เดินเล่นชิลๆ ยามเย็น ในวันออกพรรษาที่เขื่อนราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
อากาศร้อนมาพร้อมกับกลิ่นคาวปลา คือสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้เมื่อก้าวเท้าลงมาจากรถ นี่คือเขื่อนอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ
ในช่วงปลายฤดูน้ำหลากอย่างเดือนตุลาคม มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยพากันมาหาปลา ทั้งหากินเองและนำไปขาย ดังนั้นกลิ่นปลาสดๆ ที่เพิ่งถูกนำขึ้นมาจากน้ำจึงวิ่งเข้ามาปะทะจมูกของเรา
เราเดินเกาะศอกแม่ลัดเลาะไปตามถนนปูพื้นคอนกรีต ก่อนมาหยุดอยู่ข้างลาวกั้นระหว่างผืนดินและผืนน้ำ เสียงคลื่นดังซู่ซ่าดังมาให้ได้ยินเป็นระยะ แต่ไม่ได้ช่วยให้ความร้อนจากแสงแดดลดลงสักเท่าไหร่ แม้ว่าเราจะมองไม่เห็นเนื่องเพราะเป็นคนพิการทางสายตา แต่แม่ของเราก็บรรยายสิ่งต่างๆ ให้ฟังเป็นระยะ การมาเดินเล่นครั้งนี้เลยไม่ได้จืดชืดแต่อย่างใด
"แม่ ถ่ายรูปให้หน่อย" เราพูดพลางล้วงมือเข้าไปหยิบไอโฟน SE 3 ตัวเก่งออกจากกระเป๋ากางเกง "นานๆ มาที มันต้องจัดสักภาพ"
แม่รับสมาร์ทโฟนจากมือเราไป ก่อนจะพาเราไปยืนพิงตรงลาวกั้นริมเขื่อน แล้วถ่ายรูปให้เราประมาณสองสามภาพ
"เอาภาพน้ำ ไม่ก็ภาพคนกำลังหาปลาด้วยนะ" เราเอ่ยบอก
แม่กดถ่ายภาพตามที่เราต้องการก่อนยื่นโทรศัพท์คืนให้ เรารับมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไว้ตามเดิมก่อนออกเดินต่อ

ภาพกระแสน้ำของเขื่อน

ผักตบชวาที่ลอยอยู่ในน้ำ

เราหยุดถ่ายภาพกันอีกสักหน่อย
เราเดินลัดเลาะไปตามริมเขื่อนอย่างช้าๆ ขณะที่มีเสียงฟ้าร้องคำรามมาจากที่ไกล คาดว่าคงต้องมีเม็ดฝนตกตามมาในอีกไม่นานเป็นแน่
เขื่อนราษีไศลก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2535 เป็นเขื่อนในกลุ่มโครงการผันน้ำโขง-ชี-มูล ภายใต้การดูแลรับผิดชอบของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน เพื่อทำการผันน้ำจากแม่น้ำโขง ชี และมูล มาแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ 4.98 ล้านไร่ในเขตภาคอีสาน โดยใช้งบประมาณกว่า 2.28 แสนล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างกว่า 2 ปีจึงแล้วเสร็จ
"ไปถ่ายตรงป้ายเขื่อนไหม?" แม่ถามเราระหว่างเดินดูนั่นนี่ไปด้วยกัน
"ก็ดีเหมือนกัน" พูดพลางเร่งมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย
"มาๆ เดี๋ยวถ่ายให้" พ่อเราเอ่ยขึ้นขณะเร่งฝีเท้าเข้ามาสมทบ
พ่อกดถ่ายรูปสองสามแชะ แล้วยื่นสมาร์ทโฟนคืนให้เรา

ถ่ายคู่กับป้ายสถานที่สักหน่อย
พวกเราเดินตัดข้ามถนนมุ่งหน้าไปยังอีกฝั่งที่กระแสน้ำค่อนข้างเบากว่า เขื่อนในบริเวณดังกล่าวเป็นเวิ้งกินผืนดินลึกเข้ามา ด้วยน้ำจุดนี้นิ่งกว่าจุดอื่น ทางเขื่อนจึงสงวนเอาไว้เป็นแหล่งอนุบาลพันธุ์ปลา โดยมีป้ายห้ามตกปลาประกาศเอาไว้อย่างชัดเจน
ดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปทางตะวันตก ผู้คนทยอยออกมาเดินรับลมเล่น เสียงพูดคุยจอแจดังไม่ขาดระยะ มาถึงตอนนี้อากาศรอบข้างเริ่มเย็นลงบ้าง พวกเราเลยถือโอกาสทรุดนั่งพักผ่อนตรงข้างถนนริมเขื่อนกันสักเล็กน้อย
ระหว่างนั้นมีฝูงลูกปลาราวๆ ร้อยกว่าตัวว่ายน้ำมาทักทาย น่าเสียดายที่ตากล้อง (แม่เราเอง) ถ่ายเอาไว้ไม่ทัน เลยไม่มีภาพมาให้ดูกัน
พวกเราพักอยู่แหล่งอนุบาลพันธุ์ปลากันอีกพักใหญ่ ก่อนจะชักชวนกันเดินกลับไปที่รถ เป็นการจบการมาเดินเล่นที่เขื่อนราษีไศลในวันนี้
ที่จริงแล้วราษีไศลมีสถานที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้จำนวนไม่น้อย ทั้งเขื่อนราษีไศลเอง หากทรายหลังวัดกลาง กู่แก้วสี่ทิศที่ตำบลว่านคำ ดงภูดิน ป่าชุมชนประจำอำเภอ รวมถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชน ก็ได้แต่หวังว่า หน่วยงานท้องถิ่นจะหันมาเห็นคุณค่าและพัฒนากันอย่างจริงจังในสักวันหนึ่ง
แผนที่


แสดงความคิดเห็น