ตอนที่ 963 องค์หญิงอสรพิษ
ตอนที่ 963 องค์หญิงอสรพิษ
เซี่ยเฟยคือผู้ฝึกฝนกฎมิติ เขาจึงมีความคุ้นเคยกับความผันผวนที่เกิดจากการใช้กฎมิติด้วยเช่นกัน และเมื่อประมาณจากความผันผวนของพลังในอากาศ ชายหนุ่มก็คาดการณ์ว่ามันได้มีคนใช้กฎมิติบริเวณใกล้ ๆ นี้เมื่อประมาณ 15 นาทีที่แล้ว
“อย่าบอกนะว่ามันมีนักรบคนอื่นจากดินแดนอยู่ที่นี่ด้วย?!” เซี่ยเฟยพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก อย่าลืมนะว่าก่อนหน้านี้พวกเราก็บังเอิญได้พบกับจอมมารตรงบริเวณทางเข้า บางทีตระกูลอื่นอาจจะส่งคนเข้ามาหาอาวุธมายาเหมือนกับพวกเราก็ได้” ลินนิจกล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะในตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่าประตูจักรวาลกำลังไม่มั่นคง บางทีกลุ่มผู้พิทักษ์ก็อาจจะรักษาความเสถียรของประตูเอาไว้ได้อีกไม่นาน
ขณะเดียวกันอาวุธมายาก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับการต่อกรกับพวกดาร์คไนท์ มันจึงเป็นเรื่องปกติที่ตระกูลต่าง ๆ จะส่งคนของตัวเองมาตามหาอาวุธมายาภายในดินแดนดาร์คไนท์
“ไม่ว่าใครที่กล้ามาขโมยของของพวกเราไป พวกมันก็ถือว่าเป็นศัตรูของเราทั้งหมด” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ปีนข้ามกำแพงเพื่อลอบเข้าไปภายในคฤหาสน์สีขาว
ทันใดนั่นเองชายหนุ่มก็พลิกตัวกลางอากาศพร้อมกับทำการสะบัดฝ่ามือออกไป เพื่อทำการปล่อยนิพพานจู่โจมเข้าใส่เงาสีเทาที่กำลังจู่โจมเข้าใส่เขาให้ถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วน
เซี่ยเฟยหมอบตัวลงเคลื่อนที่ไปดูซากศพอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะได้พบว่ามันคืออสรพิษตัวยาวมากกว่า 10 เมตร ภายในปากของมันมีเขี้ยวพิษ 4 ซี่ ซึ่งในตอนนี้มันก็เป็นเพียงแค่ซากงูแห้ง ๆ ที่ถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วน
“ที่แท้ยิ่งสัตว์ประหลาดในดาร์คไนท์มีขนาดเล็กเท่าไหร่ ระดับของพวกมันก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ ขณะทำลายซากศพที่เหี่ยวเฉาให้กลายเป็นผง
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น? งูตัวนี้มีความยาวเพียงแค่ 10 เมตรแล้วมันจะเอาไปเทียบกับสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่มีร่างกายเทียบกับดาวเคราะห์ได้ยังไง?” ลินนิจถามอย่างสงสัย
“พลังงานเป็นสิ่งที่หลอกกันไม่ได้ งูตัวนี้มันให้พลังงานมากกว่าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่พวกนั้นซะอีก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หัวของตัวเอง
ลินนิจชะงักค้างไปเล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเซี่ยเฟยมีนิพพานที่สามารถดูดซับพลังจากศัตรูที่มันจู่โจมได้ ปริมาณพลังงานที่เซี่ยเฟยพูดขึ้นมาย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถโกหกได้อย่างแน่นอน
“โชคดีที่เราเจอกับมันในตอนที่มันนอนหลับสนิท ปฏิกิริยาตอบสนองของมันจึงเชื่องช้ากว่าปกติ ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะสร้างปัญหาให้กับเราได้” เซี่ยเฟยกล่าว
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเหวินฉางถึงบอกว่าฉายาของเจ้าหญิงเหวินหยิงคือองค์หญิงอสรพิษ ที่แท้งานอดิเรกของเธอก็คือการเลี้ยงงูพิษเอาไว้ในบ้านของตัวเอง ครั้งหน้านายจะต้องระวังตัวมากกว่านี้” ลินนิจกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับเงียบ ๆ ก่อนที่เขาจะลักลอบเข้าไปภายในคฤหาสน์สีขาวขนาดใหญ่
ในฐานะองค์หญิงคนโปรดสถานะของเหวินหยิงภายในดินแดนดาร์คไนท์จึงสูงมาก แม้กระทั่งเหวินฉางก็มีโอกาสมาที่นี่ได้เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น เขาจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับโครงสร้างภายในของคฤหาสน์ สิ่งที่เขาพอจะเดาได้คือเส้นทางที่นำไปสู่ชั้นใต้ดินที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนามากที่สุดคือสถานที่ที่มีโอกาสเก็บอาวุธมายาเอาไว้มากที่สุด
หากเซี่ยเฟยมีความสามารถในการค้นหาใกล้เคียงกับเซี่ยเกิง เขาย่อมลดเวลาในการค้นหาได้อย่างไม่ต้องสงสัย น่าเสียดายที่บรรพบุรุษบอกว่าเซี่ยกวงไห่กับเซี่ยเกิงมีภารกิจอื่นที่ต้องทำ เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องพึ่งพาเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเอง
วิชาพรางจิต, เล่ห์กายาและความเร็วคือเครื่องป้องกันขั้นสุดยอด ซึ่งในที่สุดเซี่ยเฟยก็ลักลอบเข้าไปจนถึงบริเวณทางเข้าของชั้นใต้ดิน
หน้าประตูมีนักรบคอยปกป้องอยู่หลายสิบคน เรียกได้ว่าการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่บริเวณนี้มีความเข้มงวดกว่าพื้นที่ด้านนอกอย่างเทียบกันไม่ได้
ชายหนุ่มหลบหลีกและกระโจนขึ้นไปบนเพดานด้วยท่าทางราวกับแมงมุม จากนั้นเขาก็ใช้หนามแหลมบนชุดเพื่อไต่ผนังก้าวเท้าไปด้านหน้า
เหตุการณ์ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะในที่สุดเซี่ยเฟยก็สามารถหลบเลี่ยงกลุ่มนักรบเข้ามาภายในชั้นใต้ดินได้สำเร็จ
พื้นที่ในบริเวณนี้ไม่เหลือถนนอีกต่อไป มีเพียงแค่ประตู 3 บานที่ปิดกั้น 3 ทิศทางที่แตกต่างกัน
“ประตูทั้งสามบานเหมือนกันหมดเลย แล้วแบบนี้พวกเราควรจะเปิดประตูบานไหน?” ลินนิจกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เซี่ยเฟยยังคงสงบนิ่งอย่างผิดปกติ แต่ลินนิจก็ได้พบว่ามือซ้ายของชายหนุ่มกำลังเรียกกฎแห่งความโกลาหลออกมาอย่างเงียบ ๆ
“อย่าพึ่งเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้ามันส่งสัญญาณเตือนขึ้นมาพวกเราจะตกอยู่ในอันตราย” ลินนิจรีบกล่าวเตือน
น่าเสียดายที่คำพูดของเขาสายเกินไปหน่อย เพราะชายหนุ่มส่งกำปั้นที่เต็มไปด้วยกฎแห่งความโกลาหลออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เซี่ยเฟยทำลายไม่ใช่ประตูทั้งสามบาน แต่เป็นผนังที่มีความราบเรียบเหมือนกับกระจก
ทันใดนั้นชั้นใต้ดินอันเงียบสงบก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน แสงเงาทั่วทั้งพื้นที่กำลังหมุนวนสลับกันไปมาจนทำให้ผู้คนรู้สึกเวียนหัว
“ภาพลวงตา!? ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยกฎแห่งภาพลวงตางั้นเหรอ” ลินนิจอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อได้ค้นพบว่าแท้ที่จริงแล้วดาวเคราะห์ดวงนี้ทั้งดวงต่างถูกปกคลุมไปด้วยภาพลวงตา แม้แต่ตัวคฤหาสน์ก็ไม่มีอยู่จริง
เมื่อวิวทิวทัศน์ดั้งเดิมหายไปพวกเขาก็พบเห็นเพียงแต่ซากปรักหักพังท่ามกลางเนินเขาอันมืดมิด ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยเสียงของงูพิษ ซึ่งมันเป็นเครื่องบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าทั่วทั้งพื้นที่แห่งนี้มีอสรพิษหลบซ่อนอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
ในเวลาเดียวกันผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บจากกฎแห่งความโกลาหลของเซี่ยเฟย
“แกรู้ตั้งแต่แรกแล้วสินะว่าที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยภาพลวงตา แต่แกก็ยังแอบลักลอบเข้ามาเพื่อทำลายแก่นแท้ของภาพลวงตาในคราวเดียว” หญิงสาวชี้นิ้วไปที่เซี่ยเฟยอย่างโกรธเคือง
ภาษาที่เธอใช้คือภาษากลางของดินแดนกฎ ซึ่งเซี่ยเฟยก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก เพราะเหวินฉางสารภาพออกมาแล้วว่าดินแดนดาร์คไนท์มีการติดต่อกับดินแดนกฎอยู่จริง ๆ สมาชิกระดับสูงของดินแดนดาร์คไนท์จึงสามารถพูดภาษากลางของดินแดนกฎได้
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเซี่ยเฟยคือหญิงสาวที่มีส่วนล่างเป็นงูเหมือนกับลาเมียในตำนาน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังหลับตาคล้ายกับว่าเธอเป็นคนตาบอด
“เหตุผลที่ฉันรู้ว่าที่นี่คือกับดักไม่ใช่เพราะแก แต่เป็นเพราะคนที่อยู่ข้าง ๆ แกต่างหาก” เซี่ยเฟยกล่าว
“กล้าดียังไงมาเรียกฉันแบบนี้?! ฉันคือองค์หญิงเหวินหยิงแห่งดินแดนดาร์คไนท์เชียวนะ” เหวินหยิงกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ขณะหันไปมองคนที่อยู่ข้าง ๆ เหวินหยิงโดยไม่ได้สนใจท่าทางองค์หญิงคนนี้เลย มันจึงทำให้เหวินหยิงโมโหจนเกือบจะเป็นบ้า เพราะมันไม่มีใครกล้ามาปฏิบัติตัวอย่างหยาบคายกับเธอแบบนี้มาก่อน
“แกคือคนที่มาจากดินแดนกฎสินะ ผู้ชายคนเมื่อวานก็คงจะเป็นพวกเดียวกันกับแก ทำไมแกไม่เรียกมันมาพร้อมกันเลยล่ะ ฉันยังมีบัญชีที่ต้องจัดการกับมันอยู่” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเย็นชา
“แกจัดการกับเกนไปแล้ว แต่แกยังจะมาเยาะเย้ยฉันอยู่อีกงั้นเหรอ?! ไอ้คนน่ารังเกียจ!!” นักรบฝ่ายตรงข้ามกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันดุร้าย
เซี่ยเฟยไม่รู้เลยว่าเกนถูกจัดการจากจอมเทพทั้งสามของสกายวิงที่แอบติดตามเขาอย่างลับ ๆ ไปแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าคำพูดพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะเขาไม่เคยให้ค่ากับคำพูดของศัตรู
“ไม่มีใครสามารถซุ่มโจมตีฉันซ้ำ ๆ ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นแกหรือเกนก็จะต้องถูกกำจัดลงไปให้หมด!!” ทันทีที่พูดจบเซี่ยเฟยก็รีบเร่งความเร็วไปด้วยความเร็วมากกว่า 4 ล้านเมตรต่อวินาที
ระหว่างเดินทางมาที่นี่เซี่ยเฟยก็ได้พบว่าสถานการณ์ทวีความวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะผู้มีอำนาจบางคนในดินแดนกฎแอบจับมือลับ ๆ กับราชาดาร์คไนท์ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีคนถูกส่งออกมาซุ่มโจมตีเขาซ้ำ ๆ ถึง 2 ครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้มีปัญหากับสถานการณ์ในปัจจุบันมากนัก เพราะตราบใดก็ตามที่เขาสามารถทำลายศัตรูพวกนี้ลงไปได้ ภารกิจค้นหาอาวุธมายาของเขาก็จะสำเร็จลุล่วงอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เหวินหยิงที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างภาพลวงตาได้รับบาดเจ็บจากกฎแห่งความโกลาหล จนทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเธอลดลงกว่าเดิม และตราบใดก็ตามที่เซี่ยเฟยสามารถโค่นล้มนักรบจากดินแดนกฎคนนี้ได้ การจัดการกับสถานการณ์ในปัจจุบันก็จะไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอีกต่อไป
ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ภายใต้แผนการของเซี่ยเฟยมาตั้งนานแล้ว เพราะเขารู้ดีว่าผู้ใช้ภาพลวงตาจะต้องอุทิศตัวเองเพื่อคงสภาพภาพลวงตาเอาไว้ เขาจึงแอบลักลอบเข้ามาเพื่อจู่โจมแก่นกลางภาพลวงตาโดยตรง ซึ่งมันก็จะทำให้นักรบผู้ใช้ภาพลวงตาได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับไปด้วยเช่นกัน
นิพพานหมุนควงในอากาศอย่างรวดเร็ว ขณะที่ขนอุยกับหงส์ครามก็ได้ปรากฏกายออกมาเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
“จอมกฎอีกแล้วเหรอ?! นี่นายเผลอไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า? ทำไมถึงมีจอมกฎต้องการชีวิตนายมากขนาดนั้น” ลินนิจอุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“คุณมาถามผมแล้วผมจะไปถามใคร!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามขณะยังคงจู่โจมอย่างดุเดือด โดยเป้าหมายเดียวของเขาในตอนนี้คือการจับศัตรูมาทรมานเพื่อรีดความลับออกมาให้หมด
นักรบคนนี้เดินทางมาจากดินแดนกฎจริง ๆ และระดับพลังของอีกฝ่ายก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเกนที่เขาได้พบเจอเมื่อวานเลย แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือเกนเป็นคนจากเผ่ามาร แต่นักรบในวันนี้เป็นคนจากฝั่งเทพ
การปรากฏการณ์ของนักรบทั้งสองเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจนเกินไป คล้ายกับว่าเผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสองได้บรรลุข้อตกลงในการร่วมมือกันเอาชีวิตของเซี่ยเฟยแล้ว
นอกจากนี้กลุ่มคนปริศนายังนำหน้าเขาอยู่หนึ่งก้าวเสมอ และเตรียมซุ่มโจมตีก่อนที่เขาจะปรากฏตัว มันจึงยิ่งทำให้เขาตกอยู่ในความสับสนมากยิ่งขึ้น
ตูม!
ระหว่างที่เซี่ยเฟยกับจอมเทพกำลังเผชิญหน้ากันอยู่นั้น จู่ ๆ อสรพิษจำนวนนับไม่ถ้วนก็เหมือนกับได้รับคำสั่ง พวกมันจึงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยแววตาน่าขนลุก
***************
จะเอาตัวรอดยังไงดี? เหมือนวิชามนตราอสูรจะใช้กับสิ่งมีชีวิตดาร์คไนท์ไม่ได้ด้วยนี่นา…
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 265
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น