4 น้ำหอมที่ฉีดแล้วได้รับคำชม

4 น้ำหอมที่ฉีดแล้วได้รับคำชม

 

          น้ำหอม... ก็เหมือนกับเสื้อผ้า นอกจากจะฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว ยังส่งเสริม

บุคลิกภาพและสร้างความพึงพอใจให้แก่คนรอบข้างได้อีกด้วย ต้องเข้าใจก่อนว่า น้ำหอมนั้นไม่สามารถใช้เพื่อ

ระงับหรืออำพรางกลิ่นกายได้ เพราะน้ำหอมคือเครื่องสำอางที่ส่งเสริมความงาม ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว

วันนี้เลยอยากจะพูดถึงน้ำหอมแบรนด์เนมซึ่งใช้แล้วเรียกคำชมจากผู้คนรอบข้าง สำหรับคนที่อยู่ในวงกาล

น้ำหอมหรือคนที่เพิ่งเข้ามาอ่านคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่ามีกลิ่นไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

 

Prada L’Homme (ปราด้าลอม)

 

          จริงๆ ถ้าพูดถึงแบรนด์นี้ หลายคนอาจคุ้นกับกระเป๋าหรือรองเท้าจากแบรนด์ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการทำ

เครื่องหนังสุดหรู จะเห็นว่าทางด้านหนึ่งนั้น ตัวขวดเป็นลักษณะครึ่งวงกลมซึ่งถูกหุ้มด้วยหนัง พอพลิกดูอีกด้าน

จะมีข้อความเขียนว่า Prada Milano ซึ่งมิลาโนคือเมืองมิลานที่ตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดียประเทศอิตาลี

นั่นเอง กลิ่นนี้ถูกรีวิวและมีคนใช้เกลื่อน เป็นน้ำหอมสำหรับสายออฟฟิศเลยก็ว่าได้ เนื่องจากโทนกลิ่นที่ดูสุภาพ

หรูหรา สะอาดสะอ้าน ออกแป้งๆ และเหมาะมากถ้าฉีดไปงานทางการ บางแว้บที่กลิ่นโชยเตะจมูก ก็อดนึกถึง

กลิ่นของเครื่องสำอางไม่ได้ คิดว่านักศึกษามหาลัยก็ใช้ได้ หรือเด็กกว่านั้น ถ้าอยากซื้อใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่

เนื่องจากโทนกลิ่นไม่ได้ดูสดใสบ้องแบ๊วอะไรนัก จึงน่าจะเหมาะกับช่วงมหาลัยขึ้นไปมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่

กับมุมมองของแต่ละคน

วันที่ผมได้รับคำชม วันนั้นฉีดไปโรงเรียนแล้วยืนสนทนากับครูคนหนึ่ง จู่ๆ ครูก็ทักว่า “ใช้น้ำหอมอะไร หอมดี”

เลยป้ายยาไปตามระเบียบ อีกครั้งให้คนในครอบครัวลองดมดู ก็ถูกชมว่าหอมอีก สรุปได้ว่า Prada L’homme

น้อยคนนักที่จะไม่ชอบผมคิดว่านะ... น้ำหอมกลิ่นนี้จึงเป็นหนึ่งในสี่อันดับที่ได้รับคำชมมากที่สุดของผม และ

เป็นกลิ่นแรกๆ ที่หยิบใช้เมื่อต้องการโทนสุภาพ

 

Dolce & Gabbana Light Blue for Women (โดลเช่ แอนด์ กาบบาน่า ไลท์บลู ฟอร์วูเมน)

 

          น้ำหอมจากแบรนด์หรูสัญชาตอิตาลีกลิ่นนี้ แม้จะระบุว่าเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิง แต่ผู้ชายใช้ก็ไม่ได้ดู

สาวอะไรนะ... ต้องบอกว่าเด็กมัธยมใช้ได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะกลิ่นมีความโปร่ง สดชื่น อมเปลี้ยวอมหวาน

ออกแนวฟรุตตี้ฟลอรัลดูเป็นคนสดใสและเข้ากับคนง่าย กลิ่นท้ายที่ติดผิวผมนั้นจะออกแป้งๆ หน่อย ถ้า

ต้องการน้ำหอมที่เป็นมิตรหรืออยากเริ่มใช้น้ำหอมสักกลิ่นนึง Dolce & Gabbana Light Blue ก็ถือว่าตอบ

โจทย์ ยิ่งฉีดยิ่งหอม คนที่ไม่ชอบต้องเป็นคนที่แพ้หรือแอนตี้น้ำหอมจริงๆ เท่านั้น

          ผมได้รับคำชมค่อนข้างมาก เรียกว่าแตะหลักสิบเลยด้วยซ้ำ ครั้งแรกกำลังจะไปกินข้าว ขณะนั้นมีคน

เดินตามหลังมาแล้วเปรยว่า “กลิ่นน้ำหอมใครอ่ะ หอมอ่ะ” ครั้งถัดมา กำลังล้างมืออยู่ แล้วเพื่อนก็ถามว่า “ฉีด

น้ำหอมเหรอ” กลิ่นอะไร หอมดี” ผมก็ยิ้มแป้นเลยสิฮ่าฮ่า... ถ้าฉีดสิบครั้ง อาจได้รับคำชม 7-8 ครั้ง เวลาผม

ต้องการความกระตือรือร้นก็จะหยิบกลิ่นนี้ขึ้นมาใช้ทุกครั้ง ผมว่า... ถ้าเริ่มต้นใช้กลิ่นนี้ แนะนำให้ซื้อมากกว่า

CK One นะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วย

 

BVLGARI Au the Blanc (บุลการี่ โอเดอะบลอง)

 

          ถัดมาเป็นน้ำหอมจากดีไซน์เนอร์แบรนด์ชื่อดังที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะน้ำหอมกลิ่นนี้ถือเป็นกลิ่นโปรด

และเป็นซิกเนเจอร์ของผม เดี๋ยวนี้หายากแล้ว และหาไม่ได้ทั่วไปตามเคาน์เตอร์น้ำหอม ถ้าใครเคยซื้อน้ำหอม

ของแบรนด์นี้ใช้ จะสังเกตว่าน้ำหอมหลายกลิ่นจะมีกลิ่นของชาแฝงอยู่ กลิ่น Au the Blanc คือหนึ่งในซีรีส์ชา

ที่ใช้ง่าย ค่อนไปทางผู้หญิงหน่อย แต่ก็จัดว่าเป็นประเภทยูนิเซ็กส์ ผู้หญิงผู้ชายใช้ได้ไม่ขัดเขิน ฉีดแล้วให้

ความรู้สึกนุ่มนวลติดหวาน กลั้วไปกับกลิ่นชาขาวที่ดมไปดมมานึกถึงชาขาวในโรงแรมใหญ่ซึ่งก็ตรงกับ

คอนเซ็ปต์ของน้ำหอม มีความสุภาพ ออกฟลอรัลนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ ฉีดได้ทุกโอกาส จะงานทางการก็ได้ ฉีด

อยู่บ้านในวันสบายๆ ยิ่งเหมาะ ฉีดตอนนอนรู้สึกหลับดีมากๆ เพราะกลิ่นเบาบางไม่รบกวนตัวเองและคนรอบ

ข้างแน่นอน

Au the Blanc ถูกชมเยอะมาก บางคนถึงกับถามว่าใช้กลิ่นอะไรและหาซื้อได้ที่ไหนบ้างเลยทีเดียว ถ้าหาก

อยากจะลองกลิ่นชาตัวอื่นๆ ก็น่าจะไม่ผิดหวังถ้าหาซื้อได้

 

Narciso Rodiguez for him Bleu Noir (นาร์ซิโซ โรดริเกวซ ฟอร์ฮิม เบลอนัวร์)

 

          พูดชื่อทีถึงกับเหนื่อย สำหรับน้ำหอมที่ได้รับคำชมเป็นอันดับ 1 ของผม เรียกได้ว่าฉีด 10 ครั้ง ถูกชม

9 ครั้ง คือแรกๆ ที่ดมรู้สึกแปลกๆ จะว่าหอมก็ไม่หอม จะว่าเหม็นก็ไม่เชิง กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครดี

โทนกลิ่นค่อนข้างซับซ้อน อธิบายยากนิดนึง แบรนด์นี้เขาจะโดดเด่นด้วยกลิ่นของมัสค์ ทำให้กลิ่นดูแน่น

อบอวลและติดทน ฉีดครั้งแรกชอบเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้หอมไปกว่ากลิ่นอื่น ถ้าเปรียบเป็นคนหนึ่งคน เบลอนัวร์ก็

เหมือนคนเทาๆ แม้ไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรทำนองนี้ ทว่ากลับลงตัวอย่างประหลาด จริงๆ

แอบนึกไปถึงกลิ่นฟีโรโมนหรือกลิ่นเต่าอ่อนๆ ที่กลั้วไปกับความติดหวานปลายๆ ออกแนววูดดี้ กลิ่นช่วงท้ายที่

ติดผิวออกแป้งๆ หรืออาจจะนึกไปถึงสบู่ไม่ก็เจลอาบน้ำหอมๆ ที่เรียกว่าความพาวเดอรี่นั่นแหละ

          เรื่องคำชมไม่พูดมาก โดนถามเพียบ ตอบซ้ำๆไม่รู้กี่รอบ บางคนบอกว่ากลิ่นคล้าย CK One ซึ่งก็ไม่

ค่อยเหมือนสักเท่าไหร่ สำหรับความเข้มข้นของกลิ่น ที่มีอยู่เป็น EDP กลิ่นจะมีความใช้ง่ายกว่าในมุมมองของ

ผมน้ำหอมแต่ละตัวบนผิวแต่ละคนจะให้ผลลับที่แตกต่างกัน เรื่องของกลิ่นเป็นเรื่องนามธรรม บางทีก็พูดยาก

แต่ก็ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง

 

          สำหรับผมแล้ว น้ำหอมเป็นอะไรที่มากกว่าน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นอะไรก็ตามที่ผม

ชื่นชอบ ล้วนแล้วแต่เป็นความทรงจำและเรื่องราวดีๆ ทั้งนั้น ซึ่งผมกำลังจะบอกว่า กลิ่น... คือสิ่งที่ทำให้ผม

นึกถึงเรื่องดีๆ และพอผมนึกถึงเรื่องในแง่บวกซึ่งเกิดจากกลิ่นที่ช่วยดึงผมให้พ้นจากความเครียดแล้ว ยังส่งผล

ให้เกิดไอเดียอันสร้างสรรค์ในหัวมากมายอีกด้วย ดังนั้น เวลาผมซื้อน้ำหอมขวดละเป็นพันที่ชื่นชอบ ผมเลย

ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่ากับการได้มาครอบครอง ผมเชื่อว่าของแบรนด์ไม่ใช่สิ่งไร้สาระ เพราะเขามีเรื่องราว มี

แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆ จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้ยังไงล่ะ สุดท้าย... เลือก

น้ำหอมกลิ่นไหนก็ได้ให้เหมาะกับตัวคุณ และให้กลิ่นน้ำหอมของคุณสร้างภาพจำดีๆ แก่คนรอบข้างด้วยนะ