บทที่ 340 ความแตกต่างของกลยุทธ์

บริเวณกลางสนามรบ 

ทั้งเซี่ยหยู่เว่ยและเจียงเจ๋อที่กำลังนำทัพต่อกรกับศัตรูต่างก็รู้สึกด้วยกันทั้งคู่ว่าการสู้รบครั้งนี้มันเป็นไปอย่างง่ายดายมาก

“แปลกมาก ทำไมจู่ ๆ ฉันถึงรู้สึกว่าการต่อสู้มันกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย คำสั่งของลู่หยางมันมีประสิทธิภาพมากกว่าคำสั่งของฉันมากเลยสินะ” เจียงเจ๋อกล่าว

เซี่ยหยู่เว่ยมองไปทางเจียงเจ๋อ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“นายกับเขาเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมนายถึงเพิ่งรู้ว่าเขามีความสามารถแบบนี้?”

“นี่เธอรู้จักลู่หยางในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วเหรอ?” เจียงเจ๋อถามอย่างสงสัย

เซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้าก่อนจะพูดว่า

“พวกเราอยู่ในเมืองเดียวกัน ฉันคิดว่าหลังจากสงครามในครั้งนี้จบลง พวกเราก็น่าจะได้เจอกันที่โลกภายนอกแล้วล่ะ”

“อะไรนะ?! นี่พวกเราอยู่ในเมืองเดียวกันงั้นเหรอ” เจียงเจ๋อพูดอย่างตกตะลึง

“อย่าพูดเสียงดังสิ นายคงไม่อยากเห็นฉันถูกคนอื่นมาดักรอหน้าบ้านหรอกนะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับมองค้อนไปทางเจียงเจ๋อ

“โอเค ๆ ฉันไม่พูดแล้ว” เจียงเจ๋ออยากจะส่งข้อความไปบอกกับลู่หยางซะเดี๋ยวนี้เลย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่การได้เจอกับคนสวยอย่างเซี่ยหยู่เว่ยตัวเป็น ๆ มันก็ยังทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี

“พวกเธอคุยอะไรกันงั้นเหรอ?” หลานอวี่ถามอย่างสงสัย

เซี่ยหยู่เว่ยส่งสายตาให้เจียงเจ๋อ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“พวกเราคุยกันเรื่องสงครามน่ะว่าถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราก็น่าจะชนะกันได้ง่าย ๆ เลย”

หลานอวี่มองไปทางพวกฉิงชางที่กำลังนำกองกำลัง 20,000 คนบุกจู่โจมเข้าใส่กองกำลังของแบล็คบลัดอย่างหนัก ซึ่งหลังจากที่เธอได้เห็นสมาชิกของเดธโซลเสียชีวิตไปกว่าหมื่นคน เธอก็พูดขึ้นมาว่า

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะชนะได้ง่าย ๆ จริง ๆ”

—

แบล็คบลัดมองดูกองกำลังของตัวเองที่กำลังจะพ่ายแพ้แล้วมองไปยังกองกำลังของบลัดเติสตี้ที่ยังคงยืนหยัดในสนามรบได้ง่าย ๆ เขาก็ทั้งรู้สึกโกรธและอับอายภายในใจ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแผนการของลู่หยาง

“เอไจล์ไนน์เฮฟเว่นส่งกำลังเสริมมา 30,000 คน” แบล็คบลัดตะโกนสั่งการ

“รับทราบครับ” เอไจล์ไนน์เฮฟเว่นกล่าว ก่อนจะนำกองกำลังเคลื่อนเข้าไปในสนามรบ

—

“พวกเดธโซลส่งกองกำลังเสริมออกมาแล้วนะ” เซี่ยหยู่เว่ยเตือนฉิงชางในแชทกลุ่ม

“น่าขายขี้หน้าจริง ๆ หลังจากปะทะกับเราได้ไม่นานพวกมันถึงขั้นต้องส่งกำลังเสริมออกมา 30,000 คนเลยงั้นเหรอ” ซุนหยูกล่าว

ทั้งสองฝ่ายต่างก็เคลื่อนทัพในรูปแบบกองพัน การนับจำนวนคนที่เข้าร่วมในสนามรบจึงสามารถคาดคะเนได้อย่างง่ายดาย

“หัวหน้าจะให้ฉันใช้เวทมนตร์ต้องห้ามเลยไหมคะ?” เซาธ์วินด์เดินมาถามลู่หยาง

“จัดการได้เลย” ลู่หยางตอบ ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปบอกฉิงชางในสนามรบ

“เซาธ์วินด์กำลังจะใช้เวทมนตร์ต้องห้ามคอยสนับสนุนพวกนายแล้ว พวกนายช่วยป้องกันเธอเอาไว้ด้วย”

“ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งใช้เวทมนตร์ต้องห้ามไปเหรอครับ?” ฉิงชางถาม

“เธอคือผู้เชี่ยวชาญที่หาตัวจับได้ยากมากเลยนะ เพราะเธอได้เรียนรู้เวทมนตร์ต้องห้ามมาแล้วถึง 2 สกิล” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คำตอบของลู่หยางถึงกับทำให้ฉิงชางอ้าปากค้างโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะนักเวทต้องห้ามที่เรียนรู้เวทมนตร์ต้องห้ามมาเพียงแค่ 1 สกิลก็สามารถทำให้หัวหน้ากิลด์ใหญ่ ๆ ให้เกียรติพวกเขามากแล้ว แต่ เซาธ์วินด์กลับได้เรียนรู้เวทมนตร์ต้องห้ามมาถึง 2 สกิล ดังนั้นถึงแม้จะไม่มีใครบอกแต่เขาก็สามารถตระหนักได้ในทันทีว่าตัวตนของเธอเป็นตัวตนที่มีความสำคัญมากแค่ไหน

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะปกป้องเธออย่างดีที่สุด” ฉิงชางกล่าว

“ขอบคุณค่ะ” เซาธ์วินด์กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาบาง ๆ จากนั้นเธอก็กระโดดลงไปในสนามรบอย่างรวดเร็ว ต่อมาเธอก็เริ่มซ่อนตัวอยู่ด้านหลังพาลาดินชุดทอง 2 คนพร้อมกับเริ่มร่ายเวทมนตร์ด้วยภาษาโบราณ

ท้องฟ้าบริเวณปากทางเข้าหุบเขาเริ่มเกิดคลื่นลมในทันที และในเวลาต่อมาเพียงแค่ไม่นานพื้นที่บริเวณนั้นมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ

“แย่แล้ว! พวกมันกำลังใช้เวทมนตร์ต้องห้าม พยายามหาตัวคน ๆ นั้นให้เจอให้ได้” แบล็คบลัดตะโกนสั่ง

“มันอยู่ตรงนั้น! นักเวทกับนักธนูรีบโจมตีเข้าไปเร็วเข้า” เอไจล์ไนน์เฮฟเว่นตะโกนสั่งเสียงดังขณะที่เขาได้ชี้นิ้วไปยังเซาธ์วินด์

กองกำลังนักเวทเกือบ 1,000 คนและนักธนูอีกเกือบพันคนต่างก็พร้อมใจกันเล็งเป้าหมายไปที่เซาธ์วินด์ในทันที แต่ในจังหวะที่พวกเขากำลังจะโจมตี ฉิงชางก็ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหน้านักเวทสาวพร้อมกับปักดาบทั้ง 2 เล่มลงกับพื้น

การ์เดี้ยนแองเจิล!

เทวดาองค์ใหญ่ที่เปล่งแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นบริเวณด้านหลังของฉิงชาง จากนั้นผู้เล่นพันกว่าคนที่อยู่ในระยะแสงศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น 2,000 หน่วยพร้อม ๆ กัน

เอ็กซ์เพล!

ฉิงชางเริ่มใช้สกิลเข้าใส่เซาธ์วินด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในคราวนี้มันก็ช่วยทำให้พลังป้องกันทางเวทมนตร์ของเธอเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมาก

พาลาดินทั้งสองคนที่คอยบังร่างของเซาธ์วินด์เอาไว้ก็ได้พร้อมกันใช้สกิลเอ็กซ์เพลออกมาด้วยเช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้พลังป้องกันทางเวทมนตร์ของหญิงสาวเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเดิม

วินาทีต่อมาทางลูกธนูและเวทมนตร์เป็นจำนวนมากก็พุ่งเข้าใส่เซาธ์วินด์และพาลาดินทั้งสองคนอย่างต่อเนื่อง

“กล้าเข้ามาใช้เวทมนตร์ต้องห้ามในระยะใกล้ขนาดนี้แสดงว่าพวกแกอยากตายกันมากสินะ!” เอไจล์ไนน์เฮฟเว่นหัวเราะขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ

แต่ในระหว่างที่ทางฝ่ายแบล็คบลัดคิดว่าเซาธ์วินด์ถูกสังหารไปแล้วนั่นเอง พวกเขาก็ไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเมฆดำบนท้องฟ้ากำลังรวมตัวกันอย่างหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

30 วินาทีต่อมา

เฮฟเว่นเดสทรอยอิงธันเดอร์!

สายฟ้าสีม่วงฟาดลงมาจากก้อนเมฆอย่างฉับพลัน โดยมันเป็นสายฟ้าขนาดมหึมาที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวถึง 10 เมตรที่กำลังพุ่งลงมาใจกลางกองทัพของเอไจล์ไนน์เฮฟเว่น

หลังจากสายฟ้าพุ่งลงมาสู่พื้น มันก็ขยายขอบเขตการช็อตออกไปภายในรัศมี 10 เมตรและทำให้ผู้เล่นทุกคนที่ถูกโจมตีต่างก็ติดสถานะอัมพาตพร้อมกับยืนนิ่งอยู่กับที่

-3,086, -2,999,…

ตัวเลขความเสียหายปรากฏขึ้นเหนือศีรษะสมาชิกของเดธโซลอย่างต่อเนื่อง และในขณะที่พวกเขากำลังพยายามหลบหนีกันอย่างตื่นตระหนกอยู่นั่นเอง สายฟ้าเส้นที่ 2 ก็ฟาดลงมาจากฟากฟ้า

สายฟ้าเส้นที่ 3

สายฟ้าเส้นที่ 4

...

สายฟ้าเส้นที่ 10

สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงมาบนพื้นถึง 10 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศัตรูทุกคนในรัศมี 100 เมตรต่างก็ถูกสังหารลงไปอย่างฉับพลัน

ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือสกิลการ์เดี้ยนแองเจิลของฉิงชางทำให้นักรบทุกคนไม่จำเป็นจะต้องกลัวการโจมตีทางกายภาพเป็นเวลานานถึง 30 วินาที พวกเขาจึงบุกทะลวงเข้าไปในแนวรบของศัตรูอย่างดุเดือดพร้อมกับทำการสังหารสมาชิกของเดธโซลไปได้อีกมากกว่า 5,000 คน

ความสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ขวัญกำลังใจของบลัดบราเธอร์พุ่งสูงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ขณะที่ขวัญกำลังใจของทางฝั่งเดธโซลมันก็ถูกบั่นทอนลงไปอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งการต่อสู้ผ่านพ้นไปนานเท่าไหร่ แบล็คบลัดก็เริ่มรู้สึกแปลกใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าทางฝ่ายของเขาจะมีคนตายไปมากกว่า 20,000 คนแล้ว แต่กองกำลังของบลัดไทแรนท์กลับแทบไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นเลย

“ชิบหายแล้ว นี่ฉันถูกหลอกอยู่สินะ” แบล็คบลัดอุทานพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเอง

บลัดไทแรนท์ก็เพิ่งรู้สึกถึงเหตุการณ์แปลก ๆ ด้วยเช่นกัน เขาจึงรีบติดต่อเข้ามาหาแบล็คบลัดและพูดว่า

“ทางฝั่งฉันพวกมันเอาแต่ป้องกันตัวเองเอาไว้ ทางฝั่งของนายตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

“ทางฝั่งฉันถูกพวกมันบุกโจมตีเข้ามาเต็มกำลัง ถ้าฉันเดาไม่ผิดพวกมันน่าจะเป็นกองกำลังหลักเพราะมันมีผู้เล่นคลาส 2 อยู่อย่างน้อย 30 คน” แบล็คบลัดตอบ

ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เซี่ยหยู่เว่ยก็ตะโกนสั่งการขึ้นมาท่ามกลางฝูงชนว่า

“กองพลที่ 2 เริ่มบุกโจมตีได้!”

โคลแซนด์เริ่มนำผู้เล่น 10,000 คนแยกตัวออกไป ก่อนที่พวกเขาจะจู่โจมเข้าไปทางด้านข้างกองกำลังของเอไจล์ไนน์เฮฟเว่นอย่างฉับพลัน

ก่อนหน้านี้กองกำลังของเอไจล์ไนน์เฮฟเว่นและจินเตียวต่างก็ถูกพวกฉิงชางสังหารจนเหลือสมาชิกเพียงแค่ประมาณ 30,000 คนเท่านั้น เมื่อพวกเขาได้เจอการโจมตีของพวกโคลแซนด์อย่างไม่คาดคิด มันก็ทำให้กองกำลังของพวกเขาแตกพ่ายลงอย่างรวดเร็ว

“แมทช์แซดรีบนำกองกำลัง 30,000 คนขึ้นไปสนับสนุนแนวหน้าเร็วเข้า” แบล็คบลัดสั่งการอย่างร้อนรน จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกบลัดไทแรนท์ว่า

“รีบส่งกองกำลังมาสนับสนุนทางฝั่งนี้เร็วเข้า พวกฉันเริ่มจะรับมือพวกมันไม่ไหวแล้ว”

บลัดไทแรนท์รู้ตัวดีว่าในตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโทษตัวเองที่ถูกหลอก เขาจึงรีบสั่งให้เฟิร์สคลาสบิวตี้, รีอินคาเนชั่นและคนอื่น ๆ นำกองกำลังผู้เล่นชุดทอง 2,000 คนและกองกำลังพิเศษไปสนับสนุน แบล็คบลัดในทันที

 

 

---

ตามแผนเป๊ะ!