รีวิว ‘เด็กหอ’ หนังผีใน Netflix ที่ให้คุณค่ามากกว่าความหลอน จนทำให้คนดูหลายคนต้องกลับมาฉุกคิดอะไรบางอย่าง

-A A +A
รีวิว ‘เด็กหอ’ หนังผีใน Netflix ที่ให้คุณค่ามากกว่าความหลอน จนทำให้คนดูหลายคนต้องกลับมาฉุกคิดอะไรบางอย่าง

รีวิว ‘เด็กหอ’ หนังผีใน Netflix ที่ให้คุณค่ามากกว่าความหลอน จนทำให้คนดูหลายคนต้องกลับมาฉุกคิดอะไรบางอย่าง

หมวดบทความ: 

ในวันที่ว่างงานจนรู้สึกเบื่อ เลยถือโอกาสเข้าไปหาหนังดูในเว็บสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix เลื่อนไปเลื่อนมาอยู่นาน จนไปสะดุดใจเข้ากับหนังแนวหนึ่งที่ไม่ได้ดูมานาน นั่นก็คือหนังผี

 

ที่ไม่ดูภาพยนตร์แนวนี้เลย เพราะส่วนตัวไม่ชอบซาวด์เสียง ที่บทจะดังก็ดัง บทจะเบาก็แทบไม่ได้ยิน อีกทั้งยังไม่ค่อยชอบบรรยากาศอึนๆ ของหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยจะชอบไปดูพวกหนังแอคชั่น หรือไม่ก็หนังรักไปเลย แต่ที่ตัดสินใจดูครั้งนี้ก็เพราะชื่อเรื่องล้วนๆ

 

หนังผีที่ผมเลือกจะดูก็คือเรื่อง ‘เด็กหอ’

 

แล้วทำไมผมถึงเลือกจะดูเรื่องเด็กหอ นั่นก็เพราะ สมัยเด็ก ผมก็เคยเป็น ‘เด็กหอ’ แบบนี้มาก่อน เลยคิดว่าดูย้อนความหลังหน่อยก็ดี เพราะตัวเอกก็อยู่ในวัยสิบสองสิบสามปี ใกล้เคียงกับอายุผมในช่วงนั้นพอดี

 

ตัวภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยฉากที่ “ต้น” ถูกผู้เป็นพ่อสั่งย้ายโรงเรียนด่วนด้วยเหตุผลบางอย่าง ทั้งที่ต้นเองไม่ยินยอม โดยโรงเรียนใหม่ที่ต้นไปอยู่ จะเป็นโรงเรียนกินนอน หรือโรงเรียนประจำ

 

หนังเน้นไปที่ฉากครูหอพักที่ค่อนข้างเข้มงวด รวมทั้งการที่ต้นถูกเพื่อนใหม่รังแกหรือบูลลี่ ไหนจะเรื่องทางบ้านที่มักต่อว่าต้นเรื่องการเรียน ทำให้เขารู้สึกว่า เป็นส่วนเกินของทุกคนและไม่มีใครมองเขาอยู่ในสายตา

 

จนเขาได้มาพบกับเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า “วิเชียร” เขาและวิเชียรมีอะไรหลายอย่างที่ไปด้วยกันได้ ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันขึ้นไปเรื่อยๆ กระทั่งต้นได้รับรู้ความเป็นจริงของเพื่อนใหม่อย่างวิเชียร ซึ่งไม่ได้สวยหรูเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังมีแต่เรื่องสุดหลอนและสยองขวัญอยู่รอบๆ โรงเรียนแห่งนั้นอีกด้วย

 

แม้ตัวภาพยนตร์จริงๆ จะฉายมาได้สิบกว่าปีแล้ว กระทั่ง Netflix นำมาลงให้ดูอีกรอบเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ผมว่าการดำเนินเรื่องก็ไม่ได้ดูเก่าเลย มันยังสะท้อนอะไรให้เราเห็นได้ในหลายๆ เรื่อง

 

ผมนั่งดูไปเรื่อยๆ จนถึงตอนที่ต้นย้ายไปที่โรงเรียนแห่งใหม่ ช่วงแรกๆ ก็เต็มไปด้วยเรื่องครูโหดๆ เรื่องเล่าหลอนๆ ตามสไตล์หนังแนวโรงเรียนนั่นแหละ ตอนนั้นลังเลเลยว่าจะดูต่อดีไหม เพราะกลัวหนังขายความหลอนไปเรื่อยๆ จนจบนี่สิ ...แหม มันดูมาขนาดนี้แล้ว เลยตัดสินใจไปต่ออีกนิด

 

เริ่มมาน่าสนใจ (สำหรับผม) ก็ตอนที่วิเชียรซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ที่ดีของต้นปรากฏตัวขึ้นนั่นแหละ ยิ่งแม้แต่ความลับของวิเชียรถูกต้นรับรู้ แต่ต้นก็ไม่กลัว แถมยังมองว่าวิเชียรเป็นเพื่อนของตัวเองต่อไป ผมยิ่งรู้สึกว่า หนังถ่ายทอดมิตรภาพระหว่างเพื่อนทั้งสองออกมาได้ดี

 

นอกจากความหลอนและมิตรภาพระหว่างกลุ่มเพื่อน สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเลยก็คือ หนังสะท้อนสังคมของคนเราออกมาได้ดี ทั้งในแง่การบูลลี่กันระหว่างเด็กๆ เรื่องเรียนที่ดูจะเข้มงวดเกินไป โดยไม่สนใจความรู้สึกของเด็ก เรื่องครอบครัว ระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง เรื่องครูกับนักเรียนที่ไม่เข้าใจกัน

 

หนังฉายครั้งแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2549 กระทั่งตอนนี้ พ.ศ. 2566 แต่ผมว่าสังคมบ้านเรา ก็ยังมีปัญหาอะไรพวกนี้ทุกวัน ผมเลยมองว่า แม้ตัวหนังจะเก่า แต่หนังก็ยังสะท้อนสังคมออกมาได้ดี แสดงให้เห็นว่า สังคมในบางแง่ของบ้านเมืองเรา ไม่ได้ขยับไปไหนเลย โดยเฉพาะเรื่องเรียน ที่มองว่าเด็กจะต้องเรียนดี เรียนเก่ง

 

แม้ใครหลายคนอาจจะมองว่า หนังผี แต่หลอนไม่สุด สยองไม่สุด แต่สำหรับผม หนังเรื่องนี้มันมีมากกว่าความหลอนหรือเรื่องผี เพราะคุณค่าของมันอยู่ที่การสะท้อนให้คนดูฉุกคิดกับอะไรบางอย่างมากกว่า

 

ใครที่สนใจหนังสยองขวัญ แต่ได้อะไรมากกว่าความหลอน ผมแนะนำให้คุณดู ‘เด็กหอ’ ได้ทาง Netflix เลยครับ

 

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.