4 Participation ร่วมทีมผู้รอดชีวิต

DeadAhead

-A A +A

4 Participation ร่วมทีมผู้รอดชีวิต

หมวดหนังสือ: 

“ฉันไม่รู้ว่ามาก่อนว่าฝั่งหมู่บ้านจะมีบริการเรือเช่ามาเกาะนี้ด้วย” คุณมาร์ธาพูดพลางเดินไปพ่นควันบุหรี่ที่หน้าต่าง “ฉันอาศัยเรือของเพื่อนจากฝั่งพลาซ่ามาตลอด แต่เขาก็แค่มาส่งแล้วก็กลับไปน่ะนะ ไม่ได้คุยอะไรเยอะ”

“ฉันก็เหมือนกัน เพื่อนเอาฉันมาปล่อยไว้ที่นี่แล้วก็ชิ่งหนี เขาบอกว่าค่ากินอยู่ที่นี่แพงเกินไป” คุณเจฟพูดขึ้นบ้าง “ถ้ารู้ว่ามีเรือจากฝั่งหมู่บ้าน ฉันคงไปใช้บริการนานแล้ว” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยตอนพูด จ้องผมเขม็ง

“เราเสียใจที่ไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับพ่อของเธอเลย” คุณมาร์ธาพูดขึ้นอีกครั้งตอนที่เดินกลับมานั่งข้างๆ คุณเจฟตาดุ

“พ่อของเธอเป็นคนยังไง? เพิร์ท” คุณเจฟตาดุตั้งคำถามกับผม

 

ตอนนี้เรากำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องชั้นสองหลังจากที่เอาบันไดขึ้นมาได้สำเร็จ เขาทั้งสองอยากรู้จุดประสงค์ที่ผมมาที่เกาะนี้ ผมจึงเล่าให้ทั้งสองคนฟังว่าอยากจะมารับพ่อกลับ แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่เคยเจอพ่อของผมเลยด้วยซ้ำ

 

ผมนึกถึงพ่อของผม

เซย์จิ โอโนะ ชายชาวญี่ปุ่นตัวเล็ก อายุสี่สิบปลายๆ แต่สัดส่วนของผมขาวมีมากกว่าผมดำซะอีก อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับเกาะปรินซ์ เขาเป็นคนตัวเล็กที่ทรงพลัง พูดเสียงดัง หัวเราะก็ดัง ทำงานแทบทั้งวัน ผมไม่เคยเห็นเขาบ่นว่าเหนื่อยเลย แต่มันก็เป็นความซวยของผมที่มีพ่อผู้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะเมื่อไรก็ตามที่ผมเริ่มนั่งเฉยๆ เขาก็จะคะยั้นคะยอให้ผมออกไปเล่นนอกบ้านและก็จะคอยถามเสมอว่าออกไปเล่นอะไรมาบ้าง เขาเป็นพ่อคนเดียวในหมู่บ้านนี้ที่แนะนำให้ลูกชายแสดงความซนให้เต็มที่

เขาเรียกผมว่าเจ้าลิง ลิงน้อย หรือไอ้ลิงโว้ย ขึ้นอยู่กับว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน เรียกแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ก็ยังเรียกอยู่ ถึงแม้ตอนนี้ผมจะสูงกว่าเขา มีกล้ามเต็มตัวแล้วก็ตาม เขาก็ยังเห็นผมเป็นลิงน้อยอยู่เสมอ

 

“พ่อของเธอน่ารักนะ เท่าที่ฟังมา” คุณมาร์ธายิ้มเป็นครั้งแรกหลังจากผมเล่าเรื่องของพ่อให้ฟังคร่าวๆ

“น่าสนใจ” คุณเจฟพูดเบาๆ ตอนนี้เขาไม่ได้จ้องผมแบบเอาเป็นเอาตายอีกแล้ว

คุณเจฟฟรี่ย์และคุณมาร์ธาคือนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่เกาะนี้ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ห้องพักของพวกเขาอยู่ที่ชั้นพิเศษ ส่วนชั้นสองที่พวกเรานั่งอยู่นี้เป็นห้องว่างๆ ที่คุณมาร์ธาเจอตอนเดินสำรวจ

 

“ผมนึกว่าพวกคุณมาด้วยกันซะอีก” ผมพูด เขาส่ายหน้าเบาๆ แต่เธอดึงเอาแขนของเขามากอดไว้

“เราเป็นบัดดี้กันอยู่น่ะ” เธอพูดและหัวเราะ ผมไม่เข้าใจความหมายของคำว่าบัดดี้ว่ามันลึกซึ้งแค่ไหน แต่ดูจากอาการของเธอ เขาทั้งคู่คงสนิทกันในระดับหนึ่ง

“เราเพิ่งรู้จักกันนี่แหละ ก่อนหน้านี่ก็แทบไม่ได้เจอกันหรอก แต่หลังจากวันนั้น เราก็เกาะกลุ่มกันตลอด” คุณเจฟบอกผม

 

‘กลุ่ม’ ที่คุณเจฟว่าคือกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตและรวมตัวกันอยู่ที่ชั้นสิบห้า คนทั้งหมดถูกพบในช่วงสายของวันจันทร์ หลังจากเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวและคนอื่นๆ กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตแต่ยังเคลื่อนไหวได้

คุณเจฟถูกคุณริชาร์ดสันซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปลุกตอนเช้าตรู่ของวันจันทร์และถูกร้องขอให้ออกสำรวจหาคนอื่นๆ ในโรงแรม คุณมาร์ธาคือคนที่คุณเจฟพบตอนสำรวจที่ชั้นสิบ คนอื่นๆ ถูกพบในเวลาต่อมาและถูกต้อนขึ้นไปอยู่รวมกันที่ชั้นสิบห้าตั้งแต่วันนั้น เพื่อรอคอยอะไรซักอย่างที่ไม่มีใครตอบได้

แต่ในวันนี้ ทุกคนก็เหมือนมีความหวัง เมื่อได้ยินเสียงเรือเข้ามาที่เกาะ

 

“เราจะเอาไงเจฟ? เรามีเรือแล้วนะตอนนี้” คุณมาร์ธาถามฝ่ายชาย ก่อนจะหันมาหาผม “เราใช้เรือของเธอได้ใช่ไหม?”

“เฮ้ๆ คุณ ถามแบบนี้เหมือนบังคับเขานะ” คุณเจฟพูดแบบไม่เห็นด้วย เธอจึงทำเสียงจิ๊จ๊ะ เขาหันมาหาผมและพูดต่อ “เราอยู่บนเกาะนี้ไม่ได้แล้ว เรือของนายคือของขวัญที่ดีที่สุดในตอนนี้”

“เรือลำอื่นๆ ล่ะครับ ผมเห็นเรืออีกสองสามลำลอยอยู่ใกล้ๆ เกาะ” ผมถามกลับไป

“เราใช้เรือพวกนั้นไม่ได้น่ะสิ เราไม่มีกุญแจ คนขับพอจะหาได้ แต่กุญแจมันหายไปพร้อมกับเจ้าของเรือ” คุณมาร์ธาตอบและลุกขึ้นยืน “ไปข้างบนเถอะ ทุกคนกำลังรอพวกเราอยู่” เธอพูดและเดินออกจากห้องไป คุณเจฟมองผมและพยักหน้า ผมจึงลุกเดินตามไป

 

ก่อนที่ผมจะเดินออกนอกห้อง คุณเจฟก็รั้งแขนผมไว้

“ตั้งแต่ล็อบบี้ไปจนถึงชั้นเก้า ยังไม่ปลอดภัยนะ” เขากระซิบใกล้ๆ เครายุ่งๆ ของเขาถูไถกับใบหูผมเบาๆ 

 “ถ้าผ่านห้องที่ประตูเปิดอยู่ พยายามก้มต่ำเข้าไว้และเดินให้เบาที่สุดนะ” ผมเอียงหน้าไปหาและก้มรับเบาๆ

แล้วเขาก็ปล่อยตัวผม เขาออกเดินนำไปก่อน ผมจึงเดินตาม

 

ห้องที่เราเพิ่งออกมาเป็นห้องริมสุดของชั้น เราคงต้องเดินผ่านอีกหลายห้องกว่าจะถึงลิฟท์ คุณมาร์ธาและคุณเจฟเดินนำไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน พอถึงห้องที่ประตูเปิดค้างไว้ เขาทั้งสองคนก็ย่อตัวต่ำและเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ผมทำตามพวกเขาทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าในห้องมีอะไรอยู่

พอผมเคลื่อนที่มาถึงช่องประตู ผมก็แอบมองเข้าไปสำรวจดูภายในห้อง ข้าวของในห้องดูปกติทุกอย่าง สิ่งเดียวที่ไม่ปกติคือผู้หญิงคนหนึ่งที่คอพับหันหลังให้พวกเรา เธอยืนโงนเงนอยู่ข้างเตียง ดูจากชุดเธอน่าจะเป็นพนักงานทำความสะอาดที่โชคร้ายต้องจบชีวิตลงที่ห้องนี้และบางอย่างก็ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาอยู่ในสภาพแบบนี้

 

เท่าที่ฟังทั้งสองเล่า มี ‘อะไรบางอย่าง’ เกิดขึ้นที่เกาะนี้ เขาระบุไม่ได้ว่าตั้งแต่ตอนไหน แต่น่าจะอยู่ในช่วงคืนวันอาทิตย์จนถึงตอนเช้าตรู่ของวันจันทร์ ‘อะไรบางอย่าง’ ที่ว่าทำให้ผู้คนบางส่วนหายไปและบางส่วนกลายเป็นศพเดินได้ ถ้าเวลาเป็นไปตามนั้นจริงๆ พ่อของผมที่มาถึงที่นี่ช่วงสายๆ น่าจะยังรอดชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่ง

‘อดทนไว้นะพ่อ เจ้าลิงมาช่วยแล้ว’

 

เราเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีเดินบ้าง หมอบบ้างจนถึงหน้าลิฟท์สี่ตัว ระยะทางเพียงยี่สิบเมตรแต่เราก็เครียดพอสมควร คุณมาร์ธากดปุ่มเรียกลิฟท์ ประตูลิฟท์ตัวซ้ายก็เปิดออกทันที ผมเกือบจะพุ่งตัวเข้าไปในลิฟท์อยู่แล้วถ้าไม่เห็นมือของคุณเจฟที่ยกขึ้นห้ามไว้

เขาชี้ให้ดูจากเงาสะท้อนของประตูลิฟท์ฝั่งตรงข้าม ผมเห็นเงาผู้ชายสองคนยืนอยู่ในนั้น เขายืนโงนเงนอยู่สักพักและออกเดินมาทางประตูลิฟท์ที่เปิดออก ดูจากท่าทางการเดินที่เชื่องช้า ผมคิดว่าพวกเขาก็คงไม่รอด คุณเจฟทำสัญญาณให้พวกเราหมอบชิดผนังตึก ผู้ชายในลิฟท์ก้าวเดินสองสามก้าวก่อนจะหยุดที่รอยต่อระหว่างตัวลิฟท์กับอาคาร มุมของเสาหินอ่อนจึงบังพวกเราไว้แค่ฉิวเฉียด

 

 

คุณมาร์ธาสะกิดแขนผม พอผมมองไปทางเธอจึงเห็นว่าเธอทำสัญญาณให้เดินไปที่บันไดซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ผมคิดว่าไปทางอื่นน่าจะดีกว่ารอลิฟท์ที่ไม่รู้จะปิดเมื่อไร ผมจึงยื่นมือไปดึงแขนคุณเจฟและลากเขาตามมา

เราเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสาม คุณมาร์ธาลองเดินย้อนไปกดเรียกลิฟท์อีกครั้ง จอไฟแสดงลิฟท์ตัวที่กำลังเคลื่อนที่ เรายืนรออยู่ห่างๆ จนประตูลิฟท์เปิด เมื่อเห็นว่าปลอดภัย พวกเราจึงเดินเข้าไปข้างในและกดปุ่มชั้นสิบห้า ประตูลิฟท์ปิดเบาๆ และเคลื่อนตัวสู่ชั้นสิบห้าอย่างเงียบเชียบ

+-------------------------------------------+

เพิ่มคำติชมด้านล่างได้เลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.