ตอนที่ 925 ไททันเวอร์ชั่นปรับปรุง
ตอนที่ 925 ไททันเวอร์ชั่นปรับปรุง
เมื่อขนอุยได้กลับมาเจอเซี่ยเฟยอีกครั้ง มันก็รีบเข้าไปเลียหน้าชายหนุ่มด้วยความคิดถึง ขณะเดียวกันเซี่ยกวงไห่ก็ทำการคืนอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับเซี่ยเฟย
“ขนอุยเชื่องแต่กับนายคนเดียวจริง ๆ เมื่อ 2 วันก่อนฉันลองหยอกล้อมันเล่น แต่เจ้าหนูนั่นกลับโกรธฉันเป็นฟืนเป็นไฟจนพวกเราเกือบจะทะเลาะกันแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 จำนวน 2 ก้อนออกมาให้ขนอุยกิน
“บรรพบุรุษฝากเรื่องอะไรมางั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถาม
“บรรพบุรุษยืนยันที่จะสืบสวนเรื่องประตูจักรวาล มันเลยทำให้ใครบางคนภายในราชวังราชันย์เทพเริ่มจะสร้างปัญหาให้กับบรรพบุรุษแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยท่าทางที่จริงจัง
“สถานการณ์ร้ายแรงหรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างรวดเร็ว
“ร้ายแรงงั้นเหรอ!? บรรพบุรุษของเราถึงกับล้มโต๊ะในราชวังราชันย์เทพ แล้วตะโกนบอกว่าใครก็ตามที่กล้ามาขวางทางเขาจะต้องเห็นดีกับสกายวิง ทันใดนั้นทั่วทั้งราชวังต่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ตอนฉันได้ยินเรื่องนี้มาฉันหัวเราะแทบตาย เพราะไม่คิดว่าคนทั้งวังจะกลัวบรรพบุรุษของเราแค่คนเดียว” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรู้สึกทึ่งกับตัวของบรรพบุรุษที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ชายชราคนนี้ทั้งหยิ่งยโสและมีความบ้ากว่าเขามาก เพราะทั่วทั้งดินแดนกฎจะมีคนกล้าล้มโต๊ะในราชวังราชันย์เทพกันสักกี่คน
“ถึงแม้มันจะไม่มีใครกล้าหาเรื่องบรรพบุรุษอย่างเปิดเผย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้อย่างลับ ๆ ความจริงแล้วภาระที่บรรพบุรุษแบกเอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะฉันได้ยินมาว่าทางราชวังมีคำสั่งให้ตระกูลของเราออกไปที่แนวหน้าแล้วหลายครั้ง”
“มีข่าวลือกันมาว่าผู้มีอำนาจหลักภายในราชวังเทพสนับสนุนให้พวกเราทำสงครามกับเผ่ามาร นี่ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าจอมเทพเป็นจำนวนมากพยายามคัดค้านเอาไว้ สงครามระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็คงจะเกิดขึ้นไปตั้งนานแล้ว”
“เรื่องนี้มันแปลกมาก เพราะทางฝั่งเทพและทางฝั่งมารต่างก็มีคนยุยงให้เกิดสงครามเหมือน ๆ กัน โชคดีที่มันยังมีคนเป็นจำนวนมากพยายามยับยั้งสงครามครั้งนี้เอาไว้ได้ แต่ฉันคิดว่าสงครามคงจะใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว”
“คนในตระกูลของเราต่างก็ยึดมั่นในคำพูดของตัวเองมาก นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันกำลังกังวลเรื่องอะไรมากที่สุด?” เซี่ยกวงไห่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เรื่องอะไรครับ?” เซี่ยเฟยถามกลับ
“ฉันกังวลว่าถ้าพวกเบื้องบนของราชวังยืนกรานที่จะทำสงคราม สกายวิงก็คงจะไม่อยู่ในฝั่งของดินแดนเทพอีกต่อไป บรรพบุรุษเป็นคนที่ดื้อรั้นมากแม้ว่าการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้จะหมายถึงการหันหลังให้กับเผ่าเทพ แต่เขาก็ไม่มีทางกลืนคำพูดของตัวเองแน่นอน” เซี่ยกวงไห่กล่าว
“บรรพบุรุษกำลังจะให้พวกเราก่อกบฏกับเผ่าเทพงั้นเหรอครับ?!” เซี่ยเฟยถามอย่างตกตะลึง
“ถึงแม้บรรพบุรุษจะยังไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พวกเราก็พอจะจับสัญญาณได้บ้างแล้ว บรรพบุรุษมักจะพูดอยู่เสมอว่าพวกเราทำสงครามกันมานานมากโดยไม่รู้อะไรเลย ทุกครั้งที่จะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้รับชัยชนะมันก็มักที่จะมีคนเข้ามาหยุดสงครามเอาไว้เสมอ”
“คราวนี้ถ้าหากว่าทางราชวังไม่สามารถให้คำอธิบายกับบรรพบุรุษได้ ฉันก็คิดว่าสกายวิงคงจะต้องแยกตัวออกมาจากเผ่าเทพแล้วจริง ๆ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับการตัดสินใจของบรรพบุรุษ เพราะตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าประตูจักรวาลกำลังวุ่นวาย แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตในดาร์คไนท์ก็เริ่มที่จะมีการเคลื่อนไหวแล้ว
แม้ทุกคนจะรู้แบบนั้นแต่เผ่าพันธุ์ทั้งสองก็ยังคงยืนกรานที่จะทำสงครามระหว่างกัน ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลกับสถานการณ์ในปัจจุบันเลย
ตระกูลสกายวิงมีจำนวนสมาชิกน้อยกว่าตระกูลอื่นมาก และบรรพบุรุษก็มีความรักต่อสมาชิกทุกคนเหมือนกับลูกหลานของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เซี่ยกู่เฉิงจึงตัดสินใจไม่นำสกายวิงเข้าสู่สงครามโดยปราศจากเหตุผล เพราะมันคือการเสียสละสมาชิกภายในตระกูลอย่างไร้ค่ามากเกินไป
“ผมเดาว่ามันคงจะไม่ค่อยมีคนเห็นด้วยกับบรรพบุรุษใช่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“มันก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว ความจริงคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกับบรรพบุรุษของเรานั่นแหละ แต่พวกเขากลัวอำนาจของราชวังมันเลยมีคนเพียงแค่ไม่กี่คนที่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้านเหมือนกับบรรพบุรุษของเรา ฉันเดาว่าตราบใดก็ตามที่ราชวังมีคำสั่งลงมาอย่างเด็ดขาด พวกเขาก็คงจะเข้าร่วมสงครามแม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม” เซี่ยกวงไห่ตอบ
“ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าบรรพบุรุษมีเรื่องให้ผมทำ มันคือเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถาม
“ระหว่างที่บรรพบุรุษกำลังค้นหาข้อมูลในราชวัง เขาก็บังเอิญไปเจอสิ่งที่เรียกว่าดวงตาแห่งจักรวาล เขาเลยต้องการจะให้นายเดินทางไปดูและคราวนี้นายก็จะต้องเดินทางไปพบกับคนคนหนึ่งด้วย” เซี่ยกวงไห่กล่าวขึ้นมาเบา ๆ ขณะมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา แต่ผมไม่รู้ว่าดวงตาแห่งจักรวาลอยู่ที่ไหนและผมต้องไปพบกับใคร?” เซี่ยเฟยกล่าว
“คำตอบทุกอย่างอยู่ในกล่องนี้แล้ว นายลองเปิดมันดูสิ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับยื่นกล่องปิดผนึกให้กับเซี่ยเฟย
“เดี๋ยวผมกลับไปเปิดดูเองครับ” เซี่ยเฟยกล่าวขณะเก็บกล่องไว้ในอ้อมแขน
“สมแล้วที่บรรพบุรุษให้ความไว้วางใจนายมาก ตอนแรกฉันคิดว่านายจะเปิดกล่องต่อหน้าฉันเสียอีก” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร เพราะถ้าหากบรรพบุรุษต้องการให้เซี่ยกวงไห่รู้ถึงรายละเอียด ข้อมูลทุกอย่างคงจะไม่ถูกเก็บใส่กล่องปิดผนึกแบบนี้ การที่บรรพบุรุษเก็บข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ภายในกล่อง มันก็หมายความว่าอีกฝ่ายต้องการให้เขารับรู้เรื่องนี้เพียงคนเดียว
ก่อนจากไปเซี่ยกวงไห่มองไปรอบ ๆ เมืองหุ่นยนต์ ก่อนที่เขาจะหันไปบอกกับเซี่ยเฟยว่า
“ฉันไม่คิดเลยว่านายจะซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ถึงขนาดนี้ อย่างน้อยถ้าหากสกายวิงต้องออกมาจากดินแดนเทพจริง ๆ พวกเราก็พอจะมาอยู่ที่นี่ได้ชั่วคราว”
—
ภายในกล่องมีตำแหน่งอยู่ 2 จุด โดยจุดแรกคือตำแหน่งของดวงตาแห่งจักรวาลและจุดที่ 2 คือตำแหน่งของคนที่บรรพบุรุษต้องการให้เซี่ยเฟยไปพบ
การเดินทางครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นความลับมาก เพราะบรรพบุรุษเขียนเน้นย้ำว่าไม่ให้เขาเดินทางโดยใช้เข็มทิศมิติ แต่ให้ใช้แท่งทองเดินทางผ่านช่องว่างมิติแทน
อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคือผู้ครอบครองหนอนด้วงมิติเพียงคนเดียวในตระกูล บรรพบุรุษเลยมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้เขาเป็นคนทำ
เมื่อได้รับภารกิจใหม่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจออกเดินทางโดยเร็วที่สุด เพราะสถานที่ทั้งสองแห่งอยู่ห่างออกไปมากพอสมควร และมันก็จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทาง
ก่อนไปเซี่ยเฟยทำการเรียกประชุมทุกคนเป็นการส่งท้าย ซึ่งโซฟี, วอร์สตาร์และมอร์โรว์ต่างก็ดูตื่นเต้นมาก คล้ายกับว่าลินนิจได้บอกเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างกับพวกเขา
ปี๊บ!
หน้าจอแสงถูกเปิดออก ก่อนที่มันจะเผยให้เห็นแบบจำลองของยานไททัน
“นี่มันยานอะไรกันเนี่ย?! ฉันไม่เคยเห็นยานรบที่ดุร้ายแบบนี้มาก่อนเลย” เท็ดดี้อุทานขึ้นมาอย่างตกใจ โดยยาบูริกับเท็มเพลสที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็กำลังมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงด้วยเช่นกัน
“นี่คือยานรบที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่พวกเรามี สิ่งนี้มีชื่อเรียกว่าไททัน”
“บนไททันมีอาวุธที่สามารถฉีกกระชากกาแล็กซีออกจากกันได้เป็นชิ้น ๆ พลังป้องกันคือสิ่งที่ยากจะเจาะทะลวงเข้าไปได้ หากพวกเรามีไททันรวมตัวกันเป็นกองยาน ผมก็เชื่อว่าทั้งจักรวาลนี้คงจะไม่มีใครสามารถต้านทานมันได้แล้ว”
“การผลิตยานไททันคือภารกิจหลักภายในฐานทัพของเรา ยานรบประเภทนี้คือยานที่แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ต้องการยานลำนี้อีกแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าว
ปัง!
มอร์โรว์ลุกยืนขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง เพราะเขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการสร้างไททันขึ้นมา หุ่นยนต์เป็นจำนวนมหาศาลทำการผลิตไททันทั้งวันทั้งคืน แต่จู่ ๆ เซี่ยเฟยกลับมาบอกง่าย ๆ ว่าเขาไม่ต้องการไททันอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเปิดหน้าจอขึ้นมาอีกอัน โดยมันคือแบบจำลองของสถานีวิจัยลับทุกคนจึงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเฟยกำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่
“ไททันคือยานที่ทรงพลังมากจริง ๆ แต่ยานลำนี้ก็ถูกออกแบบมานานมากแล้ว ตอนนี้เราได้แย่งชิงสถานีวิจัยที่ทันสมัยที่สุดภายในดินแดนกฎมา และเรายังได้รับเกียรติจากปรมาจารย์ชั้นแนวหน้าของดินแดนกฎมาอยู่ร่วมกับเราถึงสามคน หากเรายังคงผลิตไททันตามแบบเดิมต่อไป ฉันก็คิดว่าเราคงจะเสียโอกาสมากเกินไปหน่อย”
“สถานีวิจัยลับไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานีอวกาศเท่านั้น แต่มันยังเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของจักรวาล ทุกคนลองคิดดูกันสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเรารวมเทคโนโลยีของสถานีวิจัยลับเข้ากับไททัน” ทันทีที่พูดจบเซี่ยเฟยก็ส่งสายตาไปหาทุกคนเพื่อรอคอยคำตอบ
“คุณกำลังต้องการสร้างไททันเวอร์ชั่นปรับปรุงใช่ไหม?” มอร์โรว์กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ใช่ ฉันต้องการจะสร้างไททันเวอร์ชั่นปรับปรุงขึ้นมา ฉันเชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีจากสถานีวิจัยลับ พวกเราจะพัฒนาไททันเวอร์ชั่นใหม่ให้กลายเป็นยานรบที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล”
“จักรวาลนี้บ้าคลั่งมากแค่ไหนทุกคนก็น่าจะรู้ดี ถ้าหากเราต้องการจะมีชีวิตรอดในจักรวาลที่บ้าคลั่งนี้พวกเราก็ต้องสร้างอาวุธที่บ้าคลั่งมากยิ่งกว่า เป้าหมายของเราคือยานรบที่สามารถกำจัดศัตรูได้ทั้งหมด!” เซี่ยเฟยประกาศขึ้นมาเสียงดัง
สิ้นเสียงประกาศแววตาของทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แม้แต่พวกเท็ดดี้ที่พึ่งเข้าร่วมกับดินแดนลับก็ยังประทับใจกับคำพูดของเซี่ยเฟย
ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นนักวิจัยตัวยง การได้สร้างยานรบที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลย่อมเป็นเกียรติประวัติในชีวิตของพวกเขาแน่นอน พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ไม่ว่าเซี่ยเฟยจะมีวัตถุประสงค์ในการนำไททันไปใช้ทำอะไรก็ตาม
“ไททันเวอร์ชั่นปรับปรุง! โครงการนี้มันเป็นโครงการที่บ้ามากจริง ๆ” มอร์โรว์กล่าวขึ้นมาอย่างยินดีจนลืมความโกรธในก่อนหน้านี้ไปทั้งหมด
—
ระหว่างที่เซี่ยเฟยประกาศแผนโครงการไททันเวอร์ชั่นปรับปรุง ลูกของโกลเดนไลท์ทั้งสามตัวต่างก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดด้วยเช่นกัน
“ดูนั่น! ดักแด้แตกออกมาแล้ว”
ใครคนหนึ่งส่งเสียงตะโกนขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนจะมองไปยังดักแด้ด้วยความตื่นเต้น
สิ่งมีชีวิตในดักแด้พยายามกัดแทะดักแด้ของตัวเองออกมา และทันทีที่มันได้ปรากฏกายมันก็ส่งเสียงร้องจนทำให้ช่องว่างมิติเกิดการสั่นสะเทือน
“นี่มันตัวอะไรกันเนี่ย?!” ผู้ฝึกหนอนด้วงมิติหนุ่มอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
***************
ไอ้พวกนี้จะวิวัฒนาการมาเป็นอาหารของแท่งทองไหมนะ?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 310
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น