บทที่ 382: ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องมีลูกแล้วก็ได้

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 382: ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องมีลูกแล้วก็ได้

ต่อให้มันเป็นเพียงความฝันที่สามารถแปรเปลี่ยนได้ แต่บางอย่างก็ทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกมั่นใจ

 

แม้แต่การทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นก็ยังสามารถเกิดกับเธอได้ มันจึงไม่แปลกที่จะมีเหตุการณ์อะไรที่พลิกผันเกิดขึ้น

 

สิ่งนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกมีความสุขและอยากช่วยลู่เมี่ยนเอ๋อให้รอดพ้นจากความตาย

 

“ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องมีลูกแล้วก็ได้” หลงโม่โพล่งออกมาโดยแทบไม่ต้องคิด

 

เขาคิดว่าเจียวเจียวมีสีหน้าบูดบึ้งเพราะนางกลัวการคลอดลูก

 

เมื่อมังกรหนุ่มนึกถึงวันที่จิ้งจอกสาวตั้งท้องครั้งก่อน เขาไม่ได้คอยอยู่เคียงข้างนาง นั่นทำให้เขารู้สึกผิดอยู่พักหนึ่ง

 

ทางด้านหูเจียวเจียวชะงักไปชั่วครู่หลังจากได้ยินคำพูดของผู้เป็นสามี แล้วสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใจผิด 

 

“ถึงเจ้าอยากจะมีตอนนี้ก็ยังมีไม่ได้หรอก” หญิงสาวพึมพำเสียงเบา “ช่วงที่ข้าจะตั้งครรภ์ได้มันผ่านไปแล้ว เจ้าต้องรอจนกว่าข้าจะมีระดูครั้งต่อไป เราถึงจะมีลูกด้วยกันได้” 

 

“ฉะนั้นสิ่งที่เจ้าพยายามอย่างหนักมา 10 กว่าวันมันไร้ประโยชน์”

 

“มันจะไร้ประโยชน์ได้ยังไง?” หลงโม่กอดภรรยาสาวไว้ในอ้อมแขนพลางเกยคางไว้บนศีรษะของอีกคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทุกช่วงเวลาที่ข้าได้อยู่กับเจ้ามันมีค่ามาก”

 

ยามนี้มังกรหนุ่มกระชับเอวจิ้งจอกสาวให้เข้ามาใกล้ตนยิ่งขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้อากาศได้ลอดผ่าน พร้อมกับที่ในใจของเขาหวังว่าจะไม่มีอะไรมาทำให้เขาต้องพรากจากคนที่ตนรักอีก

 

คำพูดและการกระทำของผู้เป็นสามีทำให้หูเจียวเจียวยอมรับว่าตัวเองรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

 

จากนั้นหญิงสาวใช้ปลายจมูกไล้ไปตามลูกกระเดือกของคนตรงหน้าแล้วเปรยเบา ๆ ว่า

 

“ข้าก็เช่นกัน…”

 

เมื่อเธอนึกถึงความฝันที่คลุมเครือนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจเต้นตึกตัก

 

“หลงโม่ เจ้ากอดข้าแน่นเกินไปแล้ว ข้าหายใจไม่ออก” หูเจียวเจียวเอ่ยประท้วงขณะดันไหล่ของคนตัวสูงออก

 

ทีแรกจิ้งจอกสาวนึกว่ามันเป็นเพราะความรู้สึกของตนเอ่อล้นออกมาจนเธอหายใจไม่สะดวก แต่ปรากฎว่าเธอเกือบถูกมังกรหนุ่มรัดตายต่างหาก!

 

จังหวะนั้นชายหนุ่มหลุบตาลงพร้อมกับปล่อยมือออก

 

แล้วความกังวลที่ฉายอยู่ในดวงตาของเขาก็พลันหายไป

 

“เจ้าไปปลุกเด็ก ๆ เถอะ ข้าจะทำอาหารเช้าให้ ถ้ากินข้าวกันเสร็จแล้วข้าจะไปดูเครื่องเหวี่ยงหินกับเจ้า” หูเจียวเจียวเดินกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะหลังจากนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอต้องไปทำ

 

“อืม” หลงโม่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว

 

หลังจากพ่อแม่ลูกทั้ง 8 ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย

 

ทั้งคู่ก็มาถึงกำแพงที่อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าออกเผ่า

 

“เจียวเจียว ทำไมเจ้าต้องมาที่นี่เองด้วย!” ยามนี้ผู้อาวุโสของเผ่ากำลังนำภูตกลับเข้าไปในกำแพงและรอให้หลงโม่มาถึงเพราะพวกเขาต้องการทดสอบพลังของเครื่องเหวี่ยงหินในวันนี้

 

ชายชราไม่คาดคิดว่าพอมังกรหนุ่มบินร่อนลงมา เขาจะเห็นหูเจียวเจียวลงจากหลังของอีกฝ่ายด้วย

 

ภาพที่ปรากฏทำให้คนเป็นหัวหน้าเผ่าทำหน้าประหลาดใจ แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ไหวที่จะได้พบเจ้าของความคิดในการสร้างอาวุธชิ้นนี้

 

“เจียวเจียว เจ้าคิดว่าเครื่องเหวี่ยงหินอันนี้เหมือนกับที่เจ้าต้องการหรือไม่?” ผู้นำสูงสุดของเผ่าพาจิ้งจอกสาวเดินไปท่ามกลางภูตที่แหวกทางให้ทั้ง 3 คนเดินเข้าไป

 

“หลงโม่ มาดูด้วยกันสิ” หูเจียวเจียวรอให้หลงโม่กลายร่างเป็นมนุษย์ก่อนแล้วจูงมือเขาเดินตามท่านผู้เฒ่าไป

 

เมื่อภูตคนอื่นเห็นภาพนี้ พวกเขาต่างก็รู้สึกอิจฉา

 

เหล่าภูตชายที่ยังโสดอยากให้มีภูตหญิงคอยใส่ใจพวกตนแบบนี้บ้าง

 

ทันทีที่หูเจียวเจียวเดินเข้าไปในฝูงชน เธอก็เห็นสิ่งประดิษฐ์ขนาดมหึมาตั้งตระหง่านซึ่งมีหนังสัตว์ผืนใหญ่คลุมเอาไว้

 

หนังสัตว์ผืนยักษ์ถูกเย็บเข้าด้วยกันโดยใช้เข็มกระดูกกับเส้นเอ็นของสัตว์ เมื่อมองแว้บแรกมันดูเหมือนผ้านับร้อยชิ้นที่นำมาปะติดกัน และมันจะต้องใช้หนังสัตว์จำนวนมากกว่าจะทำสิ่งนี้ขึ้นมาได้

 

“เมื่อคืนนี้หิมะตก ข้ากลัวว่าเครื่องเหวี่ยงหินจะถูกหิมะเกาะไปเสียก่อน ข้าจึงบอกให้พวกเขาทำหนังสัตว์เอาไว้คลุมเครื่องเหวี่ยงหินโดยเฉพาะ” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าอธิบาย

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ภูตนก 2 คนก็กระพือปีกบินไปจับชายหนังสัตว์ผืนใหญ่ทั้ง 2 มุมแล้วยกมันขึ้นพร้อมกัน

 

ไม่นานเครื่องเหวี่ยงหินก็ค่อย ๆ ปรากฏต่อสายตาของทุกคน

 

อาวุธชิ้นนี้มีความสูงถึง 10 เมตร จิ้งจอกสาวต้องเงยหน้าขึ้นจนสุดคอเพื่อที่เธอจะได้มองเห็นภาพรวมทั้งหมดของมันอย่างชัดเจน

 

ขณะนั้นหลงโม่วางมือเหนือหน้าผากของภรรยาเพื่อช่วยป้องกันแสงจ้าของดวงอาทิตย์ และมองไปข้างหน้าเช่นกัน

 

นี่คือเครื่องเหวี่ยงหินที่สร้างขึ้นโดยภูต ซึ่งฐานขนาดใหญ่ 4 มุมตรงด้านล่างทำจากไม้ชิ้นใหญ่หนากว่าเอวผู้ใหญ่ และมีวงล้อ 2 อันยึดอยู่ด้านข้างของฐาน

 

ส่วนแท่งไม้สูงสำหรับเหวี่ยงหินถูกยกขึ้นซึ่งมันเชื่อมต่อกับไม้อีกหลายอันอย่างแน่นหนา หากคาดการณ์ด้วยตาเปล่า แท่งไม้นี้น่าจะมีน้ำหนักประมาณ 1 ตันเศษ

 

ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งของแท่งไม้เป็นหนังยางที่มีความยืดหยุ่น 

 

เพียงแค่หูเจียวเจียวได้มองปราดเดียว เธอก็รู้สึกทึ่งอยู่ในใจ

 

นี่คือเครื่องเหวี่ยงหินโบราณ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในยุคอาวุธเย็น!

 

ในเวลาเดียวกัน หลังจากภูตจำนวนมากที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเดินเข้ามามุงตรงกำแพง ทุกคนก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นยักษ์

 

“ที่แท้แค่มีไม้ก็สามารถสร้างเป็นอาวุธขนาดใหญ่ได้!”

 

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าไม้จะใช้ทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย”

 

“มันต้องทรงพลังมากแน่ ๆ ขอแค่เรามีเจ้าสิ่งนี้ เราก็ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนที่มารุกรานเราอีกแล้ว!”

 

ปัจจุบันจิตใจของภูตทั้งหลายเหมือนกับมีคลื่นซัดสาด เพราะพวกเขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจตัวเองได้เลย 

 

บัดนี้เลือดในกายของชาวเผ่าเดือดพล่าน ประกอบกับใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น 

 

แม้แต่หูเจียวเจียวก็ยังจับมือหลงโม่ไว้แน่น ดวงตาของเธอเป็นประกายซึ่งเธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจากคนอื่น ๆ

 

“ยอดไปเลย มันเหมือนกับภาพวาดทุกประการ”

 

หญิงสาวแทบตั้งตารอดูพลังที่แท้จริงของเครื่องเหวี่ยงหินไม่ไหวแล้ว

 

เมื่อผู้เป็นหัวหน้าเผ่าได้ยินคำพูดของจิ้งจอกสาว เขาก็แย้มยิ้มออกมาทันที

 

ต่อมา เขาตะโกนบอกภูตที่เป็นคนดูแลเรื่องการฝึกซ้อม

 

“เตรียมพร้อม!”

 

ตามการโบกมือของท่านผู้เฒ่า ภูตชายที่แข็งแรง 2 คนยกก้อนหินขนาดใหญ่ไปวางลงบนหนังยาง

 

หลายวันที่ผ่านมา หลงโม่ได้สอนพวกเขาถึงวิธีการใช้เครื่องเหวี่ยงหินเรียบร้อยแล้ว

 

ในไม่ช้า ภูตทั้ง 5 คนก็ตรงไปที่อาวุธขนาดใหญ่และเริ่มทำงานอย่างแข็งขัน

 

โดยที่ชาย 2 คนช่วยกันหมุนวงล้อทั้ง 2 ข้างเพื่อทำให้เชือกตึง ส่วนอีก 3 คนคอยดึงเชือกจากอีกด้าน ก่อนจะนำสลักมายึดเอาไว้ เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วก็ทำการดึงสลักออก ก้อนหินบนหนังยางก็ถูกเหวี่ยงไปข้างหน้า

 

ด้วยแรงเหวี่ยงของแท่งไม้ได้โยนก้อนหินลอยขึ้นไปในอากาศ

 

ไม่นานรั้วที่ถูกตั้งขึ้นห่างออกไปหลายร้อยเมตรก็ระเบิดอย่างรุนแรง

 

ตูมมม!

 

ตามด้วยกองหิมะจำนวนนับไม่ถ้วนแตกกระจายไปทั่ว

 

บัดนี้รั้วชั่วคราวที่ตั้งขึ้นสำหรับทดสอบอนุภาพของเครื่องเหวี่ยงหินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วก้อนหินก็กระเด็นออกไปไกลกว่า 10 เมตร 

 

วินาทีนั้นผู้คนในเผ่าหยุดหายใจยืนมองภาพตรงหน้านิ่ง

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น

 

“สำเร็จ!”

 

“เครื่องเหวี่ยงหินนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

 

“ข้าไม่เคยเห็นอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน ถ้ามีศัตรูยืนอยู่ตรงนั้น ข้าคิดว่าเราจะสามารถฆ่าภูตหลาย 10 คนได้ในคราวเดียว!” 

 

“ในโลกนี้จะมีใครที่สามารถฆ่าภูตได้หลาย 10 คนในพริบตาบ้าง?”

 

สำหรับชาวเผ่า นี่มันไม่ใช่แค่อาวุธสังหาร แต่ยังเป็นความหวังในการปกป้องเผ่าอีกด้วย

 

หูเจียวเจียวเปรียบเสมือนเทพเซียนในความคิดของทุกคน!

 

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่จิ้งจอกสาวได้เห็นพลังของเครื่องเหวี่ยงหินด้วยตาของเธอเอง ซึ่งมันเกินความคาดหมายของเธอไปมาก

 

“ท่านผู้เฒ่า ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่ท่านทำงานอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับยิ้มให้หัวหน้าเผ่า

 

ขณะนี้ผู้อาวุโสฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะถึงรูหู แต่เขาก็ยังโบกมือพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกให้หลงโม่มาสอนพวกเรา เราก็คงไม่สามารถสร้างอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดนี้มันเป็นความดีความชอบของเจ้า”

 

เขายืนกรานที่จะยกความดีความงามทั้งหมดให้แก่หูเจียวเจียว

 

ในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านทั้งหลายก็รู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาคิดอยากจะพุ่งเข้าไปจับร่างจิ้งจอกสาวแล้วโยนนางขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ

 

แต่เมื่อทุกคนเห็นหลงโม่ที่มีสีหน้าเย็นชายืนอยู่ข้างหูเจียวเจียว ความคิดดังกล่าวก็ดับวูบไปเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม

 

เฮ้อ ช่างมันเถอะ

 

ทำแบบนั้นไปก็ตายเปล่า อย่ารนหาที่ตายเลย

 

เราเก็บแรงไว้เพื่อปกป้องเผ่าดีกว่า

 

“ท่านผู้เฒ่า นอกจากหินแล้ว ท่านยังสามารถใส่ของอื่น ๆ ได้ด้วยนะ มันจะช่วยให้การโจมตีทรงพลังยิ่งขึ้น” หูเจียวเจียวไม่รู้จะตอบรับคำชื่นชมของชายชราอย่างไร ดังนั้นเธอจึงต้องเปลี่ยนเรื่องคุย

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: สุดยอดดดด พอเผ่ามีอาวุธนี้ก็ไม่ต้องกลัวใครแล้ว!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.