ตอนที่ 49

คุณหนูมหาภัยของจักรพรรดิมังกร

-A A +A
อ่านต่อ

ตอนที่ 49

 

ตอนที่ 49

 

         ทั้งจินเยว่และโจวเฟินตื่นเต้นจนเผลอยิ้มออกมา แน่นอนว่าการแก้แค้นเป็นเรื่องที่หวานหอมและสร้างความเบิกบานใจให้พวกเธอ ไม่เว้นกระทั่งเจียวจ้าน

 

ถึงแม้เจียวจ้านเป็นคนไม่ค่อยแสดงออก แต่ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนไร้ความรู้สึก เหมือนกับหินก้อนหนึ่ง เรื่องเมื่อวานก็เช่นกัน

 

หลังจากที่เจียวจ้านไปแจ้งให้บิดาของเธอรับทราบ บิดาก็แสดงความเกรี้ยวกราดออกมาทันใด ตบโต๊ะอย่างแรงจนจอกชากระเด้งกระดอนตกแตก

 

แน่นอน ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็ต้องเกิดความโกรธทั้งนั้น ทั้งที่โจวเฟยรู้อยู่แล้ว ว่าบิดาของเธอนั้นคือหมอโดยตรง ที่สำคัญเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองแห่งนี้ แต่โจวเฟยกลับไปเชื่อมั่นสูตรยาอื่น ซึ่งไม่มีที่มาแน่ชัด ดังนั้นก็ไม่ต่างกับดูถูกความสามารถบิดาของเธออย่างโจ่งแจ้ง

 

เจียวจ้านก็รู้สึกไม่ต่างกับบิดา แต่เธอไม่แสดงออก ส่วนหนึ่งเพราะลักษณะนิสัยส่วนตัวของเธอ อีกส่วนหนึ่งคือกลัวว่าความลับเรื่องยารักษาจะแตก

 

เหตุผลอย่างหลังนั้น ความจริงแล้วเธอไม่ได้สั่งให้คนใช้จัดยาตามสูตรที่บิดาสั่ง เธอแอบปรับสูตรยาสมุนไพรให้ออกฤทธิ์น้อย เพื่อให้ธูปมหาภัยของอนุภรรยาจินเยว่ได้แสดงความร้ายกาจมากที่สุด

 

กล่าวอีกความหมายคือตั้งใจเลี้ยงไข้คนป่วย !

 

แม้ว่าบิดาของเธอนั้นค่อนข้างยกตัวเหมือนเป็นผู้สูงศักดิ์ แต่เขามีนิสัยแปลกๆ อยู่อย่างคือปากกับใจไม่ตรงกัน

 

ด้วยเหตุนั้น หลังจากที่บิดาของเธอใจเย็น เขาก็มายื่นชุดยาให้ พร้อมกับสั่งให้เอาไปเตรียมไว้ก่อน เผื่อว่าสูตรยาจากคุณหนูใหญ่ไม่ได้ผล แม้ว่าปากของเขายังไม่หยุดบ่น

 

แน่นอนว่าการกระทำของเจียวจ้านไม่เป็นที่รู้เห็น เพราะว่าเจียวจ้านไม่อยากให้ใครรับรู้ โดยเฉพาะบิดาของเธอ สาเหตุคือบิดาของเธอนั้นเกลียดการกระทำไม่ดีทั้งมวล

 

เจียวจ้านฉุกคิดขึ้นได้อีกอย่าง “หยุดก่อน”

 

“เจ้าให้หยุดเพราะเหตุใด ?” ทว่าน้ำเสียงใจร้อนของจินเยว่บ่งบอกไปอีกความหมาย

 

“เราควรตกลงกันให้เสร็จสิ้นตรงนี้ก่อน แต่หากเราไปถึงแล้วออกคำสั่ง เสียงพูดของเราอาจจะทำให้โจวจื่อรั่วและชายพวกนั้นได้ยิน”

 

คำตอบนั้นของเจียวจ้านทำให้ทุกคนฉุกคิดขึ้นได้ ว่ามีโอกาสที่ชายชู้เหล่านั้นจะวิ่งพรวดพราดเผ่นทันใด โดยที่สกัดกั้นไม่ทัน หรือคว้าตัวเอาไว้

 

เจียวจ้านหันกลับหลัง ชี้นิ้วสั่งพลทหารรับใช้ที่มาถึง “หากไปถึงแล้ว พวกเจ้าทั้งสี่จงแยกไปที่หน้าประตูและหน้าต่างก่อน แล้วรอจนกว่าคุณพี่โจวเฟยจะมา แต่หากมีชายชู้ออกมาเพื่อจะหนีก่อน พวกเจ้าจงรีบจับตัวไว้ จงยื้อให้นานที่สุด หากทำได้ ข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงาม” แล้วหันไปสั่งกลุ่มคนรับใช้ผู้ชาย “ส่วนพวกเจ้า จงไปอยู่ด้านหลังของพลทหาร รอช่วยจับตัวอีกแรง ข้าจะมอบรางวัลให้เช่นเดียวกัน จงทำให้ดีที่สุด”

 

โจวเฟินนึกขึ้นได้อีกอย่าง จึงหันไปสั่งกลุ่มคนใช้ผู้หญิง “ส่วนพวกเจ้าทั้งหมด หากใครพกคันฉ่องสื่อสารติดตัวมา จงเอาออกมาบันทึกภาพไว้ หากใครบันทึกภาพของพวกชายชู้ได้ชัดมากที่สุด ข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงามเช่นกัน”

 

แผนการนี้อุดทุกรูรั่วแล้ว ทั้งจินเยว่ เจียวจ้าน และโจวเฟินมั่นใจว่าคุณหนูใหญ่ต้องดิ้นไม่หลุดแน่นอน

 

 

         ภายในห้องทำงาน

 

โจวเฟยรู้สึกเบื่อ แทบจะถอนหายใจ

 

ถึงแม้เขามีตำแหน่งเป็นแม่ทัพ อยู่ประจำที่เมืองแห่งนี้มายาวนาน แต่กลับไม่มีหน้าที่นำทัพไปออกรบ เพราะว่าทุกเมืองและทุกอาณาจักรอยู่ภายใต้จักรวรรดิเดียวกันทั้งหมด ที่สำคัญคืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไม่มีความแตกแยก แม้มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน

 

เป็นเหตุให้เขาไม่มีหน้าที่อะไรมากนัก มากสุดคือนำกองทัพไปปราบกลุ่มโจรตามป่าเขา รองลงมาคือนำกองทัพไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แห้งแล้ง หรือกระทั่งดินภูเขาถล่ม จากนั้นรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เป็นผลสรุป แล้วส่งมอบให้เจ้าเมือง เจ้าเมืองจะได้ตรวจสอบแล้วส่งไปที่จักรวรรดิต่อไป

 

เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ปีศาจปรากฏตัวและทำให้ทุกชีวิตเกือบจะสูญพันธุ์ เหล่ามนุษย์ก็เลิกฆ่ากัน แล้วหันมาจับมือกันเพื่อกำจัดปีศาจแทน ถือได้ว่าพวกปีศาจทำให้เกิดความสามัคคีในเผ่าพันธุ์มนุษย์

 

แต่ความคิดอยู่ที่งานไม่นานนัก ก็เปลี่ยนเป้าหมาย ล่องลอยไปอยู่ที่เรื่องตระกูลมี่

 

เมื่อวาน พ่อลูกตระกูลมี่มาหา ยังมีของเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีมาให้ แต่พวกเขาผิดหวังเพราะคุณหนูใหญ่ไม่อยู่ ทั้งสองคนเลยอยู่พูดคุยครู่หนึ่งก่อนกลับไป ทิ้งท้ายว่าจะมาใหม่วันพรุ่งนี้แทน

 

อันที่จริง โจวเฟยชักชวนให้รอแล้ว เพราะอยากให้ว่าที่ลูกเขยและลูกสาวคนโตได้พบกัน แต่จะต้องเรียกลูกสาวคนโตกลับมาก่อน ทว่าไม่ได้เรียก เพราะพ่อลูกตระกูลมี่ไม่อยากให้ทำ เหตุผลคือไม่อยากรบกวนความสุขของผู้หญิง ทั้งสองคนคงคิดไปว่าคุณหนูใหญ่ใช้เวลาไปกับเรื่องความงามอยู่ ตามประสาผู้หญิงทั่วไปที่ชอบซื้อของ

 

แต่ความคิดเรื่อยเปื่อยถูกผลักดันหายไปเมื่อมีคนใช้มาแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เรื่องเสื่อมเสียทำให้โจวเฟยเกิดความโกรธจนปากแทบบิดเบี้ยว โลหิตเหมือนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่แล้วตะลุยไปตามเส้นเลือด มันเบียดเสียดทำลายล้างไปตลอดทาง แน่นอนว่ามันกระตุ้นอาการของเขาอย่างรุนแรง แทบจะกระอักเลือดหงายหลังอยู่ตรงนั้น

 

ตั้งแต่เลี้ยงดูลูกสาวมา เรื่องที่เขากลัวมากที่สุดคือเรื่องอื้อฉาวที่มาจากพฤติกรรมของลูกสาวคนใดคนหนึ่ง

 

เพราะเขาเคยดูข่าวผ่านสิ่งฉายภาพที่เป็นเหมือนโทรทัศน์ จึงได้เห็นข่าวอื้อฉาวของลูกสาวคนอื่นๆ มากมายที่ทำให้เสื่อมเสียทั้งตระกูล บิดาบางคนถึงขั้นต้องเอาผ้ามาคลุมศีรษะเวลาจะออกไปไหนมาไหน

 

โดยที่เขาหารู้ไม่ ยิ่งดูก็ยิ่งทำให้เขาเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นจริงอย่างนั้น เหมือนถูกสะกดจิตย้ำๆ

 

และแน่นอน เมื่อโจวเฟยได้รู้เรื่องสุดเสื่อมนี้จากคนใช้แล้ว เขาก็ละทิ้งงานแล้วรีบเร่งไปที่เรือนของลูกสาวคนโตทันที พร้อมกับสั่งบ่าวให้ไปตามพลทหารรับใช้มาโดยเร็วที่สุด

 

 

         ในสายตาของพวกอนุภรรยา เรือนของคุณหนูใหญ่ที่ปิดทั้งประตูและหน้าต่างบ่งบอกชัดว่าผิดปกติมาก แน่นอนว่ายิ่งทำให้ทุกคนเชื่อมากยิ่งขึ้นว่าเป็นเรื่องจริง

 

และเมื่อพวกอนุภรรยาไปถึงเรือนของคุณหนูใหญ่ คนรับใช้และพลทหารรับใช้ก็ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับอย่างระมัดระวังและเงียบเชียบที่สุด

 

อันที่จริง ถ้าไม่ติดตรงที่มีพลทหารรับใช้ตามมาน้อย พวกเธอก็จะสั่งให้บุกเข้าไปทันที

 

โจวเฟินนึกขึ้นได้ว่าน้องเล็กคับแค้นใจมากเพียงใด จึงเรียกคนใช้หญิงใกล้ๆ มากระซิบ สั่งให้ไปตามมา โดยฝากข้อความลับไปด้วยเพื่อกระตุ้น

 

คนใช้ไม่เข้าใจความหมายที่เป็นข้อความลับ แต่ก็ไม่ถามให้หายสงสัย เพราะว่าไม่เป็นเรื่องที่ฐานะคนใช้จำเป็นต้องรู้ จากนั้นคนใช้ก็รีบไปตามมา

 

โจวเฟินยิ้มเล็กน้อยอย่างชั่วร้าย เธอมั่นใจสุดๆ ว่าน้องเล็กจะต้องไม่พลาดร่วมวงเหยียบคุณหนูใหญ่ให้จมดินแน่นอน

 

 

         แววตาของโจวเฟยยังคงแทบจะลุกเป็นไฟ แต่เขายังคงมีสติอยู่มากพอจะวิเคราะห์

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งความคิดและความรู้สึกยังคงก่อกวน ให้เอาแต่คิดว่าเรื่องอื้อฉาวอาจจะเกิดขึ้นจริง

 

และเมื่อไปถึงเรือนของลูกสาวคนโต ความโกรธก็เขย่าสติอย่างบ้าคลั่ง ที่สุดความโกรธก็เป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เขาตะเบ็งเสียงออกคำสั่งทหารทันใด

 

“ปิดล้อมรอบไว้ ! หากมีใครอื่นที่ไม่ใช่ลูกของข้าออกมา จงจับมัน หากมันขัดขืน พวกเจ้าจงใช้กำลังได้เต็มที่ ข้าไม่สนว่าจะแขนขาหักหรือไม่ ต้องจับให้ได้อย่างเดียวเท่านั้น !”

 

เหล่าพลทหารรับใช้ก็เคลื่อนไหวฉับไว แตกต่างกับคนรับใช้ผู้ชายที่ตามหลังมา

 

“โจวจื่อรั่ว ! จงมาเปิดประตู เจ้าได้ยินคำสั่งข้าหรือไม่ มาเปิดประตู !”

 

ทุกคนคิดเหมือนกันอย่างมั่นใจ ว่าเมื่อชายชู้ได้ยินคำพูดของโจวเฟยแล้ว ก็จะต้องหนีแน่นอน โดยทะยานออกมาด้วยวิชาตัวเบา ไม่ทางหน้าต่างก็ทางประตู

 

แต่ทุกคนคิดผิด เพราะเรือนยังคงมีความเงียบ...

 

เมื่อไร้เสียงตอบกลับและการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ยิ่งทำให้อารมณ์ของโจวเฟยสูงขึ้น ไม่เพราะความโกรธอย่างเดียว ยังมีความรู้สึกถูกเมินและความรู้สึกไม่พอใจที่ไม่เป็นไปตามต้องการ

 

ที่สุดทุกอย่างก็ระเบิดออกมา !

 

“ทหาร ! ไม่ต้องรอแล้ว พังประตูเข้าไป !”

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.