บทที่ 398 โดนบล็อก
บทที่ 398 โดนบล็อก
“ทุกคนมาในเขตเมืองชั้นในของป้อมคริมสันหน่อย” ลู่หยางส่งข้อความหาพวกฮั่นชา
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับก่อนจะเทเลพอร์ตเข้ามาภายในเมืองหลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่นาน
หลังจากทุกคนได้มารวมตัวกันแล้ว ลู่หยางก็ใช้คทาวาร์ปพาฮั่นอิ่ง, มู่หยูและพวกฮั่นชาไปเก็บเลเวลต่อที่สปิริตอะคาเดมี่
ปัจจุบันพวกฮั่นชามีเลเวลอยู่ที่ 46 แล้ว ซึ่งเขาก็คาดการณ์ว่าอีกประมาณครึ่งวันทุกคนจะมีเลเวลเพิ่มขึ้นจนถึง 50
—
ขณะที่ลู่หยางกำลังนำทีมเก็บเลเวล บลัดไทแรนท์ก็กำลังนำทีมเก็บเลเวลภายในแผนที่เลเวล 40 อย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน
การเก็บเลเวลในครั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้นักเวทระดับสูงกว่า 3,000 คนจาก 5 กิลด์ได้แก่บลูคริสตัล, ดีวายโซล, สกายโดเมน, พรอฟฟีซี, ซันเซ็ตและเอเวอร์ลาสติงในการฆ่ามอนสเตอร์และไม่รับค่าประสบการณ์ ทำให้ค่าประสบการณ์ทั้งหมดตกไปสู่ลูกน้องของบลัดไทแรนท์
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปประมาณตอนเที่ยงแสงสีทองก็เริ่มส่องสว่างขึ้นมาเป็นระลอก โดยมันเป็นสัญญาณว่าลูกน้องทั้ง 5,000 คนสุดท้ายของบลัดไทแรนท์ได้มีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 30 เรียบร้อยแล้ว
หากนับลูกน้องทั้ง 5,000 คนนี้เข้าไป มันก็หมายความว่าบลัดเติสตี้มีสมาชิกเลเวล 30 มากถึง 50,000 คน และพวกเขาก็ยังมีสมาชิกทั่วไปที่มีเลเวลประมาณ 28 อยู่อีก 130,000 คน
บลัดไทแรนท์มองไปยังมองไปที่บลูสกาย, สกายโดเมนวอริเออร์, แบล็คบลัดและโซลออฟอีเทอนิตี้ที่อยู่รอบ ๆ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยความซาบซึ้งว่า
“คราวนี้ผมต้องขอขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ”
“ไม่ต้องเกรงใจพวกเราหรอก ทุกคนต่างก็รับใช้คุณหวังด้วยกันทั้งนั้น เรื่องแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องที่พวกเราสมควรทำอยู่แล้ว” บลูสกายกล่าว
หวังเถิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะพูดว่า
“ดีมาก เอาล่ะบอกให้ลูกน้องทุกคนเปิดโหมดเงียบแล้วไปรับอุปกรณ์ระดับทองที่ป้อมปราการสกายมิสท์”
“ครับ” บลัดไทแรนท์พยักหน้ารับ
ก่อนหน้านี้เขาสัญญาว่าจะให้อุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 แก่สมาชิกกิลทุกคนที่มีเลเวล 30 แต่ผู้ที่ได้รับอุปกรณ์จะต้องเซ็นสัญญากับทางกิลด์ว่าจะต้องเข้าร่วมในทุก ๆ สงคราม ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถือว่าผิดสัญญาและจะต้องส่งอุปกรณ์คืนให้กับกิลด์
สัญญานี้ไม่มีผลเสียใด ๆ ต่อลูกกิลด์เลยลูกกิลด์ของบลัดเติสตี้ทั้ง 180,000 คนจึงทำการเซ็นสัญญากันเกือบจะครบหมดแล้ว มันจึงเป็นการการันตีได้ว่าพวกเขาจะมีกำลังเข้าร่วมสงครามไม่น้อยกว่า 80%
หลังจากที่บลัดไทแรนท์พาลูกน้องไปจัดการเรื่องต่าง ๆ แล้ว หวังเถิงก็หันไปถามแบล็คบลัดที่อยู่ใกล้ ๆ ว่า
“ทางฝั่งฉงป้าเป็นยังไงบ้าง?”
แบล็คบลัดเคยส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปภายในกิลด์ของฉงป้า และในตอนนี้คนคนนั้นก็ได้ถูกเลื่อนขั้นกลายเป็นรองหัวหน้าทีมแล้ว แต่ด้วยสัญญาที่เขาได้เซ็นกับแบล็คบลัดเอาไว้ แม้ว่ารองหัวหน้าทีมคนนั้นจะไม่เต็มใจแต่เขาก็ต้องบอกทุกอย่างที่แบล็คบลัดอยากรู้
ด้วยสายลับที่แบล็คบลัดส่งเข้าไปในกิลด์โอเวอร์ลอร์ดคนนี้นี่เอง มันจึงทำให้หวังเถิงให้ความความสำคัญกับแบล็คบลัดเอาไว้สูงมาก
“ตอนนี้มันกำลังปรึกษากับฉือมู่ว่าจะแบ่งป้อมปราการของลู่หยางกันยังไง และเงินลงทุนที่พวกมันพึ่งได้รับมาต่างก็เอาไปซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตอุปกรณ์อย่างเต็มที่” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
“ถึงพวกมันทั้ง 4 กิลด์จะร่วมมือกันผลิตอุปกรณ์ แต่อย่างมากที่สุดพวกมันก็ผลิตอุปกรณ์ได้แค่ 300 ชุดต่อวัน แต่ทางฝั่งของพวกเรามีอุปกรณ์อยู่เกินกว่า 50,000 ชุดแล้ว การเผชิญหน้ากับพวกมันก็ไม่ต่างไปจากการพยายามเอามีดร้อนไปตัดเนย” หวังเถิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างเย่อหยิ่ง
เหล่าบรรดาหัวหน้ากิลด์คนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็หัวเราะขึ้นมาด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาสามารถจินตนาการถึงสภาพอันน่าเวทนาของฉงป้าหลังจากที่สงครามเริ่มต้นขึ้นได้เลย
“มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราจะต้องระวังครับ ฉงป้าอาจจะสัมผัสได้แล้วว่าป้อมปราการน่าจะสร้างเงินได้อย่างมหาศาลในอนาคต เขาจึงเลือกซื้อปืนใหญ่มาป้องกันป้อมปราการเอาไว้ 4 กระบอก” แบล็คบลัดกล่าว
ปืนใหญ่ของป้อมปราการมีพลังโจมตีสูงถึง 100,000 หน่วย โดยมันสามารถยิงได้ในระยะ 500 เมตรและสามารถสร้างแรงระเบิดได้ในพื้นที่ 50 เมตร ความเร็วในการโจมตีของปืนแต่ละกระบอกอยู่ที่ 30 วินาทีต่อครั้ง แต่มันก็มีราคาสูงถึงกระบอกละ 10 ล้านเครดิตด้วยเช่นกัน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉงป้ามันจะกล้าใช้เงินมากขนาดนี้” หวังเถิงอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
หากพวกเขาเริ่มเปิดสงครามแม้แต่ผู้เล่นเลเวล 30 ที่สวมชุดอุปกรณ์ระดับทองทั้งตัวก็ไม่สามารถที่จะต้านทานปืนใหญ่ประจำป้อมปราการได้ ปืนใหญ่ทั้ง 4 กระบอกนี้จึงถือได้ว่าเป็นอุปสรรคครั้งใหญ่สำหรับพวกเขาเลยทีเดียว
“ถ้าพวกมันมีปืนใหญ่ด้วยพวกเราก็คงจะเกิดการสูญเสียกันหนักมาก” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
“สายลับของนายพอจะหาทางกำจัดปืนใหญ่เวทมนตร์พวกนี้ได้ไหม?” หวังเถิงหันไปถามแบล็คบลัด
“คุณหวังวางใจได้เลย ถึงแม้การเข้าถึงปืนใหญ่จะทำได้ยากมากแค่ไหน แต่ผมก็จะทำให้เขาสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จให้ได้” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
หวังเถิงพึงพอใจกับท่าทีของแบล็คบลัดมาก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“ดีมาก ถ้าคราวนี้นายทำได้ฉันจะจดจำความดีความชอบในครั้งนี้เอาไว้ไม่มีทางลืม”
“ขอบคุณครับคุณหวัง” แบล็คบลัดกล่าวด้วยความประจบประแจง
“เอาล่ะตอนนี้มันก็เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว นอกเหนือจากโซลออฟอีเทอนิตี้กับแบล็คบลัด ทุกคนกลับไปร่วมกองกำลังในเมืองของตัวเองซะ พวกเราจะเริ่มเปิดสงครามในเวลาบ่าย 2 โมง” หวังเถิงกล่าว
บลูสกาย, สกายโดเมนวอริเออร์และดูมสเดย์ต่างก็ค่อมตัวให้หวังเถิงอย่างสุภาพ ก่อนที่พวกเขาจะเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองของตัวเอง ส่วนกองกำลังนักเวทที่อยู่ที่นี่ต่างก็ถูกมอบให้หวังเถิงเป็นผู้บัญชาการ
“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าฉือมู่กับฉงป้ามันจะทำหน้ายังไง?” หวังเถิงพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ขณะที่เขามองไปทางเมืองเซนต์กอลล์
—
อีกด้านหนึ่ง
ฉงป้ากับฉือมู่กำลังยืนคุมทีมช่างตีเหล็กเพื่อเร่งผลิตอุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30
หลังจากไม่ได้ทำสงครามใหญ่มานานกว่า 1 เดือน มันก็ทำให้สมาชิกภายในกิลด์ของฉือมู่มีเลเวลเพิ่มขึ้นถึง 30 มากกว่า 20,000 คนแล้ว แต่อุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 ของพวกเขามีแค่ 10,000 กว่าชิ้น ขณะที่สถานการณ์ทางฝั่งฉงป้าก็เรียกได้ว่าอยู่ในสถานะที่ใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตามเพื่อกำจัดลู่หยางให้ได้อย่างสิ้นซาก พวกเขาจึงทุ่มเทเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์หลังจากนี้กันอย่างหนัก จนถึงขนาดยอมทุ่มเงินซื้ออุปกรณ์จากภายนอกมาให้กับสมาชิกภายในกิลด์ของตัวเอง
ในพื้นที่พิเศษ
“ตอนนี้พวกเรามีอุปกรณ์ระดับทองเพิ่มขึ้นมาประมาณ 8,000 ชุดแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่บลัดเติสตี้เริ่มทำการโจมตีป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ ในเวลานั้นพวกเราก็จะสามารถเข้ายึดครองป้อมปราการคริมสันได้อย่างง่ายดาย” ฉงป้ากล่าว
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาคุยกันเรื่องส่วนแบ่งเลยดีไหม?” ฉือมู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนั้นผมคิดเอาไว้แล้วว่าคุณกับผมจะถือหุ้นกันคนละ 40% แล้วแบ่งหุ้นให้เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่กับโอเวอร์ลอร์ดกันกิลด์ละ 10% แบบนี้คุณโอเคไหม?” ฉงป้ากล่าว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ฉือมู่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ทันใดนั้นเองชิงเฟิงก็รีบเข้ามาในพื้นที่พิเศษด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
“หัวหน้า พวกเราเพิ่งได้รับข่าวมาว่าบลัดเติสตี้กำลังเรียกระดมพลแล้วครับ”
“พวกเขาเรียกระดมพลไปทำอะไร?” ฉือมู่ถาม
“ตอนนี้เรายังไม่สามารถยืนยันเป้าหมายของพวกเขาได้ครับ และสายลับของเราก็ยังไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในกองกำลังหลักของพวกเขาได้ด้วย สิ่งที่เรารู้คือก่อนหน้านี้บลัดไทแรนท์พากองกำลังหลักเร่งเก็บเลเวลมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่” ชิงเฟิงกล่าว
“พวกเขากำลังจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ต้องกังวลการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายมาที่พวกเรา” ฉงป้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ระหว่างที่บลัดไทแรนท์กำลังนำทีมเก็บเลเวล มันก็คงจะคิดถึงภาพการฆ่าลู่หยางอยู่ทุก ๆ คืนแน่ ๆ” ฉือมู่กล่าว
ฉงป้าหัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างสะใจ
ชิงเฟิงกำลังมองไปทางฉือมู่อย่างลังเล แต่ในขณะที่เขากำลังจะออกจากพื้นที่พิเศษ เขาก็ได้รับข้อความ ๆ หนึ่งที่ทำให้เขาเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“หัวหน้ามีเรื่องใหญ่แล้วครับ บลัดเติสตี้กำลังนำกำลังพล 180,000 คนรวมกับกำลังพลของกิลด์พรอฟฟีซี 100,000 คนมุ่งหน้าไปที่ป้อมปราการแบล็คร็อคครับ” ชิงเฟิงรายงานด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
ฉงป้ากับฉือมู่ต่างก็สะดุ้งลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อม ๆ กัน
“นายบอกว่าบลัดไทแรนท์กำลังนำกองกำลังพวกนั้นไปไหนนะ?” ฉงป้าถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ป้อมปราการแบล็คร็อคครับ” ชิงเฟิงตอบอีกครั้ง
“ข่าวนี้ยืนยันแล้วใช่ไหม?” ฉือมู่รีบถาม
“เรายืนยันได้แล้วครับ บลัดไทแรนท์ถึงขั้นสั่งให้ลูกน้องทุกคนเปิดโหมดเงียบเพื่อไม่ให้ใครส่งข้อความออกไป สายลับของเราจึงเสี่ยงเปิดเผยตัวถึงขั้นออฟไลน์ออกมารายงานนอกเกม คาดการณ์ว่าอีกไม่ถึง 1 ชั่วโมงพวกเขาก็จะเดินทางไปจนถึงป้อมแบล็คร็อคแล้วครับ” ชิงเฟิงกล่าว
“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?!” ฉงป้าอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ก่อนที่เขาจะรีบติดต่อไปหาบลัดไทแรนท์ในทันที
ระบบ: อีกฝ่ายบล็อกคุณแล้ว
นึกว่าโดนลู่หยางบล็อกเป็นบลัดไทแรนท์เองเหรอเนี่ย!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 218
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น