บทที่ 256 ตราชีวิตนิรันดร์
บทที่ 256 ตราชีวิตนิรันดร์
15 นาทีผ่านไป
“หัวหน้า ผมผ่านเส้นทางมาได้แล้วครับ” ซุนหยูติดต่อมาหาลู่หยาง
“นายทำได้ยังไง ทำไมถึงเร็วขนาดนั้น?” ลู่หยางอุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“พอดีผมลากพวกมอนสเตอร์ออกไปข้างนอกครับ” ซุนหยูกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
ลู่หยางยกมือขึ้นมาตบหน้าผากโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากนึกขึ้นได้ว่าซุนหยูมีนิสัยชอบลากมอนสเตอร์ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“โอเค เดี๋ยวฉันบอกคนอื่นให้” ลู่หยางกล่าวก่อนจะส่งข้อความไปหาแม่ทัพคนอื่น ๆ
เมื่อได้รู้วิธีของซุนหยู เซี่ยหยู่เว่ยก็กัดฟันด้วยความหงุดหงิด ส่วนพวกผู้ชายก็หันมาขยิบตาให้แก่กัน
ในช่องสื่อสารของทีม
“ฉันขอเวลาอาทิตย์หนึ่งแล้วเดี๋ยวฉันจะมาเต้นให้พวกนายดู” เซี่ยหยู่เว่ยกัดฟันกล่าว
สมาชิกทุกคนภายในทีมต่างก็พูดคุยกันอย่างตื่นเต้น หลังจากที่พวกเขาจะได้เห็นสาวสวยเต้นต่อหน้าด้วยตาของตัวเอง
“เธอจะเต้นจริง ๆ เหรอ?” ลู่หยางส่งข้อความส่วนตัวไปถามเซี่ยหยู่เว่ย
“ฉันเรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก หัวหน้าไม่ต้องห่วงเรื่องแค่นี้ฉันรับมือได้” เซี่ยหยู่เว่ยตอบ
“ถ้าไม่อยากเต้นก็บอกฉันมาก็แล้วกัน” ลู่หยางพยายามหาวิธีประนีประนอม เพราะเขากังวลว่าเซี่ยหยู่เว่ยจะเสียหน้าหากเธอต้องมาเต้นต่อหน้าคนมากมาย
อย่างไรก็ตามแม้แต่ลู่หยางก็ไม่คาดคิดเลยว่าการเต้นในครั้งนี้จะทำให้สมาชิกภายในกิลด์เพิ่มขึ้นไปทะลุ 150,000 คน และผู้เล่นที่สมัครเข้ามาใหม่ทุกคนต่างก็เป็นผู้เล่นระดับสูงที่มีเลเวล 20 ขึ้นไป แม้แต่คู่หูที่มีชื่อเสียงในชาติก่อนอย่างพี่น้องเฮลเฮฟเว่นก็ยังยอมมาอยู่ใต้คำสั่งของเซี่ยหยู่เว่ย แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ย่อมเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
10 นาทีต่อมา
“หัวหน้า พวกเราทั้ง 5 ทีมหาเส้นทางจนมาถึงบอสแล้วครับ คุณจะให้พวกเราเริ่มสู้เลยไหม?” ฉิงชางติดต่อเข้ามาหาลู่หยาง
“เริ่มสู้ได้เลย ช่วง 50% แรกให้รายงานมาทุกครั้งที่พลังชีวิตของบอสลดลง 10% ช่วง 40% ต่อมาให้รายงานทุกครั้งที่พลังชีวิตของบอสลดลง 5% และช่วง 10% สุดท้ายให้รายงานมาทุก ๆ ครั้งที่พลังชีวิตของบอสลดลง 1%” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
โทรลล์หอกไฟทั้ง 5 พี่น้องเป็นผู้พิทักษ์ประตูป้อมปราการคริมสัน และพวกมันก็ได้รับพรให้มีชีวิตร่วมกัน ดังนั้นหากผู้เล่นไม่ได้สังหารบอสทั้ง 5 ตัวให้สำเร็จภายใน 1 นาที พวกมันก็จะฟื้นคืนชีพกลับมาด้วยพลังชีวิตอันเต็มเปี่ยม
หลังจากลู่หยางแนะนำวิธีการกำจัดบอส เขาก็ลองให้แม่ทัพคนอื่น ๆ สั่งการลูกทัพของตัวเอง ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้ไม่นานทีมทั้ง 5 ก็สังหารบอสได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
“ฉันอุตส่าห์เอ็นดูนายมาตลอด แต่นายกลับไปช่วยพวกเขาเนี่ยนะ?!” เซี่ยหยู่เว่ยเริ่มบิดหูซุนหยูในทันทีหลังจากที่ทุกคนได้กลับมารวมตัวกัน
“โอ๊ยพี่! ผมผิดไปแล้ว” ซุนหยูเริ่มส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
“หัวหน้ามานู่นแล้ว” ฉิงชางพยายามส่งเสียงกะแอมเพื่อช่วยซุนหยู เซี่ยหยู่เว่ยจึงทำได้เพียงแต่ปล่อยหูของเด็กหนุ่มอย่างไม่เต็มใจ
“บอสดรอปอุปกรณ์อะไรลงมาบ้าง?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้ม
“ทางฝั่งฉันได้เศษตราชีวิตนิรันดร์มา 1 อัน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไอเท็มพิเศษ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
เศษตราชีวิตนิรันดร์
รายละเอียด นี่คือตราที่มีส่วนผสมของเลือดฟีนิกซ์ ผู้ถือครองจะได้มีสิทธิ์กลายเป็นอมตะ
“พวกเราก็ได้มาคนละอันเหมือนกันครับ” ฉิงชางกล่าว
“เอาพวกมันมาให้ฉันหมดเลย” ลู่หยางกล่าว
นี่คือเหรียญตราที่มีชื่อเสียงในชาติก่อน และถึงแม้คำอธิบายของไอเท็มจะไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นมากนัก แต่หลังจากที่ผู้เล่นรวมเศษเหรียญตราทั้ง 5 อันเข้าด้วยกันแล้วมันก็จะกลายเป็นเหรียญตราที่สมบูรณ์ที่สามารถปลดล็อคเลเวลของนกฟีนิกซ์ได้ 1 ระดับ
หากเขาทำการอัปเกรดเหรียญตรานี้จนถึง +10 มันก็จะให้เอฟเฟกต์เพิ่มเลเวลของนกฟีนิกซ์ได้ 3 ระดับ ซึ่งก่อนหน้านี้ลู่หยางกำลังหาวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งให้นกฟีนิกซ์อยู่พอดี แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้รับเครื่องประดับที่ช่วยยกระดับให้กับนกฟีนิกซ์มาอย่างเร็วแบบนี้
“หัวหน้า มันเอาไว้ทำอะไรงั้นเหรอครับ?” ไป๋เหลิงถาม
“อีกเดี๋ยวพวกนายก็รู้เอง หลังจากนี้มันจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่พวกเราจะใช้ในการเก็บเลเวล” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เก็บเลเวล?”
“ใช่ อีกเดี๋ยวมันจะมีมอนสเตอร์ไฟนับไม่ถ้วนบุกออกมาจากป้อม ทุกคนถอยกลับไปตั้งรับบริเวณทางเดินที่ตัวเองเป็นคนเคลียร์เส้นทางได้เลย” ลู่หยางกล่าว
“ได้ครับ/ค่ะ” เหล่าบรรดาแม่ทัพพยักหน้า ก่อนจะนำทีมถอยกลับไปปกป้องเส้นทางของตัวเองเอาไว้
ลู่หยางเดินเข้าไปที่ประตูใหญ่ของป้อมปราการคริมสัน ซึ่งหลังจากที่เขาเดินเข้าไปได้ 5 เมตร โทรลล์ไฟยักษ์ที่มีความสูงมากกว่า 10 เมตรก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากความมืด
“ผู้บุกรุก! เหล่าสาวกของข้าจงทำลายพวกมันซะ”
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วป้อมปราการ และในพริบตาต่อมาทั่วทั้งห้องโถงอันมืดมิดก็สว่างไสวเมื่อมีปีศาจไฟสูง 2 เมตรนับแสนปรากฏตัว
“ยึดพื้นที่ของเรากลับคืนมา!” โทรลล์ไฟร้องคำราม ก่อนที่ปีศาจไฟจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งเข้าหาลู่หยางพร้อมกัน
ปีศาจไฟ (บอส)
เลเวล 40
พลังชีวิต 300,000/300,000
ถึงแม้ลู่หยางจะเปลี่ยนร่างเป็นอสูรเพลิง แต่เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับปีศาจไฟมากมายมหาศาลเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน เขาจึงโยนมีดเอสเคพเดจเจอร์ออกไปทางด้านหลัง ก่อนจะใช้การเทเลพอร์ต 2 จังหวะทิ้งระยะห่างออกไป 60 เมตร จากนั้นเขาก็เปิดใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดเพื่อเร่งความเร็ววิ่งกลับไปยังทางเดิน
“หัวหน้ามีอะไรงั้นเหรอครับ?” ไป๋ฉือถาม
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมศัตรูกำลังบุกมาแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปด้านหลัง
พวกไป๋ฉือรีบมองไปด้านหลังใหม่ทันที ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานความร้อนจากร่างปีศาจไฟก็ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นก่อนที่พวกมันจะปรากฏตัวเสียอีก
ปีศาจไฟชุดแรกหลายพันตัวกระจายออกไปทั้ง 5 เส้นทางพร้อม ๆ กัน เหล่าบรรดาแม่ทัพจึงเริ่มสั่งการให้ลูกน้องเคลียร์มอนสเตอร์ในทันที
มีใครแอบคิดว่าลู่หยางจะโซโล่บ้างไหม? 55555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 205
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น