บทที่ 415: ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับคุณชายไป๋แน่นอน

-A A +A

บทที่ 415: ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับคุณชายไป๋แน่นอน

“ตอบข้ามาก่อนสิว่าท่านจะไปส่งข้ากลับจวนหรือไม่?” คุณหนูเฉินเชิดหน้ามองมู่จวินเซิ่ง ในสายตาของนาง เหตุผลที่อีกฝ่ายคอยปฏิเสธนางอยู่เรื่อยเป็นเพราะเขาเพียงแค่ขัดเขินเท่านั้น

บุรุษมักจะรักหน้าตาของตัวเอง นางเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี

แต่นางก็สามารถแสดงให้ชายหนุ่มเห็นได้เช่นกันว่า ถ้าหากเขาปฏิเสธนางซ้ำ ๆ มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้านางโมโหขึ้นมาจริง ๆ

ในเวลาเดียวกัน มู่ไป๋ไป่ที่กำลังดื่มชาอยู่ในร้านน้ำชารู้สึกได้ว่าไหล่ของตนได้รับน้ำหนักบางอย่าง พอหันกลับไปมองเธอก็สบเข้ากับดวงตาสีเข้มคู่หนึ่ง

“ชางหลาน!” หญิงสาววางถ้วยชาลงด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

นับตั้งแต่ที่เซียวถังอี้ปรากฏตัวครั้งสุดท้าย ชางหลานก็ติดตามเขาไปด้วย

“ช้าก่อน ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ นั่นหมายความว่านายท่านของเจ้าก็คงอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันใช่หรือไม่?” มู่ไป๋ไป่กวาดตามองไปรอบ ๆ พยายามมองหาคนที่คุ้นเคยรอบตัว

“แผลที่ถูกธนูยิงบนไหล่ของนายท่านเจ้าดีขึ้นหรือยัง ยาที่ข้าให้เขาไปเป็นอย่างไรบ้าง มันใช้ดีหรือไม่?”

ขณะนี้ในหัวของหญิงสาวหมกมุ่นอยู่กับอาการบาดเจ็บของเซียวถังอี้จนเธอไม่ได้สังเกตเห็นการแสดงออกที่ละเอียดอ่อนบนใบหน้าของชางหลานและจวงอี้หราน

“ท่านจ้าวอสูร นายท่านไม่สะดวกเดินทางในขณะนี้” เหยี่ยวตัวโตเหลือบมองเจ้านายของตนเพียงเสี้ยวอึดใจแล้วตอบว่า “ส่วนอาการบาดเจ็บของเขานั้นเกือบจะหายเป็นปกติแล้วขอรับ”

“หากนายท่านรู้ว่าท่านจ้าวอสูรเป็นห่วงเป็นใยเขามากเช่นนี้ เขาคงจะดีใจมากแน่”

เซียวถังอี้ชะงักมือที่ถือถ้วยชา และส่งสายตาเตือนสัตว์เลี้ยงคู่ใจของตนเบา ๆ โดยแฝงความนัยว่ามันไม่ควรพูดสิ่งที่ไม่จำเป็น

เมื่อมู่ไป๋ไป่ได้ยินคำตอบจากชางหลาน เธอก็เดาได้ว่าชายหนุ่มน่าจะอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงไม่สะดวกที่จะปรากฏตัวในตอนนี้

พอคิดได้ดังนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ธุระของนายท่านเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เขาทำสำเร็จหรือไม่?” 

ครั้งสุดท้ายที่ชางหลานปรากฏตัว มันบอกเธอว่าเซียวถังอี้กำลังจัดการเรื่องที่เป็นความลับอยู่

ปัจจุบันเวลาก็ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว ชายหนุ่มยังทำธุระของตัวเองไม่เสร็จอีกหรือ?

เธอรู้ว่าแม้เซียวถังอี้จะดูเหมือนโลดแล่นอย่างอิสระอยู่ในยุทธภพ แต่แท้จริงแล้วเขากำลังจัดการเรื่องบางอย่างให้กับท่านพ่อของเธอลับ ๆ

ดูเหมือนว่าคราวนี้ชายคนนั้นจะต้องยุ่งมากแน่ ๆ 

ขณะเดียวกัน เมื่อเซียวถังอี้เห็นท่าทางวิตกกังวลของมู่ไป๋ไป่ เขาก็ลอบถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะวางถ้วยชาลงพลางตัดสินใจอะไรบางอย่าง “แม่นางไป๋ดูเหมือนจะสนิทกับเจ้าของเหยี่ยวตัวนี้มาก”

แล้วก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ความสนใจของหญิงสาวเปลี่ยนไปทันทีเมื่ออีกฝ่ายได้ยินคำพูดของเขา

มู่ไป๋ไป่ขมวดคิ้วมองคนพูดด้วยสายตาจับผิด “จอมยุทธ์จวง สายตาของท่านมีปัญหาหรืออย่างไร? ช่างน่าสงสารยิ่งนัก ทั้งที่อายุยังน้อยเพียงนี้ แต่สายตากลับย่ำแย่เสียแล้ว ท่านควรรีบไปขอให้อาจารย์ของข้ารักษาให้ท่านนะ”

“...” เซียวถังอี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ส่วนซั่วเยว่ที่ยืนอยู่ด้านข้างได้แต่พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้

“เจ้านายของชางหลานเป็นอาของข้า” หลังจากที่มู่ไป๋ไป่กระแนะกระแหนจวงอี้หราน เธอก็พูดออกไปว่า “การที่ข้าคิดใส่ใจท่านอาของตัวเองมันมีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”

พอเซียวถังอี้ได้ยินหญิงสาวเรียกเขาว่า ‘อา’ เช่นนี้ เขาก็มีความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้เกิดขึ้นในใจ

“ท่านจ้าวอสูร ตอนที่ข้าบินผ่านตลาดเมื่อสักครู่ ข้าเห็นพี่ชายของท่านกำลังทะเลาะกับคนอื่นอยู่ขอรับ” ชางหลานนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนบินมาที่นี่และเลือกที่จะพูดออกไปในเวลาที่เหมาะสม

“พี่ชายของข้า?” มู่ไป๋ไป่เลิกคิ้วก่อนที่ดวงตาจะฉายแววสนใจ “พี่ชายของข้ากำลังทะเลาะกับคนอื่นจริงหรือ? ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”

“ชางหลาน เจ้านำทางไปเร็ว ข้าอยากไปดูให้เห็นกับตา!”

มู่จวินเซิ่งไม่ใช่เด็กหนุ่มเลือดร้อนเหมือนเมื่อ 12 ปีก่อนแล้ว นอกจากนี้กฎของทหารก็เข้มงวดมาก ในฐานะแม่ทัพ เขาไม่มีทางฝ่าฝืนกฎหมายหรือมีเรื่องกับใครโดยที่ไม่มีเหตุผล

พอมู่ไป๋ไป่ได้ยินว่าเขากำลังทะเลาะกับใครบางคนอยู่ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องร้ายแรงมากแน่ ๆ

หญิงสาวไม่สนใจว่าร้านน้ำชายังไม่ได้เอาขนมมาให้ ขณะที่เธอรีบวิ่งตามเหยี่ยวตัวโตออกไป 

ทางด้านเซียวถังอี้ที่มองตามแผ่นหลังของมู่ไป๋ไป่ไปได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ แต่เขากลับยกมุมปากขึ้น “นางยังคงเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”

“ซั่วเยว่ เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน หลังจากได้ของว่าง ให้คนห่อใส่กล่องแล้วเจ้าค่อยตามไป”

“แล้วนายท่านล่ะขอรับ?” องครักษ์หนุ่มเดินไปหาผู้เป็นนายพร้อมถามด้วยความเป็นกังวล

“แน่นอนว่าข้าจะตามไปดูนางก่อน” เซียวถังอี้ตอบพลางลุกขึ้นจากที่นั่ง “เจ้าตัวเล็กนั่นชอบทำอะไรเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอด ดังนั้นข้าจะต้องจับตาดูนางเอาไว้”

“แต่ว่านายท่าน…” ซั่วเยว่เป็นห่วงสุขภาพร่างกายของเจ้านาย จะเป็นอย่างไรหากเขาปล่อยให้อีกฝ่ายไปคนเดียวแล้วเกิดเรื่องร้ายขึ้น

ถึงกระนั้น เซียวถังอี้ก็ไม่ยอมให้เขาพูดจนจบ และเดินจากไปโดยทิ้งเขาไว้ที่ร้านน้ำชาเพียงลำพัง

ทางด้านองครักษ์เงาก็ละล้าละลังไม่รู้ว่าควรตามไปหรืออยู่รอที่นี่ตามคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงเร่งให้คนขายรีบห่อขนมให้เขา

ชางหลานเป็นเหยี่ยวที่ฉลาดมาก มันพามู่ไป๋ไป่ไปที่ร้านขายเครื่องประดับอย่างรวดเร็ว

จากระยะไกล หญิงสาวเห็นพี่รองของตัวเองถูกคนรับใช้ผอมโซ 2 คนล้อมเอาไว้ ซึ่งดูแล้วไม่เป็นอันตรายสำหรับชายหนุ่มเลย

ขณะที่เธอกำลังรู้สึกผิดหวัง เธอก็หันไปมองคนทั้ง 2 ที่อยู่ด้านข้างซึ่งก็คือหลัวเซียวเซียวและคุณหนูเฉิน

มู่ไป๋ไป่รีบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนโดยที่ไม่ขยับเข้าไปใกล้ทันที แล้วกระซิบถามชางหลานเสียงทุ้มต่ำว่าเกิดอะไรขึ้น “ชางหลาน เจ้าได้ยินสิ่งที่พวกพี่รองของข้าคุยกันหรือไม่?”

“โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น”

เหยี่ยวตัวใหญ่หันไปตามทิศทางที่เธอชี้แล้วเห็นคุณหนูเฉิน มันเอียงคอคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็พยักหน้า “ข้าได้ยินขอรับ ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะกำลังขอร้องให้พี่ชายของท่านจ้าวอสูรส่งนางกลับจวนอยู่ตลอดเวลา”

“ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ?” 

จู่ ๆ ดวงตาของมู่ไป๋ไป่ก็เบิกกว้าง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมจู่ ๆ พี่รองถึงไปพบเจอปัญหาดอกท้อเน่า*เข้าเสียได้!”

*ดอกท้อเน่า เป็นการเปรียบเปรยถึงความสัมพันธ์ที่ไร้รัก หรืออีกฝ่ายหนึ่งตามตื๊อคนที่ไม่มีใจให้ตน รวมถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมระหว่างชายหญิง

“ดอกท้อเน่า?” ชางหลานเอียงคอด้วยความสับสน “มันคืออะไรขอรับ ข้ากินได้หรือไม่?”

“เจ้ากินไม่ได้หรอก” หญิงสาวโบกมือแบบไม่ใส่ใจ “แต่จากประสบการณ์การอ่านนิยายและดูซีรีส์ของข้าในตอนที่อยู่โลกก่อน ตอนนี้จะเป็นซีนอารมณ์ที่กระชับความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่อง”

“นิยาย? ซีรีส์?” เจ้าเหยี่ยวตัวโตที่ได้ฟังได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ มันรู้สึกว่ามันไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านจ้าวอสูรกำลังพูดถึงเลยสักนิด

ท่ามกลางฝูงชน คนรับใช้ของตระกูลเฉินได้เข้ามาล้อมมู่จวินเซิ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือ ทำให้ต่างฝ่ายต่างดูเชิงกันแบบนั้นเป็นเวลานาน

ในตอนนี้พวกเขาได้ส่งคนกลับไปที่จวนเพื่อเรียกกำลังเสริมมาแล้ว และพวกเขาก็ยินดีที่จะทำตามคำสั่งของคุณหนูที่จะจับมัดชายคนนั้นส่งกลับไปที่จวนตระกูลเฉิน

“คุณหนูเฉิน ท่านอย่าได้บีบบังคับกันเช่นนี้เลย” หลัวเซียวเซียวอดไม่ได้จึงต้องเอ่ยปากขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีคนอื่นมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ

“การบังคับใครให้ทำอะไรตามใจข้ามันผิดตรงไหนกัน?” คุณหนูเฉินหัวเราะเบา ๆ โดยไม่รู้สึกละอายเลยสักนิด “ข้าเพียงแค่ต้องตาต้องใจเขา และอยากให้เขาแต่งงานเข้าตระกูลของข้า เจ้ามีข้อโต้แย้งอะไร?”

หลัวเซียวเซียวหน้าแดงทันทีที่ได้ยินคำพูดตรง ๆ ของอีกฝ่าย “ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง แต่การแต่งงานควรเป็นหน้าที่ของพ่อแม่และแม่สื่อ การที่ท่านมาจับตัวคนไปบังคับแต่งงานด้วยเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม”

“อ๋อ เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องนั้นนี่เอง” คุณหนูเฉินยักไหล่พร้อมกับยิ้มกว้าง “ทันทีที่เขากลับไปถึงจวน ข้าจะขอให้ท่านพ่อเชิญแม่สื่อที่ดีที่สุดในเมืองนี้มาพรุ่งนี้เลย”

“ส่วนที่เหลือครอบครัวของเราจะจัดการเอง เราจะให้ความเป็นธรรมกับคุณชายไป๋อย่างแน่นอน”

เมื่อคนที่อยู่รอบ ๆ ที่กำลังมุงดูได้ยินน้ำเสียงของนางที่เหมือนกับมั่นใจว่าตนกำลังจะได้แต่งงานกับคุณชายรูปงาม ทุกคนต่างก็พากันปิดปากหัวเราะ

ทางด้านหลัวเซียวเซียวเองก็รู้สึกทั้งโมโหปนขบขัน ในตอนที่นางไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร นางก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังฝ่าฝูงชนออกมา

“พี่รอง! พี่สะใภ้รอง! เกิดอะไรขึ้น?!”

มู่ไป๋ไป่เดินออกมาจากฝูงชนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เธอมุ่งตรงไปคว้าแขนของหลัวเซียวเซียวแล้วถามอย่างกระวนกระวายใจ “พี่สะใภ้รอง เกิดอะไรขึ้น?”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ทำขนาดนี้ยังกล้าที่จะพูดดดดด

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.