บทที่ 399 ทัพหลอก
บทที่ 399 ทัพหลอก
“ไอ้สารเลว นี่แกกล้าหลอกฉันงั้นเหรอ?!” ฉงป้าทุบโต๊ะด้วยความโกรธเกรี้ยว
ฉือมู่ก็พยายามติดต่อไปหาบลัดไทแรนท์ แต่เขาก็ได้พบว่าตัวเองก็ถูกบล็อกด้วยเช่นกัน
“พวกเราโดนบลัดไทแรนท์หลอกแล้ว น้องชายตอนนี้มันไม่ใช่เวลาจะมาโมโหหรอกนะ นายรีบจัดทีมไปเตรียมป้องกันป้อมปราการของนายเถอะ เดี๋ยวฉันจะเรียกเหลยหลงกับเฉียนเฉียนมาปรึกษากันว่าพวกเราจะช่วยนายยังไงได้บ้าง” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
ฉงป้าพยักหน้ารับ แต่ในทันใดนั้นมันก็มีคำขอขอเข้าพื้นที่พิเศษจากเหลยหลงและเฉียนเฉียนดังขึ้นมาเสียก่อน
ฉือมู่กดตอบรับในทันที แต่เมื่อหัวหน้ากิลด์ทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้นมาเฉียนเฉียนก็เริ่มพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าอันตื่นตระหนก
“กิลด์บลูคริสตัลกับกิลด์พันธมิตรกำลังเรียกรวมกำลังพลแล้ว พวกเราควรจะทำยังไงดี?”
“ทางฝั่งผมก็เหมือนกัน กิลด์สกายโดเมนกำลังรวบรวมกองกำลังและประกาศว่าจะบุกโจมตีป้อมปราการของผม” เหลยหลงกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลยหลงกับเฉียนเฉียน มันก็ทำให้ฉือมู่กับฉงป้านั่งอึ้งอยู่กับที่จนทำอะไรไม่ถูก
“คราวนี้พวกเราแย่แน่ ๆ” ฉือมู่กล่าว
“ทางฝั่งพวกคุณมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” เฉียนเฉียนถามหลังจากสัมผัสได้ว่าบรรยากาศของฝั่งตรงข้ามก็ไม่ค่อยจะดีเหมือนกัน
“ทุกคนรักษาตัวด้วย ฉันขอตัวก่อนล่ะ” ฉงป้าพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะหายตัวออกจากพื้นที่พิเศษแห่งนี้ไป
เหลยหลงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ก่อนที่เขาจะถามออกไปว่า
“เขาทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? ไม่ใช่ว่าเราเป็นพันธมิตรกันหรอกเหรอ ทำไมพอมีเรื่องเขากลับวิ่งหนีออกไปคนแรกเลย”
“เมื่อกี้บลัดไทแรนท์ก็กำลังนำกำลังพล 180,000 คนบุกป้อมปราการแบล็คร็อคของเขาด้วยเหมือนกัน อย่างมากที่สุดอีก 1 ชั่วโมงกองกำลังของบลัดไทแรนท์ก็คงจะเดินทางไปจนถึงป้อมแล้ว” ฉือมู่พูดอย่างจนปัญญา
“ทำไมจู่ ๆ มันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ? อย่าบอกนะว่าหวังเถิงคิดจะจัดการพวกเราทั้งหมดในคราวเดียว” เฉียนเฉียนกล่าว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันต้องออกไปจัดกำลังพลช่วยฉงป้าก่อนแล้ว ถึงแม้บลัดเติสตี้กับพรอฟฟีซีจะยังมีกำลังไม่มากพอบุกยึดป้อมปราการได้ แต่เราก็จำเป็นจะต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน” ฉือมู่กล่าว
“หัวหน้า พวกเราคงจะไปช่วยฉงป้าไม่ได้แล้วครับ” ชิงเฟิงกล่าวแย้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“มีอะไรงั้นเหรอ?” ฉือมู่หันหน้าไปถามชิงเฟิง
“สมาชิกของพรอฟฟีซีไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ป้อมแบล็คร็อคพร้อมกับบลัดเติสตี้ครับ แต่พวกเขากำลังมุ่งหน้ามาที่ป้อมปราการของเรา” ชิงเฟิงตอบ
“หาที่ตาย! พรอฟฟีซีกิลด์เดียวคิดจะมาโจมตีป้อมปราการของฉันงั้นเหรอ? รีบกระจายคำสั่งออกไปให้ทุกคนเตรียมพร้อมรบ” ฉือมู่สั่งการด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ได้ครับ” ชิงเฟิงตอบรับก่อนจะออกจากพื้นที่พิเศษไปด้วยเช่นกัน
“ทุกคนรีบออกไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าหวังเถิงกำลังวางแผนจะทำอะไร ถ้าหากใครรู้ข่าวอะไรเพิ่มเติมก็ให้รีบเรียกประชุมกันในทันที” ฉือมู่หันไปกล่าวกับหัวหน้ากิลด์ทั้งสองคน
“ตอนนี้เราคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าหวังเถิงมันต้องการจะบุกยึดป้อมปราการของเราทุกคนจริง ๆ ถึงแม้ฉันจะต้องพ่ายแพ้แต่ฉันก็จะสู้กับพวกมันจนถึงขีดสุด” เหลยหลงกล่าวก่อนจะออกจากพื้นที่พิเศษเป็นคนแรก
เฉียนเฉียนพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะออกจากพื้นที่พิเศษด้วยเช่นกัน
หลังจากฉือมู่ออกมาจากพื้นที่พิเศษแล้วเขาก็ทำการเทเลพอร์ตไปยังป้อมปราการฟลาวเวอร์และได้พบกับกองกำลังที่ทยอยเทเลพอร์ตกลับมาตามคำสั่งของชิงเฟิงแล้ว
แม้พรอฟฟีซีจะเป็นกิลด์ใหญ่แต่ก็ยังห่างชั้นจากเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่มาก ดังนั้นถึงแม้มันจะมีข่าวว่าอีกฝ่ายต้องการจะบุกโจมตี แต่ฉือมู่ก็ไม่ได้กลัวสงครามในครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
ระหว่างที่ฉือมู่กำลังยืนครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่บนกำแพง เขาก็เริ่มตระหนักว่าเหตุการณ์มันมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ
ตอนนี้ผู้เล่นภายในเมืองเซนต์กอลล์มีจำนวนอยู่มากเกินไป แม้แต่สมาชิกกิลด์ก็มีจำนวนอยู่มากเกินไปด้วยเหมือนกัน ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิดมันน่าจะมีกิลด์ที่มีความสามารถบุกชิงป้อมปราการได้มากกว่า 20 กิลด์ ชายชราจึงสงสัยว่ามันอาจจะมีกิลด์อื่นร่วมมือกับพรอฟฟีซีเพื่อบุกโจมตีป้อมปราการของเขา
ลั่วซืออวี่เดินมาข้าง ๆ ฉือมู่ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า
“หัวหน้าวางใจได้เลยค่ะ ถ้าพรอฟฟีซีมันกล้าโจมตีพวกเราจริง ๆ พวกเราก็มั่นใจว่าจะทำลายกองกำลังของพวกมันได้อย่างแน่นอน”
“กองทัพนักเวทของเธอคือความภาคภูมิใจที่สุดสำหรับฉัน คราวนี้ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของพวกเธอนะ” ฉือมู่กล่าว
กองทัพนักเวทไฟภายใต้การดูแลของลั่วซืออวี่มีกำลังอยู่ถึง 3,000 คน โดยนักเวททุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ระดับทองและนักเวทประมาณ 1 ใน 10 ของกองกำลังยังได้เรียนรู้เวทมนตร์พิเศษมาแล้วอีกด้วย
ปัจจุบันเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่มีกองกำลังพิเศษอยู่ทั้งสิ้น 4 กอง ได้แก่กองกำลังนักเวทไฟของลั่วซืออวี่, กองกำลังนักรบของซิลเวอร์วูฟ, กองกำลังนักเวทน้ำแข็งของซิลเวอร์ไลท์แดนซ์และกองกำลังนักฆ่าของอินวิซิเบิล
ในด้านการบัญชาการในสนามรบเขาก็มีแม่ทัพอยู่ทั้งสิ้น 4 คนด้วยเช่นกันได้แก่ชิงเฟิง, ฮิดเดนเบลด, ฟอลิ่งสกายโคลด์และอีชี่ฮวาซานชิง
นอกจากนี้เขายังมีผู้เล่นชั้นยอดที่มีสกิลพิเศษอยู่อีกกว่า 500 คน และมีกองกำลังผู้เล่นเลเวล 30 อยู่ถึง 13,000 คน น่าเสียดายที่ในจำนวนนี้มีชุดอุปกรณ์ระดับทองสวมใส่อยู่เพียงแค่ 8,000 กว่าคนเท่านั้น และเนื่องจากพวกเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะสงครามมาเป็นเวลานาน ฉือมู่จึงแทบไม่ให้ความสนใจกับสมาชิกทั่วไปภายในกิลด์เลย
อย่างไรก็ตามชายชราก็ไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคาดการณ์ว่าผู้เล่นเลเวล 30 ของพรอฟฟีซีน่าจะมีจำนวนน้อยกว่าผู้เล่นเลเวล 30 ภายในกิลด์ของเขา ซึ่งดีไม่ดีจำนวนของผู้เล่นระดับสูงภายในกิลด์ของศัตรูอาจจะมีจำนวนน้อยกว่าผู้เล่นระดับสูงภายในกิลด์ของเขาประมาณครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ
ฮิดเดนเบลดเดินเข้ามาข้าง ๆ ฉือมู่ ก่อนที่จะถามว่า
“หัวหน้ามีแผนการอะไรไหมครับ?”
“จัดวางกำลังป้องกันตามปกติ ถ้ามีปัญหาอะไรให้รายงานมาที่ฉันทันที” ฉือมู่ตอบ
“ครับ” ฮิดเดนเบลดพยักหน้ารับ ก่อนที่เขากับอีชี่ฮวาซานชิงจะนำกองกำลังแยกไปป้องกันตามประตูทิศต่าง ๆ
ระหว่างนั้นฉือมู่ก็ได้อยู่ในเขตเมืองชั้นในเพื่อบัญชาการสมาชิกที่ทยอยกลับมาให้ไปประจำการยังประตูทิศต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งกว่าที่เขาจะจัดการทุกอย่างจนเสร็จเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว
ในบรรดาประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ ประตูที่สำคัญที่สุดคือประตูทางบริเวณทิศตะวันตก เพราะป้อมฟลาวเวอร์อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเซนต์กอลล์ หรือมันก็หมายความว่าประตูทิศตะวันตกของป้อมคือประตูที่อยู่ใกล้กับเมืองเซนต์กอลล์มากที่สุดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงนำกองกำลังของลั่วซืออวี่และซิลเวอร์วูฟมาป้องกันทางประตูฝั่งตะวันตก โดยมีชิงเฟิงคอยบัญชาการรบอยู่ไม่ไกล
“ตอนนี้พวกพรอฟฟีซีถึงไหนแล้ว?” ฉือมู่หันไปถามเรดเจด ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่อยู่ใกล้ ๆ
“พวกมันพึ่งถึงหุบเขาเฟทไลค์ ซึ่งเป็นแผนที่เลเวล 20 ครับ” เรดเจดตอบ
“พวกมันเคลื่อนทัพช้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉือมู่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“กองทัพทั้ง 100,000 คนของพรอฟฟีซีมาถึงหุบเขาเฟทไลค์ตั้งแต่ 20 นาทีก่อนแล้วครับ แต่พวกมันไม่ได้เดินทัพต่อ” เรดเจดตอบ
“แล้วทางทิศเหนือที่ติดกับลู่หยางกับทางใต้ที่ติดกับบลัดไทแรนท์ล่ะ มีศัตรูบุกมาทางฝั่งพวกนั้นบ้างไหม?” ฉือมู่ถาม
“ไม่มีครับ” เรดเจดตอบพร้อมกับส่ายหน้า
“แปลกมาก พวกมันกำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่?” ฉือมู่พึมพำขึ้นมาเบา ๆ แต่เนื่องมาจากพวกเขามีข้อมูลน้อยจนเกินไป เขาจึงไม่สามารถวิเคราะห์การกระทำของพรอฟฟีซีได้เลย
ในระหว่างที่ชายชรากำลังวิเคราะห์สถานการณ์อยู่นั้น เหลยหลงกับเฉียนเฉียนก็ส่งคำเชิญให้เขาเข้าไปในพื้นที่พิเศษ
ชายชราตอบรับคำขอในทันทีซึ่งหลังจากที่เขาเข้าไปในพื้นที่พิเศษแล้วเขาก็เริ่มถามขึ้นมาว่า
“มีข้อมูลอะไรใหม่ไหม?”
“ทางฝั่งผมมีเรื่องแปลก ๆ เพราะถึงแม้ฝั่งตรงข้ามจะรวบรวมกำลังพลเคลื่อนทัพมาหาป้อมปราการของผมจริง ๆ แต่สายลับที่ผมสั่งเอาไว้ภายในกิลด์สกายโดเมนกลับรายงานว่าผู้เล่นชั้นยอดทั้ง 300 คนของพวกเขาไม่ได้อยู่ภายในทัพด้วย มีแค่สกายโดเมนวอริเออร์ที่นำทัพคราวนี้มาด้วยตัวเอง” เหลยหลงกล่าว
“ทางฝั่งฉันก็คล้าย ๆ กัน ทีมผู้เล่นชั้นยอด 400 กว่าคนของกิลด์บลูคริสตัลก็ไม่ได้เดินทางมาพร้อมกับกองกำลังของพวกมันด้วย” เฉียนเฉียนกล่าว
ทันใดนั้นฉือมู่ก็รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่เขาจะอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“แย่แล้ว! แบบนี้ฉงป้าต้องแย่แน่ ๆ”
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?” เหลยหลงถาม
“กิลด์พรอฟฟีซีที่ทำท่าจะมาโจมตีป้อมปราการของฉันก็หยุดอยู่กับที่มานานกว่า 20 นาทีแล้ว แม้แต่ทีมชั้นยอดภายในกิลด์ที่ประกาศเป็นศัตรูกับพวกนายก็ไม่ได้อยู่ในกองทัพด้วยเหมือนกัน แล้วนายคิดว่าทีมชั้นยอดพวกนั้นมันหายไปไหนล่ะ?” ฉือมู่กล่าว
“อย่าบอกนะว่าทัพที่ประกาศจะโจมตีพวกเราเป็นเพียงแค่ทัพหลอก แต่ความจริงเป้าหมายของหวังเถิงคือฉงป้า?!” เฉียนเฉียนพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
ถูกต้องงงงงงงงงงง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 165
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น