บทที่ 257 ฟาร์มมอนสเตอร์ในป้อมปราการ
บทที่ 257 ฟาร์มมอนสเตอร์ในป้อมปราการ
เส้นทางเดินมีความกว้างประมาณ 30 เมตรแล้วมันต้องเผชิญหน้ากับปีศาจไฟที่กำลังพุ่งเข้ามา พาลาดินทั้ง 4 คนจึงใช้สกิลเซคคริฟายออกมาพร้อมกัน แสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์จึงปรากฏใต้เท้าของพวกเขาเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ทอดยาวเป็นผืนเดียว
เมื่อปีศาจไฟเข้ามาในอาณาเขตของเซคคริฟาย พวกมันก็ได้รับความเสียหายและเปลี่ยนเป้าหมายโจมตีไปยังพาลาดินในทันที แม้ว่าปีศาจไฟเหล่านี้จะมีพลังโจมตีปกติ 1,200 หน่วยและมีพลังโจมตีธาตุไฟอีก 800 หน่วย แต่ในความเป็นจริงพวกมันกลับสามารถสร้างความเสียหายให้กับพาลาดินของทีมได้แค่ประมาณ 800 หน่วยเท่านั้น
ขณะเดียวกันถึงแม้พาลาดินคนหนึ่งจะต้องรับมือกับปีศาจไฟพร้อม ๆ กันถึง 9 ตัว แต่ด้วยการสนับสนุนจากนักบวชนับร้อยที่อยู่ทางด้านหลัง มันจึงทำให้พวกเขาสามารถดึงดูดค่าความโกรธเอาไว้ได้อย่างมั่นคง
“นักบวชใช้โซลวีคเคนนิ่ง นักธนูใช้วีคเคนนิ่งแอโรว์กับอาร์เมอร์เบรกกิ้งแอโรว์” เซี่ยหยู่เว่ยตะโกนออกคำสั่ง
วีคเคนนิ่งแอโรว์เป็นสกิลพิเศษที่สามารถโจมตีศัตรูในวงแคบและทำให้ค่าสถานะของเป้าหมายลดลง 30% ส่วนทางด้านสกิลอาร์เมอร์เบรกกิ้งแอโรว์ก็มีความสามารถในการเจาะเกราะจนทำให้พลังป้องกันของเป้าหมายลดลง 100 หน่วย
หลังถูกลดค่าสถานะจากลูกธนู ปีศาจไฟตรงหน้าเหล่าบรรดาพาลาดินก็อ่อนแอลงจากเดิมมาก เซี่ยหยู่เว่ยจึงใช้โอกาสนี้ตะโกนสั่งการออกไปว่า
“หน่วยโจมตีระยะไกลทั้งหมดลงมือได้”
ไม่กี่วินาทีต่อมาการโจมตีระยะไกลจำนวนมากก็ตกลงกลางฝูงปีศาจไฟจนทำให้พลังชีวิตของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว และเนื่องมาจากเซี่ยหยู่เว่ยจับจังหวะได้เป็นอย่างดี มันจึงไม่มีปีศาจไฟตัวไหนเบี่ยงเบนเป้าหมายไปยังผู้เล่นสายโจมตีระยะไกลเลยแม้แต่คนเดียว
ลู่หยางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างพึงพอใจ เพราะระดับการบัญชาการของเซี่ยหยู่เว่ยได้พัฒนามาถึงในระดับที่เขาต้องการแล้ว
“มอนสเตอร์ที่นี่ให้ค่าประสบการณ์สูงมาก บางทีการเก็บเลเวลที่นี่มันก็ไม่เลวนะ” หลานอวี่กล่าว
“การเก็บเลเวลที่นี่เป็นความคิดที่ดีจริง ๆ หัวหน้ากิลด์ พวกเราจะสามารถฟาร์มอยู่ที่นี่ได้อีกนานแค่ไหนงั้นเหรอ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
บอสเลเวล 40 ตัวหนึ่งให้ค่าประสบการณ์สูงถึง 30,000 หน่วย และถึงแม้การแบ่งค่าประสบการณ์กับผู้เล่น 6,000 คนจะทำให้ผู้เล่นแต่ละคนได้รับค่าประสบการณ์อันน้อยนิด แต่เมื่อรวมกับโบนัสค่าประสบการณ์ของทีมแล้ว มอนสเตอร์แต่ละตัวก็ยังคงให้ค่าประสบการณ์มากกว่า 200 หน่วยอยู่ดี
ขณะเดียวกันทีมทั้ง 5 ก็สังหารมอนสเตอร์พร้อม ๆ กันเป็นจำนวนมาก การเก็บเลเวลอยู่ที่นี่จึงเร็วกว่าการเก็บเลเวลด้านนอกมากพอสมควร
“ใครอยากจะฟาร์มที่นี่ก็ฟาร์มจนกว่าจะพอใจได้เลย ในประตูใหญ่ของป้อมมีโทรลล์ไฟอยู่ 5 ตัว ส่วนปีศาจไฟพวกนี้เป็นสมุนที่พวกมันเรียกออกมา” ลู่หยางกล่าว
“การบุกป้อมนี้มันยากจริง ๆ ถ้าไม่มีชุดเจ้าอสูรและกลยุทธ์ที่หัวหน้าเตรียมมาให้ บางทีพวกเราคงจะถูกมอนสเตอร์พวกนี้กวาดล้างทีมไปแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ใช่ โชคดีจริง ๆ ที่เรามีหัวหน้าอยู่ด้วย” หลานอวี่กล่าว
“ฉันตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่สักพักเพื่อช่วยทุกคนเก็บเลเวล” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในบรรดาสมาชิกทั้ง 6,000 คนที่ลู่หยางนำทัพมามีผู้เล่นเลเวล 20 อยู่เพียงแค่ 3,000 คนเท่านั้น ขณะที่ผู้เล่นที่เหลือยังคงมีเลเวล 15-18 กระจายกันไป
“พวกเราไม่ควรรีบบุกยึดป้อมก่อนเหรอคะ? แล้วค่อยนำสมาชิกพวกนี้มาเก็บเลเวลกันทีหลัง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวถามอย่างประหลาดใจ
ลู่หยางส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“ทุกคนที่มากับเราต่างก็เป็นพี่น้องที่ช่วยให้พวกเราเอาชนะบลัดเติสตี้มาได้ ในฐานะของหัวหน้ากิลด์ฉันก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการพาพวกเขามาเก็บเลเวลด้วย”
โทรลล์ไฟทั้ง 5 ตัวนี้ไม่สามารถเกิดใหม่ได้แล้วถึงแม้พวกเขาจะมีความล่าช้าในการบุกป้อมปราการไปบ้าง แต่ลู่หยางก็ยังอยากจะให้ทุกคนได้เก็บเลเวลที่นี่ไปสักพัก
“เข้าใจแล้วค่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ในที่สุดมอนสเตอร์กลุ่มแรกในทางเดินก็ถูกสังหารจนหมดอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผู้เล่นที่มีเลเวลล้าหลังกว่า 3,000 คนมีเลเวลเพิ่มขึ้นไป 1 ระดับเป็นจำนวนมาก
“สุดยอดเลย”
“การบุกป้อมก็ช่วยเพิ่มเลเวลได้ด้วยเหรอ?”
…
เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของสมาชิกฝั่งในทีม เซี่ยหยู่เว่ยก็หันมาพูดกับลู่หยางว่า
“ทุกคนคงจะถือว่าที่นี่กลายเป็นที่พักพิงสำหรับพวกเขาไปแล้วแน่ ๆ”
“ไปกันเถอะ ดูซิว่ามันมีของดี ๆ อะไรดรอปลงมาบ้าง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
บอสเลเวล 40 หลายร้อยตัวที่ถูกสังหารลงไปดรอปอุปกรณ์เลเวล 30 ลงมาเป็นจำนวนมาก และแม้แต่อุปกรณ์ระดับต่ำที่สุดก็ยังเป็นถึงอุปกรณ์ระดับเหล็ก ขณะที่อุปกรณ์ระดับสูงสุดที่ดรอปลงมาก็เป็นถึงอุปกรณ์ระดับทอง
ลู่หยางทำการแชร์ข้อมูลอุปกรณ์ทั้งหมดลงในช่องสื่อสารของทีม พร้อมกับกำหนดคะแนนสำหรับการแลกเปลี่ยนอุปกรณ์แต่ละชิ้น ทำให้สมาชิกภายในทีมส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างดีใจ แต่หลังจากพวกเขาเห็นเลเวลที่ต้องการในการสวมใส่ ทุกคนต่างก็ส่งเสียงครวญครางขึ้นมาเสียงดัง
“ไม่ได้การล่ะ แบบนี้ฉันต้องรีบเพิ่มเลเวล”
“ฉันมีคะแนนกิลด์อยู่มากกว่า 200 แต้มแล้ว คืนนี้ฉันตั้งใจว่าจะโต้รุ่ง”
“สู้ตายโว้ย!”
…
“หัวหน้า ตรงนี้มีของดี!” จางจื่อโป๋ตะโกนเสียงดัง
“มีอะไรเหรอ?” ลู่หยางถาม
“มันเป็นบลูปริ้นเกราะโรยอลตี้ระดับทองเลเวล 30 ของนักรบครับ” จางจื่อโป๋กล่าวอย่างดีใจ
“ไหน? ขอฉันดูหน่อย” ลู่หยางกล่าว
บลูปริ้นเกราะโรยอลตี้ (ระดับทอง)
พลังป้องกัน 39-52
ความอดทน +21
ความแข็งแกร่ง +22
พลังกาย +19
เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ +23
เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ +22
ช่อง +1
ชุดเซ็ต (1/8)
เอฟเฟกต์ชุดเซ็ต
2 ชิ้น เพิ่มพลังโจมตีกายภาพ 5%
4 ชิ้น การโจมตีมีโอกาสกระตุ้นคำสาบานแห่งความจงรักภักดี การโจมตีครั้งต่อไปเพิ่มความเสียหาย 50%
8 ชิ้น เพิ่มโล่พลังโทสะให้ผู้เล่น ดูดซับความเสียหาย 2,000 แต้ม
สำหรับนักรบเท่านั้น
“หัวหน้า ทางฝั่งผมได้บลูปริ้นเกราะไหล่โรยอลตี้ระดับทองมาด้วยเหมือนกัน” ไป๋ฉือกล่าวในแชทกลุ่ม
“ผมได้บลูปริ้นสนับเข่าโรยอลตี้” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
เมื่อทุกคนได้เห็นข้อความที่ส่งมาในกลุ่ม พวกเขาต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“แบบนี้ก็หมายความว่าพวกเราสามารถผลิตชุดเกราะทั้ง 3 ชิ้นนี้ได้เป็นจำนวนมากสินะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
ลู่หยางพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งข้อความไปหาพวกเจียงเจ๋อ
“หาช่างตีเหล็กอาชีพ 8 คนมาทำสัญญากับเรา ฉันต้องการให้พวกเขาผลิตอุปกรณ์ให้กับเราเป็นจำนวนมาก”
“โอเค” เจียงเจ๋อตอบ
“เยี่ยมเลย! ถ้าเราผลิตชุดเซ็ตนี้ออกมาเป็นจำนวนมาก ความแข็งแกร่งโดยรวมของกิลด์เราก็คงจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเยอะ” ไป๋ฉือกล่าว
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าการมาบุกเบิกป้อมปราการจะทำให้เราได้รับผลประโยชน์กลับไปมากมายขนาดนี้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ในชาติก่อนผู้คนเป็นจำนวนมากเคยอิจฉาบลัดเติสตี้ที่พวกเขามีชุดเซ็ตอุปกรณ์โรยอลตี้สวมใส่ และถึงแม้มันจะมีคนหลาย ๆ คนพยายามถามว่าบลัดไทแรนท์เอาบลูปริ้นอุปกรณ์พวกนี้มาจากไหน แต่เขาก็ไม่เคยหลุดปากเปิดเผยความลับออกไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ในที่สุดชาตินี้ลู่หยางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมบลัดไทแรนท์ถึงผูกขาดป้อมปราการคริมสันไม่ยอมให้ใครเข้ามายุ่งกับเรื่องของป้อมปราการเลยแม้แต่คนเดียว
“หัวหน้า ผมได้จดหมายจากสถาบันเวทมนตร์ธาตุไฟ มันเอาไว้ใช้ทำอะไรงั้นเหรอครับ?” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
“เอามาให้ฉันเร็วเข้า!” ลู่หยางกล่าวอย่างดีใจ
“ได้ครับ” บิทเทอร์เลิฟรีบตอบ ก่อนจะวิ่งนำจดหมายมามอบให้กับลู่หยางด้วยตัวเอง
ระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ส่งข้อความเรียกฉิงชางและ ไป๋ฉือเข้ามาหาเขาด้วย
“มีอะไรเหรอครับหัวหน้า?” ฉิงชางถาม
“ต่อไปนี้หากมีจดหมายแบบนี้ดรอปมาอีกห้ามไม่ให้แม้แต่ลูกน้องของเราเก็บเป็นอันขาด เพราะสถาบันเวทมนตร์มีโอกาสทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้สกิลต้องห้าม ถ้าหากลูกน้องที่เก็บไปเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์ บางทีพวกเขาอาจจะเอาสกิลต้องห้ามกลับมาทำร้ายพวกเราก็ได้ใครจะรู้” ลู่หยางกล่าวอย่างจริงจัง
ตอนแรกทุกคนคิดว่าจดหมายนี้เป็นเพียงไอเท็มธรรมดา ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะมีความสำคัญมากขนาดนั้น พวกเขาจึงรีบพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“หัวหน้าวางใจได้เลย ต่อไปผมจะไม่ให้ใครเก็บของที่ดรอปมาเป็นอันขาด แล้วเราจะรีบรวบรวมไอเทมทั้งหมดส่งมอบให้กับคุณเจียงเจ๋อจัดการทั้งหมด” ฉิงชางกล่าว
ลู่หยางได้ของดีอีกแล้วววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 172
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น