รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสน ตอนที่ 119 คนป่วยตัวดี

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ

-A A +A

รับคำท้าหัวใจยัยตัวแสน ตอนที่ 119 คนป่วยตัวดี

 รับคำท้าฯ

 

 

ตอนที่ 119

 

 

 

ปฏิการสาวเท้าเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบที่สุด วางของเยี่ยมไว้บนโต๊ะด้านใน มุมปากของเขามีรอยยิ้มน้อย ๆ แต้มอยู่เมื่อมองเห็นยัยตัวแสบน่าจะผล็อยหลับไปแล้ว เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างหญิงสาวที่ฟุบหน้าหลับอยู่บนท่อนแขนตนเองบนเตียงคนป่วย จ้องมองใบหน้าคนหลับช่างน่ารักเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิดไม่เหมือนคนรั้น หัวแข็งและเจ้าทิฐิแม้แต่น้อย แก้มของเธอใสมากจนอยากจะเอื้อมมือไปแตะเบา ๆ แต่ก็ต้องห้ามใจกลัวว่าคนหลับจะตื่น และเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นได้อีก เพราะไม่ได้เป็นแฟนกับเธอแล้ว มองมือน้อย ๆ ของเธอวางอยู่บนหลังมือของลูกน้องสาวคนเก่ง เธอคอยดูแลเป็นห่วงคนที่เธอรักอย่างดีเสมอ เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมอยู่ออกมา โน้มตัวลงคลุมเสื้อบนตัวหญิงสาวอย่างเบามือเกรงว่าคนหลับจะหนาวเพราะแอร์ค่อนข้างเย็น แค่ได้เห็นเธอใกล้ ๆ แบบนี้ก็โชคดีมากแล้ว เขาบอกตัวเองก่อนถอยตัวออกมาอย่างเสียไม่ได้ ก่อนเดินไปยืนมองคนป่วยอีกด้านหนึ่งของเตียง

 

ใบหน้าอันซีดเซียวของคนป่วยกำลังหลับอยู่ ป่วยขนาดนี้ยังช่วยให้เขาได้พบกับปริมาได้ รู้สึกขอบคุณแป้งนวลมากที่คอยส่งข่าวคราวของแม่คนงามให้เขาได้รับรู้ตลอด ส่งรูปคนสวยมาให้เขาได้ดูเสมอ ไม่งั้นคงโรงแดงตายแน่ ๆ ถ้าไม่ได้เห็นหน้าคนที่เขาแสนคิดถึง ขอให้ช่วยอะไรไม่เคยปฏิเสธ เธอเป็นน้องสาวที่น่ารักและที่สำคัญเป็นสายสืบที่ดีมากอีกด้วย หันไปมองคนเฝ้าไข้ที่ขยับตัวซุกอยู่ใต้เสื้อแจ็คเก็ตของเขาพลางอมยิ้ม มองมือของหญิงสาวที่วางอยู่บนมือของแป้งนวลซึ่งวางอยู่บนผ้าห่มตรงบริเวณหน้าท้องของคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง

 

ครู่หนึ่งคนป่วยรู้สึกตัว ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองเห็นดาราหนุ่มสุดหล่อยืนอยู่ที่ขอบเตียงด้านหนึ่งกำลังจ้องมองลูกพี่คนสวยของเธอไม่วางตา เขาไม่ได้บอกเลยว่าจะมาเยี่ยม เซอร์ไพร้สที่สุด! ดีใจมากหลังจากไม่ได้พบกันนานเหลือเกิน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเบื่ออาการป่วยของตนเองจนต้องมานอนโรงพยาบาลแบบนี้มาหนึ่งวันเต็ม ๆ แล้ว แต่ก็อดดีใจไม่ได้อย่างน้อยยังมีประโยชน์ที่ทำให้คนรักได้พบกันอีกครั้ง สายตามองเห็นหนุ่มหน้าหวานยื่นมือมาวางบนอากาศเหนือมือของลูกพี่คนสวยที่กำลังจับมือของเธออยู่อย่างช่างใจ ราวกับอยากจะจับมือลูกพี่ของเธอ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดเซียวนั้น คงต้องช่วยชายหนุ่มหน่อยแล้ว จึงแกล้งทำเป็นละเมอเอื้อมมือไปจับมือของเขากดลงบนมือของคนเจ้าของร้านบ้านไร่ทะเลฝัน แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หลับต่อ

 

นักร้องหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของเขาถูกมือคนป่วยกดลงบนมือของคนที่เขาแสนคิดถึง หันไปมองหน้าคนป่วยตัวดีที่แกล้งทำเป็นหลับอยู่ แต่แอบซ่อนรอยยิ้มที่ปกปิดไว้ไม่มิด ชายหนุ่มคลี่ยิ้มด้วยความขอบคุณที่แป้งนวลช่วยเขาอีกแล้ว และจำได้ครั้งแรกที่เขาได้จุ๊บกับยัยตัวแสบก็เพราะเธอแกล้งชนอีกนั่นแหละ

 

ปริมาค่อย ๆ รู้สึกตัวเมื่อมืออุ่นของชายหนุ่มวางลงบนมือของเธอ ดวงตากลมกระพริบตาถี่ ๆ กำลังงงสับสนว่ามันคือความฝันหรือความจริงกันแน่ที่เห็นเขายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียงคนป่วยและกำลังจับมือของเธอไว้ ยกมืออีกข้างหยิกแก้มตัวเองเบา ๆ รู้สึกเจ็บ มันคือเรื่องจริงที่หนุ่มหน้าหวานกำลังยืนอมยิ้มและส่งสายตาหวานละมุนอยู่ในขณะนี้ รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนผ่าวขึ้นมาทันที หญิงสาวรีบดึงมือของตนเองกลับมาเกรงว่าถ้ามีคนเข้ามาเห็นจะดูไม่งาม แต่ทว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ยอมปล่อยมือแถมยังบีบมือของเธอแน่นขึ้นอีก ความรู้สึกแปล้บวิ่งเข้ามาที่หัวใจจนเต้นระรัวอีกครั้ง   

 

“น่ะนาย...อย่าลืมสิ...ว่าเรา...เลิกกันแล้ว...” เธอเตือนสติเขาเบา ๆ เมื่อชายหนุ่มยังไม่ยอมคืนมือให้ มองมือของหนุ่มหล่อที่รั้งมือของเธอไว้ นิ้วโป้งมือของเขาลูบเบา ๆ บนหลังมือของเธอ 

 

“แม้ว่าปริมจะเลิกกับฉัน แต่ฉัน...ไม่เคยเลิกกับเธอเลย...” เขาอยากบอกให้เธอรู้ความรู้สึกในหัวใจ ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่มีทางเลิกกับเธอ ใจของเขาเป็นของเธอผู้เดียว ก่อนจะตัดใจปล่อยมือของแม่คนงามและดึงมือของตนเองกลับมาอยู่ในที่ ๆ ควรจะอยู่

 

ปริมานิ่งงันไปครู่หนึ่งกับคำพูดของชายหนุ่ม ความรู้สึกอุ่นจากมือของเขาอุ่นเข้าไปอยู่ในหัวใจ แล้วดึงมือกลับมาเมื่อเขายอมปล่อยมือ

 

แป้งนวลมองลูกพี่คนสวยช่างใจแข็งเหลือเกินจนอดสงสารหนุ่มหน้าหวานไม่ได้

 

 “แป้งเป็นยังไงบ้าง...ดื่มน้ำก่อน” หนุ่มหล่อหันไปมองหน้าคนป่วยที่ตอนนี้คงตื่นจริง ๆ แล้ว หยิบขวดน้ำมาพร้อมเปิดฝาและใส่หลอดให้เรียบร้อยยื่นส่งให้

 

“ขอบคุณค่ะ! ดีขึ้นแล้วค่ะ พี่การมาได้ยังไงคะ เซอร์ไพร้สมาก” คนป่วยขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พูดทักทายหนุ่มหล่อด้วยน้ำเสียงดีใจจนออกหน้าออกตา ก่อนยื่นมือไปรับขวดน้ำ

 

“พี่ว่างพอดีเลยรีบมาเยี่ยมก่อน”

 

ดื่มน้ำไปก็มองหน้าหนุ่มหล่อที มองหน้าหญิงสาวที อย่างน้อยเธอก็ทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน มองต่างคนต่างใช้สายตาจ้องมองกันอย่างมีความหมายเกินคำบรรยาย ลูกพี่ของเธอก็ปากแข็งไปอย่างนั้นเอง จริง ๆ คงดีใจมากแหละดูออก เพราะหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว เมื่อเจอสายตาหวานของอีกฝ่ายเข้าไปขนาดนี้ คนป่วยยิ้มจนแก้มปริแล้วปริอีก รู้สึกมีความสุขที่สุดในโลกเลย เฝ้ารอด้วยใจจดจ่อวันที่ทั้งคู่จะได้กลับมาคบกันจริง ๆ อีกครั้ง

 

“ไข้ลดลงหรือยัง” ปริมาหลบตาดาราหนุ่มสุดหล่อ พลางยื่นมือไปวางหลังมือบนหน้าผากของคนป่วย ไม่ร้อนจี๋เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ค่อยหมดกังวลเรื่องการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

“หิวรึยัง พี่ทำโจ๊กมาให้ด้วยนะ”

 

คนป่วยพยักหน้าหงึก ๆ

 

“หิวแล้วค่ะ พี่ปริมหมอจะให้แป้งกลับบ้านได้รึยังคะ แป้งเบื่ออยู่โรงบาลจะแย่แล้ว อยากกลับไปช่วยพี่ทำงาน” ลูกน้องตัวดีเริ่มบ่นกระปอดกระแปด

 

“ทานยาก่อนอาหารก่อนจ้ะ” ปริมายื่นถ้วยยาส่งให้คนป่วย มองเห็นหนุ่มหล่อรอช่วยส่งขวดน้ำดื่มให้

 

“กินยาอีกแล้วเหรอ...” คนป่วยทำหน้ายู่เหมือนไม่อยากกินยา

 

“กินยายากเหมือนใครไม่รู้” สาวชาวสวนอดค่อนแคะถึงชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ได้

 

หนุ่มหน้าหวานมองหน้าคนแขวะเขาซึ่ง ๆ หน้าก่อนจะอมยิ้มขำจนแก้มขาว ๆ สองข้างยกขึ้น

 

“อย่าดื้อ... เป็นเด็กดี จะได้หายไว ๆ นะ จะได้กลับบ้าน” ชายหนุ่มเอื้อมมือวางลงบนศีรษะคนป่วยที่ทำหน้างอกินยายากเหมือนเขาเลย 

 

 “ดีมากครับ” เขามองคนป่วยค่อย ๆ เอายาเข้าปาก ก่อนดื่มน้ำตามพลางหลับตาปี๋

 

“พี่ต้องกลับแล้วนะ ช่วงบ่ายพี่ต้องไปเตรียมทำพาสปอร์ต อาทิตย์หน้าพี่จะต้องเดินทางไปจีนเพื่อร่วมงานดนตรีและภาพยนตร์ แล้วก็ไปคุยเรื่องงานด้วยมีคนติดต่ออยากให้ไปเล่นซีรีย์จีน อยากได้อะไรไลน์ไปบอกนะ จะซื้อมาฝาก” เขาหันมามองหน้าแม่คนงาม

 

“พี่เป็นยังไงบ้างคะ ข่าวที่พี่ถูกบูลลี่ พี่ได้รับผลกระทบอะไรบ้างรึเปล่าคะ” แป้งนวลอดเป็นห่วงไม่ได้ และช่วยถามแทนลูกพี่ปากแข็งของเธอ ซึ่งคงเป็นห่วงดาราหนุ่มไม่น้อยกว่าเธอแน่นอน

 

“มีผลกระทบบ้างนิดหน่อย งานต่าง ๆ ที่ติดต่อไว้เลยขอเลื่อนออกไป รอให้ข่าวซาลงก่อน พอดีทางจีนติดต่อมา ผู้จัดละครที่ดิวงานกับทางจีนอยู่แล้ว เลยถือโอกาสพาไปคุยงานที่จีนเลย”

 

“พี่จะไปนานรึเปล่าคะ” แป้งนวลถามต่อไป

 

“ประมาณหนึ่งอาทิตย์จ้ะ”

 

“พี่การหน้าให้อยู่นะคะ เป็นพระเอกจีนได้สบายเลย คงจะหล่อมาก ๆ” แป้งนวลพูดพลางนึกถึงภาพหนุ่มหล่อใส่ชุดจีนโบราณ

 

  “ขอบคุณพี่การมากนะคะ ที่มาเยี่ยมแป้ง เด็ก ๆ ทุกคนบ่นคิดถึงพี่นะ”

 

“พี่ฝากบอกทุกคนด้วยว่า พี่ก็คิดถึงทุกคนมาก”

 

นักร้องหนุ่มหันกลับไปมองแม่คนงาม และเดินเข้าไปหา เธอหันมาสบตากับเขา เหมือนจะถามว่า ยังไม่กลับจะได้ไหม...แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม

 

“ฉันกลับก่อนนะ” เขาเอื้อมมือออกไปอยากจะจับมือเธอเอาไว้ แต่ก็ต้องดึงมือนั้นกลับมาทิ้งลงข้างตัว ก่อนตัดใจหันหลังกลับเดินตรงไปที่ประตูห้อง

 

ปริมาก้าวเดินตามไปส่งที่ประตูห้อง

 

                ชายหนุ่มเอื้อมมือจับลูกบิดของประตูก่อนหันกลับมามองยัยตัวแสบอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จะอีกนานแค่ไหนที่เขาจะได้พบเธออีก

 

                “ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะ” เธอบอกเขาเป็นประโยคสุดท้าย

 

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากเหยียดตรงพลางพยักหน้ารับถี่ ๆ

 

“ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี รอวันที่ปริมจะมาดูแลฉันนะ” เขาจ้องมองหน้าสาวบัญชีเป็นครั้งสุดท้าย

 

ปริมาจำคำพูดนี้ได้ที่เขาเคยพูดกับเธอในวันที่ต้องตัดสินใจบอกเลิกกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

 

                “5 2 0 1 3 1 4” เขาบอกเธอเป็นภาษาตัวเลขของจีนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบามาก แปลว่า ฉันรักเธอตลอดไปชั่วชีวิตของฉัน สายตานั้นสบตากับเธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดใจเปิดประตูเดินออกไปพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้น้ำตาไหลกลับเข้าไปข้างใน

 

                หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น น้ำตาพาลรื้นขึ้นมาคลอดวงตานั้นเอาไว้ คำพูดของชายหนุ่มดังก้องกลับไปกลับมาอยู่ในสมอง อยากบอกเขาเช่นกันว่าจะรักเขาคนเดียวชั่วชีวิตของเธอเช่นกัน

 

 

 

                ********************* 

 

 

 

                นายแพทย์ปัณณวัตรนั่งอยู่ที่โซฟายาวในห้องรับแขกกำลังดูข่าว บนจอทีวีเข้าสู่ข่าวบันเทิงมีข่าวของลูกชายของเขาเรื่องการถูกชาวเนตถล่มบูลลี่หลังจากแชร์คลิปและแสดงความเห็นเรื่อง ม.112 เขาไม่เข้าใจเลย ประชาธิปไตยอย่างไรกันแน่เมื่อมีคนเห็นต่างจากพวกตนเองจึงต้องพากันไปต่อว่าคนที่ไม่เห็นด้วยอย่างนี้ ภรรยาเคยเอาข้อความมาให้เขาดู อ่านไม่ไหวเลย บางข้อความด่าทอหยาบคายมาก บางข้อความใส่ร้ายป้ายสี อย่างดีหน่อยก็วิพากย์วิจารณ์การแสดง การเป็นพิธีกรของเจ้าลูกชายว่าไม่ได้เรื่องไม่เอาไหน พูดไม่เป็นมาเป็นพิธีกรได้อย่างไร สมควรแล้วที่ปฏิการจะฟ้องร้องจนถึงที่สุด มองหน้าลูกชายตอนให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ด้วยสีหน้าเครียดมาก

 

                ปัถยาเดินเอาจานผลไม้มาให้สามีที่นั่งดูข่าวอยู่

 

                “ทานผลไม้ค่ะ”

 

                สามียื่นมือไปรับจานผลไม้จากภรรยา

 

                “คุณไปซื้อผักผลไม้ที่ไหนมาครับ”

 

                คนตอบอึกอักเล็กน้อยเกรงว่าเขาอาจจะไม่พอใจ ก่อนตอบว่า 

 

                “บ้านไร่ทะเลฝัน มีผักผลไม้น่าซื้อทั้งนั้นเลยค่ะ” เธอตอบเสียงเบาพลางนั่งลงข้างหนุ่มใหญ่ แต่ก่อนลูกชายของเขาจะซื้อมาให้เป็นประจำ แต่เมื่อถูกห้ามให้เลิกคบกัน เธอจึงต้องนั่งรถไปซื้อเอง

 

                มาถึงอีกข่าวที่เกี่ยวกับลูกชายของเขาคือการไปเปิดงานตลาดอินทรีย์วิถีไทย เขาเพ่งมองภาพบนหน้าจอทีวีเขม็งเมื่อเห็นภาพลูกชายยิ้มหวานมากเมื่อต้องชิมอาหารอยู่กับแม่สาวชาวสวนคนนั้นซึ่งกำลังทำหน้าที่อธิบายผลผลิตต่าง ๆ ว่ามาจากไหน สายตามองแต่หน้าคนอธิบายตลอดเวลาลูกชายของเขาดูมีความสุขมาก แม้จะรู้สึกไม่พอใจที่ลูกยังไปพบผู้หญิงคนนั้น แต่ก็อดใจอ่อนไม่ได้เมื่อเห็นปัญหารุมเร้าของลูกที่ต้องเผชิญอยู่ และไม่เคยเห็นลูกไปออกรายการไหนจะยิ้มแย้มมีความสุขเท่ากับการได้ไปออกรายการกับแม่สาวคนนี้เลย รอยยิ้มของลูกชายอดทำให้คนเป็นพ่ออย่างเขายิ้มตามไม่ได้เลยที่เห็นลูกมีความสุข

 

                “ดูลูกชายคุณสิคะ ยิ้มหวานจนแก้มแทบแตกแล้วค่ะ ทั้งอิ่มอกอิ่มใจและอิ่มท้องนะคะ” เธอมองบนหน้าจอทีวีกำลังเสนอข่าวลูกชายของเขากำลังชิมอาหารไปยิ้มไปจนแก้มตุงอย่างอร่อยเชียว แอบถามอยู่ในใจว่าเมื่อไหร่คนเป็นพ่อจะใจอ่อนยอมรับลูกสะใภ้ในอนาคตเสียที

 

                เสียงนั้นทำให้นายแพทย์ใหญ่สะดุ้งเล็กน้อย สีหน้าที่กำลังจะยิ้มตามลูกชายเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบเฉยตามปกติ

 

                “เวลาลูกชายคุณยิ้ม ฉันเชื่อว่า เขาจะทำให้อีกหลายคนที่ได้เห็นอดยิ้มและหัวเราะตามเขาไม่ได้เลยค่ะ”

 

                บนหน้าจอทีวีแสดงภาพข่าวตอนปฏิการขึ้นรับรางวัลไอดอลจิตอาสา และปริมาได้รับรางวัล Young Smart Farmer 

 

                “หนูปริมเก่งมาก ๆ เลยนะคะ ช่วยเกษตรกรจนสามารถเปิดเป็นตลาดอินทรีย์ขนาดนี้ได้ เธอรู้สึกทึ่งกับคำพูดคำจาความคิดของผู้หญิงเก่งคนนี้จริง ๆ ไม่ธรรมดาเลย ไม่ต้องแปลกใจทำไมเอาหัวใจของปฏิการไปครองได้ หันไปมองหน้าสามีแม้ว่าจะไม่พูดอะไร ซึ่งถ้าไม่ติก็หมายถึงการยอมรับระดับหนึ่ง สีหน้าแม้จะไม่ได้ยิ้มแต่ก็ไม่ได้บึ้งเหมือนแต่ก่อน มองเขาหยิบผลไม้ขึ้นมาทาน

 

                “อร่อยมั้ยคะ” เธอมองหน้าสามีแล้วถามด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ

 

                “ก็...งั้น ๆ” 

 

                คนถามแอบขำเบา ๆ เพราะถ้าไม่อร่อยนี่เขาจะไม่ยอมทานเลยต่างหาก แถมยังหยิบทานอีก แสดงว่าต้องอร่อยแน่นอนแต่ทำเป็นปากแข็ง

 

                “ฉันอยากไปพักผ่อนที่บ้านไร่ทะเลฝัน คุณไปด้วยกันนะ ช่วงนี้การไม่อยู่เราไปเที่ยวไปพักผ่อนกันดีไหมคะ” หญิงสาวกอดแขนสามีอ้อน

 

                “ทำไมต้องไปบ้านไร่ทะเลฝัน” เสียงคำถามห้วน ๆ ถามกลับ ที่เที่ยวมีตั้งเยอะแยะมากมายทำไมต้องอยากไปที่นี่”

 

                “ฉันชอบทะเล อยู่ไม่ไกลอากาศดี อาหารดีปลอดภัย อร่อยราคาไม่แพงด้วยค่ะ”

 

                “นะ นะ”   

 

                หนุ่มใหญ่หันมามองภรรยาอ้อนน่ารักเชียว ก่อนจะรวบตัวเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนพลางหอมแก้มเธอเบา ๆ

 

                “ไว้หาวันหยุดได้ก่อนนะ” เขายังไม่กล้าปฏิเสธภรรยาตรง ๆ

 

                “ไม่รู้การไปถึงจีนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ป่านนี้คงจะถึงแล้ว” เขากำลังรอลูกส่งข่าวมาหลังจากที่ปฏิการเดินทางไปจีนตั้งแต่เมื่อวานนี้

 

                ศัลยแพทย์โรคหัวใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณไลน์มีข้อความเข้า 

 

“การไลน์มาบอกว่า ถึงจีนแล้ว” เขามองดูภาพหลายภาพของลูกชายที่ถ่ายกับสนามบินปักกิ่งกับทีมงานดูเฮฮากันมาก

 

ข้อความอีกข้อความที่เขาได้รับทำให้นายแพทย์ใหญ่ตกใจมากถึงมากที่สุด เมื่อได้ข่าวว่าแม่ของเขาหกล้มเข้าโรงพยาบาล

 

“แม่ผมเข้าโรงพยาบาล ผมจะโทรไปลางานแล้วจะไปเยี่ยมแม่วันนี้เลย”

 

“เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ”

 

“ผมยังไม่รู้เหมือนกันครับ”

 

 

 

ปัณณวัตรขับรถมาหลายชั่วโมงเพื่อเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมาโดยมีภรรยานั่งรถไปด้วย ใจของเขารู้สึกเป็นห่วงแม่มาก ระหว่างทางได้สอบถามอาการตลอดเวลา ซึ่งก่อนหน้าที่จะล้มน้องสาวที่ดูแลบอกว่า แม่มีอาการท้องเสียทานอาหารไม่ได้มาสองสามวัน ทานแล้วจะอาเจียนตลอด ต่อมาจึงล้มหน้ากระแทกกับเก้าอี้ไม้สักฟันหักจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล เขาโทรถามเป็นระยะ อยากรู้ว่าหมอบอกว่า เป็นอย่างไรบ้าง ปรากฏว่ายังไม่ได้ตรวจ พยาบาลส่งไปตรวจฟัน ไปเอกซเรย์ฟัน และตรวจหัวใจ ใจเขาอดคิดไม่ได้ว่า แม่ล้มขนาดนี้จะเป็นสโตรกหรือเปล่า แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าถึงโรงพยาบาลแล้วคงปลอดภัย และมีน้องสาวเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่นด้วย แต่พอตอนเย็นน้องสาวโทรมาแจ้งว่าแม่มีอาการขยับแขนไม่ได้ ปากเบี้ยว หมอจึงรีบนำผู้ป่วยเตรียมเข้าห้องผ่าตัดและผ่าตัดเสร็จตอนตีหนึ่ง  

 

เขาได้แต่ภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย รู้สึกใจคอไม่ดีเลยเพราะโรคสโตรกต้องรีบฉีดยาสลายลิ่มเลือดภายในสี่ชั่วโมงครึ่งเพราะสมองยังไม่ตายแต่หากช้ากว่านั้นจะไม่สามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมแล้ว อาจจะเสียชีวิตหรือกลายเป็นอัมพาตได้

 

หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว น้องสาวบอกว่า มีเลือดออกในสมอง แม่ยังไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินและยังไม่ให้ญาติเข้าเยี่ยม สามวันต่อมาแม่ของเขายังไม่รู้สึกตัว โดยปกติประมาณหนึ่งวันหลังผ่าตัดคนไข้ต้องรู้สึกตัวแล้ว พอเช้าวันที่สี่แม่ของเขาก็เสียชีวิต

 

นายแพทย์ใหญ่นั่งนิ่งที่งานศพกำลังนั่งฟังพระสวดศพเป็นคืนแรก เขายังงงไม่หายแม่ของเขาจากไปเร็วมาก ทั้ง ๆ ที่อยู่ในโรงพยาบาลแล้วแท้ ๆ ยังช่วยชีวิตแม่ของเขาไม่ได้ การแจ้งอาการของคนป่วยเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะทำให้ได้รับรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

 

 

 

***********************

 

 

 

***********************

 

 

 

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เอาเรื่องการแจ้งอาการผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ มาฝากนะคะ เพราะเร็ว ๆ นี้เพื่อนที่ทำงานเพิ่งเสียชีวิต ทั้ง ๆ ไปถึง รพ. แล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังช่วยไม่ได้ เพราะแจ้งอาการของโรคไม่ชัดเจนจึงเสียเวลาไปตรวจอย่างอื่น 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.