บทที่ 397 เวทมนตร์กึ่งต้องห้ามบทที่ 2
บทที่ 397 เวทมนตร์กึ่งต้องห้ามบทที่ 2
เมื่อผู้เล่นมีเลเวลถึง 40 และได้รับการเปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะสามารถอัปเลเวลสกิลที่ไม่ใช่สกิลต้องห้ามได้อีก 2 เลเวลแล้วยังมีโอกาสได้เรียนรู้สกิลพิเศษที่มีความคล้ายคลึงกับสกิลกึ่งต้องห้ามได้อีกด้วย
“ยินดีด้วย ๆ”
…
ฉิงชาง, เจียงเจ๋อและคนอื่น ๆ ต่างก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างยินดี เพราะพวกเขาก็มีเลเวล 39 ใกล้จะถึงเลเวล 40 แล้วด้วยเหมือนกัน
เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยสังเกตเห็นลู่หยาง เธอก็โบกไม้โบกมือพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“หัวหน้าวิธีการเก็บเลเวลวิธีนี้มันเร็วมากเลย”
เมื่อทุกคนสังเกตเห็นลู่หยาง พวกเขาก็เดินเข้ามาล้อมด้วยสีหน้าอันตื่นเต้น
“ตอนแรกฉันคิดว่าพวกนายจะรอถึงพรุ่งนี้ค่อยแจ้งข่าวกับคนอื่น ไม่คิดเลยว่าพวกนายจะแจ้งข่าวให้คนอื่นรู้ตั้งแต่คืนนี้เลย” ลู่หยางหันไปพูดกับเหมาชิวและไป๋เหลิงด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่ใช่พวกชอบเก็บสิ่งดี ๆ เอาไว้คนเดียวสักหน่อย” เหมาชิวกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่ใช่เพราะบางคนบอกว่าตัวเองฆ่ามอนสเตอร์ช้าเกินไปหรอกเหรอคะ ถึงได้เรียกคนอื่น ๆ ให้เข้ามาช่วย” มู่หยูย่นจมูกพร้อมกับพูดอย่างน่ารัก
เหมาชิวยกมือขึ้นมาลูบหัวด้วยความเขินอาย เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 50 ช้าเกินไปจริง ๆ ส่วนไป๋เหลิงก็เป็นอาชีพระยะประชิดที่ช่วยอะไรเขาไม่ค่อยได้ ทั้งสองคนจึงปรึกษากันก่อนจะตัดสินใจเรียกทุกคนมา
เมื่อได้เห็นสีหน้าของเหมาชิวกับไป๋เหลิง พวกเขาทุกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างตลกขบขัน
“ความจริงฉันตั้งใจจะให้เฟลชมาเธอร์เวิร์มฟักหนอนเอาไว้ตลอดทั้งคืน พอถึงตอนเช้าฉันจะใช้เมเทโอฟอลล์ฆ่าพวกมันทีเดียวแล้วส่งพวกนายขึ้นเลเวล 40 พร้อม ๆ กัน แต่ทุกคนมาเก็บเลเวลพร้อม ๆ กันแบบนี้มันก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ทุกคนก็ช่วยจัดทีมผู้เชี่ยวชาญที่เซ็นสัญญากับเราและนักเวทที่เรียนรู้สกิลกึ่งต้องห้ามเอาไว้ให้พร้อม พวกเราจะเข้ามาเก็บเลเวลพร้อม ๆ กันทุก ๆ 8 ชั่วโมง” ลู่หยางสั่งการ
ชายหนุ่มวางแผนจะอัปเกรดเวทมนตร์กึ่งต้องห้ามให้ถึงเลเวล 2 ก่อนแล้วค่อยพานักเวทเหล่านี้ไปเรียนรู้เวทมนตร์กึ่งต้องห้ามบทที่ 2 ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น
“ครับ/ค่ะ” ฉิงชางและพวกเซี่ยหยู่เว่ยต่างก็พยักหน้ารับพร้อม ๆ กัน
“เอาล่ะในเมื่อทุกคนมีเลเวล 40 กันแล้วฉันก็คงจะต้องให้ของรางวัลกันหน่อย หลังจากนี้ให้ทุกคนไปเบิกเงินจากถูเฟิงเพื่อไปซื้อบังเหียนจากพระราชวัง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพาทุกคนไปจับสิงโตเพลิง” ลู่หยางกล่าวขณะมองไปยังสมาชิกด้านหน้าอย่างพึงพอใจ
“หัวหน้าใจดีที่สุดเลย” ฉิงชางกล่าว
บังเหียนแต่ละชิ้นมีราคาสูงถึง 100 เหรียญทองหรือตีเป็นเงิน 30,000 เครดิต ซึ่งถ้าหากลู่หยางต้องการจะซื้อบังเหียนให้กับพวกเขาทั้ง 21 คน มันก็หมายความว่ากิลด์จะต้องจ่ายเงินออกไปมากกว่า 600,000 เครดิตเลยทีเดียว
“ทุกคนไม่จำเป็นจะต้องไปสนใจเรื่องเงินหรอก ในอนาคตถ้าลูกน้องของพวกนายมีเลเวลถึง 35 แล้วฉันก็จะซื้อบังเหียนให้กับพวกเขาเป็นสวัสดิการของกิลด์ด้วยเหมือนกัน วิธีการนี้จะช่วยให้เรามีกองกำลังที่เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นและมันก็จะส่งผลดีต่อสถานการณ์โดยรวมของสงครามเป็นอย่างมาก” ลู่หยางกล่าว
สัตว์ขี่คือกลยุทธ์การหาเงินระลอกที่ 3 ของเซคคัลเวิลด์ เพราะต่อไปหากกิลด์ไหนต้องการได้รับชัยชนะในสงคราม พวกเขาก็จำเป็นจะต้องหาเงินมาซื้อบังเหียนให้กับกองทัพของตัวเองด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นหากกองกำลังของพวกเขาเคลื่อนที่เชื่องช้ากว่ากองกำลังของกิลด์อื่น ๆ มันก็จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ เพราะไม่สามารถที่จะโยกย้ายกองกำลังไหลตามศัตรูไปได้
“ถ้านายทำแบบนั้นมันจะต้องใช้เงินก้อนใหญ่มากเลยนะ แม้แต่การซื้อบังเหียนให้กับกองกำลังหลักทั้ง 13,000 คนมันก็จำเป็นจะต้องใช้เงินเกือบ 4 ล้านเหรียญทองแล้ว อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเรายังต้องซื้ออุปกรณ์ระดับทองเลเวล 30 เอาไว้รับมือกับโซลออฟอีเทอนิตี้ หากนายคิดจะซื้อบังเหียนให้กับทุกคนที่เลเวลเกิน 35 จริง ๆ ฉันก็คิดว่าเงินของเราคงจะมีไม่พอ” ถูเฟิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล เพราะอีกไม่นานพวกเราก็จะรวยกันแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบไหล่ถูเฟิงเบา ๆ ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับทุกคนว่า
“ฉันออกไปพักก่อนนะ ส่วนทุกคนเก็บเลเวลจนถึง 40 กันก็พอ หลังจากนี้ก็ให้แบ่งเวรกันโจมตีให้เฟลชมาเธอร์เวิร์มผลิตเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มออกมาเรื่อย ๆ แล้วพรุ่งนี้พวกเราค่อยมาจัดการเรื่องเงินกันต่อ”
“ได้ครับ” ฉิงชางกล่าว
ในบรรดาแม่ทัพทั้งหมดลู่หยางไว้ใจฉิงชางมากที่สุด เขาจึงเดินทางกลับไปยังโรงแรมเพื่อทำการล็อกเอาท์ออกจากเกม
—
วันต่อมาหลังจากลู่หยางออกกำลังกายช่วงเช้าเสร็จ เขาก็เข้าเกมในทันที
เมื่อชายหนุ่มเดินทางมาถึงปากปล่องภูเขาไฟ เขาก็สังเกตเห็นจางจื่อโป๋กำลังนั่งอยู่อย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับใช้ก้อนหินขว้างใส่เฟลชมาเธอร์เวิร์ม โดยมีฉิงชางนั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่ข้าง ๆ
“หัวหน้ามาแล้ว” ฉิงชางกล่าวพร้อมกับเดินเข้ามาหาซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็อ้าปากหาวขึ้นมาด้วย
ลู่หยางพยักหน้าทักทายพร้อมกับเดินไปสำรวจตรงบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งในปัจจุบันปล่องภูเขาไฟที่เคยลึก 50 เมตรเหลือพื้นที่อยู่สูงเพียงแค่ 10 เมตรเท่านั้น เพราะในปล่องมีเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มรวมตัวกันอยู่อย่างมากมาย
“เยอะมากเลยนะเนี่ย” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พวกเราแบ่งเวรกันให้พวกมันฟักเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มกันทั้งคืนเลยครับ” ฉิงชางกล่าว
เฟลชมาเธอร์เวิร์ม 25 ตัวสามารถผลิตเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มได้ 75 ตัวต่อวินาที ตลอดช่วง 8 ชั่วโมงที่ผ่านมาด้านในปล่องภูเขาไฟจึงมีเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มอยู่มากกว่า 300,000 ตัว
“เรื่องคนจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” ลู่หยางถาม
“หยู่เว่ยพาลูกน้องมารออยู่ข้างนอกแล้วครับ พวกเขาพร้อมที่จะเข้ามาได้ตลอดเวลา” ฉิงชางตอบ
ลู่หยางพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปหาเซี่ยหยู่เว่ย
“พาคนกลุ่มแรกเข้ามาได้เลย”
—
บริเวณหน้าประตูเมืองชั้นในป้อมปราการคริมสัน
ปัจจุบันนักเวทมิติทั้ง 10 คนที่ได้เรียนรู้สกิลสเปซคัทติงและผู้บัญชาการทั้ง 10 คนของกองทัพพิทักษ์ราชินีกำลังนั่งรออยู่ด้านนอกประตูพร้อมกับเซี่ยหยู่เว่ย
“หัวหน้าทำไมถึงเรียกรวมพวกเรามาแต่เช้าแบบนี้ล่ะครับ? ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องรีบออกไปเก็บเลเวลเหรอ” หยางหวางเอ่ยถามพลางอ้าปากหาว
การเก็บเลเวลถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต่างก็รู้สึกกังวล โดยเฉพาะอาชีพที่ไม่มีสกิลโจมตีวงกว้างอย่างเช่นโจรหรือนักรบ
ขณะเดียวกันครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่หานซาได้มีโอกาสนั่งใกล้ ๆ เซี่ยหยู่เว่ย เขาจึงกลืนน้ำลายก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างประหม่าว่า
“หัวหน้ามีข่าวดีอะไรหรือเปล่าครับ?”
เซี่ยหยู่เว่ยกำลังจะพูดตอบลูกน้อง แต่เธอก็ได้รับข้อความมาจากลู่หยางเสียก่อน
ระหว่างนั้นประตูก็ถูกเปิดออก เซี่ยหยู่เว่ยจึงหันไปพูดกับทุกคนด้วยสีหน้าอันจริงจังว่า
“ทุกคนตามฉันเข้ามาได้เลย แต่ก่อนหน้านั้นขอให้ทุกคนปิดฟังก์ชั่นแสดงผลบนกระดานจัดอันดับเลเวลเอาไว้ด้วย นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามใครเปิดฟังก์ชั่นแสดงผลบนกระดานจัดอันดับการเก็บเลเวลนอกจากจะได้รับอนุญาตจากฉันก่อน”
กองกำลังพิทักษ์ราชินีต่างก็เชื่อฟังเซี่ยหยู่เว่ยโดยไม่มีข้อโต้แย้งอยู่แล้ว พวกเขาจึงทำการปิดฟังก์ชั่นการแสดงผลบนกระดานจัดอันดับการเก็บเลเวลโดยไม่ถามอะไร
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มีโอกาสเดินเข้ามาภายในเขตเมืองชั้นในของป้อมปราการ เมื่อพวกเขาได้เห็นเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มจำนวนมหาศาลในปากปล่องภูเขาไฟ มันก็ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
“นี่มัน…นี่มันอะไรกันเนี่ย?!” หยางหวางอุทานพร้อมกับอ้าปากค้าง
“นี่มันค่าประสบการณ์มหาศาลเลยไม่ใช่เหรอ?” หานซากล่าว
ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะยกคทาชี้ขึ้นไปบนฟ้า
เมเทโออิมแพค!
อุกกาบาตสีแดงเพลิงตกลงมาจากท้องฟ้า 6 ลูกติดต่อกัน ก่อนที่พวกมันจะบดขยี้ฝูงเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มในปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง
หานซา, หยางหวางและสมาชิกภายในกองกำลังพิทักษ์ราชินีต่างก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของพวกเขากลายเป็นแสงสีทองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่ผลของสกิลเมเทโออิมแพคหมดลง เซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มในปากปล่องภูเขาไฟก็ถูกสังหารลงไปจนเกือบหมด
ผู้เล่นทั้ง 20 คนต่างก็รีบเปิดหน้าต่างสถานะของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่หยางหวางจะพูดด้วยแววตาอันเหม่อลอยว่า
“เลเวล 40 แล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน” หานซากล่าว
“พวกเราก็เหมือนกันครับ” นักเวทมิติทั้ง 10 คนกล่าว
ลู่หยางเดินเข้าไปหาเซี่ยหยู่เว่ยพร้อมกับกระซิบขึ้นมาเบา ๆ ว่า
“พานักเวททั้ง 10 คนนี้ไปที่สถาบันเวทมนตร์มิติแล้วให้พวกเขาเข้าไปหาจอมเวทโลบอล พวกเขาจะได้รับภารกิจอัปเกรดเลเวลสกิลสเปซคัทติง จากนั้นให้พวกเขาเข้าไปหาจอมเวทเจอร์โรลด์พวกเขาจะได้รับภารกิจเรียนรู้สกิลกึ่งต้องห้ามสกิลที่ 2”
“จริงเหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย
“ฉันจะโกหกเธอไปทำไม ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาหาฉันได้เลย” ลู่หยางตอบ
“ได้ค่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้ารับ ก่อนที่จะพาทุกคนเดินออกไปอย่างมีความสุข
ลู่หยางเดินกลับมายังข้างปากปล่องภูเขาไฟอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับฉิงชางว่า
“พวกนายออกไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ ช่วงบ่ายก็เตรียมทีมของตัวเองมาให้พร้อม เดี๋ยวฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องเซลฟ์เดทโทเนทิงเวิร์มเอง”
“ได้ครับ” ฉิงชางพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะออฟไลน์ออกไปเพื่อพักผ่อน
โจมตีทีเดียว ตูมมมม เลเวล 40 เลย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 139
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น