ตอนที่ 962 เบาะแสอาวุธมายา

-A A +A

ตอนที่ 962 เบาะแสอาวุธมายา

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 962 เบาะแสอาวุธมายา

ชาวดาร์คไนท์ร่างอ้วนถูกเซี่ยเฟยโยนลงกับพื้นอย่างรุนแรง และเมื่อดูจากการที่ชายคนนี้ได้รับการปรนนิบัติจากหญิงสาวหลายคน มันก็แสดงให้เห็นว่าชายอ้วนคนนี้คือผู้ที่มีอำนาจพอสมควรอย่างแน่นอน 

แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายกลับขี้ขลาดมากจนเกินไป เมื่อเขาถูกเซี่ยเฟยโยนออกมาเขาก็รีบก้มหน้าหลบสายตาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง

“ทำไมเขาถึงดูขี้ขลาดขนาดนี้? ไม่ใช่ว่าชาวดาร์คไนท์เป็นพวกกระหายเลือดและหยิ่งผยองตั้งแต่กำเนิดงั้นเหรอ?” ลินนิจกล่าวพร้อมกับส่ายหัวราวกับว่าเขาไม่ชอบท่าทางของเหวินฉางเท่าไหร่นัก

“ดูเหมือนว่าชาวดาร์คไนท์ทุกคนจะไม่ได้เกิดมาเป็นนักรบ ชายคนนี้อาจจะเป็นมันสมองของพวกดาร์คไนท์ก็ได้ ไม่อย่างนั้นคนขี้ขลาดแบบนี้จะมีอำนาจภายใต้ดินแดนดาร์คไนท์ได้ยังไง” เซี่ยเฟยกล่าว

ระหว่างที่เซี่ยเฟยสนทนากับลินนิจอยู่นั้น เขาไม่ได้สนทนาผ่านกระแสจิตเหมือนในเวลาทั่วไป แต่เป็นการพูดส่งเสียงธรรมดา ๆ เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเหวินฉาง

“แกเข้าใจที่ฉันพูดสินะ น่าสนใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ดาร์คไนท์กับดินแดนกฎไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่แกกลับเข้าใจภาษาของดินแดนกฎโดยไม่จำเป็นจะต้องใช้ชิปแปลภาษา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเหยียบร่างเหวินฉางที่อยู่บนพื้น

ในฐานะกุนซือคนสำคัญของราชาดาร์คไนท์ เหวินฉางยังคงพยายามแสดงละครอย่างไร้เดียงสา น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวของเขาไม่สามารถตบตาเซี่ยเฟยได้ ชายหนุ่มจึงทำการตวัดมีดออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อตัดหูซ้ายออกมาจากหัวของอีกฝ่ายเพื่อเป็นสัญญาณเตือน

“มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?” เซี่ยเฟยบ่นพึมพำด้วยความไม่อยากจะเชื่อ หลังจากที่เขาทำการรีดข้อมูลออกมาจากเหวินฉางจนพอใจ

“ทำไมดินแดนดาร์คไนท์ถึงมีความสัมพันธ์กับดินแดนกฎแบบนี้? พวกเขาถึงกับใช้โลหะหายากเพื่อแลกเปลี่ยนกับเทคโนโลยีและอาวุธจากดินแดนกฎ ทั้ง ๆ ที่ดินแดนดาร์คไนท์กับดินแดนกฎเป็นศัตรูกันอย่างช้านาน การพยายามขายอาวุธให้ศัตรูมันเป็นการกระทำที่งี่เง่าชัด ๆ” ลินนิจกล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ

“สถานการณ์ค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่บ้าง แต่มันก็ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการของเรา อย่างน้อยพวกเราก็รู้แล้วว่าพวกดาร์คไนท์กลัวพลังของอาวุธมายาที่ถูกหลอมรวมโดยสมบูรณ์ พวกมันจึงพยายามค้นหาอาวุธมายาอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้พวกเราได้ครอบครองอาวุธพวกนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวก่อนที่นิ้วของเขาจะเปิดแผนที่ดวงดาวขึ้นมาบนหน้าจอ

“ถึงแม้พวกดาร์คไนท์จะมีความสามารถในการรวบรวมอาวุธมายา แต่พวกมันไม่มีความสามารถในการพิชิตอาวุธมายาได้ ดังนั้นพวกมันจึงเก็บซ่อนอาวุธมายากระจายออกไปตามจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านของราชาหรือในบ้านของขุนนางยศใหญ่ และอาวุธมายาธาตุพืชถูกซ่อนอยู่ในบ้านพักพวกนี้ พวกมันจึงเป็นเป้าหมายต่อไปของพวกเรา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังจุดต่าง ๆ บนแผนที่

“แบบนั้นมันจะเสี่ยงเกินไปหน่อยนะ เจ้าเด็กนั่นจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอาวุธมายาธาตุพืชทั้งสองชิ้นถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน อีกอย่างสิ่งที่เขาพูดขึ้นมามันก็อาจจะเป็นเรื่องโกหก อย่างแย่ที่สุดคำพูดของเขาก็อาจจะเป็นกับดักที่ล่อให้นายเข้าไปเจอกับอันตราย” ลินนิจกล่าว

เซี่ยเฟยได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากเหวินฉางอย่างมากมาย อย่างเช่น ภายในดินแดนดาร์คไนท์มีอาวุธมายาธาตุพืชเก็บซ่อนไว้ทั้งสิ้นสองชิ้น อย่างไรก็ตามชายอ้วนก็ไม่มั่นใจว่าอาวุธมายาพวกนั้นถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน เพราะชาวดาร์คไนท์เก็บซ่อนอาวุธมายาทั้งสองชิ้นนั้นเอาไว้มานานมากแล้ว

“ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องลองดู เหตุการณ์คราวนี้บังคับให้ผมจะต้องรวบรวมอาวุธมายาให้เร็วที่สุด ก่อนที่ดินแดนกฎจะมีความวุ่นวายไปมากกว่านี้” เซี่ยเฟยกำหมัดกล่าวขึ้นมาอย่างจริงจัง

ระหว่างนั้นเจมินี่ก็ทำการเคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเป้าหมายแรกของพวกเขาคือคฤหาสน์ของเหวินหยิง องค์หญิงคนสำคัญผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของราชาดาร์คไนท์

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าชาวดาร์คไนท์มีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน แต่พวกเขามีอารยธรรมและมีกษัตริย์เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากความอคติของผู้คนในดินแดนกฎส่วนใหญ่ ภายในดินแดนกฎจึงเชื่อว่าชาวดาร์คไนท์ทั้งหมดต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้สติปัญญา

ภายในราชวัง

ปัจจุบันเหวินต้าผู้ซึ่งเป็นราชาแห่งดาร์คไนท์กำลังสนทนากับชายชราผู้มีจมูกงุ้มเป็นตะขอบนหน้าจอ โดยเหวินต้าแสดงความโกรธออกมาเล็กน้อย ขณะที่ชายชราบนหน้าจอยังคงแสดงสีหน้าออกมาอย่างสงบนิ่ง

“พวกเราทำข้อตกลงกันเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าหากคนจากดินแดนกฎของคุณเข้ามาในดินแดนของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องรับผิดชอบจัดการคนพวกนั้นให้หมด” เหวินต้ากล่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

“ใจเย็น ๆ ฉันส่งคนไปจัดการกับเซี่ยเฟยแล้ว แต่จู่ ๆ คนของฉันกลับขาดการติดต่อไป” ชายชราจมูกงุ้มตอบกลับ

“หากคุณทำตามข้อตกลงของเราไม่ได้ก็อย่ามาโทษฉัน ถ้าหากว่าฉันเป็นคนลงมือเอง” เหวินต้ากล่าวอย่างไม่พอใจ

“เซี่ยเฟยคืออีวิลวิงของสกายวิง ไม่ว่ายังไงฉันก็คิดที่จะกำจัดเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้นักรบคนใหม่กำลังออกเดินทาง คุณช่วยอำนวยความสะดวกเปิดทางให้กับเขาหน่อยก็แล้วกัน” ชายชราจมูกงุ้มกล่าว

“มันเป็นคนของสกายวิงงั้นเหรอ? ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักรบระดับ 6 ของฉันถึงพ่ายแพ้ให้กับมันไปแบบนี้” เหวินต้าพึมพำกับตัวเองอย่างตกใจ

“ฉันไม่สนใจหรอกว่ามันคือคนจากตระกูลไหน แต่มันลักพาตัวหลานชายของฉันไป ถ้าหากว่าคุณจัดการเรื่องนี้ไม่ได้พวกเราก็คงจะต้องเห็นดีกัน” เหวินต้ากล่าวอย่างหยิ่งผยอง ก่อนที่ราชาดาร์คไนท์จะตัดการสื่อสารไปไม่รับฟังคำพูดจากชายชราจมูกงุ้มอีกเลย

เจมินี่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอวกาศอย่างเงียบ ๆ โดยการเปิดระบบอำพรางตัวและใช้ระบบเรดาร์เพื่อสแกนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

“ระบบป้องกันค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว แต่ฉันน่าจะใช้ความเร็วทะลุผ่านระบบป้องกันพวกนั้นเข้าไปได้” เซี่ยเฟยพึมพำอย่างเคร่งขรึมขณะที่เขาอ่านข้อมูลบนหน้าจอ

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกจากยานแล้วค่อย ๆ เดินทางไปยังดาวเคราะห์ตรงหน้า โดยเขาจงใจลดความเร็วของตัวเองลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครค้นพบเขาในระหว่างการเดินทาง

ดาวเคราะห์ตรงหน้าเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและมีต้นสนตั้งตระหง่านอยู่อย่างมากมาย อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ไม่ได้มีเวลาชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามเหล่านี้ เพราะเขารู้ดีว่าภายใต้ป่าสนมีระบบป้องกันอันเข้มงวดถูกซ่อนเอาไว้อยู่เต็มไปหมด

“ที่นี่คือคฤหาสน์ขององค์หญิงเหวินหยิงสินะ มันเหมือนกับที่เหวินฉางอธิบายไว้ทุกอย่างเลย” ลินนิจกล่าวขณะชี้นิ้วไปยังคฤหาสน์ในระยะไกล

บนดาวดวงนี้มีคฤหาสน์หน้าตาเหมือนกันถูกสร้างเอาไว้ถึงหกแห่ง ถ้าหากว่าใครไม่ได้มีความคุ้นเคยกับตัวคฤหาสน์ พวกเขาย่อมไม่สามารถระบุความแตกต่างได้อย่างแน่นอน และตราบใดก็ตามที่ผู้บุกรุกบุกเข้าไปในคฤหาสน์ปลอม พวกเขาก็จะตกหลุมพรางที่เหวินหยิงได้เตรียมเอาไว้

“ดูเหมือนว่าราชาดาร์คไนท์จะหวงลูกสาวคนนี้มากเลยสินะ ไม่เพียงแต่เขาจะยอมสร้างคฤหาสน์ขึ้นมาถึงหกแห่งเท่านั้น แต่องครักษ์ที่ปกป้ององค์หญิงเอาไว้ก็ยังมีพลังที่สูงมากอีกด้วย”

“แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นองค์หญิงคนโปรด นอกเหนือจากในคฤหาสน์จะเก็บอาวุธมายาเอาไว้ ภายในคลังของคฤหาสน์มันก็คงจะมีของดี ๆ ถูกเก็บเอาไว้อีกเยอะเลยสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวขณะลอบเข้าใกล้คฤหาสน์โดยใช้วิชาพรางจิต

รอบคฤหาสน์เต็มไปด้วยทุ่งหิมะสีขาว มันจึงเป็นสถานที่ที่ยากที่สุดในการอำพรางตัวเข้าไป ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงเพื่ออ้อมเข้าไปในคฤหาสน์ แต่ในทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“นี่มัน... มีคนใช้กฎมิติอยู่ที่นี่!?”

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.