ตอนที่ 858 นักฆ่าปะทะนักฆ่า
ตอนที่ 858 นักฆ่าปะทะนักฆ่า
ในฐานะที่เซี่ยเฟยเป็นนักฆ่าที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เขาจึงสามารถทำนายฝีมือของศัตรูได้ในทันที เมื่อเขาได้ตรวจพบร่องรอยการเก็บซ่อนตัวตนของอีกฝ่าย
ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นพื้นที่มุมไหนของจักรวาลแต่วิธีการลอบสังหารมันก็ยังคงมีความคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นการลบตัวตน, การเข้าใกล้เป้าหมายและการลอบสังหาร ซึ่งทุกกระบวนการเหล่านี้จะต้องเป็นไปอย่างเงียบเชียบ
ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันเซี่ยเฟยยังได้ปรับปรุงวิชาจากสำนักเงาสังหารให้พัฒนาขึ้นมาดีกว่าเดิมอีกหลายเท่า แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเทคนิคที่เขาใช้สามารถนำไปเปรียบเทียบกับนักฆ่าชั้นยอดในดินแดนกฎได้หรือไม่
กลยุทธ์ที่เขากำลังจะใช้ในตอนนี้เป็นกลยุทธ์ที่มีความเรียบง่ายมาก เพราะในระหว่างที่ศัตรูต้องการที่จะลอบสังหาร เขาก็จะทำการแอบลอบสังหารศัตรูด้วยเช่นกัน ผลลัพธ์มันก็จะขึ้นอยู่กับว่าใครมีเทคนิคที่ดีกว่าและใครสามารถสงบสติอารมณ์ได้มากกว่ากัน
ชายหนุ่มยืดร่างให้ติดกับรากไม้คล้ายกับลิง ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่บริเวณเดียวที่จะสามารถเดินทางเข้าไปใกล้พื้นที่แกนกลางของดาวเคราะห์ดวงนี้ได้ ถ้าหากอีกฝ่ายต้องการจะหาตัวตนของเขา ศัตรูก็จะต้องเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่บริเวณนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“นายจะต้องซุ่มรอไปอีกนานแค่ไหน? ทำไมไม่ล่อศัตรูออกมาแล้วฆ่าพวกมันเลยล่ะ?” โอโร่ถาม
ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาแนวทางการเป็นนักฆ่าย่อมไม่เข้าใจความสำคัญของการซุ่มโจมตีในลักษณะนี้ แต่เซี่ยเฟยเข้าใจแนวคิดของนักฆ่าเป็นอย่างดี เขาจึงยังคงซุ่มรอศัตรูอย่างอดทน
สิ่งที่นักฆ่าต้องการไม่ใช่การโจมตีที่ฉูดฉาด เพราะสิ่งสำคัญของการลอบสังหารคือการจบชีวิตของศัตรูให้ได้ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว
หากปราศจากโอกาสในการโจมตีที่แน่นอน นักฆ่าย่อมไม่สามารถสังหารศัตรูภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ ความใจเย็นของนักฆ่าจึงสามารถนำมาตัดสินผลลัพธ์ของการลอบสังหารได้เลย
แม้จะไม่เข้าใจแต่โอโร่ก็ยังคงไว้ใจในแผนการของเซี่ยเฟย เพราะชายหนุ่มคนนี้เคยพิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขามักจะมีวิธีการแปลก ๆ ในการจัดการกับศัตรูอยู่เสมอ
น่าเสียดายที่โดยปกติเซี่ยเฟยจะสามารถเตรียมแผนรับมือได้ก็ต่อเมื่อเขารู้ว่าศัตรูคือใคร แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศัตรูคือใครมาจากไหน ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นการเผชิญหน้ากับอันตรายที่ร้ายแรง
ชายหนุ่มเฝ้าอดทนรอคอยศัตรูอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่สนใจจะตอบคำถามของโอโร่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนิสัยติดตัวเขามาโดยตลอดว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาวางแผนทำอะไรแล้ว มันก็จะไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเขาได้
เมื่อเวลาผ่านไปการเคลื่อนไหวของศัตรูก็ยิ่งยืนยันการตัดสินใจของเซี่ยเฟยให้แน่ชัดมากยิ่งขึ้น เพราะศัตรูกำลังอยู่ใกล้มากแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอย่างบุ่มบ่าม คล้ายกับว่านักฆ่าคนนี้ก็กำลังเฝ้ารอโอกาสอยู่เหมือนกัน
เห็นได้ชัดว่าศัตรูคือนักฆ่าที่มีประสบการณ์และมีความอดทนสูงมาก ชายหนุ่มจึงเริ่มรวบรวมพลังงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพิชิตศัตรู
‘คิดจะแข่งความอดทนกับฉันงั้นเหรอ? แล้วแกจะได้เห็นดีกัน!!’ เซี่ยเฟยคำรามภายในใจ
—
บริเวณด้านนอกของดาวแกนกลาง
ฝาแฝดจากตระกูลเบนินกำลังรู้สึกสับสนมาก เพราะเซี่ยเฟยไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างบ้าระห่ำเหมือนกับที่วิลโล่อธิบายเอาไว้ ตอนนี้เวลาได้ผ่านพ้นมานานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว และเซี่ยเฟยก็สัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของหุ่นโลหิตทองคำได้อย่างชัดเจน แต่นักรบจากสกายวิงก็ยังไม่เคลื่อนไหวใด ๆ ทำให้พี่น้องตระกูลเบนินไม่สามารถค้นหาเบาะแสของศัตรูได้เลย
สถานการณ์นี้มันเป็นสถานการณ์ที่พวกเขามักจะเจอกับนักฆ่าที่มีประสบการณ์อันโชกโชนเท่านั้น พวกเขาจึงเริ่มเกิดความสงสัยว่าเซี่ยเฟยคือนักรบหรือนักฆ่ากันแน่
โซโอลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ แล้วปล่อยให้โซอาคอยควบคุมหุ่นโลหิตทองคำเพียงลำพังเป็นการชั่วคราว
“คุณแน่ใจนะว่าศัตรูเป็นนักรบไม่ใช่นักฆ่า?” โซโอถาม
วิลโล่ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะเขาไม่คาดคิดว่ามันจะมีคำถามลักษณะนี้ถูกถามออกมา
“ฉันยืนยันได้ว่ามันคือนักรบและมันก็เป็นนักรบที่บ้ามาก ๆ ด้วย ไม่ว่าจะยังไงนักรบสกายวิงทุกคนต่างก็เป็นคนบ้าแล้วมันก็คงจะไม่ต่างไปจากเพื่อนร่วมตระกูลของมันคนอื่น ๆ” วิลโล่กัดฟันพูดขึ้นมาอย่างโกรธแค้นเมื่อเขาต้องพูดถึงตระกูลสกายวิง
“แปลกมาก ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนกับกำลังเจอกับนักฆ่าที่มีประสบการณ์นะ” โซโอขมวดคิ้วพร้อมกับพึมพำขึ้นมาเบา ๆ
การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยกลายเป็นงูพิษอันเจ้าเล่ห์ที่กำลังขดซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้ ดังนั้นถึงแม้ว่าพี่น้องตระกูลเบนินจะพยายามมองหาเบาะแสของเซี่ยเฟยไปอีกร้อยปี แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ยังคงเฝ้ารออย่างอดทน เพราะเซี่ยเฟยไม่ได้เป็นเพียงแค่นักฆ่าธรรมดาเท่านั้น แต่เขาคือผู้เชี่ยวชาญในหมู่นักฆ่าที่มีความอดทนไม่น้อยกว่าใคร
“คุณแน่ใจนะว่าพลังของเขาอยู่ในระดับช่วงต้นของราชากฎระดับสูงเท่านั้น?” โซโอถามอีกครั้ง
“ฉันแน่ใจ ฉันเคยเห็นมันลงมือด้วยตาตัวเอง อย่างมากที่สุดพลังของมันก็อยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 7 เท่านั้น” วิลโล่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เมื่อถามคำถามทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โซโอก็กลับเข้าไปควบคุมหุ่นโลหิตทองคำร่วมกันกับฝาแฝดของเขาอีกครั้ง พร้อมกับพูดคุยตกลงกันอย่างเงียบ ๆ
“นายคิดว่ายังไง?” โซโอถาม
“ฉันไม่เคยได้ยินว่าคนของตระกูลสกายวิงได้เรียนรู้วิชาการเป็นนักฆ่าเลย เพราะการลอบสังหารมันไม่ค่อยเหมาะกับสไตล์การต่อสู้อันหยิ่งผยองของพวกมัน แต่ศัตรูในคราวนี้มีความอดทนสูงมากและมันก็รีบซ่อนตัวทันทีเมื่อตระหนักถึงความผิดปกติ”
“ตอนนี้ยิ่งเราลงมือล่าช้าเท่าไหร่ศัตรูก็จะยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น ศัตรูคือผู้มีพลังของกฎแห่งความเร็ว ถ้าหากว่ามันตัดสินใจหลบหนีออกจากดาวดวงนี้ พวกเราก็คงจะตามมันไปไม่ทัน” โซอากล่าว
“ข้างนอกมีคนดักรออยู่ พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวว่ามันจะหนีไป” โซโอกล่าว
“ถึงแม้วิลโล่จะฆ่าเขาได้แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ฝีมือของเรา เท่ากับว่าภารกิจครั้งนี้ของพวกเราก็จะล้มเหลวด้วยเหมือนกัน” โซอากล่าว
คำตอบของฝาแฝดทำให้โซโอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โซอาจึงกล่าวย้ำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่า
“ศัตรูเป็นเพียงราชากฎขั้นที่ 7 เท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะเตรียมกับดักรอพวกเราเอาไว้ แต่ฉันก็มั่นใจว่าพวกเราจะจัดการกับมันได้โดยไม่มีปัญหา”
“เอาล่ะพวกเรามาสอนให้พวกสกายวิงมันรู้กันเถอะว่าการเป็นนักฆ่าที่แท้จริงมันเป็นยังไง อย่าคิดว่าการอาศัยเพียงแค่ความเร็วจะทำให้มันกลายเป็นนักฆ่าได้ นักฆ่าที่แท้จริงมันจะต้องอาศัยเทคนิคมากกว่านั้น”
เมื่อสองพี่น้องตกลงกันได้สำเร็จ พวกเขาก็ละทิ้งความลังเลไปได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นทั้งคู่ก็มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะสั่งสอนบทเรียนครั้งสำคัญให้กับเซี่ยเฟย
—
ดาวแกนกลาง
เซี่ยเฟยยังคงเฝ้ารออย่างสงบ ขณะที่ร่างของเขาได้กลมกลืนผสานเข้าไปกับธรรมชาติ
ทันใดนั้นมันก็มีร่าง ๆ หนึ่งย่างเท้าก้าวเข้ามาปรากฏตัวตรงหน้าของเขาอย่างว่องไว แต่ร่างนั้นกลับดูไร้ซึ่งการป้องกัน
‘คิดจะล่อฉันงั้นเหรอ?’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ เมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังใช้กลยุทธ์ล่อศัตรู
นักฆ่าปริศนากำลังพยายามหลอกล่อให้เขาออกไปชัด ๆ และในเมื่อศัตรูกำลังท้าทายเขาอย่างประมาทถึงขนาดนั้น เซี่ยเฟยก็พร้อมจะสั่งสอนบทเรียนสำคัญให้ศัตรูกลับคืนไป
ชายหนุ่มพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า แล้วเสือกแทงบลัดบิวเทียสออกไปตรงหน้าเพื่อพยายามสังหารศัตรูลงไปให้ได้
สองพี่น้องตระกูลเบนินไม่เคยคิดเลยว่าจู่ ๆ เซี่ยเฟยจะปรากฏตัวออกมาจากด้านข้าง เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเฝ้าสังเกตเส้นทางมาเป็นเวลานาน แต่พวกเขาก็ยังไม่พบกับสิ่งแปลกปลอมใด ๆ
สองพี่น้องจึงคิดว่าเซี่ยเฟยได้ซ่อนตัวอยู่กับพื้นที่ใกล้ ๆ แกนกลางของดาวเคราะห์ เพราะพื้นที่บริเวณนั้นมีความซับซ้อนมากที่สุดและมันก็เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการซ่อนตัว
ในทางตรงกันข้ามแม้ว่าพื้นที่บริเวณด้านข้างจะเต็มไปด้วยร่มเงา แต่มันก็ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดูลึกลับขนาดนั้น และมันก็คงจะไม่มีนักฆ่าคนไหนเลือกมาหลบซ่อนในสถานที่ที่อาจจะถูกศัตรูค้นพบได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับตำแหน่งที่เซี่ยเฟยเลือกซ่อนตัวอยู่ในปัจจุบัน
พื้นที่ที่เซี่ยเฟยเลือกซ่อนตัวไม่ใช่พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการซ่อนตัวที่สุดก็จริง แต่ใครเป็นคนกำหนดว่านักฆ่าจะต้องซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดด้วย?
เซี่ยเฟยมีความเข้าใจในการเลือกสถานที่หลบซ่อนตัวมานานมากแล้ว และเขาก็รู้ว่านักฆ่าที่มีประสบการณ์จะคอยมองหาศัตรูไปยังมุมไหน พื้นที่ที่อาจจะดูถูกเปิดเผยได้ง่ายจึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดกับการเผชิญหน้ากับนักฆ่าด้วยกันเอง
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ขณะตวัดบลัดบิวเทียสออกไปยังลำคอของหุ่นโลหิตทองคำ
อย่างไรก็ตามหุ่นโลหิตทองคำตัวนี้ก็สร้างขึ้นมาจากร่างของจักรพรรดิกฎระดับสูงจากตระกูลไนท์ฮอร์กในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ฝ่าเท้าของเขาจึงสามารถก้าวสลับได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้บลัดบิวเทียสเฉียดผ่านลำคอของเขาห่างไปเพียงแค่ประมาณ 1 มิลลิเมตร!
การหลบหลีกของศัตรูทำให้เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะการเคลื่อนไหวนั้นมีความคล้ายคลึงกับวิชาเล่ห์กายาของเขามาก
เซี่ยเฟยรีบใช้วิชาเล่ห์กายาเพื่อจู่โจมเข้าใส่ศัตรูอย่างต่อเนื่องในทันที ขณะที่โอโร่กำลังรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้พบว่าศัตรูคือหุ่นเชิดที่ถูกสร้างขึ้นมาจากร่างของนักรบตระกูลไนท์ฮอร์ก
อย่างไรก็ตามโอโร่ก็ยังไม่คิดที่จะบอกข้อมูลอะไรออกไป เพราะเมื่อเซี่ยเฟยเริ่มลงมือแล้วชายหนุ่มก็จะไม่สนใจคำพูดใด ๆ ของเขาทั้งนั้น
นอกจากนี้ถึงแม้เขาจะบอกว่าศัตรูคือไนท์ฮอร์ก แต่เขาก็ไม่มีเวลาอธิบายถึงลักษณะของศัตรูอยู่ดี เพราะเมื่อการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเซี่ยเฟยก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องต่อสู้กับศัตรูไปจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายจากไป
การเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟยและหุ่นโลหิตทองคำต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเคลื่อนไหวอันน่าทึ่ง และการต่อสู้ในครั้งนี้มันก็เป็นการเผชิญหน้าระหว่างเทคนิคของนักฆ่าชั้นยอดอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้นชิ้นส่วนอาร์คก็ยังอยู่ใกล้ ๆ การใช้พลังกฎใด ๆ ออกมาอาจจะก่อให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ในกรณีนั้นมันก็จะไม่มีใครรอดชีวิตกลับไปได้ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้การปะทะกันจึงกลายเป็นเพียงการปะทะระหว่างกายภาพของทั้งสองคน
“นั่นมันพลังระดับราชากฎขั้นสูงสุด!” พี่น้องตระกูลเบนินอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อพวกเขาได้เห็นพลังที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมา
“ให้ตายเถอะ! วิลโล่กล้าบอกได้ยังไงว่าศัตรูเป็นราชากฎขั้นที่ 7 พลังของเขามันอยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 9 ชัด ๆ” โซโอตะโกนสาปแช่งภายในใจเมื่อคิดว่าวิลโล่พยายามหลอกลวงพวกเขา
ราชากฎขั้นที่ 7 กับราชากฎขั้นที่ 9 เป็นพลังสองระดับที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะราชากฎขั้นที่ 7 ยังคงจัดอยู่ในราชากฎขั้นสูงเท่านั้น แต่ราชากฎขั้นที่ 9 คือราชากฎระดับสูงสุดที่มีความใกล้เคียงกับการขึ้นไปท้าทายการเป็นจักรพรรดิกฎแล้ว
แน่นอนว่าสองพี่น้องตระกูลเบนินย่อมไม่รู้ว่าตอนแรกที่เซี่ยเฟยหลบหนีเข้ามาภายในดาวแกนกลาง เขามีพลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 7 จริง ๆ แต่หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปเขาก็ได้ใช้ช่วงเวลานั้นในการพัฒนาจนกลายเป็นราชากฎระดับสูงสุดเหมือนอย่างในปัจจุบัน
ยิ่งไปกว่านั้นในก่อนหน้านี้มันก็ไม่มีใครสามารถพึ่งพาพลังจากชิ้นส่วนอาร์คเพื่อนำมาใช้ในการฝึกฝนได้เลยแม้แต่คนเดียว ความสำเร็จของเซี่ยเฟยในคราวนี้มันจึงเป็นสิ่งที่อยู่เหนือเกินกว่าความคาดหมายของทุกคนไปจริง ๆ
เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไปสองพี่น้องตระกูลเบนินก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น เพราะทักษะท่าทางที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมา มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่านักรบสกายวิงคนนี้ได้ศึกษาวิชาเกี่ยวกับนักฆ่าอย่างลึกซึ้ง
แม้ว่าเขาจะไม่มีกฎแห่งความโกลาหล, อสูรศักดิ์สิทธิ์มารขาวหรืออาวุธมายา แต่ทักษะการเป็นนักฆ่าก็ยังคงทำให้เซี่ยเฟยคือศัตรูที่ไม่อาจมองข้ามได้
เมื่อนึกถึงสกายวิงคนปกติก็จะนึกถึงการต่อสู้แบบเป็นกลุ่มก้อน แต่สิ่งที่สองพี่น้องตระกูลเบนินต้องเผชิญในวันนี้ มันกลับเป็นหมาป่าเดียวดายเพียงตัวเดียวของสกายวิง
คิดจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเซี่ยเฟยเกี่ยวกับการเป็นนักฆ่างั้นเหรอ?
ฝันไปเถอะ!!
***************
ฝีมือยังอ่อนหัดนัก ไปฝึกมาใหม่(ถ้ายังมีโอกาสนะ?)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 260
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น