ตอนที่ 857 ไนท์ฮอร์ก
ตอนที่ 857 ไนท์ฮอร์ก
กำแพงที่เรียกว่าจักรพรรดิกฎไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทะลวงผ่านไปได้ง่าย ๆ เพราะยิ่งอุปสรรคมีระดับสูงมากเท่าไหร่ มันก็ไม่เพียงแต่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นไปเท่านั้น เพราะมันยังจำเป็นจะต้องพึ่งพาโชคในการทะลุผ่านอุปสรรคนั้นไปด้วย
ปัจจุบันชายหนุ่มมีโอกาสได้พบกับชิ้นส่วนอาร์คที่เต็มไปด้วยพลังงาน และถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถช่วยให้เขาก้าวข้ามผ่านอุปสรรคของการพัฒนาเป็นจักรพรรดิกฎได้ แต่เขาก็ยังต้องการอยู่ที่นี่เพื่อป้อนอาหารให้ขนอุยใช้สำหรับการวิวัฒนาการอยู่ดี
หลังจากกลืนกินพลังงานเข้าไปอย่างมหาศาล ขนทั่วทั้งร่างของเจ้าตัวน้อยก็เริ่มเปล่งประกาย แม้แต่ภายในดวงตาคู่เล็ก ๆ ของมันก็กำลังส่องแสงสว่างออกมาอย่างเจิดจ้า
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยคอยย่อยพลังงานให้มันได้กิน ขนอุยก็พยายามเอาตัวถูไถพร้อมกับใช้ลิ้นน้อย ๆ ของมันเลียฝ่ามือของเจ้านายอย่างประจบประแจง ซึ่งแม้ว่าชายหนุ่มจะรู้จักนิสัยเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวน้อยเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังอดรู้สึกเอ็นดูมันขึ้นมาไม่ได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไมแอวริลถึงมักจะอุ้มขนอุยเอาไว้ในระหว่างที่พวกเธอมีโอกาสอยู่ด้วยกัน
น่าเสียดายที่แอวริลมักจะบังคับให้ขนอุยกินอาหารของมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าตัวน้อยค่อนข้างที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจในเวลาที่ต้องอยู่กับนายหญิง
ในฐานะที่ทั้งขนอุยและหงส์ครามต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของเซี่ยเฟย ทั้งคู่จึงมักที่จะแข่งขันกันเพื่อเอาอกเอาใจเจ้านายของตัวเอง ระหว่างที่ขนอุยกำลังเพลิดเพลินกับอาหารที่เซี่ยเฟยคอยป้อนให้ เจ้าตัวน้อยจึงมักจะทำท่าทางกะหยิ่มยิ้มย่องและมองไปยังหงส์ครามอย่างน่าหมั่นไส้
น่าเสียดายที่หงส์ครามยังคงนิ่งเฉยราวกับท่อนไม้ และไม่ว่าขนอุยจะพยายามยั่วมันยังไงอาวุธมายาชิ้นนี้ก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่เหมือนเดิม
เมื่อขนอุยเห็นว่าหงส์ครามไม่ได้แสดงท่าทีอิจฉา มันก็แอบรู้สึกผิดหวังก่อนที่จะหันกลับมาประจบประแจงเซี่ยเฟยต่อไป
“ทั้งขนอุยและหงส์ครามต่างก็มีบุคลิกเหมือนกับนายเลย เจ้าตัวน้อยนี่ทั้งเจ้าเล่ห์และบ้าคลั่งได้พอ ๆ กับนาย ส่วนหงส์ครามก็ไม่เคยจะยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ เหมือนกับนายไม่มีผิด เผลอ ๆ ทั้งขนอุยและหงส์ครามก็อาจจะเรียนรู้บุคลิกพวกนี้มาจากนายก็ได้” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ผมไม่คิดว่าบุคลิกที่พวกมันเลียนแบบผมมาจะมีปัญหาอะไร ไม่ว่ายังไงจักรวาลนี้ก็โหดร้ายมาก การอยู่อย่างคนธรรมดาคงจะไม่ทำให้ผมอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้” เซี่ยเฟยกล่าว
เมื่อโอโร่คิดตามเขาก็รู้ว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยพูดออกมานั้นคือสิ่งที่สมเหตุสมผล เขาจึงเงียบเสียงไปและไม่พูดอะไรต่อ
ในช่วงแรกของการฝึกฝนเขาก็จำเป็นจะต้องถักทออักขระกฎขึ้นมาให้ได้เสียก่อน น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถจะใช้วิธีของสกายวิงในช่วงเวลานี้ได้ เพราะเขายังคงอยู่ในพื้นที่ของศัตรู เขาจึงจำเป็นจะต้องระมัดระวังตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“แย่แล้ว! มันกำลังมีอะไรบางอย่างใกล้เข้ามา” ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ออกมาจากสมาธิพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด
—
วิลโล่, ฮูอาและคูรูต่างก็กำลังยืนเฝ้ารออย่างกระวนกระวายใจ ขณะที่ฝาแฝดตระกูลเบนินกำลังควบคุมหุ่นโลหิตทองคำให้บุกเข้าไปภายในดาวแกนกลาง
“ไอ้สกายวิงคนนั้นมันฉลาดมาก หุ่นโลหิตทองคำจะจัดการกับมันเงียบ ๆ ได้ไหม?” คูรูถามขึ้นมาอย่างกังวล
ทุกคนรู้ดีว่าชิ้นส่วนอาร์คอยู่ในสภาพที่ไม่เสถียร ถ้าหากกระบวนการลอบสังหารล้มเหลวมันอาจจะส่งผลให้ซีเครดสปริงถูกทำลายลงทั้งหมด มันจึงทำให้อีกสามเสาหลักของซีเครดสปริงที่ยังคงเหลือรอดชีวิตได้มารวมตัวกันด้วยความกังวลแบบนี้
“ถึงแม้หุ่นโลหิตทองคำจะทำขึ้นมาจากซากศพของสิ่งมีชีวิตแต่มันก็สูญเสียลมหายใจไปแล้ว ไม่มีทางที่มันจะถูกตรวจจับได้ง่าย ๆ หรอก สาเหตุที่ฉันเลือกว่าจ้างพวกเบนินนั่นก็เพราะทักษะการลอบสังหารที่โดดเด่น แล้วพวกนายรู้ไหมว่าหุ่นโลหิตทองคำมันเป็นตัวตนแบบไหน?”
“ว่ากันว่าทั้งตระกูลเบนินมีหุ่นชนิดนี้อยู่เพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น และพวกมันทั้งสามตัวก็ไม่เคยปฏิบัติภารกิจล้มเหลวเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนที่ฉันเห็นมันลืมตาตอนนั้นฉันยอมรับเลยว่ามันมีเหงื่อไหลออกมาทั่วทั้งตัว ดวงตาสีแดงเลือดของมันทำให้ฉันนึกว่าฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับปีศาจ” วิลโล่กล่าว
“ใช่ ตอนนั้นผมก็กลัวเหมือนกัน ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่าร่างของหุ่นเชิดตัวนั้นสร้างขึ้นมาจากร่างของใครกันแน่?” คูรูกล่าว
“มันเป็นร่างของตระกูลไนท์ฮอว์ก” วิลโล่จงใจลดเสียงลงพร้อมคำกล่าวออกมาอย่างลึกลับ
“ไนท์ฮอร์ก!!”
“หุ่นโลหิตทองคำตัวนั้นสร้างขึ้นมาจากร่างจักรพรรดิกฎระดับสูงของตระกูลไนท์ฮอร์กจริง ๆ เหรอ?”
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมดวงตาคู่นั้นถึงทำให้หัวใจของผมเกือบหยุดเต้น ที่แท้มันก็ถูกสร้างขึ้นมาจากร่างไนท์ฮอร์กในตำนานนี่เอง”
“ไม่ใช่ว่าตระกูลไนท์ฮอร์กสูญพันธุ์ไปตั้งนานแล้วงั้นเหรอ?”
เมื่อได้รู้ว่าร่างของหุ่นโลหิตทองคำเป็นร่างของนักรบตระกูลไนท์ฮอร์ก ทั้งคูรูและฮูอาต่างก็ยิงคำถามออกมาซ้ำ ๆ อย่างตกตะลึง
ตระกูลไนท์ฮอร์กคือเผ่าพันธุ์ที่สูญหายไปจากเผ่ามารนานมากแล้ว แต่ครั้งหนึ่งชื่อของเผ่าพันธุ์นี้ก็เคยสร้างชื่อเสียงที่ตกตะลึงขึ้นมาเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน
เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสองเผ่าพันธุ์ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีตระกูลต่าง ๆ เป็นดาบสำหรับเผ่าของตัวเองเช่นเดียวกันกับสกายวิงที่เป็นดาบคลั่งแห่งเผ่าเทพ ไนท์ฮอร์กก็เคยเป็นดาบเงาดำซึ่งเป็นดาบที่ทรงพลังที่สุดของเผ่ามารในอดีตด้วยเช่นกัน
“ดาบเงาดำกับดาบคลั่งกำลังจะปะทะกันงั้นเหรอ? น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีโอกาสได้เห็นดาบทั้งสองเล่มของสองเผ่าพันธุ์ปะทะกัน” วิลโล่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ไนท์ฮอร์กเป็นความภาคภูมิใจของเผ่ามารของเรา และครั้งหนึ่งพวกเขาก็เคยเป็นดาบที่อันตรายที่สุดของพวกเราอีกด้วย แต่ผมได้ยินมาว่าหลังจากที่ร่างของนักรบถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นหุ่นเชิดพลังของพวกเขาจะถูกลดน้อยลง ถึงแม้ครั้งหนึ่งเขาจะเคยเป็นจักรพรรดิกฎระดับสูง แต่ตอนนี้เขามีพลังมากพอจะจัดการกับราชากฎของสกายวิงได้จริง ๆ เหรอ?” คูรูยังคงกล่าวถามขึ้นมาอย่างกังวล
“ใช่ ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าการสร้างหุ่นโลหิตไม่สามารถกักเก็บพลังของร่างเอาไว้ได้ทั้งหมด” ฮูอากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“สาเหตุที่สกายวิงถูกรู้จักในชื่อดาบคลั่งนั่นก็เพราะพวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มและจู่โจมเข้าใส่ศัตรูเหมือนกับคนบ้า”
“สำหรับตระกูลไนท์ฮอร์ก พวกเขาก็ได้ชื่อดาบเงาดำเนื่องมาจากทักษะการลอบสังหารที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ไนท์ฮอร์กออกปฏิบัติการท่ามกลางความมืด พวกเขาก็สามารถสังหารศัตรูได้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน”
“ย้อนกลับไปในอดีตเผ่าเทพเคยส่งดาบทั้งแปดเล่มออกไปเพื่อทำลายไนท์ฮอร์กโดยตรง จนทำให้ตระกูลนี้สูญพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็เป็นเพราะพวกเทพรู้สึกกลัวพลังดาบเงาดำของมาร” วิลโล่เริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
“อะไรนะ?! ไนท์ฮอร์กถูกทำลายด้วยดาบทั้งแปดเล่มของเผ่าเทพงั้นเหรอ?” ฮูอาและคูรูต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
ภายในเผ่าเทพมีตระกูลต่าง ๆ ที่ถูกตั้งฉายาขึ้นต้นด้วยดาบทั้งหมด 8 ตระกูลด้วยกัน โดยแต่ละตระกูลต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นตระกูลที่โดดเด่นและเต็มไปด้วยพลังน่าเกรงขาม ทำให้พวกเขาคือกองกำลังสำคัญในสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์สูงสุด
ในเผ่ามารก็มีตระกูลที่ถูกตั้งฉายาขึ้นต้นด้วยคำว่าดาบ 8 ตระกูลด้วยเช่นกัน แต่ครั้งหนึ่งนั้นเผ่ามารเคยมีดาบ 9 เล่มเนื่องมาจากการคงอยู่ของตระกูลไนท์ฮอร์ก
เมื่อตระกูลไนท์ฮอร์กถูกทำลายทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็มีดาบ 8 เล่มอย่างเท่าเทียมกัน คล้ายกับว่าทุกสิ่งในดินแดนกฎจะต้องมีความเท่าเทียมกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกฎแห่งเวลาของฝั่งเทพและการสูญเสียกฎแห่งชีวิตของเผ่ามาร ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหนึ่งในตระกูลที่เคยยิ่งใหญ่ของเผ่ามารจึงถูกสังหารจนสูญพันธุ์ไปแบบนั้น
แม้ว่าเวลาจะได้ผ่านพ้นอย่างเนิ่นนานแต่สองเผ่าพันธุ์สูงสุดของจักรวาลก็ยังคงไม่สามารถตัดสินหาผลลัพธ์แพ้ชนะได้สักที นั่นก็เพราะว่ากำลังของทั้งสองฝ่ายมักที่จะมีความเท่าเทียมกัน มันจึงยังไม่สามารถหาข้อสรุปของสงครามได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ในตอนนี้นักฆ่าจากตระกูลเบนินได้นำหุ่นเชิดที่สร้างจากร่างของนักรบไนท์ฮอร์กออกมาปรากฏต่อหน้าทุกคน ทั้ง ๆ ที่ตระกูลเบนินไม่ได้รับฉายาว่าดาบใด ๆ จากทางฝั่งมารด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับมีร่างของนักรบที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกองกำลังหลักของเผ่ามาร
วิลโล่ตบไหล่ฮูอากับคูรูเบา ๆ เพราะในปัจจุบันเสาหลักของซีเครดสปริงเหลือเพียงแค่พวกเขาสามคนเท่านั้น ไม่ว่าชายชราผู้นี้จะหยิ่งผยองมากสักแค่ไหน แต่เขาก็ต้องแสร้งทำเป็นห่วงใยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายในในระหว่างที่พวกเขากำลังอ่อนแอ
“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อตระกูลเบนินเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เรื่องนี้มันย่อมจะต้องจบลงโดยไม่มีปัญหา ฉันจะบอกความลับอีกอย่างหนึ่งให้ฟังก็ได้ ว่าครั้งหนึ่งตระกูลเบนินเคยเป็นผู้นำของเผ่าดาร์ดพัพเพททั้งหมดด้วย”
“หุ่นโลหิตทองคำตัวนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่ตระกูลเบนินยังคงรุ่งเรือง ที่สำคัญคือตอนสร้างหุ่นเชิดโลหิตขึ้นมาพวกเขาสร้างมันจากร่างของคนเป็น ๆ ไม่ใช่สร้างขึ้นมาจากร่างของศพ” วิลโล่กระซิบข้างหูฮูอากับคูรูเบา ๆ
หา!
ทั้งคูรูและฮูอาตะโกนออกมาอย่างตกใจจนคางของพวกพวกเขาแทบที่จะตกลงไปบนพื้น
หุ่นเชิดที่สร้างขึ้นมาจากร่างคนเป็น ๆ?
จักรพรรดิกฎระดับสูงของตระกูลไนท์ฮอร์กจะยอมให้ร่างของตัวเองกลายเป็นหุ่นเชิดได้ยังไง?
อย่างไรก็ตามการสร้างหุ่นเชิดจากร่างที่มีชีวิตแบบนี้ มันย่อมไม่ทำให้พลังของร่างลดลงอย่างแน่นอน และด้วยประสิทธิภาพของการเป็นหุ่นเชิด มันก็จะยิ่งช่วยให้ร่าง ๆ นั้นสามารถแสดงพลังออกมาได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
—
ณ ดาวแกนกลางภายในซีเครดสปริง
พรางจิต!
เมื่อเซี่ยเฟยตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่ผิดปกติ เขาก็รีบปรับลมหายใจให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในทันที จากนั้นเขาก็คอยมองสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างระแวดระวัง
“มีอะไร?” โอโร่รีบถามอย่างสงสัย
“ดูเหมือนมันกำลังมีอะไรบางอย่างใกล้เข้ามา” เซี่ยเฟยกระซิบตอบกลับไปเบา ๆ
“ชิ้นส่วนอาร์คมีความผันผวนสูงมาก พวกมันคิดยังไงถึงกล้าบุกเข้ามาแบบนี้? พวกมันไม่กลัวว่าจะทำให้พลังงานระเบิดแล้วทำลายซีเครดสปริงไปหมดงั้นเหรอ?!” โอโร่อุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
โดยปกติวิลโล่ก็ควรจะต้องใช้กลยุทธ์ปิดล้อม เพราะเซี่ยเฟยไม่สามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้ตลอดชีวิต เมื่อไหร่ก็ตามที่ชายหนุ่มเดินทางออกจากดาวแกนกลาง ในเวลานั้นเขาก็จะตกหลุมพรางมากมายที่วิลโล่ได้เตรียมเอาไว้ มันจึงไม่จำเป็นจะต้องเข้ามาเสี่ยงต่อสู้ภายในดาวแกนกลางแห่งนี้เลย
“ศัตรูเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจมาก เขาสามารถใกล้เข้ามาโดยไม่มีแม้แต่ลมหายใจหลุดออกมาด้วยซ้ำ” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
โชคดีที่สิ่งแรกที่เซี่ยเฟยเรียนรู้คือการเป็นนักฆ่า เขาจึงเคยชินกับวิธีการของนักฆ่าเป็นอย่างดี ดังนั้นถึงแม้ว่าศัตรูคนนี้จะเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างแนบเนียน แต่มันก็ไม่สามารถรอดพ้นไปจากประสาทสัมผัสอันเฉียบคมของชายหนุ่มได้
“เราจะรอความตายอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้” เซี่ยเฟยแอบตัดสินใจหลังจากยืนยันได้แล้วว่าศัตรูที่แอบเข้ามาคือนักฆ่าที่มีฝีมือน่ากลัวมาก
ในที่สุดชายหนุ่มก็เคลื่อนที่ออกไปจากแกนกลางของดาวเคราะห์ เพื่อคอยมองหาเหยื่ออย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางของนักฆ่าที่มีประสบการณ์ด้วยเช่นกัน
การเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการเผชิญหน้าที่น่าสนใจมากจริง ๆ เพราะมันเป็นการปะทะกันระหว่างนักฆ่ากับนักฆ่า และมันก็ยังเป็นการปะทะกันระหว่างดาบเงาดำแห่งเผ่ามารและดาบคลั่งแห่งเผ่าเทพ
***************


แสดงความคิดเห็น