บทที่ 403 ความพ่ายแพ้ของฉงป้า

-A A +A

บทที่ 403 ความพ่ายแพ้ของฉงป้า

บทที่ 403 ความพ่ายแพ้ของฉงป้า

“นายเอาอุปกรณ์ทุกอย่างไปเป็นของรางวัลได้เลย แบล็คบลัดนี่ถือว่าเป็นคนที่มีฝีมือยอดเยี่ยมมากจริง ๆ” หวังเถิงกล่าวกับบลัดไทแรนท์หลังจากที่วางสายจากแบล็คบลัด

บลัดไทแรนท์พยักหน้ารับพร้อมกับพูดว่า

“พูดตามตรงว่าเขาถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งมากคนหนึ่ง ถ้าเขาไม่ได้ไปมีเรื่องกับลู่หยางเสียก่อน ตอนนี้เขาก็คงจะได้ครอบครองป้อมปราการไปแล้ว”

สิ่งที่บลัดไทแรนท์พูดไม่ได้ต่างไปจากความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะในยุคที่แบล็คบลัดได้ควบคุมเดธโซล ในเวลานั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังต้องให้เกียรติแบล็คบลัดเป็นอย่างมาก

หวังเถิงมองไปยังป้อมแบล็คร็อคที่อยู่ในระยะไกล ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“ยิ่งฟังนายพูดแบบนี้ ฉันก็ยิ่งอยากจะประลองกับลู่หยางดูสักตั้ง ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเขาจะเก่งกาจอย่างที่พวกนายพูดเอาไว้จริง ๆ หรือเปล่า”

“มันก็เป็นแค่ไอ้กระจอกที่รู้จักใช้แต่กลอุบายเท่านั้น คราวนี้ฉงป้าต้องพ่ายแพ้ ขณะที่ฉือมู่กับลู่หยางแตกคอกัน ในวันที่พวกเราโจมตีป้อมปราการคริมสัน บลัดบราเธอร์ก็จะไม่มีกองกำลังของฉงป้ากับฉือมู่คอยช่วยเหลืออีกต่อไป ในเวลานั้นมันก็จะไม่เหลืออะไรที่จะมาต่อต้านพวกเราได้อีกต่อไปแล้ว” บลัดไทแรนท์กัดฟันพูดด้วยความโกรธ

บลัดไทแรนท์มีความเกลียดชังลู่หยางอย่างลึกซึ้ง เพราะถ้าหากไม่ใช่สิ่งที่ลู่หยางทำเอาไว้กิลด์ของเขาก็คงจะมีมูลค่ามากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นลู่หยางยังเคยทำให้เขาต้องอับอายต่อหน้าฝูงชนไปแล้วหลายครั้ง

หวังเถิงรู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างบลัดไทแรนท์กับลู่หยางเป็นอย่างดี เขาจึงถามขึ้นมาว่า

“นายแน่ใจใช่ไหมว่าลู่หยางจะไม่เข้ามาร่วมสงครามในครั้งนี้?”

“ผมแน่ใจครับ แม้กระทั่งในตอนนี้แม่ทัพของพวกมันก็ยังนำทีมเก็บเลเวลกันอยู่เลย” บลัดไทแรนท์ตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็สั่งให้ทุกคนเริ่มโจมตีระลอกใหญ่ได้เลย พวกเราจะตีป้อมแบล็คร็อคให้แตกในคราวเดียว” หวังเถิงสั่งการ

“ได้ครับ เดี๋ยวคราวนี้ผมจะนำทัพด้วยตัวเอง” บลัดไทแรนท์กล่าว ก่อนที่เขาจะโค้งคำนับและลงไปจากหอบัญชาการ

บนกำแพงป้อมแบล็คร็อค

ฉงป้าสังเกตเห็นบลัดไทแรนท์ลงมาจากหอบัญชาการ ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วและสั่งการขึ้นมาว่า

“ทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง ศัตรูจะเริ่มโจมตีระลอกใหม่แล้ว”

แฟนทอมเอจ, ฉวยอู๋อี้และคนอื่น ๆ พยักหน้ารับ ก่อนที่พวกเขาจะแยกตัวออกไปประจำตำแหน่งของตัวเอง

“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ศัตรูกำลังจะบุกมาอีกแล้ว”

“เพื่อกิลด์ พวกเราขอสู้ตาย”

“กำจัดบลัดไทแรนท์ให้ได้”

ในระหว่างที่ผู้บัญชาการของแต่ละกองพันกำลังตะโกนปลุกขวัญกำลังใจ หวังเถิงที่อยู่ตรงบริเวณประตูทางเหนือของป้อมก็ใช้เครื่องขยายเสียงพูดออกไปเสียงดังว่า

“ฉงป้า ผมจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับคุณ นายน้อยเจียมีคำสั่งมาว่าถ้าหากคุณยอมออกจากเมืองเซนต์กอลล์ไปแต่โดยดี ทุกสิ่งที่คุณลงทุนไปในเกมนี้นายน้อยจะโอนคืนให้ทั้งหมด”

ฉงป้ามองไปยังหวังเถิงด้วยแววตาอันเคียดแค้น ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย่อหยิ่งว่า

“เลิกมาพูดจาไร้สาระกับฉันได้แล้ว! พวกแกคิดว่าคนอย่างฉันต้องการได้รับความสงสารจากคนอื่นงั้นเหรอ พวกแกอย่าเพิ่งดีใจไปเร็วนักเลย ผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้มันยังไม่ได้รับการตัดสินสักหน่อย”

หวังเถิงทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมา ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาขยับแว่นกรอบทองและพูดออกไปอย่างใจเย็นว่า

“คุณกำลังรอกำลังเสริมจากออเรนจ์อะเลิร์ทกับจื่อเวยพาวิเลี่ยนอยู่ใช่ไหม?”

ทันใดนั้นหัวใจของฉงป้าก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“คุณอย่าเสียเวลารอพวกเขาเลย กำลังเสริมจากพวกเขาถูกโซลออฟอีเทอนิตี้กับแบล็คบลัดทำลายไปหมดแล้ว ตอนนี้พวกคุณต้องปกป้องป้อมปราการด้วยกำลังของตัวเองเท่านั้น” หวังเถิงกล่าว

สิ่งที่ทำให้ฉงป้ายืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นว่ากำลังเสริม 60,000 คนกำลังเดินทางมาช่วย แล้วตราบใดก็ตามที่กำลังเสริมกับพวกเขาจู่โจมทั้ง 3 ทิศทางพร้อมกัน ในเวลานั้นมันก็มีโอกาสสูงมากที่กองกำลังของบลัดไทแรนท์จะได้รับความพ่ายแพ้

น่าเสียดายที่ตอนนี้กำลังเสริมจากพันธมิตรได้ถูกศัตรูดักซุ่มโจมตีไปก่อนแล้ว

“เป็นไปไม่ได้! พวกแกจะเอากองกำลังจากไหนไปจัดการกับพวกเขา?” ฉงป้าตะโกนกลับด้วยความโกรธ

“หลังจากเรื่องนี้จบลงผมจะไปขอโทษคุณที่บริษัทด้วยตัวเอง หวังว่าในเวลานั้นคุณจะใจกว้างไม่ถือโทษโกรธผู้น้อยอย่างผมที่จัดการกับคุณภายในเกมนี้” หวังเถิงกล่าว

หลังพูดจบหวังเถิงก็โบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนทำการโจมตี

“ทุกคนบุกได้!” บลัดไทแรนท์ตระกูลพร้อมกับชูดาบขึ้นไปบนฟ้า

พริบตาต่อมากองกำลังกว่า 180,000 คนก็จู่โจมเข้าใส่ป้อมปราการแบล็คร็อคจากทุกทิศทาง

อีกด้านหนึ่ง

เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนฉือมู่จึงแอบนำกองกำลัง 50,000 คนออกจากประตูฝั่งทิศตะวันตกของป้อมปราการฟลาวเวอร์เพื่อโจมตีกิลด์พรอฟฟีซีอย่างหนัก ซึ่งการซุ่มโจมตีในครั้งนี้มันก็ทำให้พรอฟฟีซีถูกบังคับให้ต้องถอยหลังกลับไป

ลั่วซืออวี่มองดูอุปกรณ์ระดับเงินเลเวล 20 ที่กระจายอยู่เต็มพื้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“แผนการของหัวหน้ายอดเยี่ยมมากจริง ๆ พวกพรอฟฟีซีมันไม่ทันได้ระวังตัวเลย”

“ฉันล่ะตลกสีหน้าของไอ้พวกพรอฟฟีซีชะมัด” ซิลเวอร์วูฟกล่าว

“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าบลัดไทแรนท์มันเอาชุดระดับทอง 50,000 ชุดมาจากไหน ที่แท้หวังเถิงก็สั่งให้ทุกกิลด์ใต้บังคับบัญชาเอาชุดระดับทองไปให้บลัดเติสตี้ยืมระหว่างทำการรบนี่เอง ตอนนี้นอกจากกำลังของบลัดเติสตี้แล้วกองกำลังอื่น ๆ ก็แทบที่จะไม่เหลือความน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย ทุกคนรีบกระจายคำสั่งออกไปให้กองหลังทำการกวาดล้างทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนกำลังหลักให้กลับไปที่เมืองเซนต์กอลล์ พวกเราจะยกกำลังไปช่วยฉงป้า” ฉือมู่ตะโกนสั่งการ

“ครับ/ค่ะ” ลั่วซืออวี่กับซิลเวอร์วูฟพูดพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามในขณะที่ฉือมู่กำลังจะเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์ ชิงเฟิงก็ส่งข้อความเข้ามาเสียก่อน

“หัวหน้าตอนนี้ฉงป้าพ่ายแพ้แล้วครับ”

“อะไรนะ?!” ฉือมู่อุทานด้วยความตกตะลึง

“มีอะไรเหรอครับ?” ซิลเวอร์วูฟถาม

“ทุกคนกลับไปที่ป้อมปราการฟลาวเวอร์ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องกลับไปที่เมืองเซนต์กอลล์แล้ว” ฉือมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ทางฝั่งฉงป้ามีปัญหาอะไรงั้นเหรอคะ?” ลั่วซืออวี่ถามด้วยความประหลาดใจ

“ฉงป้าแพ้แล้ว ตอนนี้ฉันต้องรีบหารือกับพันธมิตรคนอื่นเพื่อหาทางรับมือกับเรื่องนี้” ฉือมู่กล่าว

ในพื้นที่พิเศษ

ปัจจุบันฉือมู่ได้เรียกหัวหน้ากิลด์พันธมิตรเข้ามาประชุมกันอย่างเคร่งเครียด

“ฉันได้รับการยืนยันมาแล้วว่าชุดอุปกรณ์ระดับทองของบลัดเติสตี้เป็นสิ่งที่หวังเถิงขอยืมจากกิลด์อื่น ๆ ใต้บังคับบัญชาของพวกเขามา ฉันต้องการให้เหลยหลงกับเฉียนเฉียนโจมตีป้อมปราการของสกายโดเมนกับบลูคริสตัลที่เมืองนอร์ทวินด์และเมืองแฮนนิบัลพร้อม ๆ กัน การกดดันในครั้งนี้น่าจะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ของทางฝั่งฉงป้าได้อย่างแน่นอน” ฉือมู่กล่าว

“ประธานฉือมู่ คุณกำลังพูดตลกอยู่หรือเปล่า? พวกเราเพิ่งได้รับข่าวว่าหลังจากฉงป้าเสียป้อมปราการไปแล้วคุณก็ได้นำกองกำลังหลักกลับป้อมไปซ่อนตัว แต่คุณกลับให้พวกเราไปโจมตีป้อมปราการของหวังเถิงเนี่ยนะ คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?!” เหลยหลงถามอย่างไม่พอใจ

“ฉัน…” ฉือมู่ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

“ถ้าคุณอยากจะให้พวกเราทั้ง 4 กิลด์ออกรบ คุณก็ควรนำกองกำลังหลักบุกไปช่วยฉงป้าก่อน ในเวลานั้นพวกเราทั้งสองคนก็พร้อมจะออกไปโจมตีป้อมปราการตามคำแนะนำของคุณทันที” เฉียนเฉียนกล่าว

“ฉันก็อยากจะยกกองกำลังไปช่วยฉงป้าอยู่หรอก แต่กองกำลังของพรอฟฟีซี 100,000 คนอยู่ใกล้ป้อมปราการของฉันมาก หากฉันส่งกองกำลังออกไปน้อยมันก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าหากฉันส่งกองกำลังออกไปมาก มันก็เสี่ยงที่ป้อมปราการของฉันจะแตกด้วยเหมือนกัน” ฉือมู่กล่าว

“แล้วคุณจะมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้กับพวกเราทำไม? คุณอยากจะให้พวกเราออกไปตายแทนคุณงั้นเหรอ” เหลยหลงกล่าว

“พวกเรายุติการเป็นพันธมิตรเอาไว้เพียงแค่นี้เถอะ ถึงเราจะเป็นพันธมิตรกันต่อไปแต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว” เฉียนเฉียนกล่าว

“พวกนายอย่าพูดแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้มีความหมายแบบนั้นสักหน่อย” ฉือมู่พูดอย่างร้อนรน

“ดูจากสิ่งที่คุณทำกับลู่หยางแล้วคุณคิดว่าเรายังจะเชื่อใจคุณได้อยู่อีกเหรอ?” เหลยหลงกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

หลังพูดจบเหลยหลงกับเฉียนเฉียนก็ออกไปจากพื้นที่พิเศษในทันที ขณะที่หัวหน้ากิลด์ในส่วนที่เหลือก็ทยอยออกจากพื้นที่พิเศษไปด้วยเช่นกัน

ฉือมู่มองดูร่างของทุกคนที่ค่อย ๆ หายไปด้วยความสับสน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยริมฝีปากที่แห้งผาก

“ปัญหามันเกิดมาจากตรงไหนกันแน่?!”

 

 


ทุกคนคิดว่าอะไร?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.