ตอนที่ 777 ชุลมุน 3 ทาง

-A A +A

ตอนที่ 777 ชุลมุน 3 ทาง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 777 ชุลมุน 3 ทาง

ณ ห้องควบคุมของสนามรบโบราณ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ หน้าจอของเซี่ยเฟยถึงดับลงไป” เทพดำอุทานพร้อมกับตบอุปกรณ์ภายในห้องควบคุมอย่างแรง

ภาพหน้าจออีกภาพที่อยู่ใกล้กันคือภาพของพวกเซียวรั่วหยูและพวกแบล็คกี้ที่อยู่ด้วยกัน แต่มันไม่มีร่องรอยของเซี่ยเฟยในภาพหน้าจอนั้นเลย คล้ายกับว่าระบบสนับสนุนการติดตามนักรบที่อยู่บนสนามรบเท่านั้น เมื่อเซี่ยเฟยมุดตัวลงไปใต้ดินภาพของเขาจึงถูกตัดขาดจากการสังเกตการณ์ภายในห้องควบคุม

เหตุการณ์นี้ทำให้เทพดำรู้สึกกังวล เพราะเมื่อเซี่ยเฟยต้องเผชิญหน้ากับแบล็ครีเบลเลี่ยนเพียงลำพัง มันจึงไม่มีอะไรรับประกันว่าชายหนุ่มจะรอดพ้นมาจากการต่อสู้ยากลำบากนั้นได้

อย่างไรก็ตามทันทีที่เทพดำเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอ เขาก็ได้พบว่าพี่ชายของเขาได้หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวเขาสักนิดเลย

“ฮัวไป๋!”

เทพดำตะโกนเรียกชื่อพี่ชายพร้อมกับเดินออกมาจากห้องอย่างเป็นห่วง และถึงแม้ว่าพี่น้องคู่นี้จะชอบทะเลาะกัน แต่จริง ๆ แล้วพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เพียงแต่ไม่มีใครอยากจะยอมรับเรื่องนี้ตรง ๆ ก็เท่านั้นเอง

“ทางนี้” เสียงของเทพขาวดังขึ้นมาจากอีกฟากของทางเดิน เทพดำจึงรีบก้าวเท้าไปหาพี่ชายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะได้เห็นพี่ชายที่นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้นเพื่อตรวจสอบประตูที่ปิดสนิท

ประตูนี้เป็นประตูทางเข้าห้องควบคุมเพียงประตูเดียว และเทพดำก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรของประตูนี้เลย อย่างไรก็ตามเทพขาวกลับได้นำเครื่องตรวจสอบออกมาจากแหวนมิติ เพื่อทำการตรวจสอบประตูซ้ำ ๆ ราวกับว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

“นั่นนายกำลังทำอะไร?” เทพดำกล่าวถามอย่างสงสัย

เทพขาวโบกมือส่งสัญญาณให้น้องชายเงียบเสียงลง เทพดำจึงทำได้เพียงแต่เฝ้ารอเงียบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น

ไม่กี่นาทีต่อมาเทพขาวก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกับแสดงข้อมูลในเครื่องตรวจสอบให้น้องชายของเขาดู

“ผลการตรวจสอบแสดงออกมาว่าพวกเราไม่ใช่คนกลุ่มแรกที่เดินทางมาที่นี่” เทพขาวกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“นายแน่ใจนะ? ตอนแรกที่เรามาที่นี่ทุกห้องถูกฝุ่นเกาะหนาเตอะเลย” เทพดำกล่าวหลังจากสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ

“คนที่มาก่อนเราลบร่องรอยได้อย่างแนบเนียนมาก จนทำให้พวกเราไม่ทันสังเกตเห็นถึงความผิดปกติมาก่อนเลย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถลบร่องรอยจากเครื่องตรวจสอบคาร์บอนชั้นสูงเครื่องนี้ได้ ฉันเลยพอรู้ร่องรอยของเขาบ้างแล้ว” เทพขาวกล่าว

“แล้วเขาคนนั้นใช้ประตูนี่ก่อนเรานานแค่ไหน?” เทพดำถาม

“ประมาณ 1 ปีก่อนที่พวกเราจะมา ตอนนั้นฉันก็สงสัยอยู่แล้วว่าทำไมพวกเราถึงเข้ามาในห้องควบคุมของสนามรบโบราณได้ง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพวกตาเฒ่าตั้งแต่สมัยโบราณ”

“ฉันเลยสงสัยว่าในเมื่อพวกเราสามารถบุกเข้ามาได้ คนอื่นก็ควรจะมีความสามารถบุกเข้ามาได้ด้วยเหมือนกัน ฉันเลยพยายามเอาเครื่องตรวจสอบคาร์บอนมาตรวจสอบดู และผลลัพธ์ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่นายเห็นนั่นแหละ” เทพขาวกล่าว

เทพดำพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะกลับไปยังห้องควบคุมพร้อมกับเทพขาว

“สนามรบโบราณถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ที่นี่เลยไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ซ่อนอันยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราเท่านั้น แต่มันยังเป็นสถานที่ซ่อนที่ดีสำหรับคนอื่นอีกด้วย แม้แต่อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่อยู่อย่างสงบเสมอมาก็เริ่มที่จะอาละวาดแล้ว ในตอนนี้มันแตกต่างไปจากอดีตแล้วจริง ๆ” เทพขาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

ในระหว่างที่เทพขาวกับเทพดำได้รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่แขกเพียงคนเดียวที่เคยเดินทางมายังห้องควบคุมของสนามรบโบราณ เซี่ยเฟยก็ยังคงพยายามติดตามขนอุยเพื่อมองหาร่องรอยของเชสนี่

สภาพของขนอุยในปัจจุบันไม่ต่างไปจากสุนัขล่าเนื้อ ที่พยายามใช้จมูกเล็ก ๆ ของมันดมกลิ่นและตามร่องรอยของพลังงานที่ติดอยู่บนร่างของเชสนี่ไป

ต้องบอกว่าแผนการที่เชสนี่ได้เตรียมมาสามารถหลอกล่อแบล็ครีเบลเลี่ยนได้อย่างแท้จริง แต่น่าเสียดายที่แผนการนั้นไม่ได้มีเอาไว้สำหรับการรับมือพวกเซี่ยเฟย

ในฐานะของอสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล ขนอุยย่อมรู้สึกไม่พอใจที่มันต้องมาทำหน้าที่อย่างการติดตามกลิ่นไปแบบนี้ 

แต่เนื่องมาจากว่ามันเป็นคำสั่งของเซี่ยเฟย ขนอุยจึงไม่สามารถที่จะคัดค้านได้ ซึ่งถ้าหากว่าผู้ที่มาสั่งมันให้ทำเรื่องนี้คือคนอื่น มันก็คงจะพยายามขัดขืนจนตายและไม่มีทางลดเกียรติลงมาทำตัวเป็นหมาแบบนี้อย่างเด็ดขาด

“แปลกมาก ทำไมเชสนี่ถึงไม่หนีกลับขึ้นไปบนพื้น แต่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ของแบล็ครีเบลเลี่ยนแบบนี้?” โอโร่ถามอย่างสงสัย

“คุณเคยได้ยินไหมว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด หลังจากแหวนมิติของเจ้านายถูกขโมยไปอสูรตัวนั้นย่อมจะต้องขึ้นไปค้นหาศัตรูบนพื้นก่อนเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เพราะมันคงจะไม่มีใครคิดว่าศัตรูจะได้ใช้อุโมงค์ที่มันสร้างเป็นสถานที่ในการหลบซ่อนตัวแบบนี้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นั่นสินะ… ศัตรูของนายในคราวนี้รับมือได้ยากมากจริง ๆ ไม่เพียงแต่เขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังมีสติปัญญาที่เยี่ยมยอดมากอีกด้วย” โอโร่กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มมุ่งหน้าลงใต้ดินไปเรื่อย ๆ เขาก็ได้พบกับชั้นน้ำแข็งหนาที่ปรากฏขึ้นมาภายในถ้ำ

หลังจากเข้าไปใกล้ ๆ เซี่ยเฟยก็ได้พบว่าชั้นน้ำแข็งหนา ๆ แห่งนี้คือทางน้ำใต้ดินที่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง นอกจากนี้เขายังได้พบร่องรอยจาง ๆ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าเพิ่งจะมีคนเคลื่อนที่ผ่านฐานน้ำแข็งแห่งนี้ไปก่อนหน้าเขาเพียงแค่ไม่กี่นาที

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี เพราะในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าหมาน้อยอย่างขนอุยได้นำพาเขามาถูกทางแล้ว

เส้นทางในถ้ำใต้ดินเป็นเหมือนกับเขาวงกต ซึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มเดินหน้ามาได้ระยะหนึ่ง เขาก็ได้พบว่าตัวเองถูกล้อมรอบไปด้วยหมอกสีขาว

“นี่มันกฎแห่งหมอก!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับเตรียมตัวรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง แม้แต่ขนอุยก็พยายามมองไปรอบ ๆ อย่างกังวลพร้อมกับส่งเสียงคำรามออกมาเป็นระยะ ๆ

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงสายลมแรงที่พัดมาจากด้านหลัง แล้วมันก็เป็นการจู่โจมด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

เร็วมาก!

ความเร็วในการจู่โจมเป็นความเร็วที่อยู่เหนือเกินกว่าความคาดหมายของเซี่ยเฟยอย่างแท้จริง แม้แต่การโจมตีของผู้นำตระกูลสกายวิงคนปัจจุบันก็คงจะไม่สามารถบรรลุความเร็วในระดับนี้ได้

เล่ห์กายา!

ชายหนุ่มบิดร่างหลบการโจมตีตามสัญชาตญาณ เพราะสมองของเขาไม่สามารถที่จะประมวลผลรับมือกับความเร็วในการโจมตีในระดับนี้ได้

ตูม!

น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงจุดสำคัญได้สำเร็จ แต่แขนซ้ายของเขาก็ยังคงปะทะเข้ากับการโจมตีของศัตรูอยู่ดี

โชคดีที่ชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นมีพลังป้องกันอันแข็งแกร่ง การจู่โจมในครั้งนี้จึงทำได้เพียงสร้างความปวดแสบปวดร้อนบนแขนซ้ายของเขาเท่านั้น

“ทำไมถึงเร็วขนาดนี้?” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว

การใช้กฎแห่งหมอกและเร่งความเร็วจู่โจมอย่างฉับพลันคือจุดเด่นของตระกูลดาร์กมิสท์ และความน่ากลัวของการจู่โจมอย่างฉับพลันเช่นนี้ มันก็ทำให้แม้แต่นักรบความเร็วสูงอย่างเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะตอบสนองหลบการโจมตีอันรวดเร็วของศัตรูได้ สิ่งที่ทำให้เขาสามารถรอดพ้นจากการโจมตีมาได้ มันก็เป็นเพราะสัญชาตญาณและการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ

นั่นมันความเร็วในระดับเกือบจะถึง 1 ล้านเมตรต่อวินาทีเลยนะ ด้วยความเร็วเพียงเท่านี้มันก็มากพอที่จะสังหารนักรบชั้นยอดได้เป็นจำนวนมากโดยที่ศัตรูไม่ทันรู้ตัว

ชายหนุ่มพลิกตัวใช้แขนอีกข้างยันพื้นพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหยุดร่างของตัวเองเอาไว้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีที่อาจจะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง

“นักรบสกายวิงช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ นี่ฉันคำนวณผิดพลาดไปงั้นเหรอเนี่ย?” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากหมอกหนา แต่เสียงนี้ดังสะท้อนกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณจนทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถจะหาต้นกำเนิดของเสียงได้

“อย่าถ่อมตัวเกินไปหน่อยเลย การโจมตีของแกมันก็อันตรายมากอยู่เหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เชสนี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมอกส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น อย่างไรก็ตามเขาก็ยังจงใจระงับเสียงบางส่วนของตัวเองเอาไว้ เพราะท้ายที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเป็นอาณาเขตของแบล็ครีเบลเลี่ยน และมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีถ้าหากเสียงหัวเราะของเขาได้ไปดึงดูดความสนใจของอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นอีกครั้ง

“ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแกหาฉันเจอได้ยังไง แต่ฉันก็ไม่มีทางปล่อยแกให้รอดชีวิตกลับไปอย่างเด็ดขาด จำเอาไว้ว่าแม้แต่นักรบที่มีความเร็วสูงกว่าแกก็ไม่สามารถที่จะรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของฉันได้ และตระกูลดาร์กมิสท์ของพวกเราก็เป็นตระกูลที่มีไว้เพื่อกำจัดสกายวิงแบบแกโดยเฉพาะ” เชสนี่กล่าวขึ้นมาด้วยความมั่นใจราวกับว่าเขาไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเฟยอย่างแน่นอน

“ในจักรวาลนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นสกายวิงแต่ฉันก็ไม่ใช่สกายวิงในแบบที่แกรู้จักหรอก”

คำตอบของเซี่ยเฟยทำให้เชสนี่ชะงักไปอย่างกะทันหัน เพราะเขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังหมายถึงอะไรกันแน่

คลื่นนน

แต่ในทันใดนั่นเองใบหญ้าของหงส์ครามทั้งห้าใบก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับจู่โจมทุกทิศทางอย่างไร้จุดหมาย และทำให้พื้นดินพื้นหินทั่วทั้งถ้ำกระจัดกระจาย แม้แต่ขนอุยก็ยังคงพุ่งโจมตีอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าการโจมตีแบบไร้จุดหมายเช่นนี้ไม่สามารถที่จะทำร้ายนักรบชั้นยอดอย่างเชสนี่ได้ แต่เสียงจากการปะทะมันก็ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นเชสนี่ก็ได้ตระหนักแล้วว่าแท้ที่จริงจุดประสงค์ของเซี่ยเฟยไม่ใช่การโจมตีเขา แต่เป็นการล่อแบล็ครีเบลเลี่ยนให้มาที่นี่ต่างหาก

“ตายไปซะ!” เชสนี่รีบจู่โจมเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ร่างกายของชายหนุ่มยังคงพลิกตัวด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติ แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าวิชาจากสำนักเงาสังหารวิชานี้จะเป็นวิชาที่เอาไว้สำหรับแก้ทางการโจมตีอย่างฉับพลันของตระกูลดาร์กมิสท์จริง ๆ 

ท้ายที่สุดไม่ว่าการโจมตีอย่างฉับพลันจะรวดเร็วแค่ไหน แต่มันก็จำเป็นจะต้องมีเป้าหมายสำหรับการโจมตีก่อน เชสนี่จึงจะสามารถจู่โจมเข้าใส่ศัตรูของเขาได้

อย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยเฟยหลบหลีกการโจมตีด้วยท่าทางอันประหลาด เชสนี่ก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของศัตรูคนนี้ได้เลย เพราะเซี่ยเฟยสามารถหลบการโจมตีได้ทุกทิศทุกทาง มันจึงทำให้การโจมตีของเขาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือร่างกายของเซี่ยเฟยเหมือนจะปรากฏตัวขึ้น 2-3 แห่งในเวลาเดียวกัน จนทำให้เชสนี่ไม่รู้ว่าเขาควรจะต้องเลือกโจมตีไปยังเป้าหมายใดกันแน่

คลื่น!

ในระหว่างที่เชสนี่กำลังลังเลอยู่นั่นเอง เสียงการเคลื่อนไหวของแบล็ครีเบลเลี่ยนก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้กำลังรู้สึกโกรธเกรี้ยวจนถึงขีดสุด

การพยายามฉกฉวยหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่อันวุ่นวายคือทักษะที่เซี่ยเฟยฝึกฝนมาโดยตลอด ดังนั้นไม่ว่าแบล็ครีเบลเลี่ยนหรือเชสนี่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่เขาก็ตัดสินใจนำทุกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับสนามรบแห่งนี้

ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเชสนี่ถึงเห็นเซี่ยเฟยปรากฏตัว 2 ที่ในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าเขาได้ใช้วิชาเล่ห์มายาผสมกับการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันจึงทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถจะตามหาตำแหน่งที่แท้จริงของเขาได้

ตูม!

ในที่สุดอสูรร่างยักษ์ก็พุ่งทะลุผ่านกำแพงน้ำแข็งมายังสถานที่แห่งนี้ ซึ่งในตอนแรกเชสนี่ก็ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อล่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ให้ไกลออกไป แต่เซี่ยเฟยกลับได้ใช้ความพยายามในการล่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้กลับมาอีกครั้ง

“ฉันคนเดียวอาจจะฆ่าแกไม่ได้ แต่ถ้ามีอสูรตัวนี้ด้วยมันก็ไม่แน่” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.