3 Survivors ผู้รอดชีวิต

DeadAhead

-A A +A

3 Survivors ผู้รอดชีวิต

หมวดหนังสือ: 

เบื้องหลังชายผิวขาวซีดคือชายและหญิงในชุดว่ายน้ำหกถึงเจ็ดคนที่กำลังเดินโซเซมาทางประตู พวกเขาเดินเหวี่ยงแขนขาสะเปะสะปะไปหมด สภาพของพวกเขาเหมือนกับเพิ่งทะเลาะกันมา กางเกงหรือชุดว่ายน้ำของหลายๆ คนถูกดึงรั้งอย่างผิดปกติ ผมจึงเห็นก้นขาวๆ ของผู้ชายตัวเล็กคนนั้นทะลักออกมาจากกางเกงตัวจิ๋วที่ถูกดึงลง ในขณะที่ชายอ้วนก็เดินโชว์ท่อนเนื้อเพราะกางเกงว่ายน้ำขาดห้อย แต่พวกเขาก็ดูไม่ใส่ใจมัน

อย่าว่าแต่เสื้อผ้าเลย ร่องรอยฟกช้ำและคราบเลือดตามร่างกายพวกเขาก็ไม่สนใจ บางคนถึงขนาดมีเลือดสีคล้ำไหลย้อยออกมาจากปากตลอดเวลา ยิ่งทำให้ดูไม่ปกติเป็นอย่างมาก คนพวกนี้ไม่น่าจะเป็นแค่คนเมา

ผมรู้สึกถึงอันตรายจากคนกลุ่มนี้ จึงถอยห่างออกมา ผมคิดว่าถ้าพวกเขาทั้งหมดเดินชนประตูพร้อมๆ กัน น่าจะทำให้ประตูแง้มออกและพวกเขาก็ออกมาได้ในที่สุด ผมจึงดึงกระถางสีขาวยาวมากั้นประตูไว้ก่อน มันน่าจะกันได้พักหนึ่งและเดินห่างออกมาเพื่อหาอะไรไปกองทับไว้อีกชั้น สายตาของผมก็ได้เห็นร่างๆ หนึ่งนอนคว่ำอยู่ในสวนน้ำ

 

นักท่องเที่ยวชายตัวใหญ่ นอนคว่ำไม่ไหวติงอยู่ไกลๆ ปลายเท้าของเขาชี้มาทางที่ผมยืนอยู่ ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมแปลกๆ หรือไม่ ผมจึงเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง รองเท้าผ้าใบที่ใส่มาช่วยเก็บเสียงได้เป็นอย่างดีเวลาเดินบนพื้นหิน แต่ผมเปลี่ยนใจเป็นวิ่งเหยาะๆ เข้าไป เผื่อเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ร่างที่นอนอยู่เริ่มขยับตัวช้าๆ ตอนที่ผมเข้าไปใกล้มากแล้ว ผมตกใจเมื่อผมเห็นเขายกหัวขึ้นจากสระน้ำ

ผมรีบพลิกร่างของเขาให้นอนหงายบนพื้นและเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา

 

“นี่! คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ผมสอบถามและตีแก้มยุ้ยๆ ของเขาเบาๆ เขาส่ายหัวช้าๆ อย่างน้อยก็มีปฎิกิริยาตอบสนองขึ้นมาแล้ว

 

เขาน่าจะมีอายุพอสมควร เพราะผมสีเข้มมีสีขาวแซมอยู่ประปราย หนวดเคราที่แต่งได้รูปทำให้หน้าเขาดูดีและน่าสนใจ ประกอบกับเครื่องเคราในกางเกงว่ายน้ำสีเขียวก็บวมเด่นท้าทายสายตา 

เขาส่งเสียงอืออา ยาวๆ ในลำคออยู่สองสามครั้งก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำและยื่นมือมาวางที่เข่าผม

 

 

“ระวังนะ!! เขาไม่ใช่คน!!” เสียงตะโกนของผู้หญิงมาจากด้านหลังเหนือหัวผม

ถึงแม้จะตกอยู่ในภวังค์จากการจ้องมองกางเกงว่ายน้ำสีเขียว แต่ผมที่มีความหวาดระแวงเป็นทุนเดิม พอได้ยินเสียงเตือนก็รีบถอยหลังหนีทันที แต่มือของชายที่นอนคว่ำอยู่คว้าเข้าที่ต้นขาของผมและรั้งกางเกงวอร์มผ้าร่มของผมเต็มมือ แรงดึงของเขามากผิดวิสัยของคนที่เพิ่งฟื้นจากการสลบ ผมถึงกับต้องใช้เท้าอีกข้างยันหัวไหล่เขาไว้และพยายามถอยหนี

 

“สลัดให้หลุดไอ้หนุ่ม! ไม่งั้นนายตายแน่” เสียงนี้เป็นของผู้ชาย มันมาจากทิศทางเดียวกันกับเสียงแรก

 

ผมพยายามถอยหลังและยันเขาออกห่างในเวลาเดียวกัน หลังจากยื้อไม่นาน ผมคิดว่าคงไม่มีทางแกะมือของเขาออกแน่ๆ จึงควานหาปมเชือกกางเกงวอร์มที่หน้าท้องและกระตุกออกอย่างรวดเร็ว เมื่อเอวกางเกงวอร์มเริ่มหลวม ผมก็ดึงตัวเองออกมาและถอยหนี ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและเห็นร่างที่นอนคว่ำอยู่บนพื้นพยายามทรงตัวขึ้นอย่างยากลำบาก

 

“ปีนขึ้นมาบนนี้เร็ว!!” เสียงผู้ชายคนเดิมเร่งมาจากด้านหลัง ผมจึงหมุนตัวไปมอง

 

ระเบียงชั้นสองมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนมองผมอยู่ เขามีท่าทางตกใจและหวาดกลัวพอสมควร ฝ่ายหญิงพูดอะไรบางอย่างกับฝ่ายชายและวิ่งเข้าห้องไป ส่วนฝ่ายชายกวักมือสองสามครั้งและชี้ไปที่พุ่มไม้ใต้ระเบียง

 

“ฉันคิดว่ามีบันไดล้มอยู่ เอามันพาดแล้วปีนขึ้นมา เร็ว!!” เขาตะโกนสั่ง “เร็วเลยไอ้หนุ่ม!!”

 

ผมจึงวิ่งไปใต้ระเบียง ในพุ่มไม้หนามีบันไดยาวตัวหนึ่งวางอยู่ ผมจึงยกมันพาดกับตัวโรงแรมและปีนขึ้นไป บันไดโยกง่อนแง่นไปมาตามจังหวะการปีนของผม ชายที่รออยู่ชั้นสอง ทั้งเร่ง ทั้งพยายามยื่นมือมือคว้าตัวผม

ผมปีนบันไดมาจนถึงระดับพื้นระเบียง เขาจึงคว้าจับคอเสื้อยืดของผมไว้ได้

 

“ได้ตัวนายแล้ว ปีนเลยๆ” เขาเร่งผมและออกแรงดึงอีกครั้งในขณะที่ผมกำลังปีนขึ้นระเบียงขึ้นมา ผมเซไปข้างหน้านิดหน่อยตอนที่กระโดดลงบนพื้นระเบียง เขาจึงปล่อยมือที่จับคอเสื้อผมอยู่ไปคว้าราวระเบียงไว้และยื่นอีกมือมารับตัวผมไว้ก่อนจะล้มคะมำ มือของเขารวบอยู่ตรงตำแหน่งหน้าท้องบริเวณขอบกางเกงว่ายน้ำของผม

 

“ฟู่ว!! ขอบคุณมากครับ”

ผมหอบอยู่พักหนึ่งก่อนจะได้กล่าวขอบคุณชายที่เพิ่งช่วยเหลือผม หน้าที่อิดโรยของเขามีแววยินดี เขาตัวสูงกว่าผมประมาณครึ่งฟุต ดูจากร่องรอยบนใบหน้า ผมคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในวัยกลางคน ตาสีเข้มดุดันของเขาอยู่ใต้คิ้วหนา หนวดและเคราใต้คางน่าจะไม่ได้ถูกโกนมาหลายวัน ประกอบกับใบหน้าและผิวที่คล้ำแดด ทำให้เขาดูน่ากลัวกว่าชายที่นอนอยู่ริมสระเสียอีก แต่เสื้อคอกลมสีเข้มตัวฟิตกับกางเกงวอร์มผ้ายืด ช่วยทำให้ให้ชายคนนี้น่าสนใจ เพราะมันช่วยเน้นรูปร่างจนเห็นว่าเขาตัวหนาใหญ่ เป็นผู้ชายที่น่านั่งคุยเล่นด้วยซักคืนสองคืน

 

“ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายปลอดภัย” เขาพูดกับผม “ไม่มีบาดแผลใช่ไหม?”

เขาพูดและถือวิสาสะจับสะโพกผมอย่างเต็มฝ่ามือพลางบิดมันไปมาเล็กน้อยเพื่อสำรวจร่างกาย ผมจึงยกชายเสื้อคอกลมขึ้นในระดับที่สูงพอจะทำให้เขาเห็นร่างกายของผมและกางเกงว่ายน้ำขาสั้นสีส้มตัวฟิตที่ผมใส่มาเผื่อว่ายน้ำทะเลวันนี้ เขาจ้องอย่างไม่วางตา

 

“ไม่ครับ ผมไม่มีแผลอะไร” ผมตอบและปล่อยชายเสื้อลงเหมือนเดิม เขาจึงยกใบหน้าขึ้นมามองหน้าผมอีกครั้ง เขาหรี่ตาลงพร้อมๆ กับขบกรามจนเป็นสันนูน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ผมคิดว่าเขาคงอยากสำรวจร่างกายผมต่ออีกสักพัก ถ้ามีเวลามากพอผมอาจจะยอม แต่มันคงไม่ใช่ตอนนี้

 

“เขาเป็นอะไรเหรอครับ? คุณบอกว่าผมจะตายแน่ถ้าไม่สลัดให้หลุด” ผมพูดและเอียงคอไปด้านล่างที่น่าจะมีชายคนนั้นเดินอยู่

 

“เราไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เราเองก็กำลังหาคำตอบอยู่” เขาส่ายหน้าเบาๆ “เขาเพิ่งลงไปข้างล่างเมื่อเช้านี้ ตอนที่เราลงมา เราก็เห็นว่าเขานอนหัวจมน้ำแบบนั้นไปเรียบร้อยแล้ว ถึงตอนนี้ก็สองชั่วโมงแล้วละมั้ง” คำตอบของเขาทำให้ผมถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะหมุนตัวเข้าหาราวระเบียงและชะโงกลงไปดู

 

“แต่เขายังเดินไปมาอยู่เลยนะ คุณก็เห็น” ผมหมุนตัวมาพูดกับชายตาดุ เขาไม่ได้ตอบอะไรผม ที่เขาทำก็แค่ยักไหล่หนึ่งครั้ง มือของเขายังคงเกาะอยู่ที่สะโพกของผม

 

เรายืนมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง เขาจึงถามขึ้นมา

“ฉันได้ยินเสียงเรือเข้ามาที่เกาะ นายมากับมอเตอร์โบ๊ทลำนู้นเหรอ? มีใครมาบ้าง?” เขาถามพร้อมกับชี้มือออกไปที่ท่าจอดเรือ แต่ตาไม่ได้มองตามมือของตัวเองออกไป ตาของเขายังจ้องอยู่ที่ผม ผมคิดว่าผมรู้สึกถึงแรงบีบเบาๆ จากปลายนิ้วของเขาที่จับสะโพกผมอยู่

“เรือของผมเองครับ ผมมารับพ่อ เขารออยู่ที่นี่น่ะ” ผมตอบกลับ แม้จะอ้างเรื่องพ่อ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เกรงกลัวคำอ้างสักเท่าไร ไม่มีทีท่าจะถอยห่างออกไปเลยแม้แต่น้อย

เขาจ้องผมอยู่อย่างนั้น สายตาที่เพ่งมองผม ชวนให้รู้สึกเหมือนเขากำลังมองของเล่นที่เพิ่งได้มา เขามักจะขบกรามจนเป็นสัน ท่าทางเหมือนกับคิดอะไรมากมายแต่ไม่ยอมเอ่ยออกมา

 

ผมได้ยินเสียงเปิดประตูดังจากด้านในห้อง ผู้หญิงที่ชื่อมาร์ธาคงกลับมาแล้ว

“ผมเป็นหนี้คุณอยู่” ผมดันตัวออกจากราวระเบียง ทำให้หน้าอกของผมสัมผัสกับหน้าอกของชายหน้าดุ “หากผมสามารถตอบแทนอะไรคุณได้บ้าง ขอให้บอกนะครับ” ผมพูดให้จบประโยคก่อนจะเลื่อนตัวออกด้านข้างช้าๆ พอที่จะให้ร่างกายส่วนล่างของเราเสียดสีกันเบาๆ

 

“ขอบคุณสวรรค์ เธอขึ้นมาได้แล้ว” คุณมาร์ธาเดินออกมาที่ระเบียงพร้อมกับเอ่ยทัก

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม” ผมกล่าวขอบคุณเธอกลับ หน้าเธอดูผ่อนคลายลงกว่าที่เห็นตอนแรก

“ยินดี” เธอยื่นตะขอและโซ่มาให้ผม “เธอช่วยเจฟเอาตะขอนี่เกี่ยวบันไดขึ้นมาหน่อยได้ไหม?” แต่ชายตาดุที่ชื่อเจฟเป็นคนยื่นมือไปรับแทน

“ฉันแขนยาวกว่า ฉันจัดการเอง” เขารับตะขอและโซ่ไป เขากำลังวัดความยาวของโซ่กับแขนตัวเอง “นายคอยจับตอนที่ฉันเกี่ยวขึ้นมาแล้วดีกว่า” คุณเจฟพูดก่อนจะหมุนตัวเข้าหาราวระเบียง

+-------------------------------------------+

เพิ่มคำติชมด้านล่างได้เลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.