บทที่ 34 อยากกินอย่างอื่น

พ่ายเกมสวาท
-A A +A

บทที่ 34 อยากกินอย่างอื่น

หมวดหนังสือ: 

"อยากกินอย่างอื่นมากกว่า" คนร่างโตกระซิบบอกที่ข้างหู

 

“อ้าววว เอลิซทำไม่น่ากินหรอค่ะ ก็ถามแล้วไงว่าอยากกินอะไร พอทำมาให้ก็ไม่อยากกินซะงั้น” ร่างบางออกอาการน้อยใจ

 

“ก็มีอย่างอื่นน่ากินกว่านี่หน่า” คนร่างโตยังคงกระเซ้าเย้าแหย่ เพราะสาวเจ้ายิ่งงอนยิ่งน่ารัก

 

“งั้นก็ไปให้ป้าเสริมทำให้แล้วกันค่ะ เดี๋ยวของพวกนี้เอลิซกินเอง” เธอเริ่มงอน ในน้ำเสียงมีความประชดประชัน

 

“ป้าเสริมก็ทำไม่ได้” เขาพูดเป็นนัยๆ

 

“อะไรกันค่ะ มันยากขนาดนั้นเลยหรอ” ทั้งที่งอนอยู่แต่ก็อยากรู้ว่าอาหารที่เขาอยากกินคืออะไร

 

“ก็....” เขาพูดพลางจับคนร่างบางให้หันมาเผชิญหน้า

 

สีหน้าของฉันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม???

 

“อยากกินตรงนี้” เขาพูดแล้วก้มลงมาจูบลงที่ปากฉันโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว

 

“เพราะว่ามันหวานมากกกก” เขาถอนจูบแล้วพูด

 

“ตรงนี้ก็หวาน” เขาพูดจบก็ก้มลงมาจูบที่ซอกคอพร้อมกดริมฝีปากให้แรงขึ้นจนเกิดเสียง’ จ๊วบ’ ก่อนที่จะมีรอยแดงเป็นจ้ำเล็กๆ ตามมา

 

“ตรงนี้ก็ยิ่งหวาน” เขาเลื่อนใบหน้าลงมาตรงเนินอกอิ่มและกระทำการแบบเดียวกันกับที่ซอกคอเมื่อกี้ ‘จ๊วบ’ ปรากฏรอยแดงเล็กๆ เช่นกัน

 

ขณะที่ฉันยืนตัวแข็งทื่อ สมองอื้ออึงกับสิ่งที่เขากระทำโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว...ขณะฉันเผลอสติหลุดลอยไปอยู่นั้น

 

“และก็ตรงนี้...” เขาค่อยๆ ย่อตัวคุกเข่า จนตอนนี้ใบหน้าหล่อเข้ม จ่ออยู่ตรงจุดกึ่งกลางสามเหลี่ยมอวบอิ่มความโหนกนูนที่ดันจนเป็นรูปร่างผ่านกางเกงขาสั้นบางๆ ทำเอาคนที่กำลังมองกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ด้วยใจที่อยากจะเอาหน้าเข้าไปซุกไซ้เต็มที

 

“.....ที่เฮียเคยลองแล้วมันหวานที่สุด” เขาก้มลงจูบมาที่เนินสาวผ่านกางเกงขาสั้นตัวบาง เขาออกแรงกดริมฝีปากบดเข้ากับเนื้อผ้า ก่อนที่จะขยับริมฝีปากเม้มเข้าออกเล็กน้อย ทำให้ความรู้สึกที่เนื้อผ้าเสียดสีเข้ากับเนินสาวเกิดเป็นความรู้สึกวาบหวามรัญจวนใจ ส่งผลให้จุดกระสันที่อยู่ภายในกายสาวเต้นตุบๆ ระรัว ร่างกายแข็งเกร็งยืนทำตัวไม่ถูก

 

“ฮะ..ฮะ..เฮีย” เสียงสั่นครางเรียกคล้ายอยากจะห้ามปราม

 

เขาชะงักทันที เพราะนึกขึ้นได้ว่าเธอกลัวการถูกสัมผัสตรงนั้น ก่อนจะค่อยๆ ถอนใบหน้าออกมาจากเนินสวาทหวานอย่างเสียดาย

 

เมื่อเขาลุกขึ้นมา ก็พบกับคลื่นน้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตากลมโตจนเขาอดตกใจไม่ได้

 

“ยังกลัวอยู่หรอค่ะ เฮียขอโทษนะคะ เฮียลืมตัว” เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจคนตรงหน้า

 

ไม่มีคำตอบออกจากปากอิ่ม เธอยื่นนิ่งหลบหน้าเล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็ทำให้ใจของเขาวูบไหว เขาจะรีบร้อนไม่ได้ ต้องรักษาเธอให้หายก่อน ใจเย็นๆ สิวะไอ้เซฟ

 

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้เลยก็คือ!!! อาการที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อสักครู่นี้ มันไม่ใช่อาการหวาดกลัว...

 

ฉันเก็บงำความรู้สึกเมื่อสักครู่ไว้ ส่วนเขาก็ดูจะระมัดระวังมากขึ้น เราสองคนนั่งกินอาหารที่อยู่ตรงหน้ากันอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

 

“เอลิซ เอาจานไปเก็บก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยทำลายความเงียบ

 

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวให้ป้าเสริมมาเก็บไปก็ได้” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

 

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องแค่นี้เอง ถือเป็นการออกกำลังกายหลังอาหารด้วย เห็นไหมเนี้ย เฮียเลี้ยงเอลิซดี จนพุงป่องหมดแล้ว” ฉันพูดพลางเอามือจิ้มพุงให้เขาดู ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้เขา

 

เขาที่เห็นท่าทางของเธอ ก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ ทำอะไรก็น่ารักไปหมด ยิ่งอยู่ยิ่งหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว

 

“เออเฮีย เอลิซลืมบอก วันนี้ช่วงบ่ายๆ คุณหมอจะมาตัดไหมแล้วนะคะ เฮียเตรียมตัวด้วยน๊าา” ฉันหันไปบอกเขา ก่อนยิ้มหวานแล้วเดินออกมา

 

ฉันไม่ได้ขึ้นไปหาเขาอีก เพราะตั้งใจจะรอขึ้นไปพร้อมกับคุณหมอเลยทีเดียว อยู่ใกล้เขามากๆ คงไม่ดีอันตรายอาจจะเกิดกับน้องสาวสามเหลี่ยมขึ้นได้

 

อีกอย่างฉันอยากจะทบทวนความรู้สึกตัวเอง กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และ เมื่อสักครู่ ภาพที่เขาเคยทำร้ายจิตใจและร่างกายฉันที่ฝังอยู่ภายในใจ มันไม่ได้ผุดขึ้นมาเหมือนเมื่อคืน หรือเพราะว่าไม่ได้สัมผัสโดยตรงมันเลยไม่ถูกกระตุ้นให้เห็นภาพกันนะ หรือเป็นเพราะเขาที่ทำให้ฉันผ่อนคลายและเริ่มรู้สึกปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กับเขา หรืออาจจะเป็นหัวใจของฉันที่มันค่อยๆ เปิดรับเขาเข้ามา...

 

ฉันนั่งดูทีวีสักพัก ป้าเสริมก็เดินมาบอกว่าคุณหมอมาแล้ว ฉันบอกให้ป้าเสริมพาคุณหมอขึ้นไปก่อน เดี๋ยวฉันค่อยตามไป

 

เมื่อฉันมาถึงคุณหมอทำการตัดไหมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำความสะอาดแผลอีกเล็กน้อย คุณหมอบอกว่าแผลแห้งสนิทดีมาก ถือว่าหายเร็วมากกว่าปกติถ้าเทียบกับคนอื่นที่มีแผลลักษณะนี้ แผลทั้งภายในและภายนอกสมานกันดี สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว เสร็จแล้วคุณหมอก็ขอตัวกลับทันที

 

ฉันเดินไปนั่งข้างเขา

 

“แผลเฮียสวยมากเลยค่ะ คุณหมอเก่งมาก” ฉันมองไปที่แผลของเขาอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะรอยเย็บแผลของเขาแทบดูไม่ออกว่าเคยมีแผลขนาดใหญ่บริเวณนี้ ดูเหมือนแค่มีรอยขีดบางๆ เท่านั้น

 

“แน่สิ หมอมือหนึ่งของโรงบาลเฮีย จะไม่เก่งได้ไง” เขาพูดอวดด้วยความภูมิใจ

 

อ๋อ..ลืมไปเขาคือท่านเซบาสเธียผู้ยิ่งใหญ่ ฉันค้อนใส่เขาด้วยความหมั่นไส้

 

“งั้นคืนนี้เอลิซย้ายกลับไปนอนห้องข้างล่างแล้วนะคะ” ฉันบอกเขาขณะที่มือลูบไล้ไปที่รอยแผล

 

“โอ๊ยยย เนี้ยเฮียยังเจ็บอยู่เลย หมอแม่งมั่วแน่ๆ” เขาทำร้องเสียงดัง

 

“หึ...มุกนี้ไม่ผ่านค่ะ!!” ฉันเอ่ยสีหน้าเย้ยหยันไปให้เขา ก่อนจะอดขำกับความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ได้

 

“นอนกับเฮียนะคะ ดูสิข้าวของก็มาอยู่บนนี้หมดแล้ว จะย้ายไปย้ายมาทำไม เดี๋ยวลูกน้องมันก็บ่นเอาหรอก” ข้ออ้างสารพัดพรั่งพรูออกจากปากหยัก

 

“เอลิซย้ายเองก็ได้ค่ะ...ชิ” ฉันแสดงอาการไม่พอใจ

 

เขาลอบมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้กำลังกระเง้ากระงอดใส่เขาอยู่ ก่อนจะปิ๊งไอเดียเด็ดๆ ขึ้นมาได้ คราวนี้แหละ เธอไม่มีทางจะปฏิเสธเขาแน่นอน

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.