บทที่ 339 เริ่มสงคราม 350,000 คน
บทที่ 339 เริ่มสงคราม 350,000 คน
“ออกมาตัดสินกันซะ!” ผู้เล่นทั้ง 150,000 คนต่างก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกันสร้างเสียงอันดังสนั่นไปทั่วทั้งทุ่งหญ้า ซึ่งมันก็ทำให้แม้แต่สมาชิกของเดธโซลและบลัดเติสตี้ที่อยู่ภายในหุบเขาก็ยังได้ยินเสียงนี้อย่างชัดเจน
“มันกำลังดูถูกพวกเราอยู่ เรารีบเคลื่อนทัพออกไปรบกับพวกมันเถอะ” แบล็คบลัดพูดกับบลัดไทแรนท์ด้วยความโกรธ
เหตุการณ์นี้ทำให้บลัดไทแรนท์รู้สึกหงุดหงิดมากด้วยเช่นกัน เพราะตั้งแต่ที่เขาโลดแล่นภายในเกมต่าง ๆ มาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เขาก็ไม่เคยถูกใครหยามหน้าขนาดนี้มาก่อน
“ลู่หยาง ฉันจะทำให้แกต้องเสียใจที่กล้ามาดูถูกฉัน! ทุกคนรีบเคลื่อนกองกำลังออกจากหุบเขาแล้วตั้งขบวนเตรียมพร้อมรบ”
แบล็คบลัดเริ่มสั่งการกองทัพของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยเขาได้กระจายคำสั่งให้เฟียร์เลส, สกายซอร์ท, เอไจล์ไนน์เฮฟเว่น, แมทช์แซด, สวิฟเดธและหัวหน้ากิลด์อีก 7 คนนำทัพออกมาจากหุบเขาเพื่อจัดขบวนรบในลานกว้าง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
กองกำลังทั้ง 180,000 คนของฝ่ายบลัดเติสตี้และเดธโซลต่างก็เข้าแถวกันเป็นระเบียบเพื่อเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับกองกำลัง 150,000 คนของบลัดบราเธอร์
หากนับเรื่องจำนวนเพียงอย่างเดียวฝ่ายบลัดเติสตี้และเดธโซลย่อมมีความได้เปรียบอย่างแน่นอน แต่สมาชิกภายในกองกำลังของลู่หยางมีเลเวล, มีอุปกรณ์และมีฝีมือที่เหนือกว่า มันจึงยากที่จะตัดสินได้ว่ากองกำลังของใครมีความได้เปรียบมากกว่ากัน
ทางฝั่งบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัดไม่ได้มีความคิดเลยว่ากองกำลังของตัวเองอ่อนแอกว่า เพราะการต่อสู้ในครั้งที่ผ่าน ๆ มาลู่หยางมักจะช่วงชิงความได้เปรียบทางด้านภูมิประเทศอยู่เสมอ ดังนั้นหากว่าทั้งสองฝ่ายได้มีการเผชิญหน้ากันแบบตรง ๆ พวกเขาก็มีความมั่นใจว่ากองกำลังของตัวเองจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
“วันนี้พวกเราได้มีโอกาสแก้แค้นพวกมันแล้ว ทุกคนจงเตรียมตัวให้พร้อมแล้วตามฉันมาจัดการกับไอ้ขยะพวกนี้ซะ!” แบล็คบลัดตะโกนปลุกใจเสียงดัง โดยที่บลัดไทแรนท์ก็ตะโกนปลุกใจสมาชิกภายในกิลด์ของตัวเองด้วยเช่นกัน
ซุนหยูสังเกตการณ์ฝ่ายตรงข้ามก่อนที่เขาจะหันมาพูดกับลู่หยางที่อยู่ใกล้ ๆ ว่า
“หัวหน้าเดี๋ยวผมนำคนไปจัดการกับบลัดไทแรนท์เอง”
“ฉันก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่พวกนายอย่าเพิ่งลงมือตั้งแต่ทีแรก กองกำลังของนายทั้ง 51 คนควรซ่อนตัวเอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่สงครามดำเนินไปจนถึงจุดสำคัญ เดี๋ยวฉันจะสั่งให้พวกนายลงมือเอง” ลู่หยางกล่าว
ซุนหยูพยักหน้ารับและหลังจากที่เขาพูดคุยกับเจียงเจ๋อเมื่อสักครู่ มันก็ทำให้เขาพอรู้เรื่องสกิลป้องกันของทางฝั่งบลัดเติสตี้แล้ว
“สงครามครั้งนี้มันดำเนินมาจนถึงจุดสำคัญแล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเราออกมาเสียที” ลู่หยางหันไปกล่าวกับแม่ทัพทุกคนที่อยู่ทางด้านหลัง และทำให้พวกฉิงชางต่างก็พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น
“แผนการเป็นยังไงบ้างครับ?” ฉิงชางถาม
“ถึงแม้การรบในครั้งนี้จะเป็นแบบเผชิญหน้ากันตรง ๆ แต่ถึงยังไงมันก็ยังจำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์ในการช่วงชิงความได้เปรียบมาทางฝั่งของพวกเราอยู่ดี” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของลู่หยางทำให้เซี่ยหยู่เว่ยและคนอื่น ๆ แสดงสีหน้าออกมาอย่างประหลาดใจ
“การต่อสู้หน้าตรงแบบนี้ มันยังมีกลยุทธ์ให้ใช้อยู่อีกเหรอครับ?” บิทเทอร์เลิฟถามอย่างแปลกใจ
“จำเอาไว้ว่าในสนามรบศัตรูย่อมมีด้านที่แข็งแกร่งและด้านที่อ่อนแออยู่เสมอ อย่างเช่นสิ่งที่ฉันทำในตอนที่ร่วมมือกับฉงป้าและฉือมู่ระหว่างการสู้กับบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัดที่ป้อมปราการฟลาวเวอร์ นั่นก็คือการแสดงด้านที่อ่อนแอของตัวเองออกมา” ลู่หยางกล่าว
“วันนั้นฉันจำได้ที่หัวหน้าบอกว่าหากเราต้องการจะตัดสินแพ้ชนะ พวกเราก็สามารถทำได้ตั้งแต่วันแรกเลยใช่ไหมคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“พวกเราต้องทำยังไงครับ/ค่ะ?” ทุกคนถามอย่างตื่นเต้น
“ฉันจะสอนกลยุทธ์สำคัญให้กับพวกคุณหนึ่งกลยุทธ์ เมื่อสงครามได้เริ่มต้นขึ้นบิทเทอร์เลิฟกับซุนหยูให้นำทีมโจมตีทางปีกขวาแต่ให้เน้นที่การป้องกันเป็นหลัก ซึ่งนั่นคือกลยุทธ์การหลอกล่อให้ศัตรูโจมตี”
“เซี่ยหยู่เว่ยกับเจียงเจ๋อคอยคุมทัพบุกเข้าไปตรงกลาง หน้าที่ของพวกเธอคือการรักษาสมดุลระหว่างการโจมตีและการป้องกัน เมื่อต้องป้องกันขอให้ยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งเดิมอย่างมั่นคง เมื่อต้องโจมตีก็ให้นำกองกำลังแทรกเข้าไปกลางกองทัพของแบล็คบลัดในทันที” ลู่หยางกล่าว
“หัวหน้าทำไมพวกเราถึงต้องมุ่งโจมตีไปที่กองทัพของแบล็คบลัดเหรอครับ?” บิทเทอร์เลิฟถาม
“กองกำลังของแบล็คบลัดเป็นกองกำลังที่อ่อนแอที่สุด เราจึงจำเป็นจะต้องกำจัดเขาก่อน ฉิงชางจะเป็นคนนำกองกำลัง 20,000 คนบุกโจมตีกองกำลังของแบล็คบลัดอย่างหนัก และฉันก็ต้องการให้พวกมันส่งคนมาสู้กับพวกเราตรงกลางมากขึ้น” ลู่หยางกล่าวแต่ทุกคนก็ยังคงทำสีหน้าออกมาอย่างไม่เข้าใจ
“ในตอนที่แบล็คบลัดรับมือพวกเราไม่ไหว บลัดไทแรนท์ก็จะต้องส่งคนของเขาเข้ามาช่วยเสริมกำลังแบล็คบลัดแน่ ๆ ในตอนที่พวกเขาเสียสมาธิซุนหยูจะนำทีมอินทรีสายฟ้าบุกเข้าโจมตีและเรายังมีกองกำลังของสามพี่น้องตระกูลไป๋อีก 20,000 คนที่พร้อมจะเคลื่อนเข้าไปสนับสนุนได้ทุกเมื่อ” ลู่หยางกล่าว
“จริงด้วย! พวกเราลืมพวกเขาไปได้ยังไงกันนะ” ฉิงชางและคนอื่น ๆ พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
ลู่หยางเผยรอยยิ้มขึ้นมา ก่อนที่เขาจะติดต่อไปหาไป๋ฉือ
“อีกนานแค่ไหนกว่าพวกนายจะถึงสนามรบ?”
“ไม่เกิน 20 นาทีครับ” ไป๋ฉือตอบ
“หลังจากมาถึงที่นี่แล้วพวกนายอย่าเพิ่งเข้าร่วมการต่อสู้ในทันที แต่ให้นำกองกำลังทั้ง 20,000 คนอ้อมไปทางด้านข้างของบลัดเติสตี้แล้วโจมตีเข้าใส่กองกำลังของพวกมันตามแนวขวาง” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ” ไป๋ฉือตอบ
“ฉันล่ะอยากจะเห็นสีหน้าของบลัดไทแรนท์กับแบล็คบลัดตอนที่พวกมันแพ้จริง ๆ” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
กิวท์กายและคนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้ารับ เพราะพวกเขาก็เคยถูกพวกบลัดไทแรนท์และพวกแบล็คบลัดรังแกมาก่อน
“เอาล่ะ ฉิงชาง บิทเทอร์เลิฟ เซี่ยหยู่เว่ย เริ่มเคลื่อนกองกำลังเข้าไปโจมตีได้” ลู่หยางกล่าว
“ครับ/ค่ะ” ทั้ง 3 คนตอบรับพร้อมกัน ก่อนจะนำกองกำลัง 20,000 คนของตัวเองเคลื่อนที่เข้าไปประจำตำแหน่ง
บลัดไทแรนท์ก็กำลังจัดขบวนทัพของตัวเองด้วยเช่นกัน เมื่อเขาได้เห็นลู่หยางเริ่มเคลื่อนทัพออกมาก่อน เขาจึงตะโกนด้วยความโมโหว่า
“รีอินคาเนชั่น, เฟิร์สคลาสบิวตี้, เฟียร์เลส, จินเตียวนำกองกำลังของพวกนายออกไปปะทะกับพวกมันตรง ๆ เลย”
“ได้ครับ/ค่ะ” หลังรับคำสั่งแม่ทัพของทางฝ่ายบลัดเติสตี้และเดธโซลต่างก็นำกองกำลัง 60,000 คนออกไปทางด้านหน้าด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น ในเวลาเพียงแค่ไม่นานพวกเขาจึงเริ่มปะทะกันอย่างรวดเร็ว
ทางฝ่ายของลู่หยางมีกองกำลังผู้เล่นชุดทองอยู่ทั้งสิ้น 8,000 คน ส่วนผู้เล่นที่เหลือเป็นผู้เล่นเลเวล 28 ขึ้นไปที่สวมชุดอุปกรณ์ระดับเงินครบทั้งตัว
ทางฝ่ายของบลัดไทแรนท์และแบล็คบลัดมีกองกำลังผู้เล่นชุดทองอยู่เพียงแค่ 4,800 คน ส่วนที่เหลือเป็นผู้เล่นที่มีเลเวลเกิน 20 ขึ้นมานิดหน่อย และโดยส่วนใหญ่พวกเขายังสวมชุดอุปกรณ์ระดับเงินอย่างไม่ครบทั้งชุด
แบล็คบลัดและบลัดไทแรนท์เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี พวกเขาจึงเลือกที่จะรวมกลุ่มกันโจมตีมากกว่าจะใช้วิธีการแบ่งกำลังกันออกไปรบ
ในกองกำลังพันธมิตรได้จัดกระบวนทัพโดยใช้นักรบโล่อยู่ด้านหน้า นักรบคลั่งและโจรอยู่ตรงกลาง นักเวทและนักบวชอยู่ด้านหลัง โดยมีนักธนูคอยดูแลอยู่ทางด้านหลังสุดอีกที
พวกเขาต่างก็คิดว่ารูปแบบการเคลื่อนทัพนี้เป็นรูปแบบการโจมตีที่รัดกุมมากที่สุด แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้นั่นก็คือการจัดทัพที่มุ่งเน้นการป้องกันไปเพียงแค่ด้านหน้าแบบนี้มันมีจุดอ่อนให้โจมตีจากเกือบทุกทิศทาง
เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ฝ่ายของลู่หยางก็มีความได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน
“พวกมันไม่เห็นจะน่ากลัวเลย” บิทเทอร์เลิฟพูดกับซุนหยูหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันไปสักพักแล้ว
“การจัดทัพของพวกมันสู้การจัดทัพของหัวหน้าไม่ได้จริง ๆ” ซุนหยูกล่าวพร้อมกับยักไหล่
“ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าหัวหน้าไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน แค่การจัดแบ่งกำลังคนหลักหมื่นคนมันก็ยากแล้ว แต่หัวหน้าสามารถจัดแบ่งกำลังพลได้เป็นอย่างดีทั้ง ๆ ที่กองทัพคราวนี้มีพวกเราอยู่กันตั้ง 150,000 คน” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
“หัวหน้าเป็นคนที่เก่งมากจริง ๆ ผมกำลังสงสัยอยู่ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงบางทีเขาอาจจะเป็นทหาร” ซุนหยูกล่าว
“ฉันว่าเป็นไปได้” บิทเทอร์เลิฟกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
เอ่อ พูดถึงทหารเรื่องสมัครทหารของลู่หยางถึงไหนแล้วนะ?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 148
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น