาณอมตะเข้ากับเครื่องจักรไปพร้อม ๆ กับโซฟีอย่างต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้จะมาถึงทางตันสักระยะหนึ่งแล้ว ทั้งคู่จึงดูค่อนข้างจะหดหู่ใจมากพอสมควร

เซี่ยเฟยถามหาคลังข้อมูลเกี่ยวกับการปรุงยาภายในคลังข้อมูลของโซฟี เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องเริ่มเรียนรู้การปรุงยาอย่างจริงจังจังแล้ว ข้อมูลจากโซฟีย่อมเป็นประโยชน์กับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

โซฟีทำการอัปโหลดข้อมูลทั้งหมดลงในความจำและมอบมันให้กับเซี่ยเฟย ก่อนที่เธอกับอันธจะกลับไปวิจัยเรื่องการหลอมรวมวิญญาณตามเดิมโดยไม่ค่อยให้ความสนใจชายหนุ่มมากนัก

เซี่ยเฟยเข้าใจอันธดีว่าการมีร่างกายมันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสำหรับวิญญาณตนนี้มากแค่ไหน น่าเสียดายที่เขายังยุ่งอยู่กับเรื่องต่าง ๆ มากเกินไป มันจึงทำให้เขายังไม่สามารถจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับอันธในตอนนี้ได้

—

เซี่ยเฟยตื่นนอนตั้งแต่เช้า ก่อนที่เขาจะเดินไปหยุดชมวิวบริเวณริมระเบียง

“นายจะไปแล้วเหรอ?” แอวริลที่ยังคงสวมชุดนอนเดินมากอดเซี่ยเฟยจากด้านหลังและกล่าวถามขึ้นมาเบา ๆ

“ใช่ ฉันจะต้องกลับไปแล้ว แต่ฉันจะพยายามหาเวลากลับมาหาเธอบ่อย ๆ ว่าแต่เธอไม่อยากไปดินแดนกฎกับฉันจริง ๆ เหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“ไม่ล่ะ ดินแดนกฎมันอยู่ไกลมากและตอนนี้สุขภาพของคุณปู่ก็ไม่ค่อยดี ยิ่งไปกว่านั้นฉันกลัวว่าถ้าฉันไปที่นั่นมันจะเป็นการรบกวนนายเปล่า ๆ” แอวริลกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

แอวริลมักจะนึกถึงเซี่ยเฟยเป็นอันดับแรกเสมอ คำตอบของเธอจึงทำให้ชายหนุ่มพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาก็ทำได้เพียงแค่โอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างขอบคุณเท่านั้น เพราะเขายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องกลับไปจัดการ

—

ณ ดินแดนลับของพวกหุ่นยนต์

เซี่ยเฟยเลือกพื้นที่มุมหนึ่งและทำการปลูกต้นไม้แห่งชีวิตเอาไว้

การปลูกต้นไม้แห่งชีวิตไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย เพราะเขาเพียงแค่ต้องขุดหลุมในดิน จากนั้นก็วางต้นกล้าและคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 5 จำนวน 12 ก้อนลงไป เพื่อให้พวกมันเป็นพลังงานสำหรับต้นไม้แห่งชีวิตเอาไว้ใช้ในการเติบโต

“กระจายคริสตัลต้นกำเนิดเอาไว้ จากนั้นนายก็กลบดินฝังกลับไปได้เลย” โอโร่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

เซี่ยเฟยทำตามคำแนะนำของโอโร่อย่างเชื่อฟัง อดีตจอมมารจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“ขั้นตอนต่อไปคือการส่งพลังงานเพื่อช่วยเร่งพัฒนาการของต้นไม้แห่งชีวิต แต่จำเอาไว้ว่าต้นไม้แห่งชีวิตต้นนี้ยังเป็นเพียงแค่ต้นกล้า มันจึงไม่สามารถรับพลังงานจำนวนมากในคราวเดียวได้ นายจะต้องค่อย ๆ ป้อนพลังงานให้กับมันอย่างช้า ๆ มันจะได้ดูดซับพลังงานของนายเข้าไปเพื่อใช้ในการเติบโตได้โดยไม่เป็นอันตราย”

“เมื่อต้นไม้แห่งชีวิตได้รับพลังงานจากนาย มันก็จะค่อย ๆ สร้างกระแสเชื่อมโยงชีวิตกับนายขึ้นมา ซึ่งมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการทำพันธสัญญาหลังจากนี้”

เซี่ยเฟยหยิบคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 5 เอามาไว้ภายในมือ จากนั้นเขาก็ทำการเคลื่อนย้ายพลังผ่านแหวนมังกรหยกขาวและค่อย ๆ ปล่อยพลังงานอันบริสุทธิ์เข้าไปภายในลำต้นของต้นไม้แห่งชีวิต

เมื่อพลังงานถูกถ่ายโอนเข้าไปยังต้นไม้แห่งชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้นไม้ต้นนี้ก็ค่อย ๆ เติบโตสูงขึ้นด้วยอัตราที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในที่สุดมันก็เติบโตจนกลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 100 เมตรและมีลำต้นขนาดหลายสิบคนโอบ

“มันช่างเป็นต้นไม้ที่สง่างามจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้า

“นี่แหละคือต้นไม้แห่งชีวิต” โอโร่กล่าว

“ถ้าเราใช้พลังงานส่งตรงให้มันแบบนี้ แล้วเราจะฝังคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 5 เอาไว้ในดินทำไม?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“พลังงานพวกนั้นเอาไว้ใช้สำหรับการปกป้องมันเอาไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้นไม้แห่งชีวิตถูกโจมตีพวกมันจะดูดพลังจากคริสตัลที่นายทิ้งเอาไว้มาต่อต้านการโจมตีได้สักพัก”

“เอาล่ะขั้นตอนต่อไปคือการสร้างพันธสัญญา ต้นไม้แห่งชีวิตมันมีการเชื่อมโยงชีวิตกับนายตั้งแต่แรกแล้ว ตราบใดก็ตามที่นายทำตามคำแนะนำของฉัน ขั้นตอนนี้มันก็จะผ่านพ้นไปอย่างไม่มีปัญหา” โอโร่กล่าว

“ครับ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

…

เมื่อจัดการทำพันธสัญญากับต้นไม้แห่งชีวิตเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็รู้สึกได้เลยว่าต้นไม้ต้นนี้มีการเชื่อมโยงกับเขาอย่างลึกซึ้ง เพราะเขาสัมผัสได้ถึงลำต้นที่กำลังเติบโต ซึ่งมันก็ดูคล้ายกับว่าเขากำลังสัมผัสได้ถึงการหายใจของต้นไม้

ย้อนกลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มันเป็นเพียงแค่ต้นกล้าที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก แต่ในตอนนี้ต้นไม้แห่งชีวิตกลับเต็มไปด้วยพลังงานอันแข็งแกร่ง

“เอาล่ะจากนี้ไปมันคือชีวิตที่ 2 ของนาย แต่จำเอาไว้ว่าต้นไม้แห่งชีวิตมีค่ามาก อย่าเอามันออกมาใช้เด็ดขาดเว้นแต่ว่านายจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากจริง ๆ” โอโร่กล่าวย้ำ

นอกจากนี้พวกหุ่นยนต์ยังถือว่าเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเซี่ยเฟย เมื่อเขาบอกให้พวกหุ่นยนต์ช่วยปกป้องต้นไม้ต้นนี้เอาไว้หน่อย หุ่นยนต์ทุกตัวต่างก็พยักหน้าตอบรับโดยไม่คิดจะตั้งคำถามว่าต้นไม้แห่งชีวิตมันคืออะไร

หลังจากเซี่ยเฟยคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขาก็ตัดสินใจปลูกต้นไม้แห่งชีวิตเอาไว้ในพื้นที่แห่งนี้ ท้ายที่สุดพวกหุ่นยนต์ในดินแดนลับก็เป็นสหายที่เขารู้สึกไว้วางใจมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่แห่งนี้ยังเป็นฐานสำหรับการผลิตยานไททันด้วยเช่นกัน หากมันมีใครบุกจู่โจมต้นไม้แห่งชีวิตของเขา ในเวลานั้นยานไททันก็อาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำลายผู้บุกรุกได้

แม้ว่าในวันนี้มันจะยังไม่มีใครตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา แต่ชายหนุ่มก็มีนิสัยชอบเตรียมความพร้อมเอาไว้รับมือสถานการณ์ในช่วงวิกฤตอยู่เสมอ เพราะในจักรวาลที่แสนอันตรายแห่งนี้ มันก็มีเพียงแต่ผู้ที่ระวังตัวตลอดเวลาเท่านั้นจึงจะมีชีวิตต่อไปอย่างยืนยาว

—

ณ ห้องฝึกภายในสวนสายลม

วันนี้เป็นวันแรกในการฝึกฝนของเซี่ยเฟย เซี่ยเทียนจึงคอยให้คำแนะนำชายหนุ่มอย่างเคร่งครัด

“ไม่ต้องกังวล ถึงแม้การพยายามก้าวข้ามผ่านกำแพงราชากฎขั้นสูงจะยากมาก แต่พวกเราก็มีวิธีการฝึกฝนประจำตระกูลของตัวเอง สิ่งที่นายจำเป็นจะต้องทำคือค่อย ๆ ทำตามคำแนะนำไปทีละขั้นตอน เมื่อนั้นอุปสรรคที่ขวางทางเอาไว้ก็จะถูกทำลายลงไปได้อย่างง่ายดาย”

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ ซึ่งในตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับพลังงานที่ต้องใช้มากนัก เพราะเขายังมีเม็ดพลังงานภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 และคริสตัลต้นกำเนิดขั้นที่ 5 อยู่เป็นจำนวนมาก ปัญหาเรื่องพลังงานจึงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เขากำลังสนใจนั่นก็คือวิธีการฝึกฝนในรูปแบบของสกายวิง

วิธีการฝึกกฎแห่งความเร็วของตระกูลสกายวิงเป็นวิธีที่น่าทึ่งมาก เซี่ยเฟยจึงไม่รู้ว่าวิธีการฝึกกฎแห่งมิติของตระกูลสกายวิงจะเป็นวิธีที่น่าทึ่งมากแค่ไหน

เซี่ยเทียนค่อย ๆ หยิบหม้อทองคำรูปร่างแปลกประหลาดออกมาจากแหวนมิติ จากนั้นเขาก็ใส่คริสตัลต้นกำเนิดสีน้ำเงินลงไปในหม้อ

“สีน้ำเงิน! นั่นมันคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 ไม่ใช่เหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ใช่แล้ว มันคือคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 แหล่งพลังงานระดับสูงที่มีใช้กันแต่ภายในเผ่าเทพเท่านั้น ส่วนหม้อทองคำใบนี้มีชื่อว่าหม้อสะกดโลหิต มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยให้นักรบสามารถฝ่าฟันผ่านอุปสรรคได้ง่ายมากยิ่งขึ้น” เซี่ยเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเซี่ยเทียนฟังดูเรียบง่ายมาก แต่มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นเป็นอย่างดีว่าความแข็งแกร่งของตระกูลสกายวิงยังเป็นสิ่งที่เหนือเกินกว่าจินตนาการของเซี่ยเฟย

“นายพร้อมแล้วหรือยัง?” เซี่ยเทียนถาม

“พร้อมแล้วครับ” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น

ผัวะ!

เซี่ยเทียนใช้ฝ่ามือตบเข้าใส่หม้อสะกดโลหิต จากนั้นเขาก็ทำการถ่ายเทพลังกฎเข้าไปภายใน

ทันใดนั่นเองเซี่ยเฟยก็สังเกตเห็นสัตว์ประหลาดเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาทั่วทั้งห้องฝึก ซึ่งสัตว์ประหลาดพวกนี้ต่างก็จับจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

“ตระกูลสกายวิงของเราเติบโตจากการสังหาร นายจะต้องถักทออักขระกฎขึ้นมาในระหว่างที่ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจพวกนี้ให้ได้ ถึงแม้ว่าการฝึกรูปแบบนี้มันจะยากมาก แต่มันก็ช่วยเร่งประสิทธิภาพในการฝึกได้มากเหมือนกัน” เซี่ยเทียนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

สถานการณ์ในปัจจุบันถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะวิธีการฝึกของตระกูลสกายวิงแต่ละวิธีต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการบ้า ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกกฎแห่งความเร็วภายใต้การวิ่งด้วยความเร็วสูง หรือการพยายามฝึกกฎแห่งมิติภายใต้การสังหารศัตรู

“เซี่ยเฟย ฉันคิดว่าเขากำลังพยายามปลุกจิตอสูรภายในตัวของนายออกมา” โอโร่กล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่

***************

บ้าเกิ้นนนนนน แต่ละวิธีมีเอกลักษณ์สุด ๆ

จบแล้วสำหรับกลุ่ม VIP9 [721-810] สำหรับใครที่สนใจเข้ากลุ่มสามารถติดต่อได้ที่ เพจสนพ.เซียนอ่าน ได้เลยนะคะ โดยทางกลุ่มเฟส VIP จะมีค่าปลดตอนถูกกว่าทางหน้าเว็บแต่อัปตอนพร้อมกันน๊า