ตอนที่ 924 เสริมแกร่งดินแดนลับ

-A A +A

ตอนที่ 924 เสริมแกร่งดินแดนลับ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 924 เสริมแกร่งดินแดนลับ

“ฉันคิดว่าฉันไม่เหลืออะไรจะสอนนายอีกต่อไปแล้วนะ คนบ้าอะไรฝึกกฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นที่ 7 ได้ภายใน 1 สัปดาห์ ฉันไม่เคยเห็นคนที่มีพรสวรรค์ในระดับนายมาก่อนเลย” เท็มเพลสกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“ขั้นที่ 7 มันยังไม่ใช่จุดสูงสุดนี่ครับ ทำไมคุณถึงไม่ให้ผมฝึกต่องั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

พูดตามตรงว่าการฝึกฝนกฎแห่งการประดิษฐ์มาจนถึงขั้นที่ 7 ไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับเขาเลย บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้รับการสนับสนุนจากเม็ดพลังงานสีรุ้งภายในสมอง มันจึงทำให้เขามีความเร็วในการพัฒนาอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนี้

อย่างไรก็ตามกฎแห่งความเร็วและกฎแห่งความโกลาหลก็ยังไม่มีความคืบหน้าไปมากกว่าเดิม แม้ว่าเขาจะพยายามฝึกฝนพวกมันอยู่ทุกวันทุกคืนก็ตาม แตกต่างจากความเร็วในการพัฒนาของกฎแห่งการประดิษฐ์โดยสิ้นเชิง

“การพัฒนาไปทีละขั้นตอนคือกุญแจสำคัญของการพัฒนารากฐานอย่างมั่นคง นายเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง นายจึงสามารถฝึกฝนเพิ่มพลังกฎด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง แต่สำหรับคนสายผลิตอย่างพวกเราการเพิ่มพลังกฎในแต่ละระดับเป็นเรื่องที่ช้ามาก”

“แม้ว่าการก้าวหน้าในเรื่องพลังกฎจะเป็นเรื่องที่ดี แต่มันก็มีข้อเสียของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะในระหว่างที่นายพัฒนาพลังกฎไปนั้นนายยังไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการประดิษฐ์อย่างแท้จริง นอกเหนือจากการฝึกฝนพลังกฎแล้วนายยังจำเป็นจะต้องเรียนรู้เรื่องการออกแบบ, การถลุง, การหลอม, การขึ้นรูปและทักษะอื่น ๆ อีกอย่างมากมาย มันจึงจะทำให้นายสร้างอุปกรณ์ชั้นยอดขึ้นมาได้สำเร็จ”

“การฝึกฝนเรื่องพวกนี้ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปอย่างช้า ๆ ด้วยพรสวรรค์ของนายมันจะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่นายจะกลายเป็นเทพนักประดิษฐ์อย่างฉัน พูดง่าย ๆ ก็คือกฎแห่งการประดิษฐ์ขั้นที่ 7 ในตอนนี้มันก็เพียงพอแล้วที่นายจะนำไปเป็นรากฐานพัฒนาต่อ และถึงแม้ว่านายจะยังไม่สามารถสร้างชุดเกราะชั้นยอดอย่างอาชูร่าขึ้นมาได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีความเสียหายนายก็มีความสามารถที่จะซ่อมแซมมันขึ้นมาด้วยตัวเองได้แล้ว”

เท็มเพลสอธิบายอย่างจริงใจและเขาก็ปฏิบัติตัวต่อเซี่ยเฟยเปรียบเสมือนศิษย์เอกของตัวเอง

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็พูดคุยกับเท็มเพลสอีกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะขอตัวไปยังห้องควบคุมหลักซึ่งในระหว่างทางเขาได้กล่าวถามลินนิจขึ้นมาว่า

“ตอนนี้คุณอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?”

“ความผันผวนที่เกิดจากการเลื่อนระดับกฎแห่งการประดิษฐ์ค่อนข้างเบา หากฉันประมาณการไม่ผิดพลังงานในปัจจุบันน่าจะอยู่ได้มากสุดประมาณ 1 เดือน” ลินนิจตอบ

“พูดง่าย ๆ ก็คือผมต้องพัฒนากฎอะไรก็ได้ให้สำเร็จภายใน 1 เดือน ไม่อย่างนั้นคุณก็อาจจะหายไปใช่ไหม?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ประมาณนั้น” ลินนิจตอบ

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลินนิจกลายเป็นวิญญาณที่กระตุ้นให้เขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะตราบใดก็ตามที่เขาหยุดการพัฒนาลินนิจก็จะไม่มีพลังงานให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ขณะนี้แท่งทองได้มาถึงพื้นที่ทางเข้าดินแดนลับแล้ว ตราบใดก็ตามที่เซี่ยเฟยออกคำสั่งมันก็สามารถเปิดรอยแยกมิติเพื่อออกไปยังดินแดนลับได้ในทันที

“นายมาได้เวลาพอดีเลย ฉันกับยาบูริยืนยันได้เลยว่าพวกเราทำการถอดเครื่องส่งสัญญาณทั้งหมดที่ติดอยู่กับสถานีเรียบร้อยแล้ว” เท็ดดี้กล่าวพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

“ขอบคุณพวกคุณทั้งสองคนมากครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะได้กลับบ้านสักที” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ

“นายจะไม่ตรวจสอบก่อนเหรอ? ถ้าหากว่ามันมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาสถานการณ์อาจจะเลวร้ายเลยก็ได้นะ” ยาบูริกล่าวถามอย่างลังเล

“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมเชื่อใจในความสามารถของพวกคุณ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

คำพูดเพียงประโยคเดียวของชายหนุ่มแทบจะทำให้เท็ดดี้กับยาบูริหลั่งน้ำตา เพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่จะให้อิสระและความเคารพแก่พวกเขาเท่านั้น แต่เซี่ยเฟยยังมอบความไว้วางใจให้กับพวกเขาอีกด้วย

ความแตกต่างระหว่างการอยู่กับเซี่ยเฟยและการอยู่กับบริษัทฟิกส์เปรียบเสมือนสวรรค์กับนรก การได้พบกับชายหนุ่มคนนี้ทำให้พวกเขาได้ค้นพบคุณค่าของชีวิตตัวเองอีกครั้ง ทั้งคู่จึงมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือเซี่ยเฟยในอนาคตมากยิ่งขึ้น

ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยได้ทำการตรวจสอบทุกอย่างอีกครั้งหนึ่งแล้ว ส่วนเหตุผลที่เขาพูดแบบนั้นไป นั่นก็เพราะเขาต้องการให้ชายชราทั้งสองรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง หลังจากนี้ทุกคนก็จะยอมทำงานให้กับเขาอย่างเต็มใจและมันก็จะช่วยพัฒนาไททันให้มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว

ดินแดนลับ

เมื่อจู่ ๆ แท่งทองปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เหล่าบรรดาหุ่นยนต์ก็รีบนำยานรบและปืนใหญ่มาเตรียมตั้งรับเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

โชคดีที่เซี่ยเฟยออกมายุติข้อพิพาทได้ทันเวลา แต่เขาก็ค่อนข้างพอใจกับการป้องกันของดินแดนลับพอสมควร เพราะนับตั้งแต่ที่แท่งทองปรากฏตัวขึ้นมาพวกหุ่นยนต์ก็ทำการเรียกกองทัพมารวมตัวกันได้รวดเร็วมาก ซึ่งมันก็หมายความว่าถ้าหากมีศัตรูปรากฏการณ์ขึ้นมาจริง ๆ ดินแดนนี้ก็จะสามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างทันท่วงที

แท่งทองทำการขย้อนคายสถานีวิจัยลับออกมาจากปาก และเมื่อประตูสถานีวิจัยถูกเปิดออกพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากมอร์โรว์, วอร์สตาร์, โซฟีและอันธ

ปัจจุบันแอวริล, กระป๋องและเซียวรั่วหยูได้อยู่ที่คฤหาสน์ฮาฟมูลวิลล่า ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอิสระมากยิ่งกว่าดินแดนลับแห่งนี้ ไม่ว่ายังไงดินแดนลับก็เป็นสถานที่ที่น่าเบื่อมากจนเกินไป เซี่ยเฟยจึงไม่คิดที่จะส่งพวกแอวริลมาเว้นแต่ว่ามันจะมีเหตุการณ์พิเศษที่จะต้องให้แอวริลมาหลบภัย

มอร์โรว์ตรวจดูสถานีวิจัยด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เพราะในฐานะของหัวหน้าวิศวกรแห่งเผ่าจักรกล เขาจึงรู้ดีว่าเครื่องมือเหล่านี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากแค่ไหน

“นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? มันมีเทคโนโลยีระดับนี้อยู่ในจักรวาลด้วยงั้นเหรอ” มอร์โรว์อุทานพร้อมกับอ้าปากกว้าง

“สถานีวิจัยแบบนี้น่าจะเป็นสถานีระดับสูงสุดของดินแดนกฎแล้ว คุณไปเอามันมาได้ยังไงกันแน่?” วอร์สตาร์กล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันขโมยมันมา” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างใจเย็น

“เอ่อ… คุณพึ่งไปอยู่ในดินแดนกฎได้ไม่นาน แต่คุณกลับไปปล้นของระดับนี้มาแล้วเนี่ยนะ?!” มอร์โรว์อุทานอย่างตกตะลึง

ท้ายที่สุดดินแดนกฎก็คือสถานที่รวมตัวของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุด เนื่องจากการที่เซี่ยเฟยบอกว่าเขาปล้นชิงสถานีวิจัยแห่งนี้มา มันจึงทำให้เหล่าบรรดาสมาชิกเผ่าจักรกลต่างก็รู้สึกประหลาดใจ

เซี่ยเฟยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมก่อนที่เขาจะทำการแนะนำปรมาจารย์ทั้งสามคนให้กับสมาชิกเผ่าจักรกลได้รู้จัก แน่นอนว่าชายชราทั้งสามต่างก็มองภาพตรงหน้าอย่างประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะมีเมืองหุ่นยนต์ขนาดใหญ่เช่นนี้อยู่ภายใต้การดูแล

เมื่อโซฟีไม่เห็นร่างพ่อของเธอเดินทางกลับมาด้วย เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง แต่เซี่ยเฟยกลับเดินไปอยู่ข้าง ๆ และกระซิบบอกเธอขึ้นมาเบา ๆ ว่า

“ลินนิจกลับมาแล้ว แต่สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาค่อนข้างที่จะบอบบาง เดี๋ยวพวกเราค่อยกลับไปคุยกันทีหลัง”

โซฟีสะดุ้งอย่างตกใจก่อนที่เธอจะรีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินว่าพ่อของเธอได้รับการช่วยเหลือกลับมาแล้ว

การกลับมาของเซี่ยเฟยในครั้งนี้ทำให้ทุกคนพอใจมาก เพราะในตอนแรกมอร์โรว์เป็นผู้ดูแลศูนย์วิจัยภายในดินแดนลับเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้เขาได้มีปรมาจารย์ที่เก่งกาจมาช่วยเหลือถึงสองคน รวมถึงการได้มีสถานีวิจัยที่ดีที่สุดในจักรวาล มันย่อมช่วยให้ดินแดนนี้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

วอร์สตาร์พยายามขอคำแนะนำจากเท็มเพลสเกี่ยวกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายในของตัวเอง และในฐานะเทพนักประดิษฐ์คำแนะนำเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนผสมของโลหะเพียงแค่เล็กน้อย มันก็ช่วยให้ร่างกายของวอร์สตาร์แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า ด้วยเหตุนี้การมาถึงของเขาย่อมทำให้นักรบจักรกลหลายร้อยล้านตัวพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม

“เรื่องงานเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้พวกเรากลับไปฉลองกันก่อนเถอะ” เซี่ยเฟยประกาศเสียงดัง

เฮ้!

ต่อมาทุกคนก็เดินทางผ่านยานรบกลับไปที่ศูนย์บัญชาการ และเนื่องจากสถานที่แห่งนี้จำเป็นจะต้องต้อนรับเซี่ยเฟยกับแอวริลเป็นครั้งคราว มันจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เตรียมพร้อมเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว พวกเท็ดดี้จึงได้รับความสะดวกสบายอย่างที่พวกเขาไม่ได้รับมาเป็นเวลานาน

สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกดูแลโดยพวกหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, เครื่องดื่มหรือความบันเทิงต่างก็ถูกเตรียมเอาไว้อย่างครบครัน 

เมื่อมันประกอบกับสถานีวิจัยอันเงียบสงบ สถานที่แห่งนี้ก็ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักวิจัยทุกคนชัด ๆ พวกเท็ดดี้จึงรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ค้นพบกับคำว่าบ้านที่พวกเขาโหยหามานานหลายปี

เซี่ยเฟยโบกมือส่งสัญญาณอย่างเงียบ ๆ เพื่อเรียกโซฟี, วอร์สตาร์และมอร์โรว์เข้าไปภายในห้องของโซฟี

“มีคนต้องการจะพบกับพวกคุณน่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะวางกล่องใบหนึ่งไว้บนโต๊ะ

“ลินนิจอยู่ในกล่องนั้นงั้นเหรอ?” อันธถามอย่างสงสัย

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

“ทำไมเขาถึงอยู่ในกล่องล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาเป็นราชาของเผ่าจักรกลงั้นเหรอ?” อันธถามอย่างประหลาดใจ

“ความจริงแล้วลินนิจเป็นวิญญาณอมตะเหมือนกับนายนั่นแหละ ร่างกายของเผ่าจักรกลเป็นเพียงแค่ร่างที่เขาสิงสู่อยู่เท่านั้น การที่เราได้เขากลับมาในครั้งนี้ฉันก็เชื่อว่าอีกไม่นานนายจะได้ร่างใหม่ของตัวเองด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าว

เมื่อได้ยินว่าตัวเองจะได้รับร่างกายใหม่ อันธก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี แต่ในทันใดนั่นเองเข็มทิศมิติของเซี่ยเฟยก็ส่งสัญญาณ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าเซี่ยกวงไห่ได้ทำการติดต่อเขามา

อุปกรณ์ทุกชิ้นของชายหนุ่มยังคงอยู่ที่เซี่ยกวงไห่ เขาจึงต้องการที่จะส่งมอบอุปกรณ์คืนให้กับชายหนุ่ม และต้องการที่จะถ่ายทอดแผนการขั้นต่อไปของตระกูลให้เซี่ยเฟยได้รู้เอาไว้อีกด้วย

เซี่ยเฟยเดินไปรอต้อนรับเซี่ยกวงไห่บนลานกว้างขนาดใหญ่ ซึ่งทันทีที่ชายคนนี้เดินทางผ่านประตูมิติมา เขาก็ชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มและกล่าวขึ้นมาว่า

“นายนี่มันตัวก่อปัญหาในตำนานจริง ๆ ตอนแรกฉันก็คิดว่าหลังจากที่นายเข้าไปในแดนเทพนายจะเพลา ๆ ตัวเองลงบ้าง แต่นายกลับสร้างปัญหาได้ใหญ่กว่าเดิม ใครจะไปคิดว่านายจะขโมยสถานีวิจัยออกไปจากบริษัทฟิกส์แบบนี้ นายรู้ไหมว่าตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนเทพต่างก็วุ่นวายกันไปหมด”

“พวกเขาวุ่นวายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม ในเมื่อคนพวกนั้นทิ้งของดีเอาไว้ตรงหน้าแล้วผมจะพลาดโอกาสไม่คว้ามันมาด้วยได้ยังไง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้เห็นท่าทางของชายหนุ่ม เซี่ยกวงไห่ก็ทำได้เพียงแต่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเท่านั้น ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่คิดที่จะคัดค้านการตัดสินใจของเซี่ยเฟยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“นายนี่สมกับเป็นตัวประหลาดของสกายวิงจริง ๆ คราวนี้ฉันไม่เพียงแต่จะเอาของมาคืนเท่านั้นแต่บรรพบุรุษยังมีเรื่องมาฝากบอกนายด้วย เกรงว่าคราวนี้นายน่าจะยุ่งอีกแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับเดินเข้ามากอดคอเซี่ยเฟย

***************

จริง ๆ แล้วบรรพบุรุษอาจจะฝากมาบอกว่าขอเรื่องใหญ่ ๆ แบบนี้อีกหรือเปล่านะ? 5555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.