บทที่ 423 สันติระหว่างทั้งสองฝ่าย
บทที่ 423 สันติระหว่างทั้งสองฝ่าย
ตอนแรกสมาชิกดีวายโซล 120,000 คนที่กำลังรวมตัวกันอยู่นอกเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ต่างก็กำลังเซ็งกับความพ่ายแพ้ที่พวกเขาเผชิญมา แต่เสียงการประกาศจากระบบทำให้ทุกคนเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น
“หัวหน้ายึดป้อมปราการแบล็คร็อคได้แล้ว! พี่น้องทั้งหลายทุกคนรีบตามไปสนับสนุนหัวหน้าที่ป้อมปราการแบล็คร็อคกันเถอะ” ชาโดว์ดัสค์ตะโกนเสียงดัง
สมาชิกทั้ง 120,000 คนตอบรับคำสั่ง ก่อนที่พวกเขาจะใช้ม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตป้อมปราการเพื่อเดินทางไปยังป้อมปราการแบล็คร็อคพร้อม ๆ กัน
ขณะเดียวกันเมื่อบลัดเติสตี้ที่กำลังต่อสู้กับโอเวอร์ลอร์ดอย่างยากลำบากได้เห็นกำลังเสริมที่ปรากฏตัวขึ้นมา 120,000 คน ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ทุกคนบุกทำลายกองกำลังของฉงป้าซะ!” ฉวนไห่, หลงเตี๋ยและไทเกอร์ก็อดต่างก็ตะโกนสั่งการเสียงดัง
“ฆ่ามัน!” สมาชิกดีวายโซลทั้ง 120,000 คนตะโกนเสียงดังลั่น ก่อนที่พวกเขาจะนำกองกำลังแยกออกเป็น 3 ส่วนบุกออกไปจาก 3 ประตูเพื่อจัดการกับกองกำลังของฉงป้าที่กำลังหมดแรง
“พวกมันมาจากไหนกันเนี่ย?!” ฉงป้าอุทานอย่างตกใจ เมื่อได้เห็นศัตรูเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ซึ่งในระหว่างนั้นฉือมู่ก็กำลังติดต่อเข้ามาก่อนจะพูดด้วยความตื่นตระหนก
“รีบพาคนของนายถอนกำลังออกมาเร็วเข้า! บลัดไทแรนท์ มันยกป้อมปราการให้โซลออฟอีเทอนิตี้ สมาชิกของดีวายโซลทั้ง 120,000 คนกำลังจะเทเลพอร์ตเข้าไปในป้อมปราการแบล็คร็อคแล้ว”
“สายไปแล้ว ตอนนี้พวกมันกำลังบุกออกมาจากป้อมปราการแล้ว” ฉงป้ากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ
—
ฉือมู่ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะมองไปยังโซลออฟอีเทอนิตี้ที่อยู่ตรงหน้า
“นายรู้ใช่ไหมว่าการทำแบบนี้สักวันนายจะต้องชดใช้”
“ช่วยไม่ได้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ลู่หยางยึดครองป้อมปราการทั้ง 3 แห่งของผมและเอาชนะกองทัพของผมได้อย่างสิ้นเชิง ถ้าผมไม่เอาชัยชนะครั้งนี้มาปลุกขวัญกำลังใจลูกน้องภายในกิลด์บ้าง กิลด์ของผมก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างหนักด้วยเหมือนกัน” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวพร้อมกับยักไหล่
“ถึงจะต้องเป็นศัตรูกับฉงป้าก็ไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ?” ฉือมู่กล่าว
“ผมขอยืมคำพูดของลู่หยางมาพูดหน่อยก็แล้วกัน เขาเพิ่งบอกกับผมเมื่อไม่นานมานี้ว่าในเมื่อพวกเราตัดสินใจเข้าร่วมสงครามแย่งชิงของโลกใบนี้แล้วพวกเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปโทษว่าคนอื่นคือคนโหดร้าย ผมสูญเสียป้อมปราการไปถึง 3 แห่งแต่ก็ต้องรีบทำใจกอบกู้สถานการณ์ในครั้งนี้กลับมาให้ได้ หากฉงป้าที่พึ่งสูญเสียป้อมปราการไปแห่งเดียวแต่ทนรับความอัปยศที่เกิดขึ้นไม่ไหว เขาก็ไม่มีคุณสมบัติจะมาเข้าร่วมสงครามแย่งชิงในโลกใบนี้ด้วยเหมือนกัน” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
ฉือมู่อยากจะโต้แย้งแต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งที่โซลออฟอีเทอนิตี้พูดมาไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วพวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องสู้กันอีก” ฉือมู่กล่าว
“ประธานฉือมู่ คุณจะรีบกลับไปไหน? พวกเรามาคุยกันถึงเรื่องการร่วมมือกันในอนาคตดีหรือเปล่า?” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ร่วมมือ?”
“แน่นอน” โซลออฟอีเทอนิตี้ตอบกลับ ก่อนจะหันมองไปทางเมืองซีเอ็มเพอเรอร์และพูดว่า
“คุณกับฉงป้าไม่อยากจะแก้แค้นลู่หยางงั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามันแย่งป้อมปราการทั้ง 3 แห่งของผมไป ผมก็คงจะไม่นำกองกำลังทั้งหมดมาสู้กับฉงป้าในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน”
“นายอยากจะร่วมมือกับพวกเราเพื่อแย่งชิงป้อมปราการของลู่หยางมางั้นเหรอ?” ฉือมู่ถาม
“ถูกต้อง หลังพวกเราแย่งชิงป้อมปราการของลู่หยางมาได้สำเร็จ ป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ก็จะเป็นของพวกคุณ ส่วนป้อมปราการคริมสัน ผมก็จะยกให้บลัดไทแรนท์แทนป้อมปราการแบล็คร็อคที่เขายกให้กับผม” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าว
“ได้ เดี๋ยวฉันจะเก็บเรื่องนี้ไปปรึกษากับฉงป้าดู” ฉือมู่กล่าวก่อนที่เขาจะนำกองกำลังทั้ง 50,000 คนกลับไปยังเมืองเซนต์กอลล์
—
ปัจจุบันฉงป้ากำลังหลบอยู่ในห้องหัวหน้ากิลด์เพียงคนเดียวและไม่ว่าฉวยอู๋อี้รวมถึงแกนหลักคนอื่น ๆ ของกิลด์จะพยายามมาพูดจาโน้มน้าวเขายังไง แต่ฉงป้าก็ยังคงไม่ยอมเปิดประตูให้ใครเข้ามา
ฉือมู่ก็ติดต่อฉงป้าไม่ได้เหมือนกัน แต่หลังจากที่เขาได้รู้เรื่องราวจากฉวยอู๋อี้ เขาจึงตัดสินใจเดินมาที่สำนักงานกิลด์โอเวอร์ลอร์ดด้วยตัวเอง
“น้องชายเปิดประตูเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เมื่อได้ยินเสียงของฉือมู่ ฉงป้าก็ยอมพูดขึ้นมาจากหลังประตูในที่สุด
“ขอโทษด้วยนะพี่ชาย ครั้งนี้ผมทำให้คุณผิดหวังแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงผมจะรีบส่งคนไปโอนเงินให้กับคุณโดยเร็วที่สุด”
“เรื่องเงินมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เรื่องสำคัญคือเมื่อกี้โซลออฟอีเทอนิตี้เข้ามาเจรจากับฉันต่างหาก” ฉือมู่กล่าว
“มันอยากจะเจรจาอะไรอีก?!” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับใช้มือทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ
“น้องชายในช่วงเวลาแบบนี้นายยังจะมีอารมณ์มาโมโหอยู่อีกงั้นเหรอ? เขามาปรึกษาฉันเรื่องการร่วมมือกันโจมตีลู่หยาง โดยเขาจะยกป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ให้กับพวกเรา” ฉือมู่กล่าว
ฉงป้าไม่ใช่คนโง่เพราะหลังจากที่เขามีสติคิดได้นิดเดียว เขาก็สามารถคิดได้ในทันทีว่ากองกำลังพันธมิตรของพวกเขามีกำลังรบอยู่มากกว่า 400,000 คน ขณะที่กองกำลังของทางฝั่งหวังเถิงก็มีกำลังรบอยู่ประมาณ 350,000 คน ตราบใดก็ตามที่พวกเขาร่วมมือกันกำจัดลู่หยาง อีกฝ่ายย่อมไม่มีทางต้านทานได้อย่างแน่นอน
ประตูห้องทำงานหัวหน้ากิลด์ถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนที่ฉงป้าจะปรากฏตัวขึ้นมาด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม
“ก่อนหน้านี้ผมยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ผมจะยอมร่วมมือกับพวกมันเพื่อยึดป้อมปราการของพวกเราคืนมา”
“น้องชาย นายคิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว นี่คือเกมแย่งชิงอำนาจ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าทั้งลู่หยางหรือหวังเถิงทั้งนั้น เพราะไม่ว่ายังไงมันก็ยังคงเป็นแค่เกม” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับตบไหล่ฉงป้าเบา ๆ
ฉงป้าพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งการฉวยอู๋อี้และแฟนทอมเอจ
“บอกให้ทุกคนออกไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ฉันจะแจกเงินชดเชยค่าที่พวกเขาเข้าร่วมสงคราม บอกพวกเขาไปว่าถึงแม้เราจะแพ้สงคราม แต่ฉันฉงป้าไม่คิดจะทอดทิ้งใครแม้แต่คนเดียว”
ฉวยอู๋อี้และแฟนทอมเอจพยักหน้ารับอย่างโล่งอก ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมามองหน้ากันและตอบกลับไปว่า
“ได้ครับ/ค่ะ เดี๋ยวพวกเราจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
“โซลออฟอีเทอนิตี้มีแผนยังไงบ้าง?” ฉงป้าหันไปถามฉือมู่
“ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันมาเป็นเวลานานทำให้ลูกน้องของพวกนายแทบจะไม่เหลือผู้เล่นเลเวล 30 แล้ว โซลออฟอีเทอนิตี้เลยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดต่อสู้แล้วออกไปเก็บเลเวล เมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกคนมีเลเวล 30 ขึ้นไปและสามารถอดทนต่อการเสียชีวิตได้เกิน 5 ครั้ง เมื่อนั้นพวกเราค่อยรวมกันไปจัดการกับลู่หยาง” ฉือมู่กล่าว
สงครามในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ทำให้ทางฝั่งโอเวอร์ลอร์ดไม่มีผู้เล่นเลเวล 30 เหลืออยู่ภายในกิลด์อีกต่อไป โชคดีที่อุปกรณ์ระดับทองส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกแย่งชิงไป พวกเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาไปหาอุปกรณ์ระดับทองมากนัก
“ผมเห็นด้วย บอกโซลออฟอีเทอนิตี้ว่าพวกเราจะหยุดรบกันครึ่งเดือน จากนั้นพวกเราค่อยรวมตัวกันไปโจมตีลู่หยาง” ฉงป้ากล่าว
“ได้ เดี๋ยวฉันจะแจ้งเรื่องนี้ไปที่เหลยหลงกับเฉียนเฉียนด้วย คราวนี้พวกเขาทั้งสองคนช่วยเหลือเราเอาไว้ไม่น้อยเลย” ฉือมู่กล่าว
“ผมรบกวนพี่ชายด้วย บอกพวกเขาไปว่าผมจะจ่ายค่าชดเชยให้กับพวกเขาในภายหลัง” ฉงป้ากล่าว เพราะในตอนนี้เขายังไม่อยากจะไปพบหน้ากับใครทั้งนั้น
ฉือมู่พยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากสำนักงานโอเวอร์ลอร์ดเพื่อไปพบกับเหลยหลงและเฉียนเฉียนที่สมาคมทหารรับจ้าง
ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาหุ้นส่วนแต่ละคนต่างก็ได้รับเงินจากสมาคมทหารรับจ้างมากกว่า 3,000 เหรียญทอง ทำให้ทุกคนต่างก็มีความสุขจากการได้รับส่วนแบ่งของสมาคมแห่งนี้
“เมื่อกี้ฉันปรึกษากับฉงป้าแล้ว เขาบอกว่าวันนี้ขอเขาพักผ่อนก่อน เดี๋ยวเขาจะจ่ายค่าชดเชยให้กับพวกนายในวันพรุ่งนี้” ฉือมู่กล่าว
สิ่งที่เหลยหลงกับเฉียนเฉียนกังวลมากที่สุดคือฉงป้าจะประกาศถอนตัวออกจากเกม ซึ่งถ้าหากอีกฝ่ายถอนตัวออกจากเกมนี้ไปจริง ๆ ความพยายามสร้างพันธมิตรกับฉงป้าในเวลาที่ผ่านมาของพวกเขาก็จะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องที่สูญเปล่า
“ดีแล้ว ขอแค่เขายังไม่ยอมแพ้ สักวันเขาย่อมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้อย่างแน่นอน” เฉียนเฉียนกล่าว
ฉือมู่พยักหน้ารับ ก่อนจะพูดว่า
“เมื่อกี้พวกเราตัดสินใจยุติสงครามกับโซลออฟอีเทอนิตี้แล้วและเราจะร่วมมือกับพวกเขาเพื่อกำจัดลู่หยาง”
“กำจัดลู่หยางงั้นเหรอ?” เหลยหลงอุทานอย่างประหลาดใจ
“ใช่ พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ลู่หยางฉวยโอกาสที่พวกเราทำสงครามกันเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปคนเดียวได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ฉันกับฉงป้าจึงตัดสินใจร่วมมือกับหวังเถิงเพื่อจัดการกับลู่หยางในคราวเดียว” ฉือมู่กล่าว
เมื่อพูดถึงลู่หยาง เหลยหลงกับเฉียนเฉียนก็ก้มหน้าดูบัญชีของสมาคมทหารรับจ้าง ก่อนที่จะหันไปสบตากัน
“ตราบใดก็ตามที่มันเป็นผลประโยชน์ต่อพันธมิตร ฉันก็ไม่มีข้อคัดค้าน” เฉียนเฉียนกล่าว
“ผมก็เหมือนกัน” เหลยหลงกล่าว
“ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบติดต่อไปหาหวังเถิงเดี๋ยวนี้เลย อย่างเร็วที่สุดอีกครึ่งเดือนพวกเราจะโจมตีป้อมปราการ 2 แห่งของลู่หยาง” ฉือมู่กล่าว
“ไอ้พวกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!” เหลยหลงสบถอย่างดูถูกหลังจากที่ฉือมู่จากไปแล้ว
เฉียนเฉียนเผยรอยยิ้มออกมาอย่างจนใจ ก่อนที่เธอจะส่งข้อความไปหาลู่หยาง
“ประธานลู่หยาง ตอนนี้ทางฝั่งของฉงป้ากับหวังเถิงหยุดการต่อสู้กันแล้ว ฉือมู่แจ้งพวกเราว่าอีกครึ่งเดือนพวกเขาจะร่วมมือกับหวังเถิงเพื่อโจมตีป้อมปราการของคุณ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 154
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น