บทที่ 234 ซุ่มโจมตีฉู่หาน
บทที่ 234 ซุ่มโจมตีฉู่หาน
“ดี แผนการนี้ใช้ได้ สโนวี่รีเวอร์ฉันจะให้โอกาสนี้กับนาย อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” บลัดไทแรนท์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ขอบคุณครับหัวหน้า” สโนวี่รีเวอร์พยักหน้าตอบ
“หัวหน้า คนของเราเพิ่งแจ้งมาว่าลู่หยางนำกองกำลัง 3,000 คนเข้าไปในเชิงเขาเชอร์ลอคเพื่อเตรียมซุ่มโจมตีพวกเราอีกแล้ว” ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงาน
“ไอ้สารเลว!” บลัดไทแรนท์ส่งเสียงอย่างไม่พอใจ เพราะเขาไม่คิดว่าลู่หยางจะไร้ยางอายถึงขนาดใช้แผนการเดิมเพื่อดักซุ่มโจมตีเขาแบบนี้
“แบบนี้พวกเราควรจะต้องวางแผนกันใหม่” เซาธ์โคสท์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่จำเป็น สโนวี่รีเวอร์นายนำกำลังพล 1,500 นายบุกขึ้นไปทางหน้าผาด้านซ้าย เครสเซินมูน นายนำกำลังพล 1,500 นายบุกขึ้นหน้าผาทางด้านขวา ส่วนฉันจะนำกำลังคน 4,000 คนไปตามถนนหลักแล้วพวกเราค่อยไปรวมกำลังกันเพื่อทำการโจมตี” บลัดไทแรนท์กล่าว
เนินเขาทั้งสองข้างทางของเชิงเขาเชอร์ลอคเป็นเทือกเขาเดียวกันกับช่องเขาแคบ ซึ่งถ้าหากผู้เล่นมองบนแผนที่ 3 มิติพวกเขาก็จะสามารถมองเห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปจนถึงยอดเขาเชอร์ลอคผ่านเส้นทางเหล่านี้ได้ เพียงแต่เส้นทางจะเต็มไปด้วยความยากลำบากและจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการเดินทางที่ค่อนข้างนานเท่านั้น
“ได้ครับหัวหน้า รอฟังข่าวดีจากผมได้เลย” สโนวี่รีเวอร์กล่าว
“ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวพวกนาย 2 คนคอยส่งข่าวมาให้ฉันเป็นระยะ ๆ ทางฝั่งฉันจะค่อย ๆ เคลื่อนกำลังพลไปอย่างช้า ๆ เพื่อที่พวกเราจะไปถึงเป้าหมายพร้อม ๆ กัน” บลัดไทแรนท์กล่าว
“ได้ครับ” สโนวี่รีเวอร์กับเครสเซินมูนตอบรับพร้อมกัน
เซาธ์โคสท์มองไปยังนายพลทั้งสองที่วิ่งนำทีมออกไป ก่อนจะหันมาพูดกับบลัดไทแรนท์ที่อยู่ใกล้ ๆ ว่า
“หัวหน้า เราควรให้ฉู่หานกับดีม่อนบลัดชิงลงมือก่อนไหมครับ? ผมกลัวว่าฉงป้ากับฉือมู่จะชิงลงมือก่อน”
“ไม่จำเป็น ฉงป้ากับฉือมู่ไม่ได้มีผลประโยชน์ขัดแย้งอะไรกับพวกเรา พวกมันไม่มีทางเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงเพื่อลู่หยางหรอก ครั้งนี้พวกมันแค่ออกมาแสดงตัวเท่านั้น ตราบใดก็ตามที่ลู่หยางพ่ายแพ้เมื่อนั้นพวกมันก็จะถอยกำลังกลับไปเอง” บลัดไทแรนท์กล่าว
เซาธ์โคสท์ขมวดคิ้วแล้วรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังส่งข้อความไปหาฉู่หานกับดีม่อนบลัดตามคำสั่งของบลัดไทแรนท์
“หัวหน้าสั่งให้พวกนายเตรียมพร้อมเอาไว้ แต่อย่าเพิ่งไปปะทะกับฝ่ายตรงข้ามก่อนเป็นอันขาด”
—
ฉู่หานอ่านคำสั่งแล้วถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปยังกองกำลังที่อยู่ด้านหน้า
“นักธนูจุดพลุส่องสว่างต่อไป ระวังพวกโจรเข้ามาแอบซุ่มโจมตี”
ตอนนี้ภายในเกมเป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว มันจึงมีพระจันทร์กลมโตลอยเด่นอยู่เหนือหุบเขาพร้อมกับมีสายลมเย็นพัดพาให้ต้นไม้รอบข้างส่งเสียงสั่นไหว
“พวกเรารอมาเกือบชั่วโมงแล้วนะครับ ทำไมเราถึงไม่บุกโจมตีพวกมันไปเลยล่ะจะรอให้เสียเวลาทำไม?” มูนซอร์ทมือขวาของฉู่หานบ่นอย่างหงุดหงิด
“ใช่ครับ พวกเราถนัดการบุกแต่ไม่ถนัดตั้งรับ หากเราปล่อยให้พวกฉงป้าลงมือก่อน ในตอนนั้นมันจะกลายเป็นว่าพวกเราจะลำบากเองนะครับ” ไนฟ์เอเลคจี 1 ในหัวหน้ากองพันของฉู่หานกล่าว
ฉู่หานทำได้เพียงมองไปยังเงาดำของฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างจนปัญญาว่า
“หัวหน้ากิลด์ยังไม่มีคำสั่งให้พวกเราเคลื่อนไหว ทุกคนก็ช่วยอดทนกันไปก่อนก็แล้วกัน ครั้งนี้ 2 กิลด์ใหญ่ของเมืองได้มาต่อต้านพวกเราอย่างเปิดเผย หากเราลงมือทำอะไรบุ่มบ่ามมันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อกิลด์ในอนาคต เอาเป็นว่าหลังเรื่องนี้จบลงฉันจะเกลี้ยกล่อมหัวหน้าว่าคราวหน้าไม่ควรจะทำแบบนี้อีก”
มูนซอร์ทกับไนฟ์เอเลคจีพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั่นเอง เมฆสีดำก็เริ่มลอยมาบดบังดวงจันทร์จนทำให้พื้นที่โดยรอบมืดสนิทขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ฉู่หานขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจและถึงแม้เขาจะสัมผัสได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็ไม่สามารถอธิบายความผิดปกติของสถานการณ์ในตอนนี้ได้
“เมฆก้อนนี้มันแปลก ๆ ทำไมมันถึงมันลอยอยู่เหนือหัวพวกเราแต่ไม่ได้ไปลอยอยู่แถวฝั่งฉงป้าเลย?” มูนซอร์ทกล่าว
ฉู่หานพิจารณาคำพูดของลูกน้องอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างและตะโกนสั่งการอย่างตื่นตระหนก
“แย่แล้ว! ทุกคนเตรียม…”
น่าเสียดายที่ก่อนฉู่หานจะทันสั่งการจนจบ พายุสายฟ้าที่มีรัศมีกว่า 20 เมตรก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขาเสียก่อน
ในเวลาเดียวกันอุกกาบาตสีเขียวมรกตก็ค่อย ๆ ตกลงมาจากยอดเขาสูงที่อยู่ด้านข้าง ก่อนที่พวกมันจะเผยให้เห็นว่าแท้ที่จริงมันคืออุกกาบาตที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 10 เมตร
เฮลไฟร์ลอร์ด!
อุกกาบาตลูกใหญ่ 4 ลูกพุ่งเข้าใส่ใจกลางกองทัพของฉู่หานจนทำให้เกิดฝุ่นคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ
โฮก!
เฮลไฟร์ลอร์ดทั้ง 4 ตัวลุกขึ้นยืนท่ามกลางฝูงชน ก่อนที่พวกมันจะชกหมัดเพลิงสังหารศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในระยะ 20 เมตร
“ฉงป้า! แบบนี้มันหมายความว่ายังไง?!” ฉู่หานตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
ในระหว่างที่เขากำลังพูดอยู่นั้นอุกกาบาตสีแดงเพลิง 3 ลูกก็ตกลงมาจากบนท้องฟ้า ก่อนที่มันจะบดขยี้ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างฉับพลัน
“มันไม่ใช่ฝีมือของเขาหรอกแต่เป็นฝีมือของฉันเอง” ลู่หยางกล่าวหลังจากกระโดดลงมาจากภูเขาสูง
ฉู่หานมองไปยังลู่หยางด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?! ไม่ใช่ว่าแกอยู่ที่เชิงเขาเชอร์ลอคงั้นเหรอ?”
“นั่นเป็นกลอุบายที่ฉันเอาไว้ใช้หลอกบลัดไทแรนท์ต่างหาก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ จากนั้นเขาก็สะบัดมือขวาและตะโกนสั่งการทุกคนว่า
“ฆ่าพวกมันซะ!”
“ฆ่า!” เหล่าบรรดาแม่ทัพของลู่หยางนำทีม 3,000 คนกระโดดลงมาจากภูเขาพร้อมกับบุกจู่โจมใส่ด้านข้างกองกำลังของฉู่หาน
ขณะเดียวกันเมื่อฉงป้าเห็นลู่หยางลงมือ เขาก็ชักดาบยาวชูขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับตะโกนสั่งการขึ้นมาว่า
“ฆ่า!”
กองทัพโอเวอร์ลอร์ดได้จัดเตรียมกระบวนทัพสำหรับการสู้รบเอาไว้แล้ว เมื่อได้รับคำสั่งพวกเขาทั้ง 10,000 คนจึงพุ่งเข้าใส่กองกำลังของฉู่หานอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้าน ฉู่หานก็พยายามสงบสติอารมณ์และตะโกนออกคำสั่ง
“มูนซอร์ทนำกำลังเข้าไปขวางลู่หยางเอาไว้ ส่วนไนฟ์เอเลคจีเข้าไปรับการโจมตีจากฝั่งฉงป้า”
หลังจากตะโกนสั่งการฉู่หานก็ติดต่อไปหาบลัดไทแรนท์
“หัวหน้า ตอนนี้ลู่หยางนำกองกำลัง 3,000 คนบุกเข้ามาลอบโจมตีใส่ผมพร้อมกับฉงป้าแล้วครับ ทางฝั่งนี้ต้องการกำลังสนับสนุนโดยด่วน”
ขณะเดียวกันบลัดไทแรนท์กำลังนำกำลังพลเคลื่อนไปยังเชิงเขาเชอร์ลอค แต่เมื่อเขาได้ยินข่าวจากฉู่หาน มันก็ทำให้เขารู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า
“ไหนหน่วยสอดแนมรายงานว่าพวกลู่หยางมันซ่อนตัวอยู่ในเชิงเขาเชอร์ลอค แล้วพวกมันไปโผล่ที่นั่นได้ยังไง?!”
“ลู่หยางนำทัพมาที่นี่ด้วยตัวเองครับ ทางฝั่งฉงป้าก็นำทัพด้วยตัวเองเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าจะต้านทานพวกมันเอาไว้ได้นานแค่ไหน” ฉู่หานกล่าว
“อดทนเอาไว้ก่อน ฉันจะรีบนำกำลังไปสนับสนุนเดี๋ยวนี้” บลัดไทแรนท์ร้องคำรามด้วยความโกรธ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?!” เซาธ์โคสท์ถามเมื่อสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้น? ไอ้สารเลวลู่หยางมันไม่ได้อยู่ในเชิงเขาเชอร์ลอคนะสิ แต่มันนำกองกำลัง 3,000 คนร่วมกับฉงป้าจู่โจมเข้าใส่กองกำลังของฉู่หานแล้ว” บลัดไทแรนท์ร้องคำรามจนแทบจะควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ไม่อยู่
เซาธ์โคสท์ยืนอึ้งอยู่กับที่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
“หัวหน้า! พวกเราต้องรีบนำกองกำลังไปช่วยฉู่หานนะครับ ถ้าพวกเขาตายมันจะกลายเป็นว่ากิลด์ของเราสูญเสียอุปกรณ์ไปครึ่งหนึ่ง และในเวลานั้นพวกเราจะไม่มีกำลังปกครองพื้นที่เก็บเลเวลรอบ ๆ เมืองเซนต์กอลล์อีกต่อไป”
“ฉันรู้แล้วไม่ต้องมาบอก รีบส่งข้อความไปบอกสโนวี่รีเวอร์กับเครสเซินมูนให้ถอยกลับมาเดี๋ยวนี้!” บลัดไทแรนท์ตะโกนสั่ง
การเดินทางจากเนินมีดโกนไปยังหุบเขาจันทร์สว่างใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งในระหว่างการเดินทางบลัดไทแรนท์คอยถามสถานการณ์ในสนามรบไม่หยุด แต่ทุกครั้งที่ได้รับข่าวมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกท้อแท้และเขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าลู่หยางเคลื่อนกำลังพลไปทางนั้นด้วยความรวดเร็วได้ยังไง
ทางลัดมีอยู่ทุกทีแน่ ๆ 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 203
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น